หากสัตว์บุคคล.. ผู้ได้สดับในพระสัทธรรม... ได้รู้แล้วว่า...
เขา..คือ..สัตว์บุคคล..ผู้ที่ไม่ใช่กายอันนี้...และ..ต้องการถ่ายถอน...
ซึ่งสภาวะ..ความเป็น " สัตว์ - ผู้ยึดข้อง "...ออกจากกายนี้...
พระศาสดาท่านทรงแนะนำให้พิจารณากาย..อันนี้..
โดยความร่างกระดูก-และชิ้นส่วนที่หลุดกระจัดกระจาย..เกลื่อนกลาด...
..
.
เมื่อพิจารณาอยู่อย่างนี้...
ความคิดที่จะต้องการใดๆ..แบบผู้ครองเรือน..ก็จะสลายไป..ด้วยความสลด..
เพราะสุดท้าย..ร่างกายที่เราครองอยู่นี้..
ก็จะถูกทิ้งเน่าเฟาะ..เดียวดายในป่า..นั่นหละ
เมื่อละดำรงในแบบผู้ครองเรือนได้... จิตก็ถึงความตั้งมั่น...
เป็น..." เอโกทิโภติ(เอโกทิภาว).."...
..สมาธิก็เกิดขึ้น...
...เมื่อสมาธิเกิด ...ก็จะเห็นความจริงตามพระสัทธรรม...
...เมื่อมีปัญญาเห็นความจริง...ก็จะสามารถคลายกำหนัดจากอุปาทานขันธ์๕ได้..
สัตว์บุคคล..ก็จะสามารถ..ละตัณหา-อุปาทาน..ในอุปาทานขันธ์๕ได้...
นี่หละ ...คือการสลัดออก( นิสฺสรณ)..จากอุปาทานขันธ์๕
ฟังเลย..
👇
👇
👇
[๓๐๑] ปุน จปรํ ภิกฺขเว ภิกฺขุ
{...ภิกษุ ท! อย่างอื่น..ยังมีอีกคือ..ภิกษุ(ผู้นั้น)...}
เสยฺยถาปิ ปสฺเสยฺย สรีรํ สีวถิกาย ฉฑฺฑิตํ
{...ได้มีการเปรียบกับ..ร่างกาย(ศพ)..ที่ถูกทิ้งไว้ในป่าช้า...}
อฏฺฐิสงฺขลิกํ สมํสโลหิตํ นหารุสมฺพนฺธํ
{...อันเป็นร่างโครงกระดูก..ยังมีเนื้อและเลือดอยู่...ยังมีเอ็นยึดอยู่...}
อฏฺฐิสงฺขลิกํ นิมฺมํสโลหิตมกฺขิตํ นหารุสมฺพนฺธํ ...
{...อันเป็นร่างโครงกระดูก..ไม่มีเนื้อแต่ยังมีเลือดอยู่...ยังมีเอ็นยึดอยู่...}
อฏฺฐิสงฺขลิกํ อปคตมํสโลหิตํ นหารุสมฺพนฺธํ ...
{...อันเป็นร่างโครงกระดูก..เนื้อและเลือดไม่มีแล้ว...ยังมีเอ็นยึดอยู่...}
อฏฺฐิกานิ อปคตนหารุสมฺพนฺธานิ
{...อันเป็นกระดูกทั้งหลาย.. ปราศจากเอ็นร้อยรัดแล้ว...}
ทิสา วิทิสา วิกฺขิตฺตานิ
{...ฉันได้กระจัดกระจายไปใน..ทิศต่างๆ..ระหว่างทิศต่างๆ...}
อญฺเญน หตฺถฏฺฐิกํ --- {..กระดูกมือ..ไปทางหนึ่ง..}
อญฺเญน ปาทฏฺฐิกํ --- {..กระดูกเท้า..ไปทางหนึ่ง..}
อญฺเญน ชงฺฆฏฺฐิกํ --- {..กระดูกหน้าแข้ง..ไปทางหนึ่ง..}
อญฺเญน อูรุฏฺฐิกํ --- {..กระดูกโคนขา..ไปทางหนึ่ง..}
อญฺเญน กฏิฏฺฐิกํ --- {..กระดูกสะโพก..ไปทางหนึ่ง..}
อญฺเญน ปิฏฺฐิกณฺฏกฏฺฐิกํ --- {..กระดูกสันหลัง..ไปทางหนึ่ง..}
...
