เนื่องจากเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์เลยรบกวนให้คุณแฟนช่วยค้นหาร้านใหม่เพื่อรีวิวตามแนวรถไฟฟ้าบีทีเอสจนมาพบ "Ma Ichi Urban Eatery" เจ้าของเดียวกับ "The Gallery Sushi Bar" ต้นตำรับซูชิคำยักษ์หน้าล้นไม่ตรงปกแต่ขายราคาไม่แพงอย่างที่คิดตรงถนนลาดพร้าววังหิน ถูกรังสรรค์โดยเชฟแก้วกฤษฎา ชิตรัตน์ผู้มีประสบการณ์ในภัตตาคารญี่ปุ่น ณ เมืองชิคาโกสหรัฐอเมริกากว่า 7 ปีเต็ม มีจุดเด่นที่แตกต่างจากแบรนด์แรกเดิมนั่นก็คือการจับคู่อาหารสไตล์ Japanese Fusion ให้เข้ากับ Wine , Cold Cuts หรือชีสบอร์ดซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ตั้งอยู่ตรงโครงการ Feast. พหลโยธินซอย 5 (ราชครู) ชั้น 2 โดยได้รวบรวมสตรีทฟู้ดเจ้าเด็ดเอาไว้ด้านล่างอีกเพียบ วิธีการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเพียงปักหมุด-ขับตามแผนที่บนมือถือมีลานจอดให้บริการถึง 2 จุดคือ 1. อาคาร NEP ฟรีเมื่อมีตราประทับ 18.00-24.00 น. และส.-อา. 11.00 น.เป็นต้นไป 2. Pearl Building ประทับตราจอดฟรี 1 ชม.หลังจากนั้นคิดราคาชม.ละ 50 บาท แล้วออกแรงเท้าอีกประมาณ 200 เมตร ถ้าใช้ระบบขนส่งสาธารณะลง BTS สถานีอารีย์เรียกแท็กซี่-มอเตอร์ไซค์รับจ้างหรือจะเดินก็ได้เพราะห่างจากจุดหมายเพียงแค่ 350 เมตรเท่านั้น เข้าโครงการผ่านร้านค้าด้านล่างมากมายตรงขึ้นบันไดชั้นสองเป้าหมายของเราอยู่ทางขวามือครับ




ความเป็นมาของร้าน "Ma Ichi Urban Eatery" นั้นเกิดจากการเล่นคำศัพท์ 2 ภาษาก็คือ 1. Ma หรือ "มา" ในภาษาไทยหมายถึงการเดินทางเข้าหาความอร่อย 2. Ichi (อิชิ) ภาษาญี่ปุ่นแปลว่า "อันดับหนึ่ง" ทางด้านรสชาติ/คุณภาพ/บริการและให้ประสบการณ์อันแปลกใหม่ซึ่งหาไม่ได้จากเจ้าอื่น เครื่องหมายสัญลักษณ์ประจำแบรนด์ได้แก่ "หมาป่า" เพราะมีพฤติกรรมตามธรรมชาติที่ออกล่าเหยื่อ-ใช้ชีวิตอาศัยเป็นฝูงขนาดใหญ่สะท้อนถึงการจับกลุ่มเพื่อทำกิจกรรมต่างๆร่วมกัน เปรียบเสมือนแหล่งพบปะสังสรรค์สำหรับเหล่าเพื่อนฝูงหรือครอบครัวได้ใช้เวลาอันมีค่าไปกับมื้ออาหารสุดพิเศษ ด้วยความรักกับฝันที่อยากมีร้านของตัวเองจึงเปิด "The Gallery Sushi Bar" ก่อนจะเกิดแบรนด์นี้ตามมาภายหลัง โดยแบ่งพื้นที่ให้บริการออกเป็นสองส่วนหลักนั่นคือ 1. Out Door ลานกว้างข้างนอกหน้าประตูทางขึ้นบันไดโครงการ Feast. (ราชครู) ชั้น 2 เหมาะสำหรับนั่งรับประทานอาหารสุดชิลและรับลมโชยเย็นจากธรรมชาติในวันที่อากาศปลอดโปร่ง 2. ห้องกระจกซึ่งเปิดเครื่องปรับอากาศเย็นชุ่มฉ่ำคอยต้อนรับลูกค้าทุกท่านครับ




