อรูปฌาน ๔ โลกุตระ

กระทู้สนทนา
อรูปฌาน ๔ โลกุตระ มีความว่องไวของจิตเป็นเครื่องหมาย


       อรูปฌานที่๑ อากาสาณัญจายตนะ หมายถึงความว่องไวของจิต จิต สติ ปัญญาเป็นอันเดียวกันไวพริบปฏิภาณว่องไวมาก ไวเหมือนลมเป็นสัญลักษณ์ ผู้เข้าถึงอรูปฌานองค์ที่๑ จะมีความรู้สึกอย่างนี้สมมุติโลกย่อมมีการเปลี่ยนแปลงยักย้ายเจ้าของไม่มีที่สิ้นสุด ยกตัวอย่าง สังหาริมทรัพย์มี นา สวน เป็นต้น เมื่อเราอยู่ปกครองย่อมเป็นสมบัติของเรา เราตายไปแล้วก็ตกเป็นสมบัติของคนอื่นหรือ ลูก หลาน เป็นต้น เมื่อ ลูก หลาน หรือคนอื่นตายไป ก็ตกเป็นสมบัติของลูกๆหรือคนอื่น ไม่มีที่สิ้นสุด ยกตัวอย่าง เช่น มีศาลาสาธารณะซึ่งเขาจัดขึ้นสำหรับพวกพ่อค้า และคนสัญจรไป-มา พักแรมอาศัย พอตื่นมาแล้วก็ไป ก็มีคนใหม่มาพักอีกไม่มีใครเป็นเจ้าของแน่นอน เพียงแต่มาพักชั่วคราวก็ไป เรื่องนี้ฉันใดทรัพย์ทั้งหลายในโลก อันที่จะเป็นของมั่นคงอย่างที่อธิบายมานี้ ไม่มีใครเป็นเจ้าของแน่นอน ฉะนั้น ผู้ที่เข้าถึงอรูปฌานองค์ที่ ๑ ก็มองเห็นการครองสมบัติของคนทั้งหลายที่ครองกันอยู่ไม่แน่นอน และเห็นสมบัติเหล่านั้นเหมือนกัน กับคนศาลาสาธารณะที่ว่างจากเจ้าของฉันนั้น  คำที่พระพุทธองค์ว่าความว่างเป็นสัญลักษณ์เครื่องหมาย

                                    
       อรูปฌานที่๒ วิญญานัญจายตนะ หมายถึงความรู้ไม่อิงประสาทสมองเกิดจากจิตโดยตรง ยกตัวอย่าง หลวงปู่สมชาย  ฐิตวิริโย ป่วยเลือดดำตกตะกอน หมอแปลกใจที่หลวงปู่สมชายไม่มีอาการเหมือคนป่วยรายอื่นที่เป็นโรคแบบเดียวกัน จึงเรียนถามท่านว่า หลวงปู่ธรรมดาผู้ป่วยเลือดดำตกตะกอนนี้แต่ละรายจะต้องเพ้อไม่มีสติ แต่ทำไมหลวงปู่จึงนิ่งเหมือคนปกติธรรมดา หลวงปู่ตอบสั้นๆว่า  จิตกับกาย อาตมาไม่ได้อิงกัน (จากหนังสือประวัติและพระธรรมเทศนาหลวงปู่สมชาย  ฐิตวิริโย หน้าที่ ๙๘-๙๙ )  เพราะฉะนั้นอรูปฌานที่๒  วิญญานัญจายตนะความรู้ไม่อิงประสาทสมองเกิดจากจิตโดยตรง เป็นเครื่องหมาย


      อรูปฌานที่๓ อากิญจัญญายตนะ คำเดิมว่าอย่างนี้ก็ไม่ใช่เพราะเป็นความรู้ซึ้งและละเอียดกว่าเรื่องของจิตเปลี่ยนอันดับ มีความลึกซึ้งและรู้ละเอียดเพิ่มขึ้น เป็นเครื่องหมายของอรูปฌานที่๓


      อรูปฌานที่๔ เนวสัญญาณาสัญญายตนะ มีปัญญาหยั่งรู้ เรียกว่าปัญญาญาณไม่เหมือนคนธรรมดา ตามธรรมดาความรู้ที่คนเราจะต้องอิงสัญญารู้ทางอดีตก็ต้องใช้สัญญาที่เป็นไปในทางอดีต ต้องอาศัยสัญญาที่เป็นทางอนาคต สิ่งที่ปัญญาและจิตจะต้องกำหนดรู้ สัญญาทั้งหลายเหล่านี้จะเกิดขึ้นมาได้ต้องอาศัยสิ่งที่ได้เห็นได้เป็นมาก่อน แต่อรูปฌานที่๔ นี้ไม่ได้รู้ด้วยสัญญา และไม่ได้กำหนดตามสัญญา รู้ขึ้นมาเองจึงเรียกว่า ปัญญาญาณ ความรู้ชนิดนี้แหละเป็นสัญลักษณ์เครื่องหมายของอรูปฌานที่๔


    สัญญาเวทยิตนิโรธ         คือผู้ไม่มีเวทนาสัญญาไปเกาะแล้ว ดับเชื้ออาสาวะกิเลสทั้งปวง

เรียบเรียงจาก เทศนาธรรมะ หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย
โดย......ปุญฺญกาโร ภิกขุ

เผยแผ่เป็นธรรมทาน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่