สวัสดีชาวพันทิปทุกคนอีกครั้งค่า ~

กระทู้ที่ 2 ของปียังคงต่อกันด้วยการรีวิวโอมากาเสะแบบไม่มีหยุดหย่อน 555555
.
ด้วยความติดใจจากรอบก่อน มาคราวนี้เราขอจัดเต็มยิ่งกว่าเดิมด้วยการกินโอมากาเสะคอร์ส ‘6,000+ (7,062 Net)’ Premium Sushi Kappo Omakase ในห้องไพรเวทส่วนตัว ! เปิดประสบการณ์ยิ่งใหญ่กว่าเดิม รอบนี้เลยตั้งใจว่ายังไงก็จะต้องมาบอกเล่าต่อกับทุกคนให้ได้
.
.
เกริ่นกันสักนิดค่ะ สำหรับ ‘Kappo Omakase’ นั้น ตามธรรมเนียมญี่ปุ่นแล้วจะมีความแตกต่างจากโอมากาเสะแบบทั่วไปตรงที่อาหารจะมีความหลากหลายมากกว่าปลาดิบ หรือซูชิ แต่จะมีเพิ่มเติมเมนูย่าง ต้ม ทอด ที่ใช้เทคนิคพิเศษของเชฟมาโชว์ให้เราเห็นระหว่างทำด้วยนั่นเองค่ะ
.
ร้านที่เราไปลองรอบนี้ชื่อร้านว่า ‘Sushi Kappo Juichi’ สาขาพญาไท ซึ่งที่นี่จะมีทั้งคอร์สโอมากาเสะปกติ และโอมากาเสะห้องไพรเวทแบบที่เราไปลองมาค่ะ
.
.
.

ในห้องไพรเวทจะสามารถนั่งได้ 1 - 6 คนเท่านั้น และรับเพียงครั้งละ 1 กลุ่ม สำหรับการลองกินแบบห้องส่วนตัวนี้ทำให้เราสามารถคุยและสอบถามเชฟได้ละเอียดมากขึ้นค่ะ เวลาสงสัยหรืออยากรู้อะไรเกี่ยวกับวัตถุดิบหรือเทคนิคก็ถามได้เลย ไม่ต้องเกรงใจคนอื่นๆ ที่นั่งด้วยแบบรอบก่อน แล้วก็ในห้องจะมีห้องน้ำส่วนตัวให้ด้วย ทำให้เราอยู่ในห้องได้แบบยาวๆ ไม่ต้องออกไปไหนเลย 55555555
.
.
พอเข้ามาในห้องจะมีอุปกรณ์วางไว้รออยู่แล้วค่ะ แต่รอบนี้จะมีผ้าเยอะขึ้นกว่าเดิม นั่นคือผ้ากันเปื้อนผืนใหญ่ บอกเลยว่าดีมากเพราะทางนี้ซุ่มซ่ามสุดๆ 555555
.
.
.
ก่อนเริ่มคอร์สจะมีพนักงานเข้ามาถามเรื่องเครื่องดื่มซึ่งรอบนี้เราก็ยังคงสั่งเป็น ‘ชาร้อน’ เหมือนเดิมเลย ที่นี่ชาจะกลิ่นหอมมากเป็นพิเศษ เป็นกลิ่นแบบข้าวญี่ปุ่น หวานน้อยมากๆ อร่อยค่ะ
.
.
ระหว่างรอเชฟกำลังเตรียมวัตถุดิบให้พร้อมก็กะจะถ่ายรูปเล่นสักหน่อย แต่พอมาเปิดรูปดูอีกที.. เอ๊ะะะะะะะะะ ! 555555555555555555555 โชว์อูนิไปอี้กกกก
.
.
ไม่รอช้าไปกว่านี้แล้วดีกว่า มาเริ่มกันที่เมนูแรกกันเลยค่ะ
.
.
เมนูแรกวันนี้เริ่มต้นด้วย
‘Scrambled eggs (スクランブルエッグ)’.
.
เป็นไข่คนที่ทำจากไข่ไก่ เสิร์ฟแบบใส่ลงในเปลือกไข่ที่ล้างสะอาดแล้วอีกที ด้านบนจะท็อปด้วยครีมและอูนิ ตอนกินเชฟบอกว่าต้องกวนให้เข้ากันก่อน จะบอกว่าตัวไข่หอมๆ เนื้อครีมนุ่มๆ อร่อยเข้ากันมาก ส่วนอูนิก็คือเดอะเบสมากกกกกกกก~ หวานสุดๆ มีความกลิ่นอายทะเลหน่อยๆ แต่ไม่คาวค่ะ
.
.
.

