.
ถ้าผัวไม่สนใจอย่าหยุดสวยนะเว้ย ถึงแม้ว่าความสวยจะหยุดผัวไม่ได้ แต่! ความสวยก็ทำให้หาผัวใหม่ได้! ว๊าว! ฮา
พรนภาเล่นติ๊กต็อกคนเดียวพูดคนเดียว เป็นแอพพลิเคชันที่กำลังฮิตกันในตอนนี้ จะทำอะไรก็ได้ในเวลานี้ เพราะได้เป้าได้ยอดทีมแล้วเรียบร้อย จะเล่นอะไรต่อหน้ากล้องซีซีทีวีก็ได้ เธอคิดเองเออเองทั้งนั้น ฮา
“พี่ออ นภาไปร้านสะดวกซื้อก่อนนะ “ เธอเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าเสื้อ เงยหน้าพูดกับผู้จัดการเมื่อนึกขึ้นได้ว่าลืมอะไรขึ้นมา “เอาอะไรอะเปล่า”
“ไม่อ่ะ แล้วไปซื้ออะไร” อรวีก็อีกคนที่กำลังง่วนอยู่กับการเล่นโทรศัพท์ คุยกับเพื่อนที่ไหนก็ไม่ทราบได้ เพื่อนเยอะเหลือเกินคนนี้
“กระดาษห่อของขวัญ”
“ถ้าแกบอกว่าจะห่อให้พี่เมธีกูจะกรี๊ดเดี๋ยวนี้เลยนะ ฮา” อรวีพูดติดตลก ชอบพูดแซวเธอเสมอ ๆ สำหรับเรื่องนี้ “อย่าบอกว่าที่ซื้อเรย์แบนตัวเมื่อกี้เนี่ยจะห่อของขวัญให้เค้า เพื่อนร่วมห้องใช้อะไรอ่ะ เพย์บอย450 ฮา กูหัว”
“โอย พี่ออ! ฮ่วย! ไม่ใช่! ไม่ใด้ซื้อให้ใครทั้งนั้นแหละ ของลูกค้านภา เค้าจะให้ห่อของขวัญให้ ฮ่วย! คิดอะไรก็ไม่รู้” พรนภาหัวเราะ นึกขำผู้จัดการของตน ระแวงเกินเหตุ เอะอะอะไรก็จะเป็นเมธีตลอดเลยช่วงนี้
“ของพี่สาวพี่โค๊ก ห่อของขวัญให้พี่ด้วยนะว่าสั้น จะคุ้มมั้ยหนิกู บริษัทก็ไม่มีงบห่อของขวัญให้ลูกค้าด้วยสิ ควักกระเป๋าตัวเอง” พรนภาบ่นให้กับเรื่องนี้ แต่ก็ไม่มีใครใช้ให้ทำ ก็พึ่งจะมีคนนี่แหละที่ใช้เธอ พรนภาก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร งานบริการก็แบบนี้ อีกอย่างลูกค้าก็ไม่ใช่ใครที่ไหน
“ แต่เค้าจ่ายนา นภาแค่จ่ายค่ากระดาษห่อของขวัญ หรือเปล่านะ! อย่าว่าต้องซื้อด้วย เออก็คงจะเป็นอย่างนั้น” พรนภาบ่นถึงลูกค้ากิตติมศักดิ์คนนี้ จะคิดค่าห่อก็รู้สึกเกรงใจพิลึก ทั้งคู่คุยกันไปหัวร่อกันไป ก็ไม่ได้เสียหายอะไร
“ให้แฟนเค้าเหรอ”
“ไม่ ให้พ่อพี่โค๊ก ใส่ธรรมดาไม่เป็นต้องเรย์แบนเท่านั้น แต่เค้าก็ใส่แต่เรย์แบนล่ว๊า นี่ไงก็เลยห่อให้ไม่คิดค่าห่อ ฮา วันเกิดเค้า ส่งนู่นนะ ส่งกาล่านู่น” พรนภาหมายถึงชื่อจังหวัดภูมิลำเนาของเธอ พูดศัพท์ส่วนตัวของเธอ ที่หมายถึงชื่อจังหวัดนั่นแหละ อรวีก็เข้าใจในทันที
