เรื่องสั้น บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 3

กระทู้สนทนา
เรื่องสั้นเรื่องนี้จบที่ 3 ตอนค่ะ จขกท. ต้องขออภัยไว้ ณ กระทู้นี้ หากเรื่องราวมันไปตรงกับชีวิตของใคร จขกท. ไม่มีเจตนาใด ๆ ทั้งสิ้นค่ะ กรุณาอ่านด้วยใจเป็นกลาง (ตอนจบ)
—————————————————————-

          “นภาแกไหวมั้ยเนี่ย” กิ่งดาวช่วยประคองเธอเดินให้ตรง ๆ เดินออกมาจากประตูหน้าผับ ตีสองปาเข้าไปแล้ว ผับไม่ปิดไม่กลับเป็นสโลแกนของพวกเธอ จะห่วงอะไรพรุ่งนี้ก็เป็นวันเสาร์ วันอาทิตย์ก็ยังหยุดพักผ่อนต่อได้อีก วันนี้เป็นวันเกิดของแอมด้วย พรนภาเมามากพอสมควร แทบพูดจาหาความรู้เรื่องไม่ได้ ก็ยังดีก็ยังพอทรงตัวประคองตัวเองให้เดินไปได้ รวมทั้งเพื่อนคนอื่น ๆ ด้วย อาการหนักสุดเห็นจะเป็นนภากับแอมมากกว่า

          เป็นที่รู้นิสัยถาวรของเธออยู่แล้วสำหรับกิ่งดาว กิ่งดาวคนที่ไม่เมาที่สุดในกลุ่ม มีสติสัมปชัญญะครบ เธอแทบจะไม่เมาเลยก็ว่าได้ เพราะดื่มแค่น้ำอัดลมอย่างเดียว พวกเธอก็ไม่อยากบังคับเพื่อน เมื่อไม่กินก็คือไม่กิน แค่มาเที่ยวด้วยก็บุญคุณล้นหัวพวกเธอกันแล้ว อย่างที่บอก พวกเธอบังคับกิ่งดาวให้มาด้วย ก็วันเกิดเพื่อนซี้ทั้งที พรนภาบังคับกิ่งดาวให้มาเป็นเพื่อน เธอสองคนสนิทกันมากที่สุดในกลุ่ม กิ่งดาวคอยประคองตัวเธอ เพื่อนอีกคนเดินไปเรียกแท็กซี่ ก็อีกนั่นแหละแทบไม่ต้องโบกมือให้เมื่อย แท็กซี่มาจอดอยู่แล้วหลายคัน เป็นแบบนี้เสมอ พวกเธอไม่เอารถมากันเอง เพราะเมาไม่ขับ

          หลังจากผับปิดทุกคนต่างทยอยกันออกมา พรนภาเมา กิ่งดาวคอยพยุงช่วยเดิน มีเพื่อนดีมีชัยไปกว่าครึ่ง “อี่ภามืงเดินดี ๆ หน่อยได้มั้ย”

          “กิ่ง! ถอย” พูดไม่ทันขาดคำพรนภาพุ่งเหล้าออกมาจากปากเต็มที่ แบบไม่อายใคร ลำบากกิ่งดาวต้องคอยช่วยลูบหลัง กิ่งดาวสังเกตเห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนดูอยู่ห่าง ๆ ใครกันไม่ทราบ ตั้งแต่อยู่ในผับแล้ว เห็นแอบมองนภาเพื่อนของเธอด้วย เสียก็แต่นภามัวเมาโชว์สเต็บลีลาการเต้นอยู่ ไม่ทันได้สังเกตเห็นเหมือนตน ก็ไม่ได้อะไร คงจะเป็นพวกมาเที่ยวเหมือนกันนั่นแหละ คนแก่ที่ชอบพกงูมาด้วย ตอนนี้น่าจะกลายร่างเป็นพญานาคแล้วล่ะ จ้องมองนภาขนาดนี้

          “ไหวมั้ยมืง” กิ่งดาวถามด้วยความเป็นห่วง ทุกคนต่างสติสัมปชัญญะไม่สมประดีกันทั้งนั้น “ไปส่งอี่ภาก่อนล่ะกัน วันเกิดใครกันแน่วะ! “ กิ่งดาวบ่นอุบอิบ “กูนั่งรถกลับกะมันเอง เดี๋ยวคืนนี้กูนอนกับมัน”