เปิดประตูเดินผ่านบานกระจกเข้ามาก็จะพบกับบรรยากาศภายในร้าน "Ma Ichi Urban Eatery" แสนกว้างขวางเพดานสูงโปร่งพิเศษให้ความรู้สึกโล่งดูสบายตาสุดๆแทบจะเรียกได้ว่าเหมาบริเวณชั้น 2 ของโครงการ Feast. พหลโยธินซอย 5 (ราชครู) เกือบทั้งหมด ตกแต่งด้วยสไตล์ Loft & Modern ผสมความมินิมอลแบบญี่ปุ่นได้อย่างลงตัวทุกมุม เริ่มต้นกันที่พื้น,เคาน์เตอร์ถูกปูและก่อขึ้นจากปูนเปลือยขัดจนมันวาวมนจนไร้สันเหลี่ยมคม/ชั้นวางของกับเฟอร์นิเจอร์ต่างๆเลือกใช้เฉพาะลายไม้กับหินอ่อนโทนสว่างเพิ่มต้นไม้ประดับเน้นชนิดใบสีเขียวกระถางเล็กแขวนห้อยระย้าลงมาจากเพดาน/ผนัง-ฝ้าทาด้วยสีขาวครีมอ่อนๆพร้อมหน้าต่างบนกระจกขนาดใหญ่ติดลูกกรงกันนกเข้ามายึดทำรังรอบด้านช่วยรับเปิดแสงแดดธรรมชาติให้สาดส่องเข้ามาอย่างละมุน,นุ่มนวลดูสวยงามเหมาะแก่การโพสท่าถ่ายรูปลงโซเชียล รองรับลูกค้าได้ตั้งแต่สายลุยเดี่ยวนั่งดื่มชิลๆตรงบาร์ยาว/คู่รักกำลังมองหาสถานที่ทานอาหารพร้อมรับประสบการณ์สุดพิเศษหรือกลุ่มครอบครัว-เพื่อนฝูงต้องการจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ก็สามารถโทรจองล่วงหน้าเพื่อขอให้จัดโต๊ะ,กั้นโซนได้ตามใจ โดยรวมถือว่าเป็นร้านสไตล์ญี่ปุ่นสุดมินิมอลที่เข้ากับย่านอารีย์แห่งนี้ได้ดีมากครับ




นอกจากเมนูอาหารญี่ปุ่นสไตล์ฟิวชั่นอเมริกาซึ่งเป็น Signature ที่ทางร้านอยากนำเสนออยู่แล้วการจับคู่ให้เข้ากับ Wine และ Cold Cuts หรือชีสบอร์ดต่างๆนำเข้าจากต่างประเทศ โดยวัตถุดิบในแต่ละวันนั้นจะถูกสลับเปลี่ยนไปเรื่อยๆขึ้นอยู่กับฤดูกาลผลิตรวมถึงสถานการณ์ของโลกช่วงปัจจุบัน วางในตู้แช่เย็นกระจกโปร่งใสบานขนาดใหญ่จัดเรียงเอาไว้อย่างสวยงามคล้ายแผนกผลิตภัณฑ์แปรรูปบนซูเปอร์มาร์เก็ตพร้อมแปะป้ายราคาทั้งซาลามี่/แฮม/ชีสแต่ละชนิดเอาไว้ชัดเจน จำหน่ายเริ่มต้นที่ 50 กรัมราคาเลือกได้ตั้งแต่ 99-350 บาท แถมฟรีอัลมอนด์/ถั่ววอลนัต/องุ่นสดไร้เมล็ด/ผลไม้ยุโรปตากแห้ง/มะกอกเขียว-ดำแช่น้ำเกลือ/ขนมปังแคร็กเกอร์แผ่นบางจัดตกแต่งให้สวยงามตามความเหมาะสม (ถ้ารู้สึกว่าทานไม่พอก็ขายแยกต่างหาก) จุดเด่นเป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งนั่นคือวัตถุดิบทุกๆรายการถูกนำเข้าตรงโดยคัดเลือกเฉพาะแหล่งผลิตโฮมเมดคุณภาพสูงจากแบรนด์พื้นบ้านขนาดเล็กซึ่งไม่ใช่โรงงานอุตสาหกรรมใหญ่โตจึงมีความพิถีพิถันและรสชาติดีกว่าแบบสุดขั้ว ส่วนไวน์เลือกได้เองทั้งแดง,ขาว,โรเซ่,สปาร์กลิ้งจากทั่วโลกไปจนถึงเบียร์,เหล้าบ๊วย,สาเกญี่ปุ่นแช่เย็นจัดๆอีกหลากหลายยี่ห้อสายชอบดื่มต้องถูกใจแน่นอนครับผม






ทุกโต๊ะภายในร้านถูกวางเล่มรายการอาหารประจำเอาไว้ให้ลูกค้าเปิดชมพร้อมสั่งอาหารได้เลยทันทีแต่เนื่องจากถูกออกแบบคล้ายอัลบั้มรูปภาพถ่ายขนาดค่อนข้างใหญ่พิมพ์เกือบเต็มแผ่นรวมกว่า 39 หน้า และเพื่อไม่ให้บทความรีวิวนี้ดูยืดเยื้อมากจนเกินไปเราจึงขอแนะนำให้กดเข้าไปดูเมนูฉบับออนไลน์ของ "Ma Ichi Urban Eatery" ที่ลิงก์นี้แทน >
https://bit.ly/3DE5IAr < แบ่งออกเป็น 10 หมวดหลักได้แก่ Ma Ichi Signature / Salad / Soup / Sushi / Sashimi-Ma Ichi Set / Maki / Donburi / Gunkan / Appitizers / Euro Food ราคาเริ่มต้นที่ 29-2,599 บาท (ขึ้นอยู่กับขนาดปริมาณต่อเสิร์ฟและความพรีเมี่ยมของวัตถุดิบ) ส่วนเครื่องดื่ม/Cold Cuts/จานใหม่ล่าสุดถูกแยกออกมาจากเล่มหลักพิมพ์ใส่กระดาษ A4 หนีบบนแผ่นบอร์ดไม้แข็งแบบง่ายๆ เริ่มต้นด้วยเหล่าชีสบอร์ดเรียงลงถาดสำหรับ 2 ถึง 4 คนนำเข้าจากอีกหลายๆประเทศในแถบยุโรปทั้งฝรั่งเศส,สเปน,อิตาลี,ฮอลแลนด์เหมือนกำลังออกเดินทางเพื่อลิ้มรสชาติความอร่อยแบบต้นตำรับดั้งเดิม นอกจากจะเดินไปเลือกเองตรงตู้แช่ได้แล้วทางเชฟก็จัดชุดราคา 759-1,289 บาทให้เราลองชีส,แฮม,ซาลามี่ตั้งแต่ 3 ถึง 6 ชนิดอย่างสวยงามคุ้มค่าด้วยครับ




เมนูใหม่ภายในร้าน "Ma Ichi Urban Eatery" ทั้งหมดนั้นถูกคิดค้นโดยเชฟแก้วกฤษฎา ชิตรัตน์อยู่ตลอดจัดจำหน่ายทั้งแบบมีให้สั่งประจำและเฉพาะฤดูกาลต่างๆเริ่มต้นด้วย "Melt Salmon (Salmon&Foie Gras)" ราคาขึ้นอยู่กับตลาด / "Salmon Cream Sauce Pasta" ราคา 380 บาท / "Aunt May Maki" ซูชิมากิสอดไส้ปูนิ่มทอดกรอบม้วนหน้าแซลมอน,เอนกาวะ ราคา 420 บาท / "Kaki Shot" หอยนางรมสดกับซอสสูตรลับสุดสมบูรณ์แบบ ราคา 190 บาท / "Spaghetti Uni" ผัดสูตรเข้มข้นพิเศษเคลือบเส้นสปาเก็ตตี้แบบญี่ปุ่น ราคา 430 บาท / "Akami Suke" ปลาทูน่าครีบน้ำเงินหรือฮอนมากุโระส่วนเนื้อแดงดองโชยุย่างกินคู่กับวาซาบิดอง