ฝันหวาน (Sweet Dream) 86


.

             เช้าวันนี้เธอตื่นตามปกติในเวลาตีห้า บางวันก็ตีห้าครึ่ง เพื่อลุกมาหุงข้าวและอุ่นกับข้าวเมื่อคืนให้กับสามี ตอนเช้าพวกเธอจะไม่ทำกับข้าวกัน เพราะทำไว้ตั้งแต่ตอนเย็นแล้ว ตอนเช้าก็เพียงนำมาอุ่นเพื่อกระชับเวลาไปทำงาน

              เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นบอกเวลาตีห้าตรง พรนภากำลังจะลุก แต่ว่าถูกกดไว้ด้วยท่อนแขนแข็งแรงของเมธี บังคับให้พรนภานอนต่อไป “อะไรพี่เมธีนภาจะลุกค่ะ เดี๋ยวสายนา”

              “วันนี้พี่ไม่ได้ไปทำงานค่ะ ไม่ต้องตื่นเช้าก็ได้ น้องนอนต่อเถอะ สาย ๆ เดี๋ยวพี่ทำเอง” เขากล่าวเสียงคลุมเครือยังนอนหลับตาอยู่ ก่อนจะพลิกตะแคงมากอดรัดตัวของเธอไปอีก

              “ก็ได้ค่ะ!” พรนภาตอบ จากนั้นก็หลับต่อ ภายใต้อ้อมกอดอันแสนอบอุ่นของสามีรุ่นพ่อ ประจวบเหมาะกับอากาศที่เย็นด้วย ทำให้มันยิ่งอบอุ่นเข้าไปอีก

              พรนภาหลับสนิทสะดุ้งตื่นอีกทีก็ตอนนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์มันดังขึ้นอีก บอกเวลาแปดโมงเช้า เป็นเวลาที่พรนภาจะต้องตื่นอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน วันนี้สามีหยุดก็จริงแต่เธอไม่ได้หยุดด้วย

              เธอยกท่อนแขนแข็งแรงของสามีออกจากตัว ทำให้เมธีรู้สึกตัวตื่นตามไปด้วย “แปดโมงแล้วเหรอคะ” เมธีถาม

              “ช่าย! เดี๋ยวนภาขอตัวไปอาบน้ำไปทำงานก่อน วันนี้พี่เมธีไปส่งนภานะคะ นภาเมื่อยขับรถ นภาอยากให้พี่เมธีไปส่ง” งอแงไปอีก ไม่รู้แหละเธอจะให้สามีรุ่นพ่อไปส่งทำงานให้ได้

              “ได้ค่ะ เดี๋ยวเค้าไปส่งน้องไปทำงานเอง อี่หล่าเมื่อยบ่อ อดเอาจักนอยกะได้หยุดกลับบ้านเฮาแล้ว” เขาพูดทั้งหลับตาอยู่ จากนั้นเธอก็รีบลุกไปอาบน้ำ ส่วนเขานอนหลับต่อ หลับรอไปส่งเธอไปทำงานเช่นทุกครั้ง เดือนนี้ทั้งเดือนพวกเธอไม่ได้หยุดตรงกันเลย ด้วยปัญหาจากที่ทำงานของเธอนั่นเอง จึงทำให้เดือนนี้ต้องสวนทางกัน

              “พี่เมธีตื่น ๆ ลุกไปส่งนภาเร็วค่ะ นภาจะเสร็จแล้วเนี่ย” เขย่าตัวสามีรุ่นพ่อให้ตื่น ทั้งที่ตนเองพึ่งจะอาบน้ำออกมาจากห้องน้ำหมาด ๆ ยังไม่ทันได้แต่งตัวด้วยซ้ำ หากแต่อยากใช้ให้ทำอะไรบางอย่างเท่านั้นเอง