          “ไหว ๆ “พรนภายังมีสติตอบเพื่อน ๆ พวกเธอยังไม่ทันกลับ มัวยืนปรึกษากันต่อว่าจะเอายังไงดี ที่แน่ ๆ เธอน่าเป็นห่วงสุดในตอนนี้ เมามากกว่าใคร ๆ มันเป็นเรื่องปกติของเธอที่เมาแบบนี้ประจำ สำหรับเพื่อนสนิท แต่ถ้ากับเพื่อนร่วมงานหรือคนอื่น เธอจะไม่ปล่อยตัวเองขนาดนี้แน่นอน เป็นที่รู้กันของแก๊ง จึงปล่อยให้เธอเต็มที่ตามสบาย โดยมีกิ่งดาวคอยดูแลทุกคน วันนี้เป็นวันเกิดแอม เป็นวันพิเศษ พวกเธอถึงได้เต็มที่สุด ๆ แล้วหยุดที่ด่าน

          “ไหว ๆ อะไรล่ะ แค่ยืนก็ยังจะไม่ตรง”

          “เอางี้นั่งรถไปส่งอี่ภากับกิ่งก่อน ส่วนพวกกูกลับกันเอง” ตอนมาพวกเธอก็นั่งแท็กซี่มา ตอนกลับก็ต้องนั่งแท็กซี่กลับ

          “มืงกูคิดถึงพี่เมธี!” พรนภาพูดออกมาอย่างคนลืมตัว ตอนนี้ไม่รู้อะไรทั้งนั้น เธอคิดถึงเมธีอย่างเดียว รู้แค่ว่าตอนนี้เธอคิดถึงเขามาก

          “พี่เมธีใครวะ! มืงไม่คิดถึงพี่โค้กแล้วเหรอ”

          “คิดถึงทำ... !อะไร กูคิดถึงพี่เมธีมาก ๆ เลยมืง กูเจอพี่เค้าที่ร้าน...” ไม่ทันได้พูดจบพรนภาก็เห็นใครบางคนในมุมมืด ยืนกอดอกมองเธออยู่ เธอจำขึ้นมาได้ทันที “นั่นไงพี่เมธีกู” เพื่อน ๆ หันไปมองตามที่เธอพูด ไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่ เพราะนภาเมาชอบเพ้อทุกทีแบบนี้เสมอ

          แล้วก็มีชายสูงอายุ แปลกหน้าคนหนึ่งเดินเข้ามาหากลุ่มของพวกเธอ ที่ยืนคุยกันอยู่ตรงหน้าผับ ดูท่าทางการแต่งตัวดูดี ดูมีอายุหน่อย พวกเธอมองด้วยสายตาตั้งคำถาม ส่วนนภาจำเขาได้แม่นยำ ไม่ทันได้คิดว่าเขามาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร ไม่ทันจะได้ถามเหล้ามันก็จะพุ่งออกมาอีกแล้ว กิ่งดาวต้องเป็นคนคอยปรนนิบัติเธอเช่นเคย

          “น้องนภา! ไหวมั้ยเนี่ย” เมธีบ่นเมื่อเห็นเธออาเจียนออกมา ไม่สนจะแนะนำตัวให้ใครรู้จัก ห่วงเธออย่างเดียว เพื่อน ๆ ของเธอมองเขาด้วยความสงสัย ผู้ชายคนนี้รู้จักพรนภาได้อย่างไร หรือจะเป็นพี่เมธีคนที่พรนภาเพ้อถึงเมื่อครู่

          เมธีทำท่าจะเข้าไปช่วยดูเธอ แต่เพื่อน ๆ ของเธอไม่อนุญาต เป็นใครก็ไม่รู้จะมาล่วงเกิน รุ่มร่ามอะไรแบบนี้ได้อย่างไร ด้วยความลืมตัวของเขาไม่ทันได้คิด สุดท้ายต้องอธิบายกับเพื่อน ๆ ของเธอให้เข้าใจกันยกใหญ่ มีกิ่งดาวที่สติครบคอยฟัง เขารู้สึกขอบคุณกิ่งดาวมาก ๆ ที่ยอมรับฟังในสิ่งที่เขาพูด ไม่คิดว่าเขาเป็นพวกโรคจิตอะไรแบบนี้