ราคา 350 บาท / "White Wine & Red Wine Paring" ไวน์ขาวหรือแดงหนึ่งแก้วพร้อมซูชิ,ชีส,แฮม,ถั่วและเบอร์รี่อบแห้งหลากชนิด ราคา 690-790 บาท หน้าสุดท้ายรวมรายการเครื่องดื่มทั้งหมดอีกหลายยี่ห้อให้เลือกสั่งทั้ง สาเก/เบียร์/ค๊อกเทล/ไวน์/มัทฉะมะนาวโซดา/น้ำอัดลม/ชา-กาแฟสดร้อน,เย็น ราคาแก้วละ 29 ไปจนถึงเหมายกขวดที่ 4,900 บาท โดยรวมถือว่าค่อนข้างสมเหตุผลเพราะใช้วัตถุดิบคุณภาพดีส่วนปริมาณจะเยอะไหมเดี๋ยวมารอชมตอนเสิร์ฟกันครับ




จานแรกถูกเตรียมการมาอย่างรวดเร็วแล้วยกมาเสิร์ฟบนโต๊ะก่อนนั่นก็คือ "Sashimi Set 3" ราคา 750 บาท ประกอบไปด้วยปลาดิบเกรดคุณภาพสูงแล่ผ่านใบมีดคมกริบรวมทั้งหมด 4 ชนิดในจานเดียวได้แก่ 1. ทูน่าครีบสีน้ำเงินหรือฮอนมากุโระส่วน Akami เนื้อแดงสุดลีนผ่านการ Dry Aged เอากลิ่นคาวเลือดออกเหลือแค่รสชาติสุดเข้มข้นตามธรรมชาติให้สัมผัสนวลเนียนเหมือนก้อนเยลลี่ตอนเคี้ยวในปาก 2. ฮามาจิอีกหนึ่งในปลาตระกูลหางเหลืองมีจุดเด่นอยู่ตรงความแน่นเด้งแทรกชั้นไขมันไม่ค่อยเยอะรสชาติอมหวานอ่อนๆติดหนังด้านนอกสีแดงอมชมพูสวยงามถือเป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบยอดนิยมในภัตตาคารญี่ปุ่นชั้นนำ 3. หอยเชลล์ฮอกไกโดหรือโฮตาเตะไซส์ใหญ่แบบคัดพิเศษสีขาวนวลดูสะอาดไม่ผ่านการแช่แข็งแล้วละลายจึงหวานฉ่ำสู้ฟันนุ่มลิ้นชวนฝันจับวางบนเลมอนผ่าซีกรสชาติเปรี้ยวหอมกลิ่นฉุนเปลือกบางๆช่วยกระตุ้นความอยากอาหารได้เป็นอย่างดี 4. แซลมอนแอตแลนติกปริมาณชั้นไขมันสลับเนื้อสีส้มอ่อนสมดุลกำลังดีเกรดแช่เย็นรักษาอุณหภูมิสดใหม่ส่งตรงจากประเทศนอร์เวย์หั่นชิ้นหนาเต็มคำจัดเรียงลงจาน ตกแต่งด้วยหัวไชเท้า/แครอทขูดเส้น/ใบโฮบะโรยงาขาวแตะวาซาบิ-โชยุเพียงเล็กน้อยก็อร่อยฟินสุดๆแล้วครับ



******* เกิน 10,000 ตัวอักษร ขออนุญาตเขียนรีวิวต่อในช่อง Comment แทนนะครับ *******
[CR] รีวิว "Ma Ichi" (พหลโยธิน 5) ต้นตำรับซูชิหน้าล้นสไตล์ญี่ปุ่น-อเมริกาจับคู่ไวน์และชีสบอร์ดสุดแปลกใหม่
ความเป็นมาของร้าน "Ma Ichi Urban Eatery" นั้นเกิดจากการเล่นคำศัพท์ 2 ภาษาก็คือ 1. Ma หรือ "มา" ในภาษาไทยหมายถึงการเดินทางเข้าหาความอร่อย 2. Ichi (อิชิ) ภาษาญี่ปุ่นแปลว่า "อันดับหนึ่ง" ทางด้านรสชาติ/คุณภาพ/บริการและให้ประสบการณ์อันแปลกใหม่ซึ่งหาไม่ได้จากเจ้าอื่น เครื่องหมายสัญลักษณ์ประจำแบรนด์ได้แก่ "หมาป่า" เพราะมีพฤติกรรมตามธรรมชาติที่ออกล่าเหยื่อ-ใช้ชีวิตอาศัยเป็นฝูงขนาดใหญ่สะท้อนถึงการจับกลุ่มเพื่อทำกิจกรรมต่างๆร่วมกัน เปรียบเสมือนแหล่งพบปะสังสรรค์สำหรับเหล่าเพื่อนฝูงหรือครอบครัวได้ใช้เวลาอันมีค่าไปกับมื้ออาหารสุดพิเศษ ด้วยความรักกับฝันที่อยากมีร้านของตัวเองจึงเปิด "The Gallery Sushi Bar" ก่อนจะเกิดแบรนด์นี้ตามมาภายหลัง โดยแบ่งพื้นที่ให้บริการออกเป็นสองส่วนหลักนั่นคือ 1. Out Door ลานกว้างข้างนอกหน้าประตูทางขึ้นบันไดโครงการ Feast. (ราชครู) ชั้น 2 เหมาะสำหรับนั่งรับประทานอาหารสุดชิลและรับลมโชยเย็นจากธรรมชาติในวันที่อากาศปลอดโปร่ง 2. ห้องกระจกซึ่งเปิดเครื่องปรับอากาศเย็นชุ่มฉ่ำคอยต้อนรับลูกค้าทุกท่านครับ
เปิดประตูเดินผ่านบานกระจกเข้ามาก็จะพบกับบรรยากาศภายในร้าน "Ma Ichi Urban Eatery" แสนกว้างขวางเพดานสูงโปร่งพิเศษให้ความรู้สึกโล่งดูสบายตาสุดๆแทบจะเรียกได้ว่าเหมาบริเวณชั้น 2 ของโครงการ Feast. พหลโยธินซอย 5 (ราชครู) เกือบทั้งหมด ตกแต่งด้วยสไตล์ Loft & Modern ผสมความมินิมอลแบบญี่ปุ่นได้อย่างลงตัวทุกมุม เริ่มต้นกันที่พื้น,เคาน์เตอร์ถูกปูและก่อขึ้นจากปูนเปลือยขัดจนมันวาวมนจนไร้สันเหลี่ยมคม/ชั้นวางของกับเฟอร์นิเจอร์ต่างๆเลือกใช้เฉพาะลายไม้กับหินอ่อนโทนสว่างเพิ่มต้นไม้ประดับเน้นชนิดใบสีเขียวกระถางเล็กแขวนห้อยระย้าลงมาจากเพดาน/ผนัง-ฝ้าทาด้วยสีขาวครีมอ่อนๆพร้อมหน้าต่างบนกระจกขนาดใหญ่ติดลูกกรงกันนกเข้ามายึดทำรังรอบด้านช่วยรับเปิดแสงแดดธรรมชาติให้สาดส่องเข้ามาอย่างละมุน,นุ่มนวลดูสวยงามเหมาะแก่การโพสท่าถ่ายรูปลงโซเชียล รองรับลูกค้าได้ตั้งแต่สายลุยเดี่ยวนั่งดื่มชิลๆตรงบาร์ยาว/คู่รักกำลังมองหาสถานที่ทานอาหารพร้อมรับประสบการณ์สุดพิเศษหรือกลุ่มครอบครัว-เพื่อนฝูงต้องการจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ก็สามารถโทรจองล่วงหน้าเพื่อขอให้จัดโต๊ะ,กั้นโซนได้ตามใจ โดยรวมถือว่าเป็นร้านสไตล์ญี่ปุ่นสุดมินิมอลที่เข้ากับย่านอารีย์แห่งนี้ได้ดีมากครับ
