ต้องเห็นความเป็นเราก่อน จึงจะถอดถอนความเป็นเราได้(สังขาร)
แล้วความเป็นเราอยู่ที่ไหน
ที่กายก็อยู่ที่ มีผัสสะมากระทบในความเป็น3มิติของกาย กว้างคืบ ยาววา หนา ศอก
ยาว:จากเหนือศรีษะถึงใต้พื้นดิน
หนา:จากที่ว่างข้างหน้า ไปด้านหลัง
กว้าง:จากซ้ายไปขวา เป็นแนวขวาง
การถอดถอนอวิชา จึงถอดถอนในความเป็นมิติที่เป็นกายนี้ ด้วยตัวรู้ที่เป็นตัวสติ อันเป็นตัวนาม
มีสติรู้ว่าเย็น ร้อน อ่อน แข็ง กระทบตรงไหน ในส่วนรูป เมื่อมีสติเข้าไปรู้การกระทบ(โวฐฐัพนจิต) แล้วมีสติตามรู้อาการกระทบนั้นดับอย่างไร ตั้งแต่เกิดจนดับ(ชวนจิต)
ขณะเดิน มีสติเห็นเดินกระทบอะไร(รู้ความแข็ง)
ขณะมีสติเห็นลมพัดผ่านกาย ลมพัดผ่านกายแล้วรู้สึกอย่างไร (เห็นทั้งจิต, ทั้งเวทนา)
เหตุผลในสติปัฐฐาน
แล้วความเป็นเราอยู่ที่ไหน
ที่กายก็อยู่ที่ มีผัสสะมากระทบในความเป็น3มิติของกาย กว้างคืบ ยาววา หนา ศอก
ยาว:จากเหนือศรีษะถึงใต้พื้นดิน
หนา:จากที่ว่างข้างหน้า ไปด้านหลัง
กว้าง:จากซ้ายไปขวา เป็นแนวขวาง
การถอดถอนอวิชา จึงถอดถอนในความเป็นมิติที่เป็นกายนี้ ด้วยตัวรู้ที่เป็นตัวสติ อันเป็นตัวนาม
มีสติรู้ว่าเย็น ร้อน อ่อน แข็ง กระทบตรงไหน ในส่วนรูป เมื่อมีสติเข้าไปรู้การกระทบ(โวฐฐัพนจิต) แล้วมีสติตามรู้อาการกระทบนั้นดับอย่างไร ตั้งแต่เกิดจนดับ(ชวนจิต)
ขณะเดิน มีสติเห็นเดินกระทบอะไร(รู้ความแข็ง)
ขณะมีสติเห็นลมพัดผ่านกาย ลมพัดผ่านกายแล้วรู้สึกอย่างไร (เห็นทั้งจิต, ทั้งเวทนา)