          พรนภาอ้วกเสร็จพยายามประคองตัวเองให้ทรงตัวให้ได้ จะยืนให้ตรงมันก็ชอบจะล้มทุกที ขมวดคิ้วดูผู้ชายตรงหน้าให้ชัด ๆ พี่เมธีของเธอจริง ๆ ตัวจริงเสียงจริง  “พี่เมธีขา! พี่มาได้ยังไง” เธอยกมือชี้หน้าถามเขา ตัวก็เซล้ม กิ่งดาวต้องคอยพยุงไว้

          ทุกคนหันหน้าไปมองเขา ว่าเธอรู้จักผู้ชายคนนี้ได้อย่างไร หรือว่าผู้ชายคนนี้จะเป็นพี่เมธี คงไม่ต้องพิสูจน์อะไรแล้วแหละ พรนภาเรียกชัดเจนขนาดนั้น เพื่อนบางคนส่างเมาเสียด้วยซ้ำ ที่ได้ยินประโยคเมื่อสักครู่ที่พรนภาพูด เมธีรู้สึกโล่งใจอย่างน้อยพรนภาก็ยืนยันว่าเขารู้จักเธอจริง ไม่ได้จะคิดมิดีมิร้ายด้วย “หนูถามว่าพี่มาได้ยังไง”

          “นภาแกรู้จักพี่เค้าเหรอ” เพื่อนอีกคนถาม การที่จะปล่อยเพื่อนกลับกับคนแปลกหน้ามันไม่ใช่เรื่องดีเลย ข่าวฆาตกรรมออกทีวีอยู่ทุกวัน ถึงนภาจะเรียกชื่อเขาอยู่ทนโท่ ก็ยังไม่อยากจะเชื่อ

          “รู้! แฟนกู! แฟนกูเอง ไว้ใจได้มืง กูคบกับพี่เมธีมาตั้งนานแล้ว” นภาพูดออกมาทุกคนหูพึ่งกันหมด แม้กระทั่งตัวเมธีเอง ก็ไม่อยากเชื่อหูตัวเอง

          “นภา!” เมธีพูดออกมาเบา ๆ แต่แอบยิ้มชอบใจอยู่ไม่น้อย ถึงจะพูดตอนเมาก็ตาม อย่างน้อย ๆ เพื่อน ๆ ของเธอก็รับรู้การมีตัวตนของเขาแล้ว

         “นภาเค้าเป็นใครเป็นแฟนมืงจริงเหรอ มืงอย่าพูดเล่นนะเว้ย มืงเมามากแล้วเนี่ยพูดเลอะเทอะ” กิ่งดาวไม่ค่อยเชื่อใจสักเท่าไหร่ ไม่แปลกใครจะไปเชื่อ เกิดปล่อยเพื่อนไปสุ่มสี่สุ่มห้า โดนฆ่าหั่นศพออกข่าวหน้าหนึ่งขึ้นมาจะว่ายังไง

          “กิ่งแฟนกู พี่เค้าเป็นแฟนกูจริง ๆ พี่เมธีเค้าชื่อพี่เมธี” เธอชี้ไปที่เมธีมือไม้อ่อนปวกเปียก ทุกคนหันไปมองหน้าเขาตามที่เธอชี้ “มืงกูรักพี่เค้านะเว้ย! พวกมืงไม่เข้าใจกูหรอก กูรักของกูมานานแล้ว  “ เมธียิ้มเขินหน้าแดง แทบอยากหัวเราะออกมากลบเกลื่อนความเขินอายของตน ต้องเก็บท่าทีไว้ ถึงจะอายุเยอะแล้วใช่ว่าจะไม่รู้สึกเขินอะไร เมื่อมีคนมาบอกรักซึ่ง ๆ หน้าแบบนี้ ตอนเมาแบบนี้ เขาเคยได้ยินมาว่าคนเมาชอบพูดความจริง