เมนูที่สอง
‘Madai (マダイ)’.
.
ต่อกันด้วย ‘ปลามะได’ เนื้อขาว ปลาเกรดดีในตระกูลปลาญี่ปุ่น เมนูนี้เชฟจะทำการเบิร์นหนังเล็กน้อย เสิร์ฟมาพร้อมซอส สาหร่ายไคโซทั้งสีแดง สีเขียว และวาซิบิแบบขูดสดค่ะ เนื้อปลามีความหวาน นุ่มๆ และเด้งเล็กน้อย กินทั้งคำพร้อมหนังปลาจะดีมาก เพราะชั้นหนังของปลาชนิดนี้จะมีรสชาติพิเศษ ส่วนซอสด้านข้างจะรสชาติเค็มๆ เล็กน้อย เชฟบอกว่าอันนี้ไม่ได้ใส่เกลือเลยนะ แต่รสชาติลงตัวสุดๆ เหมือนปรุงมา
.
.
.

เมนูที่สาม
‘Hokkaido Oyster (カキ)’.
.
‘หอยนางรม’ จากเมืองฮอกไกโด ความพิเศษเลยคือจะมีขนาดตัวใหญ่ เนื้อแน่น เต็มคำ จานนี้เชฟราดซอสพอนสึบนตัวหอย ตอนกินจะมีความหวานจากหอยเต็มคำ ได้กลิ่นทะเลๆ หน่อยๆ แต่ไม่คาว ซอสเค็มเบาๆ ตัดเปรี้ยวนิดหน่อยจากผิวส้มยูซุที่เชฟขูดมาด้านบน จากใจคนชอบกินหอยนางรมชอบเมนูนี้มากเลยค่ะ สามารถกินได้ 20 คำ 555555555
.
.
.

เมนูที่สี่
‘Sawara (さわら, 鰆)’.
.
‘ปลาซาวาระ หรือปลาอินทรีจุด’ เป็นปลาเนื้อขาวยอดนิยมอีกชนิดที่ได้กินบ่อยๆ เวลาไปกินโอมากาเสะ เมนูนี้จะมีการดองปลาด้วยซอสมิโซะสีขาว แล้วนำมาย่างบนเตาฮิดะด้วยไฟแรง เนื้อปลาหวานมาก ด้านนอกสุก แต่ด้านในยังมีความดิบนิดๆ เสิร์ฟพร้อมขิงดองน้ำส้มสายชูที่ไม่เผ็ดเลย รสออกหวานๆ แต่ยังมีกลิ่นขิงอยู่ ส่วนตัวว่ามีความคล้ายหัวไชเท้าดอง กรอบๆ ชอบมากกกก~
.
.
.

เมนูที่ห้า
‘Madai (マダイ)’.
.
'ปลามะได' กันอีกหนึ่งเมนูค่ะ แต่รอบนี้จะต่างจากเมนูแรกโดยสิ้นเชิง เพราะวิธีการปรุงของเชฟคือราดปลาด้วยน้ำมันร้อนจัดๆ เพื่อให้เกล็ดปลาด้านนอกกรอบและกินได้ (ปกติเราจะไม่กินส่วนนี้กัน จะขอดทิ้งซะมากกว่า) ตอนกินต้องบีบมะนาวญี่ปุ่นก่อน เนื้อปลานุ่มละมุนละลายในปากมากด้วยความที่เนื้อมีความสุกนิดๆ จากการราดน้ำมัน ตัดกันกับตัวเกล็ดปลาที่มีความกรอบกรุบค่ะ
.
.
.

เมนูที่หก
‘Wagyu (和牛)’.
.
‘เนื้อวากิว’ เนื้อวัวที่มีราคาสูงและอร่อยสุดๆ หลายๆ ที่มักจะบอกว่าเนื้อวากิวที่ดีคือเนื้อ A5 แต่สำหรับที่นี่แล้วเชฟแนะนำเป็นเนื้อ A4 เพราะไขมันน้อย และเนื้อแดงมากกว่า A5 (แต่สำหรับคนชอบมันเยอะอาจจะบอกว่า A5 อร่อยกว่าค่ะ)
.
เมนูนี้เชฟจะนำเนื้อไปย่างไฟ 2 แบบ แบบดิบๆ หน่อย (บนหินสีดำ) ส่วนอีกแบบจะมีความสุกขึ้นมาหน่อย แบบดิบเนื้อนุ่มละลายในปากมาก ไม่เหนียวอย่างที่คิด คือแบบอร่อยมากกกกกก ตาวาวจนเชฟขำ แต่แบบสุกจะมีความหอมกลิ่นเนื้อมากกว่าค่ะ เมนูนี้เป็นอีกจานที่ชอบและอยากซ้ำ
.
.
.

เมนูที่เจ็ด
‘Kegani (けがに)’.
.
‘ปูขน’ เป็นปูที่อาศัยอยู่ในทะเลลึก พบได้มากในประเทศจีนและญี่ปุ่นค่ะ ปูชนิดนี้มักจะกินกันในช่วงธันวาคม - มีนาคม ซึ่งเป็นช่วงที่เราได้ไปลองพอดีเลย เพราะจะมีรสชาติเนื้อที่หวาน และมันจะเยอะมากเป็นพิเศษนั่นเองค่ะ
.
จานนี้จะมีทั้งแบบเป็นชิ้นของก้ามปู และเนื้อส่วนตัวที่แกะมาให้แล้ว (ปกติปูชนิดนี้จะแกะยากมาก) เสิร์ฟแบบเย็นๆ พร้อมมันปูหวานๆ มันๆ ด้านข้าง เนื้อปูผสมซอสมิโซะเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ได้ใส่เยอะมาก เน้นรสชาติเนื้อปูที่มีความหวานธรรมชาติเป็นหลักค่ะ
.
.
.