              เมธีสะดุ้งตื่นเพราะโดนเขย่าตัว “เสร็จแล้วเหรอคะ ทำไมน้องไม่ปลุกเค้าก่อน จะไปแล้วค่อยมาปลุกหนิ” แอบตำหนิภรรยารุ่นลูกเล็กน้อย เพียงแค่คิดว่าไม่มีเวลาให้ตนเองได้เตรียมตัวเท่านั้น ปลุกกระชั้นชิดอะไรแบบนี้ ไม่ได้ตำหนิต่อว่าอะไรเลย

              ทว่าพอตื่นขึ้นมากลับพบว่าพรนภายังไม่ได้แต่งตัวด้วยซ้ำ ยืนยิ้มแฉ่งมองดูตนเองที่ขอบเตียง “น้องแกล้งพี่เหรอ! ฮะ! มานี่เลย ๆ” เขาพูดปนยิ้ม นึกตลกก็มิปานที่โดนแกล้งจนได้

              “อะไรเค้าไม่ได้แกล้งตัวเองเด้อ! พี่เมธีตัวเองรีดชุดทำงานให้นภาอีกหน่อย น้า! นะคะตัวเองนะ เค้าสายไงวันนี้ เค้าอาบน้ำเพลินไปหน่อย แฮ่… นี่แปดโมงครึ่งแล้ว นะ ๆ” ทำออดอ้อนสามีคราวพ่อ ทำหน้าทำตาออเซาะ ในมือถือชุดทำงานที่ยังไม่ได้รีดเอาไว้

              “หั่นเด่สั่น! ว่าตั้วเพิ่นที่หย่ามใช้เฮา” มองภรรยาด้วยความเอ็นดู พูดไปอย่างนั้นเองหากแต่ยอมทำให้อยู่แล้ว เพื่อคนที่รักเพื่อพรนภาคนนี้ ให้ทำอะไรที่ยากกว่านี้ก็จะทำ “มา ๆ ค่ะ พี่รีดให้ ไปแต่งตัวได้แล้วค่ะ”

              “ขอบคุณค่ะ แฟนใครน่ารักจังเลย มาหอมหน่อยซิ เพื่อเป็นค่าแรงรีดชุดทำงานให้” พูดจบก็ปลี่เข้าไปหอมแก้มสามีทันที จากนั้นก็โดนสวมกอดคืน

             “น่ารักแถะวะ!” เขาพูดขณะกอดเอวคอดของภรรยา “เดือนนี้ไม่ได้อยู่ด้วยกันเลย เซ็งเด้!”

              “ไม่เป็นไรน้อ ยังมีเดือนหน้าและต่อ ๆ ไป ปล่อยนภาได้แล้วนภาจะไปแต่งตัวค่า” จากนั้นเมธีก็ปล่อยเธอไปแต่งตัวแต่งหน้าทำผม เพื่อไปทำงานในเช้าวันนี้

              พอแต่งตัวเสร็จเมธีก็ขับรถพาเธอไปส่งที่ทำงาน “พี่เมธีขาแวะปั๊มให้นภาหน่อยค่ะ อยากกินลาเต้ปั่นค่ะ” เธอพูด วันนี้มันสบายใจพิลึกคน ไม่สนใจแม้จะเข้างานสายก็ตาม

              เขาเลิกคิ้วมองหน้าเธอด้วยความสงสัย “น้องจะไม่สายเหรอคะ” เขาถาม

              “นภายอมสายค่ะ วันเดียวเองไม่เป็นไรหรอก เดือนนี้นภายังไม่สายสักวันเลย” เธอตอบด้วยแววตาและท่าทางสบายใจ ก็จริงเดือนนี้ยังไม่สายสักวันเลย สายแค่วันเดียวบริษัทไม่ขาดทุนหรอก

              เขาหัวเราะอึกอัก ชอบใจกับคำพูดของเธอนัก “มันต้องสายกี่วันคะ ในเดือน ๆ นึงน่ะ หึ!” เขาพูดพร้อมยีผมของพรนภาอย่างหมั่นเขี้ยว “อี่หล่าน้อยของอ้าย เข้างานสายผู้จัดการฮ่ายเด้อคำ ฮา”

