.
บางสิ่งเป็นเช่นทะเล
เรามีความสุขแม้เฝ้ามองจากระยะไกล ๆ
ไม่ต้องเข้าไปครอบครองก็ได้
ค่ำคืนที่ออกไปไหนไม่ได้ ออกไปร้านสะดวกซื้อยังรู้สึกผวา กลัวว่าเชื้อโรคจะติดมาด้วย ในบางครั้งก็จำเป็นจำใจต้องไป ยกเว้นตลาดที่เลี่ยงได้เธอก็จะไม่แวะเข้าไปใกล้เลยในช่วงนี้
เมื่อไปไหนไม่ได้อย่างเมื่อก่อน ก็ต้องทำงานกลับห้องอย่างเดียว เมธีซื้อของมาตุนไว้ทำกับข้าวเอง และวันนี้เธอก็ไม่มีโปรแกรมออกกำลังกายด้วย หยุดหนึ่งวัน ดังนั้นเธอจึงคิดว่าหาเสื้อที่ใส่แล้วไม่ใส่อีกออกมาลงขายดีกว่า เป็นมือสอง ตั้งราคาถูก ๆ จะได้ขายง่าย ๆ
พรนภานำเสื้อที่พับเก็บไว้ในตู้ออกมาไลฟ์สดขาย ใช้โซเชี่ยลให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมีเมธีช่วยเป็นแอ็ดมินตอบคำถามหลังไมค์ให้ คนซื้อก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหน มีแต่คนกันเองทั้งนั้น
คนดูเยอะมาก แต่คนเอฟไม่มี!
อุปกรณ์เตรียมพร้อมมาก ทั้งขาตั้งกล้อง หลอดไฟส่องสว่าง เสื้อผ้าแขวนราวไว้ด้านหลัง เสื้อมีแต่ตัวใหม่ ๆ ทั้งนั้น เธอใส่ไม่กี่ครั้ง ใส่ถ่ายรูปเสร็จก็โละออก ที่ทำแบบนี้ไม่ได้รวยอะไร ทว่ามันราคาถูก ใส่ตัวละครั้งก็ยังได้ ซื้อมายังไม่ได้ใส่ก็มี
“พี่เมธีช่วยหยิบเสื้อตัวนี้ให้นภาหน่อย” พรนภาชี้มือใช้ให้เขาหยิบเสื้อแฟชั่นที่ห้อยอยู่ราวตากผ้ามาให้ตน วันนี้เธอไลฟ์สดขายเสื้อมือสอง เอาเสื้อที่ตนเองไม่ใส่แล้วมาขายอีกที ในราคาที่ต่ำกว่าราคาต้นทุนมาก
“ตัวไหนคะ ตัวนี้เหรอ” เขาทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย หยิบเสื้อสีชมพูแขนตุ๊กตาเอวลอยยื่นให้เธอ บางครั้งก็แอบเข้ากล้องกับเธอด้วย ทำเอาเธอต้องเขินหันไปมองทุกที โชคดีงานที่เธอทำพอทำให้เธอมีประสบการณ์ในการไลฟ์ ไม่เคอะเขิน ไม่เก้ ๆ กัง ๆ พูดได้ไหลลื่น
“ค่ะตัวนี้แหละ” พรนภาหันไปตอบเมธี พร้อมรับเสื้อมายืนถือโชว์ให้คนในโทรศัพท์ดู เธอกำลังยืนไลฟ์สดขายเสื้อผ้าอยู่ วันนี้ไม่ได้ออกไปข้างนอก เมธีก็ไม่ได้มีงานกลับมาทำด้วย จึงมีเวลาช่วยเธอขายเสื้อได้เต็มที่