เมนูที่แปด
‘Hamachi Sushi (ハマチ)’.
.
ต่อกันด้วยเมนูซูชิคำแรกกันค่ะ ‘ซูชิปลาฮามาจิ’ เป็นปลาตระกูลชนิดหางเหลืองที่มีเนื้อสีขาว ปลาชนิดนี้จะมีรสชาติที่ต่างกันไปตามแต่ละช่วงวัยของปลา ส่วนที่เราได้ลองตัวเนื้อปลานุ่มและหวานมากกกกกกก มีไขมันแทรกเล็กน้อย เลยคิดว่าน่าจะเป็นปลาช่วงวัยรุ่นแล้ว ซึ่งเป็นปลาช่วงที่เหมาะสำหรับการกินที่สุด (ถ้าเป็นปลาเด็กลงไปจะไขมันน้อยค่ะ)
.
ข้าวอร่อยไม่ติดเปรี้ยวค่ะ ก่อนเสิร์ฟซูชิคำแรก เชฟจะถามเราเลยว่าอยากให้ใส่วาซาบิไปเลยไหม เอาตามรสชาติที่เราชอบเป็นหลักค่ะ
.
.
.

เมนูที่เก้า
‘Akami Sushi (赤身)’.
.
‘ปลาทูน่าเนื้อแดง’ เป็นส่วนที่มีแต่เนื้อ ไขมันสีขาวน้อยหรือแทบไม่มีเลย ทำให้เนื้อจะมีสีแดงสดกว่าส่วนอื่นๆ ตัวเนื้อจะมีความแน่นเต็มปากเต็มคำแต่ยังคงมีความนุ่มอยู่ นุ่มแบบบรืดดดด~ ไปเลยอะ รสชาติจะไม่มันเลี่ยนค่ะ คำนี้ก็เป็นซูชิคำที่ชอบนะ แบบมันดีอะ กินแล้วไม่เลี่ยนเลย
.
.
.

เมนูที่สิบ
‘Renkodai (レンコダイ)’.
.
‘ปลาเรนโคได’ เป็นปลาในตระกูลเดียวกันกับปลากระพงที่อยู่ในระดับพรีเมียมค่ะ เชฟบอกว่าปลาชนิดนี้จะคล้ายกับปลามะไดเลย แต่ตัวจะเล็กประมาณฝ่ามือ เนื้อตัวนี้จะมีความแน่นๆ หนึบๆ เสิร์ฟพร้อมหนังปลาที่มีความบางทำให้ไม่เหนียวตอนกิน และหอมกลิ่นยูซุที่ท็อปไว้ด้านบนเบาๆ ค่ะ
.
.
.
ตอนนี้ก็มาถึงครึ่งทางแล้วเชฟเลยให้เวลาเรานั่งพักแปบนึง พูดคุยถึงรสชาติอาหารและวัตถุดิบกันเล็กน้อยก่อนไปต่อค่ะ บวกกับเราเองก็ลุกไปเข้าห้องน้ำด้วยหนึ่งยก 555555555555
.
(ต่อพาร์ท 2 ในคอมเมนต์ค่ะ)
[CR] Omakase 7,062 Net 'ห้องส่วนตัว' มีอะไรน่าลอง ? 🍣 @ Sushi Kappo Juichi
เมนูนี้เชฟจะนำเนื้อไปย่างไฟ 2 แบบ แบบดิบๆ หน่อย (บนหินสีดำ) ส่วนอีกแบบจะมีความสุกขึ้นมาหน่อย แบบดิบเนื้อนุ่มละลายในปากมาก ไม่เหนียวอย่างที่คิด คือแบบอร่อยมากกกกกก ตาวาวจนเชฟขำ แต่แบบสุกจะมีความหอมกลิ่นเนื้อมากกว่าค่ะ เมนูนี้เป็นอีกจานที่ชอบและอยากซ้ำ
จานนี้จะมีทั้งแบบเป็นชิ้นของก้ามปู และเนื้อส่วนตัวที่แกะมาให้แล้ว (ปกติปูชนิดนี้จะแกะยากมาก) เสิร์ฟแบบเย็นๆ พร้อมมันปูหวานๆ มันๆ ด้านข้าง เนื้อปูผสมซอสมิโซะเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ได้ใส่เยอะมาก เน้นรสชาติเนื้อปูที่มีความหวานธรรมชาติเป็นหลักค่ะ
ข้าวอร่อยไม่ติดเปรี้ยวค่ะ ก่อนเสิร์ฟซูชิคำแรก เชฟจะถามเราเลยว่าอยากให้ใส่วาซาบิไปเลยไหม เอาตามรสชาติที่เราชอบเป็นหลักค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้