              “บ่อย่าน! ฮา” เธอตอบปนหัวเราะเช่นกัน จากนั้นเมธีก็พาเธอแวะปั๊มเพื่อซื้อกาแฟ เหมือนเดิมของเธอลาเต้ปั่น ของเมธีเอสเพรสโซ่เย็น พอได้กาแฟแล้วพวกเธอก็เดินทางไปยังที่ทำงานของเธอกันเลย ขับรถมาครู่เดียวก็ถึงแล้ว “สิบแปดสี่สิบมารับนภานะคะ”

              “ขอรับ!” จากนั้นเขาก็ขับรถกลับไปเมื่อมาส่งเธอถึงที่ทำงานแล้ว

              ………………………………….

              หนึ่งทุ่มตรงเป็นเวลาเลิกงานของเธอ เมื่อเธอเดินออกมาจากออฟฟิศ ก็พบว่าเมธีมารอรับแล้ว ยิ้มให้กับภาพตรงหน้า และ เมธีเปิดเพลงในรถเสียงดังด้วย มันน่าสงสัย! พอเข้าไปในรถสิ่งที่เธอคิดมันก็เป็นจริง ‘เมธีเมา’

              เธอเปิดประตูเข้ามานั่งในรถ เมธีเปิดเพลงในรถเสียงดังมาก “พี่เมธีเบาเสียงหน่อย เป็นไร! เมาเหรอ!” เธอถามด้วยอารมณ์ขุ่นมัว พยายามระงับอารมณ์เอาไว้ ไม่ได้ห้ามให้สามีไปดื่มกับเพื่อน แต่ทำไมต้องเป็นวันนี้ วันที่ต้องมารับเธอกลับห้อง วันที่มาส่งเธอทำงาน ทำไมต้องเป็นวันนี้ นี่คืออารมณ์ที่ขุ่นมัวของเธอ

              เมธีรีบปรับเสียงเพลงให้เบาลง “เปล่าค่ะ พี่ไม่ได้เมา ถ้าพี่เมาพี่จะมารับน้องได้ไงล่ะ อี่หล่าใส่ร้ายอ้ายหลาย หื้ย!” เขาพูดพร้อมปรายนามองเธอ ตาเยิ้มมาเลย นี่หรือคนไม่เมามันน่านัก

              “เหรอ! บ่อเมาเหรอ! สภาพตอนนี่นภากะว่าแมนเมาล่ะ” เธอค่อนขอดให้ ใครมาเห็นสภาพตอนนี้ก็บอกว่าเมาทั้งนั้นแหละ มีแต่คนเมาเท่านั้นที่จะบอกว่าตนเองไม่เมา

              “ค่า! กลับได้ยังคะ” เขาถาม

              “กลับดิรอไร!” เพราะไม่ชอบใจจึงพูดออกไปแบบประชด“พานภาแวะตลาดสนามบินด้วยนะ มีของอยากได้”

              “ขอรับ! เมียอยากให้ทำอะไรก็ทำหมดแหละขอรับ สั่งมาโลดขอรับ” เขาตอบ จากนั้นก็ขับรถออกไปจากที่ทำงาน มุ่งหน้าไปยังคอนโด ตลาดที่พูดถึงก็อยู่ทางผ่านพอดี

              ขับออกมาจากที่ทำงานได้สักระยะหนึ่งก็มาถึงตลาดที่ว่า เมธีพาเธอขับรถเข้ามาจอดที่ลานจอดรถของตลาด อาการของเมธีทำให้เธอระแวงมาก เมา! เมาชัวร์ร้อยเปอร์เซ็นต์ เดี๋ยวเถอะ! ตอนนี้ยังพูดไม่ได้ พูดกับคนเมามีแต่เสียเปรียบและไม่ชนะ เดี๋ยวรอให้หายเมาก่อนเถอะ เธอจะคิดบัญชีเรื่องวันนี้ให้สาสมใจเลยทีเดียว