“ทุกคนเสื้อเค้าเอง การันตีสาบานได้ ใส่ไม่เกินสามครั้งต่อตัว ถามพี่คนนี้เลย” เธอผายมือไปด้านหลังหาเมธี พร้อมหันหน้าไปทางเมธี
“ฮา มืงอย่าต่อราคาเค้า เค้าขายถูกมากแล้วนะ ใส่ครั้งเดียวเองตัวนี้ซื้อมา 259 เอาไป 150 ค่าส่งอีก 30 บาท ฮะ! อะไรนะ ตัวละ 100! เอางี้ตัวนี้เอาไปเลย 50 บาท ค่าส่ง 30 รวมเป็น 80 บาท ตัวนี่เค้าใส่ครั้งเดียว! ซื้อมาตัวละ 100 ขายตัวละ 50 บาท เฮี่ย 50 ยังจะต่อกูอีกเหรอ พี่เมธีให้เท่าไหร่ ถามคนซื้อให้ก่อน”
เมธีหัวเราะเธอพูดกับเพื่อน ลูกค้าที่กำลังต่อราคาเธอคือเพื่อนสมัยมัธยมของเธอเอง เธอต้องพยายามพูดกับเพื่อนให้ไพเราะที่สุด ต่อหน้าสาธารณะออนไลน์
“อะไรเนี่ย! ทำไมเรียกพ่อว่าพี่ครับ” เธออ่านความคิดเห็นที่ส่งมา ชำเลืองมองเมธีและยิ้มให้กับเขา เพื่อนในเฟซบุ๊กคนหนึ่งทักในไลฟ์สด เป็นผู้ชาย น่าจะถามกวน ๆ เฉย ๆ นั่นแหละ เธอขายเสื้อผู้หญิง ผู้ชายจึงไม่ใช่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
“ฮา” พรนภาหัวเราะลั่นห้อง ทว่าเมธีไม่ได้ขำตาม แต่ก็ไม่ได้อายกับสิ่งที่ผู้ชายคนนั้นพูด สีหน้าท่าทางและอาการออกไปในทางหวงมากกว่า “แก! ไม่ใช่พ่อเรา ผัวเราค่ะ จบน้อ” พร้อมหันไปมองคนข้าง ๆ ส่งยิ้มให้ เมธีค่อยเปลี่ยนสีหน้า ปรับให้เป็นปกติเหมือนเมื่อครู่
“ต่อ ๆ ถึงไหนแล้ว ตัวนี้งานป้ายค่ะ งานป้ายตลาดนัดนะแก เราใส่เสื้องานตลาด เราไม่ใส่งานห้างงานแบรนด์หรอก ซื้อมา 250 ส่งต่อ 150 จ้าค่าส่ง 30 บาทไม่บวกเพิ่มเด้อ ใส่สองครั้งเองเด้อ ใครอยากได้แคปหน้าจอส่งมาในข้อความเลยจ้า เดี๋ยวแอ็ดมินตอบ ฮา” พร้อมผายมือไปหาเมธีที่นั่งอยู่ข้าง ๆ
“นี่แอ็ดมินสุดหล่อของเค้า ผัวเด้อค่ะบ่แมนพ่อ อ่อ! แด๊ดดี๊อ่ะค่ะแด๊ดดี๊ที่ไม่ได้แปลว่าพ่อค่ะ ฮา” พรนภาจีบปากจีบคอพูดตลก ๆ พร้อมหัวเราะให้กับเขา อย่างไรก็รัก พี่เมธีของเธอน่ารักแสนดีอบอุ่นที่สุด เมื่อเทียบกับที่ผ่านมา เทียบกันไม่ได้เลย เมธีทำได้เพียงยิ้มเขิน ๆ พูดอะไรไม่ออก
