สวัสดีค่าทุกคน
ในที่นี้มีใครปลูกดอกกุหลาบไว้ชื่นชมกันเองบ้างไหมเอ่ย แล้วทราบกันหรือไม่ว่า ดอกกุหลาบไม่ได้มีดีแค่สวย แต่ยังกินได้อีกด้วย วันนี้พี่โอ๋ขอนำเสนอแยมกลีบกุหลาบให้ทุกคนได้ลองทำกันนะคะ ทั้งนี้พี่โอ๋ได้เคยทำมาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อฤดูใบไม้ผลิปีที่แล้ว (ก็เป็นช่วงเดือนนี้ของปีที่แล้วนี่หล่ะคะ พี่โอ๋อยู่ออสเตรเลียนะคะ ดังนั้นฤดูต่างๆ จะตรงข้ามกับประเทศอื่นๆ ของโลก คือประเทศอื่นๆ ช่วงเวลานี้เค้าจะเป็นฤดูใบไม้ร่วงกันค่ะ)
พี่โอ๋ได้เคยลองทำไปแล้วหนหนึ่ง แล้วบอกตรงว่าติดใจตรงที่กลิ่นนี่หล่ะค่ะ คือมันดีมาก กลิ่นหอมทั้งตอนที่ทำ และตอนที่ทาลงบนขนมปังกันเลยทีเดียว
เริ่มต้นด้วยเก็บดอกกุหลาบกันค่ะ ที่เห็นในภาพนี้คือกุหลาบที่ปลูกไว้ภายในรั้วบ้านนะคะ คือมันสำคัญมากตรงที่เราใส่แค่ปุ๋ยที่โคนต้น แต่เราไม่ใช้สารเคมีในการไล่แมลงต่างๆ ที่ดอกกุหลาบนี้ ดังนั้น หากใครจะลองทำแยมนี้ ต้องไม่ซื้อดอกกุหลาบเพื่อมาทำอย่างเด็ดขาดนะคะ เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าสวนที่ปลูกเค้าฉีดยาฆ่าแมลงหรือไม่ (ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเค้าจะฉีดกันค่ะ เพื่อกันแมลงมากัด และเพื่อทำให้กลีบดอกสวย เวลาขายก็จะได้ราคาสูงนั้นเองค่ะ)
ขั้นต่อมา คือเด็ดกลีบ แล้วนำไปล้างน้ำเปล่าให้สะอาดนะคะ ใช้แค่กลีบเท่านั้น ไม่เอาเกสรตรงกลางนะคะ จะเห็นว่าทำไมพี่โอ๋จึงใช้แต่กลีบกุหลาบที่มีสีแดง คือจริงๆ แล้วจะใช้กลีบสีไหนก็ได้นะคะ เพียงแค่ที่พี่โอ๋เลือกกลีบดอกสีแดงเพราะพันธุ์นี้ที่ปลูกไว้ให้กลิ่นหอมแรงสุดค่ะ และที่สำคัญสีที่ออกมาหลังการต้มกลีบดอกเหล่านี้ ก็จะได้สีแดงสดสวยเป็นสีเดียวกับกลีบดอกที่เห็นนั่นเอง (เพราะเวลาที่พูดถึงกุหลาบ คนส่วนใหญ่จะนึกถึงสีแดงเนอะ)