“ฉลองคอมไหนวะเรา !” ผู้จัดการของเธอชวน ทุก ๆ เดือนถ้าได้ครบทุกเป้า ได้ครบทุกยอด ผู้จัดการของเธอจะพาไปเลี้ยงเสมอ โดยเป็นคนจ่ายเอง “ร้านเดิม! เบียร์วุ้น กูรู้ความในใจมืงไอ้นภา ฮา ไม่ต้องพูดพี่รู้ ได้หมดจัดไป หาวันมา จะชวนพี่เมธีมั้ย หรือเพื่อนร่วมห้องเคลียร์มา”
อรวีพูดแทนเธอคิดแทนเธอไปหมด ทว่าพูดด้วยความตลกขบขัน ไม่ได้ออกไปในทางต่อว่า พวกเธอเข้าใจกันเป็นอย่างดี
“พี่ออ เจ้าคิดว่าใครล่ะ ฮา” พรนภาอมยิ้มปรายตามองผู้จัดการสาวสวย หุ่นนางแบบหน้าตาจิ้มลิ้มตรงหน้า “ยังไม่เที่ยงเลย เดี๋ยวรอให้พี่เมธีทักมาก่อน จะถามว่าคืนนี้ว่างมั้ย ถ้าว่างก็ไปคืนนี้เลย ถ้าไม่ว่างจะไปวันไหนเดี๋ยวนภาบอกเด้อ”
“เรียกเค้าว่าไงนะ” อรวีทำหน้าตาทะเล้นถามเธอถึงบุคคลที่สาม
“พี่เมธีขา” พรนภาจีบปากจีบคอพูดเอียงอายขวยเขิน ตบมุกกันกับผู้จัดการ
“เรียกผัวว่าไงนะ”
“บักห่า ฮา” พวกเธอหัวเราะคุยกันอยู่สองคน ระหว่างทำงาน ตอนนี้เคลียร์ข้อมูลลูกค้าเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว ว่าง ๆ ก็นั่งเม้าส์กันไปเรื่อยเปลื่อย
กรี๊ด! “พี่เมธีทักมาแล้ว ตรงเวลาเป๊ะ” พรนภากรี๊ดกร๊าดดีใจมาก เป็นแบบนี้ทุก ๆ วัน ทั้งที่เมธีก็ทักมาทุกเที่ยงยกเว้นวันหยุด เมธีไม่เคยรู้เลยว่าเธอรอคอยเขาในทุก ๆ วันเสมอ
“ถาม ๆ ว่างเปล่า เร็ว ๆ “ อรวีลากเก้าอี้มานั่งใกล้ ๆ ผู้จัดการของเธอก็รู้จักเมธีดีพอ ๆ กับเธอนี่แหละ เคยเจอกันหลายครั้งแล้ว จึงไม่มีปัญหาในการไปนั่งดื่มเหล้าด้วยกันในคืนนี้ ถ้าหากเมธีว่างไปด้วย
“พี่เมธีคืนนี้ว่างมั้ยคะ ไม่ว่างไม่เป็นไรค่ะ ถามเฉย ๆ “ เธอพิมพ์ข้อความส่งไปถามเมธี หลังจากที่เมธีทักหาเธอประโยคแรก
“ว่างเสมอครับถ้าหนูต้องการ” กรี๊ด! พรนภากรี๊ดในใจด้วยความดีใจ เมธีว่างด้วย ให้มันได้แบบนี้สิพี่เมธีเธอถึงได้ปลื้มที่สุด “ก็ดีเหมือนกันครับ ไม่ได้เจอหน้าหลายวันแล้ว พี่คิดถึง” พรนภารีบเก็บมือถือเข้ากระเป๋าเสื้อตัวเองทันที ไม่รู้ว่าอรวีอ่านทันหรือเปล่า
“ฮา แน่! มีรีบเก็บมือถือด้วย เค้าบอกคิดถึงล่ะสิ” อรวีนั่งข้าง ๆ เธอแซวเข้าให้ บอสอมยิ้มไม่ไม่ตอบอะไร “ชั้นเห็นนะเมื่อกี้! พี่คิดถึงน่ะ อิอิ”