คนที่เข้ามาดูก็มีแต่คนกันเองเท่านั้น และคนที่ซื้อไปก็มีแต่คนกันเองเช่นกัน ญาติ ๆ หลาน ๆ ของเมธีทั้งนั้น พอหลาน ๆ ของเมธีเข้ามาจอง เธอก็ไม่อยากขาย ต้องให้ฟรีไปอย่างน่าเสียดาย จะคิดเงินด้วยก็เกรงใจเมธีมาก ๆ บางครั้งกิ๊บน้องสาวของเธอก็มาเอฟต่อก็ขายไป ไม่มีการให้ฟรี บางตัวก็ให้ฟรีไป นาน ๆ จะมีคนอื่นมาซื้อด้วย
“เฮ้อ! ขายหมดแล้ว ไม่มีคนเอฟเลย มีแต่คนดู และคนถามกวนเท้า ฮา “ เธอพูดพร้อมหัวเราะ เมื่อขายครบหมดทุกตัวแล้ว ขายไปอย่างนั้นเอง ขายได้ก็ขาย ขายไม่ได้ก็เก็บไว้บริจาค ทว่าช่วงนี้ไปบ้านเด็กกำพร้าที่บางละมุงไม่ได้ เธอจึงเอาออกมาขายเล่น ๆ ดู ก็มีคนเอฟไปบ้าง
“คนดูมีมากมาย แต่คนเอฟมีไม่กี่คน “ พรนภาบ่นแบบไม่ได้ซีเรียสอะไร ดีกว่าเก็บไว้ให้รกตู้
“ตัวสีขาวที่เพื่อนหนูเอฟไปน่ะ ใส่ครั้งเดียวเองนะคะ พี่จำได้ ส่วนตัวที่ผ้าไหมเอฟไปเดี๋ยวพี่จ่ายให้ค่ะ และนภาก็ยังไม่ได้ใส่เลยพี่ก็จำได้!” เมธีเอ่ยถึงหลานสาวของตน ที่เข้ามาดูเธอไลฟ์สดแล้วคงอยากช่วยซื้อ แต่อาเมธีไม่ขาย หึหึ ให้ช่วยขายแถมยังมาบ่นเธออีก
“เอ๋า ก็นภาใส่แล้ว! นภาไม่ชอบก็เลยเอามาขายต่อ” พร้อมเข้าไปออดอ้อนออเซาะ เข้าไปสวมกอดเขา
เมธีกอดตอบเธอ แผนนี้ใช้ได้ผลเสมอ เมื่อรู้ตัวว่าจะโดนบ่น เธอเอาหน้าซุกเข้าไปกับอ้อมกอดของเขาและแสยะยิ้มออกมานิดหน่อย
“พี่เมธีขา เมื่อกี้พี่เมธีคิดอะไรมั้ยที่มีผู้ชายเข้ามาเม้นกวน “ เธอผละตัวออกจากอ้อมกอด พร้อมมองหน้า “นภาไม่แคร์เลยนะคะ นภารักพี่เมธี เราไม่ต้องไปสนใจคนอื่นน้อ คนอื่นไม่ได้มาใช้ชีวิตร่วมกับเรา”
เมธียิ้มให้กับเธอผู้เป็นภรรยาเด็กคราวลูกตรงหน้า “พี่ไม่แคร์ค่ะ ถ้าพี่แคร์พี่คงไม่ตกลงปลงใจอยู่กับนภาหรอก อย่าคิดมากนะคะเด็กน้อย” พร้อมยกมือขึ้นมายีผมของเธอเล่น
“ขอกอดหน่อย” พรนภาฉีกยิ้มและกอดตัวเมธีไว้แน่น ซบหน้าลงไปที่หน้าอกของเขา เธออยากกอดเขาเอาไว้อย่างนี้ตลอดไป อบอุ่นที่สุด และรักที่สุด “นภารักพี่เมธีนะคะ”
“เดี๋ยว ๆ จะอ้อนพี่เอาอะไรคะ”
“เปล่า นภาอยากกอดพี่เมธีเฉย ๆ “
“งั้นอุ้มขึ้นเตียงเลยดีกว่า!”