3. หลังจากที่ล้างน้ำจนสะอาดแล้ว (ที่ต้องเน้นว่าต้องล้างให้สะอาด ทั้งที่ก็ไม่ได้พ่นยาฆ่าแมลง สาเหตุเพราะอาจมีแมงมุม แมลงสาบ หรือแมลงอื่นใดๆ เกาะอาศัยอยู่ตามกลีบดอกนั่นเองค่ะ) ดังนั้น หลังจากล้างจนสะอาดแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็จะเป็นการใส่น้ำตาลลงไปนะคะ แล้วนวดขยำๆ คลุกเคล้าให้น้ำตาลกับกลีบดอกเข้าด้วยกันค่ะ ในขั้นตอนนี้พี่โอ๋จะแอบใส่น้ำเลม่อนไปครึ่งลูกนะคะ เนื่องจากถ้าแค่ใส่น้ำตาลลงไปอย่างเดียว ที่พี่โอ๋เคยทำแล้ว พี่โอ๋รู้สึกว่ามันหวานอย่างเดียว มันรู้สึกเลี่ยนๆ ตอนที่กินค่ะ จึงใส่น้ำเลม่อนไปนิดนึงเพื่อให้มีแอบเปรี้ยวๆ ปลายลิ้น แต่ยังคงความหวานนำ ตามด้วยกลิ่นหอมของกุหลาบ คือมันดีงามมากค่ะตอนที่กิน
สัดส่วนน้ำตาลที่ใช้ ถ้าเป็นสูตรที่ฝรั่งเค้าให้มาคือน้ำตาลน้ำปริมาณกลีบดอก นั่นคือ ถ้ากลีบดอก 1 ถ้วย ก็จะใส่น้ำตาล 1 ถ้วยเท่าๆ กันค่ะ แต่....อีกแล้วค่ะ พี่โอ๋แอบดัดแปลงเองเพราะอย่างที่บอกว่าได้เคยลองทำแยมนี้มาแล้วเมื่อปีก่อน ดังนั้นปีนี้พี่โอ๋จึงปรับเป็นสูตรของตัวเองโดยใส่น้ำตาลแค่ 1ต่อ3 ส่วนของกลีบดอกค่ะ
สูตรที่พี่โอ๋ดัดแปลงเองคือกลีบดอกที่พี่โอ๋ใช้คือ 3 ถ้วย ดังนั้นจึงจะใส่น้ำตาลทรายแค่ 1 ถ้วยค่ะ แล้วก็บีบน้ำเลม่อนไปครึ่งลูกเล็ก ทั้งนี้ ใครชอบรสชาติแบบไหนให้ปรับสูตรกันเองตามใจชอบนะคะ ชอบหวานมากก็เพิ่มน้ำตาลตามที่เราชอบได้เลยค่ะ
4. เมื่อนวดขยำเค้าจนเข้ากันดีแล้ว ก็เทลงในหม้อต้มค่ะ หรือใครที่ขยำในหม้อต้มอยู่แล้ว ก็คือให้เอาทั้งหม้อนั้นไปตั้งไฟได้เลยจ้า ระหว่างตั้งไฟนี้ แนะนำให้หมั่นคนเรื่อยๆ นะคะ เพื่อไม่ให้กลีบดอกหรือน้ำตาลไหม้ติดที่ก้นหม้อค่ะ
ปอลิง สำคัญมากคือ อย่าใส่น้ำนะคะ เพราะจะทำให้แยมเหลวเป็นน้ำ ไม่มีความข้นเหนียวแต่อย่างใด (ถ้าในอุตสาหกรรมแยมเค้าจะใส่น้ำลงไปผสมเพื่อให้ได้ปริมาณที่มากขึ้นในการผลิตค่ะ แล้วเค้าก็จะใส่ผงหรือแผ่นเจลาตินลงไปเพื่อให้มันเกิดความเหนียว แล้วใส่สีพร้อมแต่งกลิ่นลงไป เพราะการผลิตในโรงงานย่อมต้องเน้นปริมาณให้มากเข้าไว้) แต่สูตรของเราคือเราทำกินเองที่บ้าน เราเน้นว่านี่คือ Homemade ดังนั้นเราเน้นคุณภาพนะคะ เราไม่เน้นปริมาณเท่ากับโรงงานผลิตค่ะ ส่วนใครที่จะทำขายก็ให้ใช้หลักการที่โรงงานผลิตใช้ตามที่เขียนไว้ด้านบนนี้ได้เลยจ้า
5. หลังจากต้มไปคนไปรวมเวลาประมาณ 20 นาที ก็ปิดไฟ แล้วพักไว้ให้พออุ่น แล้วก็ตักใส่โหลเพื่อแช่ตู้เย็นเก็บไว้ทาแยมในวันรุ่งขึ้นได้เลยจ้า