“พี่ออ!” พรนภาเขินทำอะไรไม่ถูกที่โดนแซวแบบไม่ทันตั้งตัว เมธีจะส่งอะไรมาก็ไม่คิดสักหน่อย นี่วันทำงานนะ บางทีเธออาจไม่ได้อยู่คนเดียว ทว่าก็โกรธไม่ลง จะให้โกรธลงได้อย่างไรล่ะ ในเมื่อลึก ๆ ของก้นบึ้งหัวใจ เธอก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน พอนึกถึงเรื่องนี้ก็แอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ
“พี่ออ นภาทำผิดมากมั้ย” พรนภาเพียงถามไปอย่างนั้นเอง ความจริงเธอรู้ดีว่าทำแบบนี้มันผิดเต็มประตูเลยทีเดียว มองหน้าผู้จัดการ แววตาฉายความกังวลลึก ๆ แต่เธอก็ยังอยากทำ อยากทำแบบนี้ มันคือความสุข ความสุขที่เธอเองก็หาเหตุผลมาหักล้างให้มันดูดี ดูถูกต้องไม่ได้
“เฮ้อ เกิดชาติเดียวน้องนภา อะไรดีต่อใจก็ทำไปเถอะ” เธอทราบดีว่าอรวีก็ไม่รู้จะปลอบใจเธออย่างไรเช่นกัน เรื่องนี้ถามใคร ๆ ก็บอกว่าผิดและไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง “แค่หลบน้องโค๊กดี ๆ ก็แล้วกัน ฮา”
“พี่ออ ฮ่วย อย่าพูดถึงบุคคลอื่นสิ “
“แก ชั้นก็ยังกลัวมันยิงผิดคนอยู่นะแก ชั้นก็กลัวตายเป็นอยู่นะว่าไป” พี่อ่อทั้งพูดทั้งหัวร่อ ใช่ว่าจะเป็นคนดีอะไรมากมาย
“ไม่ตายหรอก หาว่าเจ้ากะดาย! เค้าไม่สนใจนภาหรอก นภาบอกไว้หลายวันแล้วว่าจะเลี้ยงคอม ถ้าวันไหนเข้าคอมอ่ะ กับพี่ออกับกิ๊กพี่ออ” เรื่องนี้พี่โค๊กทราบดี ทุก ๆ เดือนเธอจะต้องไปเลี้ยงฉลองคอมกับผู้จัดการ ไม่ว่าจะอยู่กับคนไหน ๆ ก็ตาม
เป็นอย่างนี้มานานแล้ว พี่โค๊กจึงไม่ได้ใส่ใจอะไร เธอจึงคิดว่าจะใช้เรื่องนี้บังหน้าในการเจอกับพี่เมธี แค่เดือนละครั้ง เดือนละครั้งถือว่ามากพอแล้วสำหรับความสุข สำหรับหัวใจของเธอที่ใครยากจะเข้าใจ
“แก ถ้าแฟนแกเค้าสงสัยขึ้นมาล่ะ ตกลงพี่ออแมร่งหญิงหรือชายวะไรงี้ ทำไงอ่ะ แกโกหกว่ากิ๊กพี่อ่ะ” อรวีเริ่มเป็นกังวลถึงเรื่องนี้ รสนิยมของเธอไม่ใช่ชายแท้ เกรงว่าพี่โค๊กจะสงสัยเอาได้ง่าย ๆ “ชั้นเป็นห่วงแกนะเนี่ย”
“ก็จะบอกว่า พี่ออเค้าได้หมดตัวเอง เอ็นก็ได้นิ้วก็ดี ฮา ก็จะบอกแบบนี้”
“ว๊ายชั้นกรี๊ดเลย! ฮา ไอ้นภา โอยน้องมันคงจะมองกู_ส่อนมากอ่ะ ฮา” อรวีแทบหัวเราะลั่นที่ทำงาน พูดถึงพี่โค๊กกลัวจะมองไปในทางไม่ดี“เออ ๆ เอาที่พวกคุณเธอสบายใจแล้วกัน เอาที่มืงกับคุณเมธีสบายใจแล้วกัน ฮา”
“น่า เดือนละครั้งเอง ว่าแต่พี่พลอยเหอะ เข้าใจใช่มั้ย” พรนภาทำสายตาออดอ้อน อ้อนวอนผู้จัดการสุดกำลัง “เดี๋ยวนภาคุยกับพี่เมธีก่อนยังไงเดี๋ยวบอกนา”
“อะเค!”