อญฺเญน สีสกฏาหํ ฯ --- {..กระโหลก..ไปทางหนึ่ง..}
โส อิมเมว กายํ อุปสํหรติ
{..เธอนั้น...ได้น้อมมาสู่กายอันนี้..(ของเธอ)...}
อยมฺปิ โข กาโย เอวํธมฺโม เอวํภาวี เอวํอนตีโตติ ฯ
{...(ว่า)...แม้นกายนี้แล..ก็เป็นอย่างนั้น..
...
มีความเป็นธรรมดาอย่างนั้น..
...
จะไม่เป็นไปอย่างอื่นต้องเป็นอย่างนั้น...ดังนี้...}👈👈👈👈👈👈
ตสฺส เอวํ อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต
{...เมื่อ(ภิกษุผู้นั้น)....ไม่ประมาท - มีความเพียร - มีความตั้งมั่น...อยู่อย่างนั้น..}
เย เคหสิตา สรสงฺกปฺปา เต ปห ี ยนฺติ ฯ
{...ความคิดความใคร่ในสิ่งยั่วยวนแห่งผู้ครองเรือนอันใด.. เธอก็เป็นอันละได้(ย่อมหายไป)...}
เตสํ ปหานา --- {...ในสิ่งนั้น..อันละได้..}
อชฺฌตฺตเมว จิตฺตํ
สนฺติฏฺฐติ สนฺนิสีทติ
เอโกทิโภติ สมาธิยติ
{...จิตอันเป็นภายในตนนั้น..ก็ถึงความไม่หวั่นไหว - ตั้งสงบอยู่ - เกิดความเป็นหนึ่ง - เกิดความตั้งมั่น...}
เอวมฺปิ ภิกฺขเว ภิกฺขุ กายคตํ สตึ ภาเวติ ฯ
{...ภิกษุ ท! อย่างนี้หละ.. คือ...ภิกษุผู้ทำให้เจริญแห่ง..สติอันกายนำพาให้เกิดขึ้น(กายคตาสติ)...}
.
.
.
.
สัตว์:..ตอนที่ 183 :..สัตว์บุคคล..ไม่ใช่ร่างกาย.. บุคคลพิจารณากายนี้..เพื่อถอนความเป็น" สัตว์-ผู้ยึดติด..ซึ่งกายนี้
หากสัตว์บุคคล.. ผู้ได้สดับในพระสัทธรรม... ได้รู้แล้วว่า...
เขา..คือ..สัตว์บุคคล..ผู้ที่ไม่ใช่กายอันนี้...และ..ต้องการถ่ายถอน...
ซึ่งสภาวะ..ความเป็น " สัตว์ - ผู้ยึดข้อง "...ออกจากกายนี้...
พระศาสดาท่านทรงแนะนำให้พิจารณากาย..อันนี้..
โดยความร่างกระดูก-และชิ้นส่วนที่หลุดกระจัดกระจาย..เกลื่อนกลาด...
..
.
เมื่อพิจารณาอยู่อย่างนี้...
ความคิดที่จะต้องการใดๆ..แบบผู้ครองเรือน..ก็จะสลายไป..ด้วยความสลด..
เพราะสุดท้าย..ร่างกายที่เราครองอยู่นี้..
ก็จะถูกทิ้งเน่าเฟาะ..เดียวดายในป่า..นั่นหละ
เมื่อละดำรงในแบบผู้ครองเรือนได้... จิตก็ถึงความตั้งมั่น...
เป็น..." เอโกทิโภติ(เอโกทิภาว).."...
..สมาธิก็เกิดขึ้น...
...เมื่อสมาธิเกิด ...ก็จะเห็นความจริงตามพระสัทธรรม...
...เมื่อมีปัญญาเห็นความจริง...ก็จะสามารถคลายกำหนัดจากอุปาทานขันธ์๕ได้..
สัตว์บุคคล..ก็จะสามารถ..ละตัณหา-อุปาทาน..ในอุปาทานขันธ์๕ได้...
นี่หละ ...คือการสลัดออก( นิสฺสรณ)..จากอุปาทานขันธ์๕
ฟังเลย..