ส่วนวิธีเช็คว่าเหนียวข้นพอจะเป็นแยมหรือยัง สามารถดูได้จากการใช้ช้อนหรือทัพพีตักขึ้นมา แล้วเทกลับลงไปในหม้อเราจะสามารถเห็นความเหนียวนั้นได้นะคะ หากไม่เห็นภาพ แนะนำให้ดูในวีดีโอนี้ค่ะ
https://youtu.be/Q-HjQ8w_9QA
และนี่คืผลงานที่ได้ออกมานะคะ จะเห็นว่าสีแยมของพี่โอ๋จะแดงเข้มจนเกือบดำนั้นมาจากการที่พี่โอ๋ใช้น้ำตาลทรายแดงค่ะ หากใครน้ำตาลทรายขาวสีเค้าจะออกมาแดงสวยกว่าของพี่โอ๋นะคะ
เห็นภาพยั่วๆ แล้วอยากลองทานกันบ้างยังคะ อิอิ
รับรองไม่ผิดหวัง เพราะทั้งรสและกลิ่นคือดีงามจนต้องบอกต่อค่ะ
หากใครงง หรืออยากเห็นภาพการทำมากกว่านี้ พี่โอ๋มีทำคลิปลงไว้ในช่องยูทูป ตามลิ้งค์นี้นะคะ
https://youtu.be/Q-HjQ8w_9QA
ถ้าใครชอบพี่โอ๋ก็ฝากกดไลค์ กดติดตามกันไว้ด้วยนะคะ และหากใครได้ลองทำแล้ว เอารูปสวยๆ มาลงอวดกันบ้างน้าาาาา
แล้วพบกันใหม่ เมื่อพี่โอ๋หาทำอะไรแปลกได้อีก แล้วจะเอามาบอกต่ออีกครั้งค่ะ
ปอลิง อย่าลืมกดติดตามกันหน่อยนะค้าาาาา
ขอบคุณค่าาาา
บอกสูตรทำแยมกลีบกุหลาบ บอกหมด ไม่กั๊ก ทั้งสูตรแบบดั้งเดิม และปรับปรุงเอง ไว้ทำขายหรือทำกินเองที่บ้านได้หมดถ้าสดชื่นค้า
ในที่นี้มีใครปลูกดอกกุหลาบไว้ชื่นชมกันเองบ้างไหมเอ่ย แล้วทราบกันหรือไม่ว่า ดอกกุหลาบไม่ได้มีดีแค่สวย แต่ยังกินได้อีกด้วย วันนี้พี่โอ๋ขอนำเสนอแยมกลีบกุหลาบให้ทุกคนได้ลองทำกันนะคะ ทั้งนี้พี่โอ๋ได้เคยทำมาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อฤดูใบไม้ผลิปีที่แล้ว (ก็เป็นช่วงเดือนนี้ของปีที่แล้วนี่หล่ะคะ พี่โอ๋อยู่ออสเตรเลียนะคะ ดังนั้นฤดูต่างๆ จะตรงข้ามกับประเทศอื่นๆ ของโลก คือประเทศอื่นๆ ช่วงเวลานี้เค้าจะเป็นฤดูใบไม้ร่วงกันค่ะ)
พี่โอ๋ได้เคยลองทำไปแล้วหนหนึ่ง แล้วบอกตรงว่าติดใจตรงที่กลิ่นนี่หล่ะค่ะ คือมันดีมาก กลิ่นหอมทั้งตอนที่ทำ และตอนที่ทาลงบนขนมปังกันเลยทีเดียว
