แชร์ประสบการณ์ : อ้วนไม่ไหว ความสัมพันธ์ก็ไปต่อไม่ได้ มาลดความอ้วนแก้ช้ำใจเถอะ

สวัสดีค่ะ 

วันนี้อยากจะมาบอกเล่าประสบการณ์การลดความอ้วนของตัวเองให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน เราอายุ 35 นะคะ สูง 158 อาชีพพนักงานบริษัททั่วไป

สาเหตุหลักคือเรื่องสุขภาพ สาเหตุรองคือโดนคนคุยเทค่ะ เลยมีแรงฮึด 5555 ที่ผ่านมาก็ออกกำลังกายมาตลอดนะคะ แต่ไม่ได้จริงจังเท่าไหร่ เรียกว่าออกตามกระแส แต่ตอนนั้นอายุยังน้อย ก็เลยไม่ค่อยใส่ใจมาก เพราะกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน ระบบเผาผลาญยังดีอยู่ ในขณะที่ตอนนี้กินอะไรนิดเดียว ก็ย้วยไปหมดค่ะ ระบบเผาผลาญแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด
 
ถ้าไม่ชอบอ่านปูมหลัง ข้ามส่วนนี้ไปก็ได้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

1 มิ.ย. 2563 (น้ำหนักตอนนี้คือ 78 ก.ก.)
ภาพ before ขอใส่สปอยด์หน่อย กลัวคนอ่านกินข้าวไม่ลง 55555
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ช่วงนี้เรายัง WFH อยู่ เลยลดด้วยการกินอาหาร 2 มื้อต่อวัน คือ มื้อแรกกินตอนเที่ยง มื้อสองกินตอนหกโมงเย็น แถมลดปริมาณลงจากที่เคยกินปกติ แต่ไม่ได้ออกกำลังกายใดๆ เลย ผ่านไปประมาณ 10 วัน ลดลงเหลือ 74.5 ค่ะ แต่เรารู้สึกว่าวิธีนี้ไม่ไหว ไม่ใช่ทางของเรา พอดึกมา เราหิวมาก แล้วเดี๋ยวอีกสักพัก ต้องกลับไปทำงานเข้าบริษัทตามปกติแล้ว เราไม่มีแรงแน่นอน เลยมองหาตัวช่วยค่ะ นั่นคือเทรนเนอร์ออนไลน์ ซึ่งจริงๆ ตัวช่วยอันนี้เราเล็งมาสักพักละ  พอเจออันที่ถูกใจก็ลองสอบถามพูดคุย รู้ตัวอีกทีจ่ายเงินไปแล้วค่ะ คอร์ส 3 เดือนเริ่ม!!!
 
15 มิ.ย. 2563 (น้ำหนักตอนนี้คือ 74.5 ก.ก.)
การออกกำลังกาย
เริ่มเข้าโปรแกรมก็คือต้องออกกำลังกายตามที่เทรนเนอร์ออกแบบให้ 5 วันต่อสัปดาห์ พักวันพฤหัสฯ กับ วันอาทิตย์ มีทั้งบอดี้เวทและคาร์ดิโอ ใช้เวลาประมาณ 1.30 ช.ม. ในแต่ละวัน ซึ่งอุปกรณ์มีแค่ดัมเบล 1 คู่ หนักข้างละ 2 กิโล กับเสื่อโยคะ

ท่าที่ใช้ออกกำลังก็ทั่วๆ ไปค่ะ Leg lunges, Squats, Russian Twists, Mountain climbers ฯลฯ
 
เลิกงานกลับมา เราก็เริ่มจากบอดี้เวทก่อนค่ะ 1 ช.ม. ตามตารางในแต่ละวัน เล่นขาบ้าง แขนบ้าง หมุนเวียนกันไป 30 นาทีหลังคือคาร์ดิโอ อาทิตย์แรก บอกเลยว่าสาหัสมาก แขนร้าว ขาสั่นพั่บๆ เหนื่อยมาก จนเกือบยกเวทไม่ครบเซ็ต อาการแบบนี้เพราะร้างจากการออกกำลังกายไปนานมากๆ นั่นเองค่ะ พออาทิตย์ที่สองถึงดีขึ้น
 
อาหาร
ตัวอย่างอาหารที่กิน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เรื่องอาหารก็ต้องควบคุม มี 3 มื้อหลัก 1 มื้อย่อย ต้องส่งรูปอาหารให้เทรนเนอร์ดูทุกวัน ยกเว้นวันที่พัก 2 วัน ไม่ต้องส่งรูปอาหารก็ได้ แต่ต้องคุมอาหารอย่างเคร่งครัด คือ 
- ไม่กินของหวาน ไอติม เค้ก ชาไข่มุก อะไรพวกนี้ เราโชคดีที่ไม่กินหวานอยู่แล้ว เลยไม่มีปัญหา
- ไม่กินของทอดของมัน, บุฟเฟ่ต์ลาขาดกันไปได้เลย 
- งดอาหารรสจัด, งดแกงกะทิ
 
ที่สำคัญ สามเดือนที่อยู่ในคอร์สการเทรนนี้ เราไม่มีชีทเดย์เลยค่ะ เทรนเนอร์ไม่ให้กินเลย T__T แล้วต้องชั่งน้ำหนัก ถ่ายรูปสัดส่วนส่งให้เทรนเนอร์ดูทุกอาทิตย์ด้วย แต่ข้อดีของการกิน 4 มื้อคือ เราไม่โหย ไม่หิวตอนดึกๆ เลย แถมอาหารที่กิน ก็ไม่ได้คลีนจ๋าอะไรขนาดนั้น หาซื้อกินได้ทั่วไปค่ะ เลยใช้ชีวิตได้ปกติ
 