แล้วเธอก็หลบมุมกล้องนั่งแชทคุยกับพี่เมธี คืนนี้จะไปเจอกันที่ร้านเดิมจึงค่อนข้างคุยนานหน่อย เมธีก็เหมือนจะติดใจ ไม่อยากจบการสนทนา อยากคุยนาน ๆ ทั้งเธอด้วย
วันนี้พรนภายอมเมธีหนึ่งวัน งานก็เคลียร์เสร็จเรียบร้อยแล้ว เมธีเองเช่นกันคงจะว่างถึงได้คุยกับเธอได้นานสองนานขนาดนี้
“เจอกันนะคะพี่เมธี โต๊ะเดิมเด้อ ไปกับพี่ออเหมือนเดิม เคลียร์คิวดี ๆ ด้วย ไม่อยากปะทะกับใครนา ฮา”
“มองพี่ในแง่ร้ายอีกแล้ว ไม่มีครับ... โอเคเลิกงานเจอกันเด้อ”
คุยกันแค่นี้ก็ทำให้เธอยิ้มได้ตลอดทั้งวัน ไม่โทรคุยกัน ไม่จู้จี้จุกจิก ไม่เจ้ากี้เจ้าการ ไม่บังคับจิตใจ รู้และเข้าใจสถานะของซึ่งกันและกันดี รู้ว่าไฟมันร้อนเธอก็ยังอยากจะเล่นกับมัน แม้ว่าต้องแลกด้วยชีวิต
“พี่ออ พี่เมธีตกลง ร้านเดิมนะ โต๊ะเดิม”
“โอเค” อรวีปรายตามองเธอ อมยิ้มให้นิดหน่อย “ไอ้นภาแกนี่นะ วอนท์จริง ๆ เลย แล้วกูก็บ้าจี้ไปกับมืงด้วยนะ ฮา”
“ตายทั้งโต๊ะอ่ะพี่ ฮา นภาตายก่อน พี่เมธีตายเป็นคนที่สอง แล้วก็พี่ออคนสุดท้าย ข้อหาสมรู้ร่วมคิด ฮา”
“ไอ้นภา โอย กูหัว ตายก็ตายวะ ฮา แต่ก็หลอน ๆ อยู่นะ กลัวอยู่ อย่าว่าไม่กลัว วันดีคืนดีเค้าขับรถผ่านมาเจอทำไง”
“ก็ชู้พี่ออไง”
“เออ พี่ลืมว่ะ ชู้พี่ ๆ ฮา อี่พลอยมองบนกูอี้กคืนนี้ แต่ก็ม๊ายแคร์!”