เริ่มต้นด้วยเก็บดอกกุหลาบกันค่ะ ที่เห็นในภาพนี้คือกุหลาบที่ปลูกไว้ภายในรั้วบ้านนะคะ คือมันสำคัญมากตรงที่เราใส่แค่ปุ๋ยที่โคนต้น แต่เราไม่ใช้สารเคมีในการไล่แมลงต่างๆ ที่ดอกกุหลาบนี้ ดังนั้น หากใครจะลองทำแยมนี้ ต้องไม่ซื้อดอกกุหลาบเพื่อมาทำอย่างเด็ดขาดนะคะ เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าสวนที่ปลูกเค้าฉีดยาฆ่าแมลงหรือไม่ (ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเค้าจะฉีดกันค่ะ เพื่อกันแมลงมากัด และเพื่อทำให้กลีบดอกสวย เวลาขายก็จะได้ราคาสูงนั้นเองค่ะ)
ขั้นต่อมา คือเด็ดกลีบ แล้วนำไปล้างน้ำเปล่าให้สะอาดนะคะ ใช้แค่กลีบเท่านั้น ไม่เอาเกสรตรงกลางนะคะ จะเห็นว่าทำไมพี่โอ๋จึงใช้แต่กลีบกุหลาบที่มีสีแดง คือจริงๆ แล้วจะใช้กลีบสีไหนก็ได้นะคะ เพียงแค่ที่พี่โอ๋เลือกกลีบดอกสีแดงเพราะพันธุ์นี้ที่ปลูกไว้ให้กลิ่นหอมแรงสุดค่ะ และที่สำคัญสีที่ออกมาหลังการต้มกลีบดอกเหล่านี้ ก็จะได้สีแดงสดสวยเป็นสีเดียวกับกลีบดอกที่เห็นนั่นเอง (เพราะเวลาที่พูดถึงกุหลาบ คนส่วนใหญ่จะนึกถึงสีแดงเนอะ)
3. หลังจากที่ล้างน้ำจนสะอาดแล้ว (ที่ต้องเน้นว่าต้องล้างให้สะอาด ทั้งที่ก็ไม่ได้พ่นยาฆ่าแมลง สาเหตุเพราะอาจมีแมงมุม แมลงสาบ หรือแมลงอื่นใดๆ เกาะอาศัยอยู่ตามกลีบดอกนั่นเองค่ะ) ดังนั้น หลังจากล้างจนสะอาดแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็จะเป็นการใส่น้ำตาลลงไปนะคะ แล้วนวดขยำๆ คลุกเคล้าให้น้ำตาลกับกลีบดอกเข้าด้วยกันค่ะ ในขั้นตอนนี้พี่โอ๋จะแอบใส่น้ำเลม่อนไปครึ่งลูกนะคะ เนื่องจากถ้าแค่ใส่น้ำตาลลงไปอย่างเดียว ที่พี่โอ๋เคยทำแล้ว พี่โอ๋รู้สึกว่ามันหวานอย่างเดียว มันรู้สึกเลี่ยนๆ ตอนที่กินค่ะ จึงใส่น้ำเลม่อนไปนิดนึงเพื่อให้มีแอบเปรี้ยวๆ ปลายลิ้น แต่ยังคงความหวานนำ ตามด้วยกลิ่นหอมของกุหลาบ คือมันดีงามมากค่ะตอนที่กิน
สัดส่วนน้ำตาลที่ใช้ ถ้าเป็นสูตรที่ฝรั่งเค้าให้มาคือน้ำตาลน้ำปริมาณกลีบดอก นั่นคือ ถ้ากลีบดอก 1 ถ้วย ก็จะใส่น้ำตาล 1 ถ้วยเท่าๆ กันค่ะ แต่....อีกแล้วค่ะ พี่โอ๋แอบดัดแปลงเองเพราะอย่างที่บอกว่าได้เคยลองทำแยมนี้มาแล้วเมื่อปีก่อน ดังนั้นปีนี้พี่โอ๋จึงปรับเป็นสูตรของตัวเองโดยใส่น้ำตาลแค่ 1ต่อ3 ส่วนของกลีบดอกค่ะ