นอกจากเมนูอาหารญี่ปุ่นสไตล์ฟิวชั่นอเมริกาซึ่งเป็น Signature ที่ทางร้านอยากนำเสนออยู่แล้วการจับคู่ให้เข้ากับ Wine และ Cold Cuts หรือชีสบอร์ดต่างๆนำเข้าจากต่างประเทศ โดยวัตถุดิบในแต่ละวันนั้นจะถูกสลับเปลี่ยนไปเรื่อยๆขึ้นอยู่กับฤดูกาลผลิตรวมถึงสถานการณ์ของโลกช่วงปัจจุบัน วางในตู้แช่เย็นกระจกโปร่งใสบานขนาดใหญ่จัดเรียงเอาไว้อย่างสวยงามคล้ายแผนกผลิตภัณฑ์แปรรูปบนซูเปอร์มาร์เก็ตพร้อมแปะป้ายราคาทั้งซาลามี่/แฮม/ชีสแต่ละชนิดเอาไว้ชัดเจน จำหน่ายเริ่มต้นที่ 50 กรัมราคาเลือกได้ตั้งแต่ 99-350 บาท แถมฟรีอัลมอนด์/ถั่ววอลนัต/องุ่นสดไร้เมล็ด/ผลไม้ยุโรปตากแห้ง/มะกอกเขียว-ดำแช่น้ำเกลือ/ขนมปังแคร็กเกอร์แผ่นบางจัดตกแต่งให้สวยงามตามความเหมาะสม (ถ้ารู้สึกว่าทานไม่พอก็ขายแยกต่างหาก) จุดเด่นเป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งนั่นคือวัตถุดิบทุกๆรายการถูกนำเข้าตรงโดยคัดเลือกเฉพาะแหล่งผลิตโฮมเมดคุณภาพสูงจากแบรนด์พื้นบ้านขนาดเล็กซึ่งไม่ใช่โรงงานอุตสาหกรรมใหญ่โตจึงมีความพิถีพิถันและรสชาติดีกว่าแบบสุดขั้ว ส่วนไวน์เลือกได้เองทั้งแดง,ขาว,โรเซ่,สปาร์กลิ้งจากทั่วโลกไปจนถึงเบียร์,เหล้าบ๊วย,สาเกญี่ปุ่นแช่เย็นจัดๆอีกหลากหลายยี่ห้อสายชอบดื่มต้องถูกใจแน่นอนครับผม
ทุกโต๊ะภายในร้านถูกวางเล่มรายการอาหารประจำเอาไว้ให้ลูกค้าเปิดชมพร้อมสั่งอาหารได้เลยทันทีแต่เนื่องจากถูกออกแบบคล้ายอัลบั้มรูปภาพถ่ายขนาดค่อนข้างใหญ่พิมพ์เกือบเต็มแผ่นรวมกว่า 39 หน้า และเพื่อไม่ให้บทความรีวิวนี้ดูยืดเยื้อมากจนเกินไปเราจึงขอแนะนำให้กดเข้าไปดูเมนูฉบับออนไลน์ของ "Ma Ichi Urban Eatery" ที่ลิงก์นี้แทน > https://bit.ly/3DE5IAr < แบ่งออกเป็น 10 หมวดหลักได้แก่ Ma Ichi Signature / Salad / Soup / Sushi / Sashimi-Ma Ichi Set / Maki / Donburi / Gunkan / Appitizers / Euro Food ราคาเริ่มต้นที่ 29-2,599 บาท (ขึ้นอยู่กับขนาดปริมาณต่อเสิร์ฟและความพรีเมี่ยมของวัตถุดิบ) ส่วนเครื่องดื่ม/Cold Cuts/จานใหม่ล่าสุดถูกแยกออกมาจากเล่มหลักพิมพ์ใส่กระดาษ A4 หนีบบนแผ่นบอร์ดไม้แข็งแบบง่ายๆ เริ่มต้นด้วยเหล่าชีสบอร์ดเรียงลงถาดสำหรับ 2 ถึง 4 คนนำเข้าจากอีกหลายๆประเทศในแถบยุโรปทั้งฝรั่งเศส,สเปน,อิตาลี,ฮอลแลนด์เหมือนกำลังออกเดินทางเพื่อลิ้มรสชาติความอร่อยแบบต้นตำรับดั้งเดิม นอกจากจะเดินไปเลือกเองตรงตู้แช่ได้แล้วทางเชฟก็จัดชุดราคา 759-1,289 บาทให้เราลองชีส,แฮม,ซาลามี่ตั้งแต่ 3 ถึง 6 ชนิดอย่างสวยงามคุ้มค่าด้วยครับ