กรี๊ด!! เธอตั้งตัวไม่ทัน ก็โดนเมธีอุ้มไปที่เตียงนอนเสียแล้ว เวลาผ่านไปเนิ่นนานเท่าไหร่ไม่อาจทราบได้
“พรุ่งนี้หนูหยุดใช่มั้ยคะ พี่ว่าเราไปดูบ้านกันมั้ย พี่เล็งไว้ที่หมู่บ้านทางฝั่งนู้นน่ะ สวยนะ” พวกเธอสองคนยังอยู่บนเตียงนอน ซ่อนร่างกายไว้ใต้ผ้าห่ม เขาวางแขนให้เธอหนุนแทนหมอน นอนตะแคงข้างหันหน้าไปทางเดียวกัน มื้ออีกข้างก็ขว้ามากอดเธอไว้
“พี่เมธีจะรีบไปไหนเนี่ย นภายังไม่ทันได้คิดเรื่องนี้เลย นภาอยากทำงาน” ทำไมเธอจะไม่ทราบในสิ่งที่เมธีวางแผนเอาไว้ หนึ่งในนั้นเธอต้องออกจากงานมาเป็นแม่บ้านเต็มตัวแน่ ๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่เธอไม่อยากทำ และเป็นกังวลกับเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย ไม่ใช่เพราะเธอขยันทำงาน แต่เป็นเพราะยังอยากทำงานอยู่ แต่ละคนคิดไม่เหมือนกัน
“พี่กำลังจะพูดเรื่องนี้อยู่พอดีเลยค่ะ” พร้อมใช้จมูกดมที่เส้นผมสีดำของเธอ ใช้แขนกอดตัวเธอให้แน่นเข้าไปอีก “ ทำไมเหรอนภา พี่ไม่อยากให้หนูเหนื่อยนะคะ พี่หาเลี้ยงนภากับลูกได้นะ ภาระทุกอย่างพี่จัดการเองคนเดียวได้”
“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่นภาอยากทำงาน พี่เมธี!” เธอหันหน้ามาปะทะกับแผ่นอกของเขา เหวี่ยงมืออีกข้างไปกอดลำตัวของเมธีเช่นกัน เมธีรอฟังเงียบ ๆ ว่าเธอจะพูดอะไรต่อ “พี่เมธีให้นภาทำงานนะคะ ไม่งั้นนภาก็ไม่อยากมีลูก”
“ก็ได้ค่ะ เอาที่น้องนภาสะดวกนะคะ ความสุขของนภาพี่ให้ได้เสมอ” พร้อมสูดดมที่หน้าผากของเธอเบา ๆ อีกครั้ง มันอบอุ่นที่สุด อบอุ่นในหัวใจที่สุดอย่างเปรียบเปรยมิได้ พรนภาคือที่สุดของชีวิตเขา และจะอยู่กับเขาตราบลมหายใจสุดท้าย
“พี่เมธีสัญญากับนภานะคะว่าจะไม่มองผู้หญิงคนไหน” เธอหลับตาพูดภายใต้ออมกอดของเขา อยู่บนเตียงที่นุ่มสบาย อยากหยุดเวลาไว้ ณ ชั่วโมงนี้ที่สุด อยากหยุดเวลาไว้ไม่ต้องเช้า ไม่อยากไปไหน อยากอยู่ในอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของเมธีตลอดเวลา มันสุขใจที่สุด มีความสุขที่สุด
“พี่มีนภาแล้วพี่ก็ไม่ต้องการใครอีกเลยค่ะ”
“แล้วผู้หญิงคนนั้นล่ะ ทำไมพี่เมธียังไปป้วนเปี้ยนอยู่กับเธอ นภาเห็นนะ”
ฮา! “โอ้ยน้ออี่หล่า อ้ายฮักเจ้าผู้เดียวเด้อ! ทำลูกอีกดีกว่า มาแน่! “
กรี๊ด!!! ฮา พี่เมธี!...
ฝันดีแค่ไหนสุดท้ายก็ต้องตื่น ตื่นมาพบกับความเป็นจริง เมธีจะอยู่ในฝันและจินตนาการของเธอตลอดไป เมธีของนภา!
จบบท...