          “นภา!” เขาเรียกชื่อเธอ พรนภาเมาแล้วพูดอะไรออกมา พวกเธอยังไม่กลับ ยังยืนคุยกันอยู่หน้าผับไม่ทันได้ไปไหน “พี่ว่าพี่พาหนูกลับดีกว่า” เมธีเดินมาจับแขนเธอ จะพาขึ้นรถ พรนภาเธอสะบัดมือเขาออก เพื่อน ๆ เริ่มเชื่อและให้ความสนใจ แอมยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายวิดีโอไว้

          “ไม่กลับ!” นภาหันไปพูดกึ่งตะคอกให้กับเขา “พี่ไม่เป็นหนูพี่ไม่เข้าใจหรอก แล้วพี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”  นภาพูดด้วยความเมา เริ่มจะมีความดราม่าเกิดขึ้น เมธียกมือขึ้นเกาหัวแคร่ก ๆ เล็กน้อยแก้เขิน เขินที่พรนภาเมาแล้วพูดอะไรออกมาโดยไม่รู้ตัวแบบนี้

          “พี่เข้าใจหนู กลับเถอะ”

          “นภากูเข้าใจมืง มันเป็นยังไงเพื่อน ไหนเล่ามาซิ” เพื่อน ๆ ของเธอนึกสนุก อยากรู้อะไรมากกว่านี้ ให้เธอเล่าออกมาให้หมด แต่คนที่เริ่มหน้าบาง อาย ๆ คือเมธีเอง

          “ไอ้เอ็ม” กิ่งดาวช่วยปรามเอาไว้

          “นภากลับเถอะ ดึกแล้ว! พี่ไปส่ง” เมธีพยายามดึงดันให้เธอเดินไปขึ้นรถ จะพากลับให้ได้ ขืนอยู่ต่อนานกว่านี้เพื่อน ๆ ของเธอได้รู้เรื่องหมดแน่ แต่นภาก็ยังสะบัดมือเขาทิ้ง

          “กูรักพี่เค้า! รักมานานแล้วด้วยพวกมืงไม่รู้ กูเจอกับพี่เค้าตรงร้านเหล้า พี่เมธีขา...” พรนภาเมาขาดสติพูดอะไรไม่รู้เรื่อง

          “นภากลับเถอะ!” เมธีได้แค่เรียกชื่อเธอเบา ๆ พรนภาชักจะไปกันใหญ่แล้ว ต้องพากลับเดี๋ยวนี้แหละ เพื่อน ๆ เริ่มคุ้นเคยกับเมธีเสียแล้ว หันหน้ามาหัวเราะกับเขา “น้องนภากลับเถอะ” ไม่พูดอย่างเดียวเมธีกึ่งลากกึ่งอุ้มเธอเข้าไปในรถด้วย “เชื่อใจพี่ได้นะครับ นี่นามบัตรพี่”

          “พวกเราเชื่อตั้งแต่ประโยคแรกที่ไอ้นภามันพูดแล้วค่ะ  พี่เมธีขา!” กิ่งดาวตอบเขาแบบติดตลก เขายิ้มให้แบบเขิน ๆ

          “มีใครจะติดรถกลับกับพี่ด้วยมั้ยครับ เดี๋ยวพี่ไปส่งเอง”

          “ไม่เป็นไรค่ะ ขืนกลับด้วยพวกหนูคงได้รู้เรื่องพี่เมธีกับไอ้นภาทุกเรื่องแน่” ทุกคนหัวเราะก่อนจะแยกจากกันตรงนี้

...

          พรนภาหัวเราะให้กับคลิปวิดีโอตัวเอง ที่แอมถ่ายเอาไว้เมื่อคืน แอมส่งมาให้เธอดูผลงานตัวเองตอนเมา พรนภาหัวเราะแบบกลั้นเอาไว้ไม่อยู่แล้ว รับไม่ได้! รับตัวเองไม่ได้ ที่สำคัญพูดออกมาได้ยังไงแบบนั้น เธออายพี่เมธีนะ

          “หนูดูอะไร” เมธีกำลังแกะกุ้งวางใส่จานให้เธอ คงสงสัยกับสิ่งที่เธอดูและหัวเราะพอใจแบบนี้อยู่คนเดียว

