แม่เป็นเบาหวาน-ของโปรดคือข้าวเหนียวมะม่วง-มองตาปริบๆ -สงสาร - ปลอบโยนไงดี ?

ฤดูที่หอมกรุ่นไปด้วยความหอมของมะม่วงสุก หลากหลายสายพันธุ์ และรสชาติ ยั่วยวน ชวนให้น้ำลายไหล มองไปที่ใบหน้าของแม่ ผู้ซึ่งโปรดปรานข้าวเหนียวมะม่วงอันเป็นที่สุด ความสุขหนึ่งของมนุษย์คือการกิน แต่วันหนึ่งด้วยโรคภัยไข้เจ็บทำให้ต้องงด ความสุขเกี่ยวกับการกินหายไปโดยสิ้นเชิง พอมองแววตาแม่ทีไร ก็อดสงสารไม่ได้หมอห้าม - เดี๋ยวน้ำตาลขึ้น -- เศร้าใจแทนแม่ ... ปลอบโยนไงดีครับ ?
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
ก็มันเป็นกฏแห่งกรรม ที่ผ่านมาหลายปี กินยังไง ตามใจตัวเอง เสพติดความอร่อยหวานชื่นใจยังไง ผลลัพธ์ก็คือแบบนั้น ก็คือ เบาหวานชนิดที่ 2 และผมบอกไว้เลย ว่ามันไม่ใช่แค่เบาหวานฯ ถึงแม้จะพยายามคุมน้ำตาลได้บ้าง โดยใช้ยาคุมน้ำตาล แต่ตราบใดที่ยังไม่ทำให้มันหาย หรือเข้าสู่ระยะสงบ  โดยตัดยาออกได้หมด มันจะมีอย่างอื่นๆตามมาอีกแน่นอน ผมไม่ได้ขู่ มันคือเรื่องจริง ไปดูคนที่เป็นเบาหวานฯคนอื่นๆได้เลย กว่า 80% มักมีโรคในกลุ่ม NCDs อื่นๆพ่วงตามมาในหลายปีต่อมา เช่น หลอดเลือดและหัวใจ หัวใจวาย สมองเสื่อม สโตรก ไขข้อ กระดูก มะเร็งฯ อื่นๆอีก บอกไม่หมด...
ต้องเลือกว่าจะเอาแบบไหน...แบบได้กินของอร่อยๆบ้าง ไม่เป็นไรกินยากดน้ำตาลเอา (ซึ่งตอนนี้ น่าจะใช้แบบนี้อยู่ น่าจะใช้ยากดน้ำตาล ในชนิดและปริมาณที่เพียงพอต่อการกินแบบปัจจุบัน แต่ถ้ากินข้าวเหนียวมูนมะม่วงสุก แน่นอนยาที่กินอยู่ ไม่พอต่อการกดน้ำตาลอยู่แล้ว)
กับอีกแบบ ปรับเปลี่ยนโภชนาการใหม่หมด แบบหน้ามือเป็นหลังมือ ทำอย่างเคร่งครัด เข้มงวด ยอมอดทนในช่วงแรก เพื่อค่อยๆลดยา จนตัดยาออกได้หมด เข้าสู่ระยะสงบ ไปสักระยะนึง อาจ 3-4 เดือนขึ้นไป เพื่อให้ตับอ่อนได้ฟื้นตัว แล้วหลังจากนั้นอาจค่อยผ่อนคลาย กินของที่ชอบๆได้บ้าง ในปริมาณที่ไม่มากไป...เลือกเอา...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่