แกงผักไห่ หมูย่าง-หมูสับ ✌️🥣🍽🤤😋😃😄😁ไพเราะกว่า แกงมะระขี้นกหมูย่าง -หมูสับ ไหมครับ😄😁😂

แกงผักไห่ หมูย่าง-หมูสับ ✌️🥣🍽🤤😋😃😄😁ไพเราะกว่า แกงมะระขี้นกหมูย่าง -หมูสับ ไหมครับ😄😁😂
                              
                กท.ก่อน บอกว่าช่วงนี้ อยากกินของขม เลย จัดไป      มื้อนี้ หอมอร่อย สะใจครับ นานมากๆๆ ไม่ค่อยได้กินแกงกะทิ จัดสักหน่อยครับ
                     เมนูมะระผัดไข่ ใส่หมูชิ้น กับต้มจืดมะระ-ซี่โครงหมูกับเห็ดหอม ===> https://pantip.com/topic/43459580  
เรียกว่า ได้กินอาหารเป็นยา รู้สึกดีขึ้น เลยขออีกสักเมนูหนึ่งแล้วกัน แต่อยากเปลี่ยนเป็นแกงเผ็ดแทน จะว่าไป สังคมคนทำอาหาร มักจะสับสน ระหว่างแกงเผ็ดกับแกงคั่ว มักจะใช้สลับกันจนเข้าใจว่า เหมือนกัน เรียกว่า ยอมให้ใช้แทนกันได้แบบไม่เป็นทางการ ✌️🤤😋😃😄😁

                     แกงเผ็ดกับแกงคั่ว จะต่างกันที่ส่วนผสมของเครื่องแกง กับเนื้อสัตว์ที่เอามาแกง ส่วนเครื่องแกงแต่ละประเภท
ดูได้จากในนี้ครับ ==> https://www.wongnai.com/food-tips/curry-paste-series
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
         แกงเผ็ด เครื่องแกง จะต่างกับเครื่องแกงคั่ว คือ มีลูกผักชี, ยี่หร่าและลูกจันทร์ แต่จะไม่ใส่ปลากรอบหรือปลาป่นเหมือนแกงคั่ว แต่สมัยใหม่ ก็ไม่ค่อยเจอเครื่องแกงใส่ปลากรอบ หลายๆ สูตรเลยตัดปลากรอบออกไป เช่น ในสูตรน้ำพริกแกงนี้
                 สูตรน้ำพริกแกงไทย 10 สูตร (ดูน้ำพริกแกงคั่วในสูตร 8) ==>  https://www.ananindustry.com/seasoning-article04.html  

          อีกอย่างหนึ่ง คือ แกงคั่ว สมัยก่อนมักจะใช้กับเนื้อติดมัน เช่น แกงเทโพ ซึ่งก็คือ แกงคั่วผักบุ้งใส่ปลาเทโพ (ปลาเทโพจะมีมันมากหน่อย) พอปลาเทโพหายาก ก็มาใช้เป็น เนื้อย่างหรือหมูย่าง หรือหมูสามชั้นแทน
           รสชาติของแกงคั่วจะออกเต็มน้ำหวาน ไม่แตกมันมาก เหมือนแกงเผ็ด ส่วนแกงเผ็ดจะออกหวานมากกว่าแกงคั่ว  เผ็ดน้อยกว่าแกงเผ็ด ไม่มีกลิ่นเครื่องเทศคั่ว (ยี่หร่า/ ลูกผักชี) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หากเราทำกินเอง ก็ปรับไปตามที่เราชอบได้เลย
            แต่จะว่าไป แกงคั่ว ไม่ได้ใช้กับเนื้อสัตว์ติดมันอย่างเดียว ก็จะมี แกงคั่วปูใบชะพลู, แกงคั่วหอมขม เป็นต้น ซึ่งผมก็ชอบทานทั้งสองอย่างนี้ จะว่าไป แกงคั่วยังมีแยกเป้นแกงคั่วส้ม คือ ให้รสเปรี้ยว โดยใส่ผลไม้รสเปรี้ยวลงไปแกงด้วย เช่น แกงคั่วสัปปะรดหอยแมงภู่ (จะเน้นเอาน้ำสับปะรดออก สับให้ชิ้นเล็ก บีบเอาแต่เนื้อมาแกง จะได้ปรุงรสได้ง่าย) หรือ ใส่ระกำหรือสละ  เช่น แกงคั่วส้มหมูระกำ

               ส่วนตัวผม หากทำกินเอง ก็จะต้องดัดแปลง เพราะผมไม่ชอบแกงกะทิที่แตกมันมากๆ แบบแกงเผ็ด แต่ชอบเผ็ดนำ ไม่ชอบหวานนำ มันสลับกันไปหมด เลยต้อง ผสมผสาน แกงด้วยน้ำพริกแกงเผ็ด ให้เผ็ดนำ หวานน้อย เค็มอ่อนๆ และไม่ให้กะทิแตกมัน 😄😁😂

              ยังไม่ได้เข้าเรื่องเลยครับ  😄😁😂
                                                                 
                        ก่อนจะเข้าเรื่อง หลายท่านอาจคาใจ ที่ หัวข้อ กระทู้ ว่าผมทำเมนูแกงผักไห่ มันคือแกงอะไร?