ฝันหวาน (sweet dream) 15
.
บางสิ่งเป็นเช่นทะเล
เรามีความสุขแม้เฝ้ามองจากระยะไกล ๆ
ไม่ต้องเข้าไปครอบครองก็ได้
ค่ำคืนที่ออกไปไหนไม่ได้ ออกไปร้านสะดวกซื้อยังรู้สึกผวา กลัวว่าเชื้อโรคจะติดมาด้วย ในบางครั้งก็จำเป็นจำใจต้องไป ยกเว้นตลาดที่เลี่ยงได้เธอก็จะไม่แวะเข้าไปใกล้เลยในช่วงนี้
เมื่อไปไหนไม่ได้อย่างเมื่อก่อน ก็ต้องทำงานกลับห้องอย่างเดียว เมธีซื้อของมาตุนไว้ทำกับข้าวเอง และวันนี้เธอก็ไม่มีโปรแกรมออกกำลังกายด้วย หยุดหนึ่งวัน ดังนั้นเธอจึงคิดว่าหาเสื้อที่ใส่แล้วไม่ใส่อีกออกมาลงขายดีกว่า เป็นมือสอง ตั้งราคาถูก ๆ จะได้ขายง่าย ๆ
พรนภานำเสื้อที่พับเก็บไว้ในตู้ออกมาไลฟ์สดขาย ใช้โซเชี่ยลให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมีเมธีช่วยเป็นแอ็ดมินตอบคำถามหลังไมค์ให้ คนซื้อก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหน มีแต่คนกันเองทั้งนั้น
คนดูเยอะมาก แต่คนเอฟไม่มี!
อุปกรณ์เตรียมพร้อมมาก ทั้งขาตั้งกล้อง หลอดไฟส่องสว่าง เสื้อผ้าแขวนราวไว้ด้านหลัง เสื้อมีแต่ตัวใหม่ ๆ ทั้งนั้น เธอใส่ไม่กี่ครั้ง ใส่ถ่ายรูปเสร็จก็โละออก ที่ทำแบบนี้ไม่ได้รวยอะไร ทว่ามันราคาถูก ใส่ตัวละครั้งก็ยังได้ ซื้อมายังไม่ได้ใส่ก็มี
“พี่เมธีช่วยหยิบเสื้อตัวนี้ให้นภาหน่อย” พรนภาชี้มือใช้ให้เขาหยิบเสื้อแฟชั่นที่ห้อยอยู่ราวตากผ้ามาให้ตน วันนี้เธอไลฟ์สดขายเสื้อมือสอง เอาเสื้อที่ตนเองไม่ใส่แล้วมาขายอีกที ในราคาที่ต่ำกว่าราคาต้นทุนมาก
“ตัวไหนคะ ตัวนี้เหรอ” เขาทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย หยิบเสื้อสีชมพูแขนตุ๊กตาเอวลอยยื่นให้เธอ บางครั้งก็แอบเข้ากล้องกับเธอด้วย ทำเอาเธอต้องเขินหันไปมองทุกที โชคดีงานที่เธอทำพอทำให้เธอมีประสบการณ์ในการไลฟ์ ไม่เคอะเขิน ไม่เก้ ๆ กัง ๆ พูดได้ไหลลื่น
“ค่ะตัวนี้แหละ” พรนภาหันไปตอบเมธี พร้อมรับเสื้อมายืนถือโชว์ให้คนในโทรศัพท์ดู เธอกำลังยืนไลฟ์สดขายเสื้อผ้าอยู่ วันนี้ไม่ได้ออกไปข้างนอก เมธีก็ไม่ได้มีงานกลับมาทำด้วย จึงมีเวลาช่วยเธอขายเสื้อได้เต็มที่