          “เปล่าค่ะ “

          “เปิดตัวทั้งทีสูงวัยเลยนะมืง ลุงเค้า เอ้ย! พี่เค้านั่งหัวเราะมืงเมาอ่ะ” ทำไมกิ่งดาวต้องมาแซวเธอด้วย ยิ่งตอกย้ำให้เธออายเพิ่มมากขึ้น พรนภาแอบเหลือบตามองหน้าเขา ยิ่งอายไปกันใหญ่ โอ้ย! ทำไมพี่เมธีต้องมาเจอเขาเมื่อคืนด้วย “แฟนกู ๆ พี่เค้าเป็นแฟนกู กูรักพี่เค้า พี่เมธีขา” กิ่งดาวยังไม่หยุดพิมพ์มาล้อเธอกับเรื่องเมื่อคืน ล้อเลียนคำพูดของเธอให้เขินมากเข้าไปอีก

          “กิ่ง! อย่าแซวกู กูอายเว้ย”

          “มืงยังจะอายอีกเหรออี่พรนภา”

          พรนภาขำอยากชอบใจ ทำให้เมธียิ่งสงสัยอีกรอบ อยากรู้ว่าคุยอะไรกัน ดูอะไรกัน อยากรู้เรื่องด้วยตามประสาคนเป็นแฟนกันนั่นแหละ “หนูหัวเราะอะไร ตลกขนาดนั้น”

          “พี่เมธี” เธอนึกขึ้นมาได้ เมธีไปอยู่ที่นั่นได้อย่างไร มันบังเอิญเกินไปหรือเปล่า

          “ครับ”

          “พี่ไปเจอหนูได้ยังไง” พรนภาเลิกสนใจเพื่อน เลิกสนใจคลิปตัวเอง หันมาให้ความสนใจว่าเมธีไปรับตนเองกลับได้ยังไง “พี่มาส่งหนูได้ยังไง พี่ผ่านไปแถวนั้นพอดีเหรอ” ไม่ถามอย่างเดียว ประชดเขาให้ด้วย

          เมธีกลืนเบียร์ลงคอแบบฝืด ๆ ไม่รู้จะแก้ตัวไปแบบไหนดี พรนภาก็ยังไม่เลิกจ้องหน้าเอาคำตอบจากเขา เด็กคนนี้ถ้าอยากรู้อะไรก็ต้องรู้ให้ได้ และทุกทีเขาแก้ตัวไม่เคยสำเร็จ ไม่ผ่านเซ็นเซอร์เธอง่าย ๆ “พี่จะตอบหนูมาได้ยัง ทำไมพี่ถึงไปรับหนูกลับได้ บังเอิญไปมั้ย”

          “อ้อ! ก็หนูบอกพี่ว่าวันหยุดเสาร์นี้ไปฉลองวันเกิดเพื่อนใช่มั้ย ไม่ได้คุยกันเหมือนทุกวัน พี่ก็เครียด ๆ กับงานก็เลยไปนั่งบ้าง ไม่มีไรหรอก” แก้ตัวน้ำขุ่น ๆ จะให้ตอบว่าอย่างไรล่ะ เขาก็คิดไม่ทัน ไม่ทันได้เตรียมคำตอบเอาไว้

          “แล้วทำไมไม่ไปร้านเดิม! ทำไมต้องเป็นตะวันแดง”

          นั่นไง เมธีรู้สึกงานเข้านิด ๆ แต่ชอบเวลาที่พรนภางอนชะมัดเลย น่ารักอีกแบบ เธอทำสีหน้าท่าทางจริงจัง การถูกไล่ต้อนมันเป็นแบบนี้นี่เองเหรอ ถึงเป็นเรื่องเล็ก ๆ ก็เถอะ กับอดีตภรรยาคนก่อน ไม่ทันได้มีความรู้สึกแบบนี้เลย เธอก็ไปเสียแล้ว มีแต่เขาเองที่เป็นฝ่ายไล่ต้อนอดีตภรรยาจน ๆ มุม เด็กน้อยเอ้ย ถ้าเขาจะไหลไปจริง ๆ พรนภาไม่มีทางตามเขาทันหรอก เมธีนึกขำในใจกับท่าทางจริงจัง และคำพูดจริงจังของเธอ ร้านเดิมที่เธอพูดหมายถึงร้านเดิมที่พวกเขาเจอกัน

          “ก็พี่อยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง” เขาจิบเบียร์สายตาก็เหลือบมองความเคลื่อนไหวของแฟนเด็กแบบนึกขำ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่