              “น้องจะซื้ออะไรคะน้องนภาสุดที่รักของพี่ ลูกหล่าเมียพ่อ เมียสุดที่รักของเค้า” หึหึ เห็นไหมล่ะ ทั้งโมโหทั้งตลก ใจจริงก็อยากจะหัวเราะอยู่หรอก แต่หัวเราะไม่ออก มองหน้าสามีพร้อมพูดในใจ เธอคิดถูกหรือคิดผิดนะที่ชวนสามีแวะตลาด “พี่นี่สุด ๆ แล้วนะคะ พี่จะฮากแล้วนะคะ อุ้บ! เปล่า ๆ พี่ไม่ได้จะอ้วกค่ะ คือ พี่ไม่ได้เมานะคะ น้องอย่ามองพี่แบบนั้นดิ”

              “อือ…. ไม่เมาก็ไม่เมา” ตอนนี้เหลียวมองเห็นสามีแค่นิดเดียวแล้ว รอให้หายเมาก่อนเถอะ “นภาอยากติดฟิล์มโทรศัพท์ใหม่อ่ะ แตกหมดแล้ว”

              “เคค่ะ! เดี๋ยวเค้าพาไป ปะรีบซื้อรีบกลับ” จากนั้นพวกเธอก็เดินเข้าไปในตลาด

              เธอเดินไปด้วยดูอาการของสามีไปด้วย แค่เดินก็จะเซแล้ว ทำไมต้องดื่มวันนี้ ทำไมต้องเมาวันนี้ วันที่มารับมาส่งเธอมาทำงาน เคยพูดหลายครั้งแล้วก็ไม่จำ ยังกล้าขับรถมารับเธออีก พูดถึงถ้าเมธีไม่มารับเธอแล้วใครจะมารับ

              เธอเดินดูเสื้อผ้าไปเรื่อย ๆ อยากลองเชิงสามีด้วยการชี้เอาทุกอย่าง ด้วยความเมาเมธีก็บอกซื้อเลย ซื้อให้ทุกอย่าง ปกติก็ตามใจอยู่แล้ว พอเมาแบบนี้ตามใจคูณสองกันเลย ทั้งที่งอนเรื่องเมาของสามีอยู่ก็ทำให้เธอแอบหัวเราะออกมาได้

              “ฟิล์มโทรศัพท์อยู่ตรงไหนคะ รีบเดินหาติดรีบกลับห้องเร็ว ๆ ค่ะ พี่ตึงแล้วค่ะตอนนี้” เขาพูดทางด้านหลังของเธอ

              “นั่น!” เธอหันไปค้อนขวับให้

              “คือ… คือ เค้าปวดฉี่อ่ะ” เขาพูดข้าง ๆ ใบหูของเธอ ขณะที่เธอกำลังเลือกเสื่ออยู่

              “นภาเลือกเสื้ออยู่ เอาสองตัวเลยนะคะ ชอบอ่ะ” เธอถาม

              “ค่ะ! เอาสองตัวก็เอาค่ะ เหมาหมดร้านนี่ก็ได้ค่ะ” เขาพูด ทำเอาลูกค้าที่อยู่ในร้าน พร้อมทั้งแม่ค้าหันมายิ้มให้ หัวเราะคิกคักกันใหญ่ ส่วนเธออายมาก ๆ รีบซื้อรีบจ่ายเงินรีบออกจากร้านกันเลย

              “พี่เมธีกลับกันค่ะ นภาพอละ” เธอไม่อยากเดินตลาดต่อแล้ว คนอะไรทำแบบนี้

              “อ้าวไม่ติดฟิล์มโทรศัพท์แล้วเหรอคะ” เขาถาม เขาไม่ผิดแค่เมาเท่านั้น

              “ไม่ค่ะ! นภาแค่อยากได้เสื้อแค่นั้นเอง ปะกลับเถอะนภาอยากกลับแล้วอ่ะ” เธอรีบชวนกลับทันที มันไม่สนุกแล้ว ไม่โกรธสามีเรื่องวันนี้หรอก แต่มันไม่สนุกแล้วเพราะเมธีเมา