👇
👇
👇
[๓๐๑] ปุน จปรํ ภิกฺขเว ภิกฺขุ
{...ภิกษุ ท! อย่างอื่น..ยังมีอีกคือ..ภิกษุ(ผู้นั้น)...}
เสยฺยถาปิ ปสฺเสยฺย สรีรํ สีวถิกาย ฉฑฺฑิตํ
{...ได้มีการเปรียบกับ..ร่างกาย(ศพ)..ที่ถูกทิ้งไว้ในป่าช้า...}
อฏฺฐิสงฺขลิกํ สมํสโลหิตํ นหารุสมฺพนฺธํ
{...อันเป็นร่างโครงกระดูก..ยังมีเนื้อและเลือดอยู่...ยังมีเอ็นยึดอยู่...}
อฏฺฐิสงฺขลิกํ นิมฺมํสโลหิตมกฺขิตํ นหารุสมฺพนฺธํ ...
{...อันเป็นร่างโครงกระดูก..ไม่มีเนื้อแต่ยังมีเลือดอยู่...ยังมีเอ็นยึดอยู่...}
อฏฺฐิสงฺขลิกํ อปคตมํสโลหิตํ นหารุสมฺพนฺธํ ...
{...อันเป็นร่างโครงกระดูก..เนื้อและเลือดไม่มีแล้ว...ยังมีเอ็นยึดอยู่...}
อฏฺฐิกานิ อปคตนหารุสมฺพนฺธานิ
{...อันเป็นกระดูกทั้งหลาย.. ปราศจากเอ็นร้อยรัดแล้ว...}
ทิสา วิทิสา วิกฺขิตฺตานิ
{...ฉันได้กระจัดกระจายไปใน..ทิศต่างๆ..ระหว่างทิศต่างๆ...}
อญฺเญน หตฺถฏฺฐิกํ --- {..กระดูกมือ..ไปทางหนึ่ง..}
อญฺเญน ปาทฏฺฐิกํ --- {..กระดูกเท้า..ไปทางหนึ่ง..}
อญฺเญน ชงฺฆฏฺฐิกํ --- {..กระดูกหน้าแข้ง..ไปทางหนึ่ง..}
อญฺเญน อูรุฏฺฐิกํ --- {..กระดูกโคนขา..ไปทางหนึ่ง..}
อญฺเญน กฏิฏฺฐิกํ --- {..กระดูกสะโพก..ไปทางหนึ่ง..}
อญฺเญน ปิฏฺฐิกณฺฏกฏฺฐิกํ --- {..กระดูกสันหลัง..ไปทางหนึ่ง..}
...
อญฺเญน สีสกฏาหํ ฯ --- {..กระโหลก..ไปทางหนึ่ง..}
โส อิมเมว กายํ อุปสํหรติ
{..เธอนั้น...ได้น้อมมาสู่กายอันนี้..(ของเธอ)...}
อยมฺปิ โข กาโย เอวํธมฺโม เอวํภาวี เอวํอนตีโตติ ฯ
{...(ว่า)...แม้นกายนี้แล..ก็เป็นอย่างนั้น..
...มีความเป็นธรรมดาอย่างนั้น..
...จะไม่เป็นไปอย่างอื่นต้องเป็นอย่างนั้น...ดังนี้...}👈👈👈👈👈👈
ตสฺส เอวํ อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต
{...เมื่อ(ภิกษุผู้นั้น)....ไม่ประมาท - มีความเพียร - มีความตั้งมั่น...อยู่อย่างนั้น..}
เย เคหสิตา สรสงฺกปฺปา เต ปห ี ยนฺติ ฯ
{...ความคิดความใคร่ในสิ่งยั่วยวนแห่งผู้ครองเรือนอันใด.. เธอก็เป็นอันละได้(ย่อมหายไป)...}
เตสํ ปหานา --- {...ในสิ่งนั้น..อันละได้..}
อชฺฌตฺตเมว จิตฺตํ
สนฺติฏฺฐติ สนฺนิสีทติ
เอโกทิโภติ สมาธิยติ
{...จิตอันเป็นภายในตนนั้น..ก็ถึงความไม่หวั่นไหว - ตั้งสงบอยู่ - เกิดความเป็นหนึ่ง - เกิดความตั้งมั่น...}
เอวมฺปิ ภิกฺขเว ภิกฺขุ กายคตํ สตึ ภาเวติ ฯ
{...ภิกษุ ท! อย่างนี้หละ.. คือ...ภิกษุผู้ทำให้เจริญแห่ง..สติอันกายนำพาให้เกิดขึ้น(กายคตาสติ)...}
.
.
.
.