สูตรที่พี่โอ๋ดัดแปลงเองคือกลีบดอกที่พี่โอ๋ใช้คือ 3 ถ้วย ดังนั้นจึงจะใส่น้ำตาลทรายแค่ 1 ถ้วยค่ะ แล้วก็บีบน้ำเลม่อนไปครึ่งลูกเล็ก ทั้งนี้ ใครชอบรสชาติแบบไหนให้ปรับสูตรกันเองตามใจชอบนะคะ ชอบหวานมากก็เพิ่มน้ำตาลตามที่เราชอบได้เลยค่ะ
4. เมื่อนวดขยำเค้าจนเข้ากันดีแล้ว ก็เทลงในหม้อต้มค่ะ หรือใครที่ขยำในหม้อต้มอยู่แล้ว ก็คือให้เอาทั้งหม้อนั้นไปตั้งไฟได้เลยจ้า ระหว่างตั้งไฟนี้ แนะนำให้หมั่นคนเรื่อยๆ นะคะ เพื่อไม่ให้กลีบดอกหรือน้ำตาลไหม้ติดที่ก้นหม้อค่ะ
ปอลิง สำคัญมากคือ อย่าใส่น้ำนะคะ เพราะจะทำให้แยมเหลวเป็นน้ำ ไม่มีความข้นเหนียวแต่อย่างใด (ถ้าในอุตสาหกรรมแยมเค้าจะใส่น้ำลงไปผสมเพื่อให้ได้ปริมาณที่มากขึ้นในการผลิตค่ะ แล้วเค้าก็จะใส่ผงหรือแผ่นเจลาตินลงไปเพื่อให้มันเกิดความเหนียว แล้วใส่สีพร้อมแต่งกลิ่นลงไป เพราะการผลิตในโรงงานย่อมต้องเน้นปริมาณให้มากเข้าไว้) แต่สูตรของเราคือเราทำกินเองที่บ้าน เราเน้นว่านี่คือ Homemade ดังนั้นเราเน้นคุณภาพนะคะ เราไม่เน้นปริมาณเท่ากับโรงงานผลิตค่ะ ส่วนใครที่จะทำขายก็ให้ใช้หลักการที่โรงงานผลิตใช้ตามที่เขียนไว้ด้านบนนี้ได้เลยจ้า
5. หลังจากต้มไปคนไปรวมเวลาประมาณ 20 นาที ก็ปิดไฟ แล้วพักไว้ให้พออุ่น แล้วก็ตักใส่โหลเพื่อแช่ตู้เย็นเก็บไว้ทาแยมในวันรุ่งขึ้นได้เลยจ้า
ส่วนวิธีเช็คว่าเหนียวข้นพอจะเป็นแยมหรือยัง สามารถดูได้จากการใช้ช้อนหรือทัพพีตักขึ้นมา แล้วเทกลับลงไปในหม้อเราจะสามารถเห็นความเหนียวนั้นได้นะคะ หากไม่เห็นภาพ แนะนำให้ดูในวีดีโอนี้ค่ะ https://youtu.be/Q-HjQ8w_9QA
และนี่คืผลงานที่ได้ออกมานะคะ จะเห็นว่าสีแยมของพี่โอ๋จะแดงเข้มจนเกือบดำนั้นมาจากการที่พี่โอ๋ใช้น้ำตาลทรายแดงค่ะ หากใครน้ำตาลทรายขาวสีเค้าจะออกมาแดงสวยกว่าของพี่โอ๋นะคะ
เห็นภาพยั่วๆ แล้วอยากลองทานกันบ้างยังคะ อิอิ
หากใครงง หรืออยากเห็นภาพการทำมากกว่านี้ พี่โอ๋มีทำคลิปลงไว้ในช่องยูทูป ตามลิ้งค์นี้นะคะ https://youtu.be/Q-HjQ8w_9QA
ถ้าใครชอบพี่โอ๋ก็ฝากกดไลค์ กดติดตามกันไว้ด้วยนะคะ และหากใครได้ลองทำแล้ว เอารูปสวยๆ มาลงอวดกันบ้างน้าาาาา
แล้วพบกันใหม่ เมื่อพี่โอ๋หาทำอะไรแปลกได้อีก แล้วจะเอามาบอกต่ออีกครั้งค่ะ
ปอลิง อย่าลืมกดติดตามกันหน่อยนะค้าาาาา