               ผักไห่ ก็คือ มะระขี้นก หากพิจารณาจากข้อมูลในสมัยก่อน ไม่ได้กล่าวรวมถึง มะระจีน ซึ่งเข้ามาในภายหลัง มะระจีน ก็มีทั้งแกงเผ็ด, ต้มจืดหรือเอามาผัดไข่ เช่น กท.นี้  ==> https://pantip.com/topic/41403258 , https://pantip.com/topic/43459580

          ส่วนใหญ่ หากไม่ใช่วัยวุ่น หลายท่าน คงเคยได้ฟัง เพลงสาวผักไห่ ของ ชาตรี ศรีชล ……………
                   🎶🎼𓏢♬♪    “โอกาสหน้า พี่จะมาหาใหม่ ไม่ลืมคนชื่อวิไล บ้านผักไห่ อยุธยา แม่คุณคนสวย  พี่จะมาช่วยทำนา เห็นข้าวมันขึ้นราคา อยากมีพ่อตาทำนาดู ..................... ” ♬ ♫ ♪ ♩

                 ผักไห่ แปลว่า มะระ ใน พจนานุกรมแปล ไทย  ราชบัณฑิตยสถาน ระบุว่า เป็น ชื่อหนึ่งของ มะระ ไปดู ที่ มะระ  ให้ความหมายว่า เป็น ชื่อไม้เถาชนิด Momordica charantia L. ในวงศ์ Cucurbitaceae ผลขรุขระ รสขม กินได้  ผักไห่ ก็เรียก. แต่คำว่า มะระนี้ น่าจะหมายถึง มะระขี้นก

                   จากการตรวจสอบจากหนังสือ“อักขราภิธานศรับท์” ของหมอบรัดเลย์ ตีพิมพ์เมื่อ พ.ศ.2416  
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ https://www.scribd.com/document/552758131/%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%81-%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%81-%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A0%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%97

             ร้อยกว่าปีก่อน ไม่ปรากฏมี คำว่า “มะระ” มีแต่คำว่า “ผักไห่” ซึ่งให้ความหมายไว้ว่า “เป็นผักต้น เป็นเถาเลื้อย ไป ใบมันเป็นแฉก ๆ ลูกมีรสขม เขาต้มกินกับข้าวได้”  ส่วนเรื่อง ที่มาของอำเภอผักไห่ เดี๋ยวค่อยเล่าต่อ ในช่วงท้ายว่าทำไมถึง ชื่ออำเภอผักไห่...... ขอทำอาหารและทานข้าวก่อนนะครับ

                        เพราะอาจคาใจว่า สาวผักไห่ นี้คือ สาวมะระขี้นก หรือเปล่า? ซึ่งไม่ดีแน่ น่าจะหมายถึง สาวที่มีคุณค่า มากๆ ดุจดัง คุณค่าของมะระขี้นกนะครับ หากเรียกว่าผักไห่ น่าจะฟังดูดีกว่าเยอะเลยนะครับ 😃😄😁  

                    ในทัศนะของผม ผมว่า เมนูขึ้นโต๊ะอาหาร ชื่อ แกงผักไห่ ก็ฟังรื่นหูกว่าแกงมะระขี้นก นะครับ อะไรที่เป็น คำว่า “ ขี้ “ น่าจะหาคำไพเราะๆ มาแทนให้ชวนทาน ชวนกิน ไม่ว่า จะแกงขี้เหล็กหมูย่าง ส่วนตัวผม อยากจะตั้งชื่อให้ใหม่ ว่า แกงสยาม-หมูย่าง เหตุเพราะ ต้นขี้เหล็ก มีชื่อวิทยาศาสตร์ ว่า Senna siamea (Lam.) Irwin et Barneby ซึ่งคำว่า siamea คือ สยามประเทศ อีกทั้งชื่อเรียกสามัญที่ต่างชาติเรียกก็ยังมีคำว่าสยามและไทย เช่น  Siamese senna, Siamese cassia, Cassod tree, Thai copper pod เอาไว้ว่ากัน ในเมนูแกงสยาม-หมูย่าง หรือ แกงขี้เหล็กหมูย่างนะครับ

                       เรากลับมาที่ แกงผักไห่ หมูย่าง เมนูวันนี้ดีกว่า มากินของขมๆ ขมอ่อนๆ กันครับ ส่วนที่ว่า “ จะกินของขม ชมหนุ่มสาว .......บอกเล่าความหลัง”  😄😁😂 ก็ว่ากันไปตามอายุนะครับ