นอกจากออกกำลังกายตามโปรแกรมของเทรนเนอร์แล้ว ช่วงเสาร์อาทิตย์เพื่อนชวนเราคัมแบคการวิ่งค่ะ เลยฝืนตัวเองตื่นตีห้าไปวิ่งกับเพื่อน ซึ่งปกติเราถนัดออกไปวิ่งตอนเย็นค่ะ แล้ววิ่งแค่ 5 กิโลเท่านั้น พอต้องมาตื่นเช้าไปกับเพื่อน โอ้โห สุดยอดของความฝืนตัวเอง แถมเพื่อนพาวิ่ง 10 กิโลด้วยค่ะ ใช้เวลาวิ่งเกือบ 2 ช.ม....จบครั้งแรกของการกลับไปวิ่งด้วยความปวดร้าว กว่าจะเข้าที่คือเกือบเดือน 
 
กลางเดือน ก.ค. (ช่วงนี้น้ำหนักดีดขึ้นมา 1 ก.ก.)
ช่วงนี้แหละค่ะที่เราโดนคนคุยเท เลยท้อใจกับการออกกำลังกายนิดหน่อย มันเหมือนหมดกำลังใจ จนต้องไปบ่นกับเทรนเนอร์ 5555 ซึ่งเทรนเนอร์ก็ให้กำลังใจตลอด คอย convince ให้เราออกกำลังกายเพื่อสุขภาพของตัวเอง...แต่บอกตรงๆ ณ ตอนนั้น ก่อนจะไปเจอคนคุย เราก็ไม่ค่อยมั่นใจอยู่แล้วเรื่องความอ้วนของตัวเอง แต่อดีตคนคุยเรา เคยบอกตอนคุยกันแรกๆ ว่า ไม่ได้สนใจเรื่องหุ่นหรือรูปลักษณ์ภายนอก...แต่สุดท้ายพอได้มีโอกาสเจอตัวกันจริงๆ หลังจากนั้นก็หาย ไลน์ไปไม่ตอบ 5555 จากคุยทุกวัน ก็ไม่ค่อยได้คุย เลยคิดว่าน่าจะมาจากสาเหตุนี้ เพราะไม่ได้คุยหรือพูดอะไรที่เป็นการทำร้ายความรู้สึกกันเลย เราก็นอยด์ๆ ไป 3-4 วัน ไม่ค่อยมีแรงยกเวทเลยค่ะ 555 แต่สุดท้ายก็เอาการโดนเทมาเป็นแรงฮึดค่ะ 
 
6 ก.ย. 2563...วันสุดท้ายของการเทรนกับเทรนเนอร์
จริงๆ เป้าหมายของเราหลังจากจบคอร์สคือ มีร่อง 11 เลยนะคะ แต่ไม่ไหวค่ะ จากที่อ้วนมากๆ จะสร้างร่อง 11 ในสามเดือน มันดูเป็นไปได้ยากจัง เลยเอาแค่พุงล่างหายไปก็พอ ผลปรากฏว่าพอจบคอร์สสามเดือน น้ำหนักที่ลดได้เหลือ.............66!!! ค่ะ พุงหายไปเยอะเลย แต่พุงล่างยังอยู่ยั้งยืนยง 5555 ก็ต้องหาท่าออกกำลังกายและเน้นเรื่องอาหารการกินต่อด้วยตัวเอง โดยไม่มีเทรนเนอร์มาคอยบิ้วท์ละ ซึ่งพอจบคอร์สมามันจะพอรู้หลักแล้วแหละว่าต้องออกกำลังกายประมาณไหน ยังไง อยากเน้นเวทส่วนไหน ก็ไปหาคลิปสอนออกกำลังกายตามยูทูปทำตามค่ะ อาหารก็ควบคุมเหมือนๆ เดิม ที่เพิ่มมาคือมีชีทเดย์ในวันเสาร์ นัดเพื่อนไปกินปิ้งย่าง ชาบู ได้บ้าง กินแค่พออิ่ม ถ้าเป็นไปได้ จะกินเป็นมื้อกลางวันหรือบ่ายให้พอมีเวลาในการย่อยค่ะ
 
ปัจจุบัน ตุลาคม 2563 น้ำหนักเหลือ 63 นิดๆ 

ภาพ after
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ก็ค่อยๆ ลดไป ด้วยการควบคุมการกินอาหารเหมือนเดิม แต่เน้นโปรตีนเป็นหลัก แต่ไม่ใช่จากอาหารเสริมนะคะ เราไม่ได้กินอะไรพวกนี้เลย และออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งและคาร์ดิโอสลับๆ กันไป ช่วงเสาร์อาทิตย์ก็ออกไปวิ่งสวนสาธารณะ ตอนนี้ วิ่งระยะ 10 ก.ม. เวลาดีสุดคือ 1.13 ช.ม. ค่ะ อันที่จริง ถ้าใครขี้เกียจออกกำลังกาย เน้นการคุมอาหารดีที่สุดค่ะ มันช่วยได้เยอะมาก

เป้าหมายถัดไปของเราคือ อยากน้ำหนักเหลือ 55 ถ้าทำสำเร็จจะมาอัปเดตให้นะคะ...แต่ถ้าหายไป จงรู้ไว้ว่ามันล่มค่ะ 555555

หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย และขอให้ทุกคนสุขภาพแข็งแรงค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่