“ทุกคนเสื้อเค้าเอง การันตีสาบานได้ ใส่ไม่เกินสามครั้งต่อตัว ถามพี่คนนี้เลย” เธอผายมือไปด้านหลังหาเมธี พร้อมหันหน้าไปทางเมธี
“ฮา มืงอย่าต่อราคาเค้า เค้าขายถูกมากแล้วนะ ใส่ครั้งเดียวเองตัวนี้ซื้อมา 259 เอาไป 150 ค่าส่งอีก 30 บาท ฮะ! อะไรนะ ตัวละ 100! เอางี้ตัวนี้เอาไปเลย 50 บาท ค่าส่ง 30 รวมเป็น 80 บาท ตัวนี่เค้าใส่ครั้งเดียว! ซื้อมาตัวละ 100 ขายตัวละ 50 บาท เฮี่ย 50 ยังจะต่อกูอีกเหรอ พี่เมธีให้เท่าไหร่ ถามคนซื้อให้ก่อน”
เมธีหัวเราะเธอพูดกับเพื่อน ลูกค้าที่กำลังต่อราคาเธอคือเพื่อนสมัยมัธยมของเธอเอง เธอต้องพยายามพูดกับเพื่อนให้ไพเราะที่สุด ต่อหน้าสาธารณะออนไลน์
“อะไรเนี่ย! ทำไมเรียกพ่อว่าพี่ครับ” เธออ่านความคิดเห็นที่ส่งมา ชำเลืองมองเมธีและยิ้มให้กับเขา เพื่อนในเฟซบุ๊กคนหนึ่งทักในไลฟ์สด เป็นผู้ชาย น่าจะถามกวน ๆ เฉย ๆ นั่นแหละ เธอขายเสื้อผู้หญิง ผู้ชายจึงไม่ใช่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
“ฮา” พรนภาหัวเราะลั่นห้อง ทว่าเมธีไม่ได้ขำตาม แต่ก็ไม่ได้อายกับสิ่งที่ผู้ชายคนนั้นพูด สีหน้าท่าทางและอาการออกไปในทางหวงมากกว่า “แก! ไม่ใช่พ่อเรา ผัวเราค่ะ จบน้อ” พร้อมหันไปมองคนข้าง ๆ ส่งยิ้มให้ เมธีค่อยเปลี่ยนสีหน้า ปรับให้เป็นปกติเหมือนเมื่อครู่
“ต่อ ๆ ถึงไหนแล้ว ตัวนี้งานป้ายค่ะ งานป้ายตลาดนัดนะแก เราใส่เสื้องานตลาด เราไม่ใส่งานห้างงานแบรนด์หรอก ซื้อมา 250 ส่งต่อ 150 จ้าค่าส่ง 30 บาทไม่บวกเพิ่มเด้อ ใส่สองครั้งเองเด้อ ใครอยากได้แคปหน้าจอส่งมาในข้อความเลยจ้า เดี๋ยวแอ็ดมินตอบ ฮา” พร้อมผายมือไปหาเมธีที่นั่งอยู่ข้าง ๆ
“นี่แอ็ดมินสุดหล่อของเค้า ผัวเด้อค่ะบ่แมนพ่อ อ่อ! แด๊ดดี๊อ่ะค่ะแด๊ดดี๊ที่ไม่ได้แปลว่าพ่อค่ะ ฮา” พรนภาจีบปากจีบคอพูดตลก ๆ พร้อมหัวเราะให้กับเขา อย่างไรก็รัก พี่เมธีของเธอน่ารักแสนดีอบอุ่นที่สุด เมื่อเทียบกับที่ผ่านมา เทียบกันไม่ได้เลย เมธีทำได้เพียงยิ้มเขิน ๆ พูดอะไรไม่ออก