เมนูใหม่ภายในร้าน "Ma Ichi Urban Eatery" ทั้งหมดนั้นถูกคิดค้นโดยเชฟแก้วกฤษฎา ชิตรัตน์อยู่ตลอดจัดจำหน่ายทั้งแบบมีให้สั่งประจำและเฉพาะฤดูกาลต่างๆเริ่มต้นด้วย "Melt Salmon (Salmon&Foie Gras)" ราคาขึ้นอยู่กับตลาด / "Salmon Cream Sauce Pasta" ราคา 380 บาท / "Aunt May Maki" ซูชิมากิสอดไส้ปูนิ่มทอดกรอบม้วนหน้าแซลมอน,เอนกาวะ ราคา 420 บาท / "Kaki Shot" หอยนางรมสดกับซอสสูตรลับสุดสมบูรณ์แบบ ราคา 190 บาท / "Spaghetti Uni" ผัดสูตรเข้มข้นพิเศษเคลือบเส้นสปาเก็ตตี้แบบญี่ปุ่น ราคา 430 บาท / "Akami Suke" ปลาทูน่าครีบน้ำเงินหรือฮอนมากุโระส่วนเนื้อแดงดองโชยุย่างกินคู่กับวาซาบิดอง ราคา 350 บาท / "White Wine & Red Wine Paring" ไวน์ขาวหรือแดงหนึ่งแก้วพร้อมซูชิ,ชีส,แฮม,ถั่วและเบอร์รี่อบแห้งหลากชนิด ราคา 690-790 บาท หน้าสุดท้ายรวมรายการเครื่องดื่มทั้งหมดอีกหลายยี่ห้อให้เลือกสั่งทั้ง สาเก/เบียร์/ค๊อกเทล/ไวน์/มัทฉะมะนาวโซดา/น้ำอัดลม/ชา-กาแฟสดร้อน,เย็น ราคาแก้วละ 29 ไปจนถึงเหมายกขวดที่ 4,900 บาท โดยรวมถือว่าค่อนข้างสมเหตุผลเพราะใช้วัตถุดิบคุณภาพดีส่วนปริมาณจะเยอะไหมเดี๋ยวมารอชมตอนเสิร์ฟกันครับ
จานแรกถูกเตรียมการมาอย่างรวดเร็วแล้วยกมาเสิร์ฟบนโต๊ะก่อนนั่นก็คือ "Sashimi Set 3" ราคา 750 บาท ประกอบไปด้วยปลาดิบเกรดคุณภาพสูงแล่ผ่านใบมีดคมกริบรวมทั้งหมด 4 ชนิดในจานเดียวได้แก่ 1. ทูน่าครีบสีน้ำเงินหรือฮอนมากุโระส่วน Akami เนื้อแดงสุดลีนผ่านการ Dry Aged เอากลิ่นคาวเลือดออกเหลือแค่รสชาติสุดเข้มข้นตามธรรมชาติให้สัมผัสนวลเนียนเหมือนก้อนเยลลี่ตอนเคี้ยวในปาก 2. ฮามาจิอีกหนึ่งในปลาตระกูลหางเหลืองมีจุดเด่นอยู่ตรงความแน่นเด้งแทรกชั้นไขมันไม่ค่อยเยอะรสชาติอมหวานอ่อนๆติดหนังด้านนอกสีแดงอมชมพูสวยงามถือเป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบยอดนิยมในภัตตาคารญี่ปุ่นชั้นนำ 3. หอยเชลล์ฮอกไกโดหรือโฮตาเตะไซส์ใหญ่แบบคัดพิเศษสีขาวนวลดูสะอาดไม่ผ่านการแช่แข็งแล้วละลายจึงหวานฉ่ำสู้ฟันนุ่มลิ้นชวนฝันจับวางบนเลมอนผ่าซีกรสชาติเปรี้ยวหอมกลิ่นฉุนเปลือกบางๆช่วยกระตุ้นความอยากอาหารได้เป็นอย่างดี 4. แซลมอนแอตแลนติกปริมาณชั้นไขมันสลับเนื้อสีส้มอ่อนสมดุลกำลังดีเกรดแช่เย็นรักษาอุณหภูมิสดใหม่ส่งตรงจากประเทศนอร์เวย์หั่นชิ้นหนาเต็มคำจัดเรียงลงจาน ตกแต่งด้วยหัวไชเท้า/แครอทขูดเส้น/ใบโฮบะโรยงาขาวแตะวาซาบิ-โชยุเพียงเล็กน้อยก็อร่อยฟินสุดๆแล้วครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น