       เจ้า ผักไห่ หรือมะระขี้นกนี้ เป็นของขม ที่สยบเรื่องเบาหวานได้ดี เป็นเมนูสำหรับ อาหารเป็นยา แต่ท่านใดที่ ทานขมมากไม่ไหวหรือจะฝึกเริ่มทาน ก็แนะนำว่า ให้เอามาลวกหรือต้มด้วยน้ำเดือด ใส่เกลือลงไปหน่อย ต้มสัก 3-4 นาที แล้วเอาไปผ่านน้ำเย็น หรือน๊อคด้วยน้ำเย็นจัด แล้วค่อยเอามาแกง ก็จะลดขมลงได้มากครับ ไม่ต้องทานอาหาร อย่างขื่นขมนะครับ ✌️😃😄😁       

        วัตถุดิบ วันนี้ จะมีหมูย่าง , น้ำพริกแกงเผ็ด (ผมได้มาจากชุมพร ชาวบ้านให้มา น่ารักมาก) , พริกชี้ฟ้า , ใบมะกรูด ,กระชายซอย (ความชอบส่วนตัวนะครับ), โหระพา, ผักไห่ (หรือมะระขี้นก) หั่นชิ้นพอคำ และก็กะทิ เอาง่ายๆ แค่นี้พอครับ



หมูย่าง
         หมักหมู ผมใช้ สามเกลอ (กระเทียม-พริกไทย-รากผักชี) , ซอสหอยนางรม, ซีอิ้วหวาน ,น้ำปลา, น้ำผึ้ง (พรรคพวกให้มาเยอะ เลยใช้แทนน้ำตาลมะพร้าว) หมักทิ้งไว้สักพัก แล้วเอามาย่าง แต่ผมขอใช้เป็นหม้ออบลมร้อนแทนนะครับ พอสุกก็หั่นชิ้นพอคำ  

 
แกงผักไห่-หมูย่าง (เพิ่มหมูบด อีกนิดหน่อย)
          วิธีปรุง ไม่ยากครับ
1. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืช (ผมใช้น้ำมันเจียวหอม) เอาเนื้อหมูสับ ใส่ลงไป ผัดให้พอสุก เอาหมูย่างใส่ลงไป ผัดให้หอมๆ แล้วเอาน้ำพริกแกง ใส่ลงไป
      ผัดให้เข้าเนื้อกัน
2. เอาน้ำสะอาดใส่ลงไป คนให้เข้ากัน พอเดือด ก็ใส่ ผักไห่หรือมะระขี้นก ลงไป คนเบาๆ หรือกดให้ชุ่มน้ำแกง
3. ปรุงรส ด้วยน้ำตาลมะพร้าว น้ำปลาแท้นิดหน่อย ให้พอหอมๆ
4. เอากระชายซอย, พริกชี้ฟ้า (สไลด์เฉียงๆ) ,ใบมะกรูด ใส่ลงไปกดให้ชุ่มน้ำแกง พอเดือด ก็เอากะทิใส่ลงไป คนให้เข้ากัน ใส่โหระพาตามลงไป
       กดใบโหระพา ให้ชุ่มน้ำแกง ไม่เช่นนั้นใบโหระพาจะดำ
                            พอเดือดอีกครั้ง ก็ปิดไฟ ตักใส่ชาม ..............อร่อยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 🥣🍽✌️🤤😋😃😄😁





ยังไงก็ตาม เมนูนี้ ต้องทานพร้อมไข่เจียว ถึงอร่อย
           ก็เลยจัดไป ทานพร้อมไข่เจียว-พริกจินดากับต้นหอมซอย
 



 
ปล. ผมคิดค้าง ข้างบนไว้ ว่าทำไมถึง ชื่ออำเภอผักไห่ ซึ่งเดิมมีเรียกชื่อ “ปากไห่” จากข้อมูล ในนิราศสุพรรณได้เรียกท้องถิ่นนี้ ว่า “ ปากไห่ “ จากช่วงหนึ่ง ใน นิราศสุพรรณ
          หน้า 20 ==> https://www.finearts.go.th/storage/contents/2023/09/file/9RvzBGt04Xo7pcKhCqgr3ZpWEcaYxbWg8Az0gKRf.pdf
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

                                         แต่เที่ยวลัดทุ่งท่าเหมือนหน้าน้ำ    ทั้งสองลำล่องเลื่อนจนเฟือนหลง 
                                          ไปถึงบ้านปากไห่เหมือนใจจง    แล้ววกวงออกทุ่งเที่ยวมุ่งมอง
                                           เห็นบัวหลวงบัวขมน่าชมดอก    ช่างงามงอกนับแสนดูแน่นหนอง
                                         เห็นบัวขาวขาวล้วนนวลละออง....

        ขอพักไว้แค่นี้ก่อนนะครับ ส่วนที่เหลือ ต้องไปต่ออีกช่วงหนึ่งครับ เพราะจำนวนอักษรเกินไปนิดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ นะครับ
                  
                                                                                                     อีกแหล่งหนึ่ง ที่มีระบุไว้ คือ ใน “เพลงยาวนายตาบ” บุตรสุนทรภู่ ...............