คนที่เข้ามาดูก็มีแต่คนกันเองเท่านั้น และคนที่ซื้อไปก็มีแต่คนกันเองเช่นกัน ญาติ ๆ หลาน ๆ ของเมธีทั้งนั้น พอหลาน ๆ ของเมธีเข้ามาจอง เธอก็ไม่อยากขาย ต้องให้ฟรีไปอย่างน่าเสียดาย จะคิดเงินด้วยก็เกรงใจเมธีมาก ๆ บางครั้งกิ๊บน้องสาวของเธอก็มาเอฟต่อก็ขายไป ไม่มีการให้ฟรี บางตัวก็ให้ฟรีไป นาน ๆ จะมีคนอื่นมาซื้อด้วย
“เฮ้อ! ขายหมดแล้ว ไม่มีคนเอฟเลย มีแต่คนดู และคนถามกวนเท้า ฮา “ เธอพูดพร้อมหัวเราะ เมื่อขายครบหมดทุกตัวแล้ว ขายไปอย่างนั้นเอง ขายได้ก็ขาย ขายไม่ได้ก็เก็บไว้บริจาค ทว่าช่วงนี้ไปบ้านเด็กกำพร้าที่บางละมุงไม่ได้ เธอจึงเอาออกมาขายเล่น ๆ ดู ก็มีคนเอฟไปบ้าง
“คนดูมีมากมาย แต่คนเอฟมีไม่กี่คน “ พรนภาบ่นแบบไม่ได้ซีเรียสอะไร ดีกว่าเก็บไว้ให้รกตู้
“ตัวสีขาวที่เพื่อนหนูเอฟไปน่ะ ใส่ครั้งเดียวเองนะคะ พี่จำได้ ส่วนตัวที่ผ้าไหมเอฟไปเดี๋ยวพี่จ่ายให้ค่ะ และนภาก็ยังไม่ได้ใส่เลยพี่ก็จำได้!” เมธีเอ่ยถึงหลานสาวของตน ที่เข้ามาดูเธอไลฟ์สดแล้วคงอยากช่วยซื้อ แต่อาเมธีไม่ขาย หึหึ ให้ช่วยขายแถมยังมาบ่นเธออีก
“เอ๋า ก็นภาใส่แล้ว! นภาไม่ชอบก็เลยเอามาขายต่อ” พร้อมเข้าไปออดอ้อนออเซาะ เข้าไปสวมกอดเขา
เมธีกอดตอบเธอ แผนนี้ใช้ได้ผลเสมอ เมื่อรู้ตัวว่าจะโดนบ่น เธอเอาหน้าซุกเข้าไปกับอ้อมกอดของเขาและแสยะยิ้มออกมานิดหน่อย
“พี่เมธีขา เมื่อกี้พี่เมธีคิดอะไรมั้ยที่มีผู้ชายเข้ามาเม้นกวน “ เธอผละตัวออกจากอ้อมกอด พร้อมมองหน้า “นภาไม่แคร์เลยนะคะ นภารักพี่เมธี เราไม่ต้องไปสนใจคนอื่นน้อ คนอื่นไม่ได้มาใช้ชีวิตร่วมกับเรา”
เมธียิ้มให้กับเธอผู้เป็นภรรยาเด็กคราวลูกตรงหน้า “พี่ไม่แคร์ค่ะ ถ้าพี่แคร์พี่คงไม่ตกลงปลงใจอยู่กับนภาหรอก อย่าคิดมากนะคะเด็กน้อย” พร้อมยกมือขึ้นมายีผมของเธอเล่น
“ขอกอดหน่อย” พรนภาฉีกยิ้มและกอดตัวเมธีไว้แน่น ซบหน้าลงไปที่หน้าอกของเขา เธออยากกอดเขาเอาไว้อย่างนี้ตลอดไป อบอุ่นที่สุด และรักที่สุด “นภารักพี่เมธีนะคะ”
“เดี๋ยว ๆ จะอ้อนพี่เอาอะไรคะ”
“เปล่า นภาอยากกอดพี่เมธีเฉย ๆ “
“งั้นอุ้มขึ้นเตียงเลยดีกว่า!”