              “ก็ได้ค่ะ กลับก็กลับ ตัวเองเค้าไม่ได้เมานะ อย่ามองเค้าด้วยสายตาแบบนั้น” เมธีพูด กอดศีรษะของเธอมาดมเบา ๆ

              จากนั้นเมธีก็พาเธอขับรถกลับบ้าน เธอเสียวมากกลัวกลับไม่ถึงห้อง สุดท้ายเมธีก็พาเธอกลับมาถึงคอนโดจนได้ ด้วยใจที่ระส่ำระสายมาก พอกลับมาถึงห้อง เมธีก็วิ่งพลวดเข้าห้องน้ำกันเลย นึก ๆ ไปเธอก็สงสารคงจะอั้นมานาน ยิ่งเมา ๆ แบบนี้ด้วย “ขอโทษนะตัวเอง สม!” ค่อนขอดให้เบา ๆ

              ข้าวเย็นมื้อนี้เธอก็ไม่ทาน ออกกำลังกายก็ไม่ทำ ส่วนคนเจ้าปัญหาถลามาหอมแก้มของเธอฟอดใหญ่ แล้วก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงนอนหลับตากันเลย ไหนบอกไม่เมา ไม่โกรธ ไม่บ่น ไม่ห้ามด้วยถ้าดื่มถูกวัน ทว่าวันนี้มันจำเป็นต้องดื่มไหม พรุ่งนี้ก่อนเถอะ เธอจะคิดบัญชี

              “น้องนภา วันนี้พี่ขอนะคะ น้องอย่าโกรธพี่นะ น้องเข้าใจพี่ใช่มั้ย มานอนใกล้ ๆ เค้าหน่อย เค้าคิดถึง เค้าอยากกอดตัวเอง” พูดทั้งหลับตา ตบเตียงนอนเบา ๆ เรียกเธอให้มาหา

              “อือ! ไม่โกรธค่ะ เดี๋ยวขอนภาอาบน้ำแป๊บนะคะ เดี๋ยวมานอนด้วย” ตอบสามีไป ปรายตามองสภาพของสามีรุ่นพ่อ พรุ่งนี้ก่อนเถอะ! จากนั้นก็รีบไปอาบน้ำแล้วมานอนให้สามีกอดอยู่อย่างนั้น ถึงจะอึดอัดทว่าก็ยอม

              มันเป็นความต้องการของสามีที่ไม่ได้หนักหนาอะไร แค่นอนให้กอดพอให้สามีหลับเท่านั้น อะไรที่เธอทำให้ได้เธอก็อยากทำ และ รีบทำให้ทันที เหมือนเมธีที่ทำทุกอย่างให้เธอโดยไม่บ่น

              “นภาไม่โกรธพี่เมธีหรอกค่ะ นภาเข้าใจ แต่ไม่ควรเมามารับนภาแบบนี้เลยค่ะ พี่เมธีเข้าใจนภาตรงนี้ด้วยนะคะ พรุ่งนี้เรามีเรื่องต้องคุยกัน” คุยกับสามีที่หลับปุ๋ย จากนั้นตนเองก็ปิดไฟแล้วนอนกอดสามีทั้งคืน ถึงกระนั้นก็สุขใจล่ะ ตลกด้วย คงจะกลัวเธอต่อว่าน่าดู เป็นห่วงด้วย ทำแบบนี้ไม่น่ารักเลยพี่เมธีของเธอ

              “รู้มั้ยเค้าเป็นห่วงตัวเอง เมาแล้วขับแบบนีอ่ะ คนแก่ขี้ดื้อเอ้ย!“ ก่อนจะจูบริมฝีปากของเมธีเบา ๆ “กู๊ดไนท์นะคะที่รัก” จากนั้นก็หลับไปพร้อมกับเขา

              ขอบคุณที่ทำให้กัน ขอบคุณที่พยายามทำให้กัน แม้ในวันที่ไม่สมบูรณ์ ขอบคุณที่รักกันนะพี่เมธี…

จบบท…

https://pantip.com/topic/41161406….บทที่85
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่