กรี๊ด!! เธอตั้งตัวไม่ทัน ก็โดนเมธีอุ้มไปที่เตียงนอนเสียแล้ว เวลาผ่านไปเนิ่นนานเท่าไหร่ไม่อาจทราบได้
“พรุ่งนี้หนูหยุดใช่มั้ยคะ พี่ว่าเราไปดูบ้านกันมั้ย พี่เล็งไว้ที่หมู่บ้านทางฝั่งนู้นน่ะ สวยนะ” พวกเธอสองคนยังอยู่บนเตียงนอน ซ่อนร่างกายไว้ใต้ผ้าห่ม เขาวางแขนให้เธอหนุนแทนหมอน นอนตะแคงข้างหันหน้าไปทางเดียวกัน มื้ออีกข้างก็ขว้ามากอดเธอไว้
“พี่เมธีจะรีบไปไหนเนี่ย นภายังไม่ทันได้คิดเรื่องนี้เลย นภาอยากทำงาน” ทำไมเธอจะไม่ทราบในสิ่งที่เมธีวางแผนเอาไว้ หนึ่งในนั้นเธอต้องออกจากงานมาเป็นแม่บ้านเต็มตัวแน่ ๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่เธอไม่อยากทำ และเป็นกังวลกับเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย ไม่ใช่เพราะเธอขยันทำงาน แต่เป็นเพราะยังอยากทำงานอยู่ แต่ละคนคิดไม่เหมือนกัน
“พี่กำลังจะพูดเรื่องนี้อยู่พอดีเลยค่ะ” พร้อมใช้จมูกดมที่เส้นผมสีดำของเธอ ใช้แขนกอดตัวเธอให้แน่นเข้าไปอีก “ ทำไมเหรอนภา พี่ไม่อยากให้หนูเหนื่อยนะคะ พี่หาเลี้ยงนภากับลูกได้นะ ภาระทุกอย่างพี่จัดการเองคนเดียวได้”
“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่นภาอยากทำงาน พี่เมธี!” เธอหันหน้ามาปะทะกับแผ่นอกของเขา เหวี่ยงมืออีกข้างไปกอดลำตัวของเมธีเช่นกัน เมธีรอฟังเงียบ ๆ ว่าเธอจะพูดอะไรต่อ “พี่เมธีให้นภาทำงานนะคะ ไม่งั้นนภาก็ไม่อยากมีลูก”
“ก็ได้ค่ะ เอาที่น้องนภาสะดวกนะคะ ความสุขของนภาพี่ให้ได้เสมอ” พร้อมสูดดมที่หน้าผากของเธอเบา ๆ อีกครั้ง มันอบอุ่นที่สุด อบอุ่นในหัวใจที่สุดอย่างเปรียบเปรยมิได้ พรนภาคือที่สุดของชีวิตเขา และจะอยู่กับเขาตราบลมหายใจสุดท้าย
“พี่เมธีสัญญากับนภานะคะว่าจะไม่มองผู้หญิงคนไหน” เธอหลับตาพูดภายใต้ออมกอดของเขา อยู่บนเตียงที่นุ่มสบาย อยากหยุดเวลาไว้ ณ ชั่วโมงนี้ที่สุด อยากหยุดเวลาไว้ไม่ต้องเช้า ไม่อยากไปไหน อยากอยู่ในอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของเมธีตลอดเวลา มันสุขใจที่สุด มีความสุขที่สุด
“พี่มีนภาแล้วพี่ก็ไม่ต้องการใครอีกเลยค่ะ”
“แล้วผู้หญิงคนนั้นล่ะ ทำไมพี่เมธียังไปป้วนเปี้ยนอยู่กับเธอ นภาเห็นนะ”
ฮา! “โอ้ยน้ออี่หล่า อ้ายฮักเจ้าผู้เดียวเด้อ! ทำลูกอีกดีกว่า มาแน่! “
กรี๊ด!!! ฮา พี่เมธี!...
ฝันดีแค่ไหนสุดท้ายก็ต้องตื่น ตื่นมาพบกับความเป็นจริง เมธีจะอยู่ในฝันและจินตนาการของเธอตลอดไป เมธีของนภา!
จบบท...