“เดี๋ยวนภาโทรบอกพี่โค๊กก่อนนะ “ แล้วเธอก็แชทคุยกับแฟน พี่โค๊กก็ไม่ได้ว่าอะไรเหมือนเดิม เข้าทางเสียอีก ถามว่ากลับกี่โมงแค่นั้นเอง สบายใจเขาต่างหากล่ะ จะได้ไม่มีคนโทรตามให้รำคาญใจเช่นทุกวัน
คืนแห่งความสุขกลับมาอีกแล้ว แม้จะรู้ว่ามันผิดแค่ไหน เธอก็ยังร่ำร้องที่จะทำมัน แค่มาเจอกันเท่านั้นเอง เธอจะไม่มีวันทำอะไรมากไปกว่านี้แน่นอน เธอจะไม่มีวันทำให้พี่โค๊กหรือใครเดือดร้อนเพราะเธอ
พี่เมธีคือความสุขเล็ก ๆ ของเธอ พี่เมธีคือคนในฝันของเธอ พี่เมธีคือคนที่มาเติมเต็มในสิ่งที่พี่โค๊กลืมต่างหาก ไม่มีใครเป็นมือที่สามทั้งนั้น
โลกอีกใบ โลกที่มีแต่ความสุข โลกที่เธอโหยหาตามหามานาน เมื่อคราวถูกปล่อยทิ้งขว้าง พี่เมธีคือทุกอย่างของโลกใบนี้
ณ ร้านเบียร์วุ้น
เสียงเพลงบรรเลงเคล้าคลึงความรู้สึกของผู้มาใช้บริการร้านเบียร์วุ้นแห่งนี้ มีผู้คนหลายอาชีพที่เข้ามานั่งดื่มสังสรรค์กันหลังเลิกงาน เธอกับอรวีก็เป็นหนึ่งในนั้นคนจำนวนนั้น
เช่นเดิมเมื่อมาถึงก็เจอเมธีมานั่งจองโต๊ะก่อนแล้ว เป็นโต๊ะเดิม มุมเดิมที่พวกเธอเคยนั่ง พรนภามองเห็นเมธีตั้งแต่เดินเข้ามา อมยิ้มด้วยความเขินอายอยู่คนเดียว ทั้งเมธีก็ส่งยิ้มให้ด้วย ถึงจะคุยกันตอนเที่ยงทุกวันใช่ว่าจะเจอกันทุกวัน ความเขินอายจึงมีหลงเหลืออยู่บ้าง
“สวัสดีค่ะพี่เมธี” พวกเธอทั้งสองคนกล่าวทักทาย พร้อมทั้งเมธีลุกขึ้นยืนรับไหว้พวกเธอด้วย ก่อนที่จะพากันนั่งลง อรวีกับเธอนั่งโต๊ะฝั่งเดียวกัน ส่วนเมธีนั่งอีกฝั่งคนเดียว
เมธีเองก็เช่นกัน เอาแต่ยิ้มมองหน้าเธออยู่อย่างนั้น อันที่จริงพวกเธอมาเจอกัน ก็ไม่ได้คุยอะไรกันสักเท่าไหร่ ยกแก้วเบียร์ดื่มแล้วก็นั่งยิ้ม
“เข้าคอมแล้วดิ ถึงมาได้เนี่ย ใช่มั้ยน้องนภา” เมธีชวนคุยบ้าง เมื่อแอลกอฮอล์เริ่มทำงาน
“ใช่ค่ะ พี่เมธีว่างเหรอวันนี้” ถามคำถามเสร็จก็จิบเบียร์ปรายตามองคนตรงหน้า รอคำตอบ
“ใช่ค่ะ พี่ว่างทุกวันเลย”
“เมื่อวานมากับใครล่ะ ฮา นภาถามเฉย ๆ ไม่ซี ๆ “ ทว่าปากบอกไม่ซีเรียสแต่หัวใจเศร้าอย่างบอกไม่ถูก เธอจะไปห้ามเขาได้อย่างไรกัน ไม่ได้เป็นเจ้าของ ไม่ได้เป็นอะไรกันเลย เมธีจะคุยกับใคร จะคบกับใคร และจะเลิกกับเธอก็ได้ทั้งนั้น
“เมื่อวานไม่ได้มาค่ะ พี่ไม่ว่าง แล้วก็ถึงมาก็มาคนเดียวเด้อ เพราะน้องนภาไม่ว่างน้อ”
“จริงเหรอ” พรนภาอมยิ้มเขินและอายจะตายอยู่แล้ว
“ค่ะ”
“เอ่อ อืมม์ นภาตักกุ้งแช่นำปลาให้พี่หน่อย เฮ้อ รู้สึกเหมือนส่วนเกินแปลก ๆ ว่ะ ฮา” อรวีพูดลอย ๆ ยิ้มให้เธอกับเมธี แล้วใช้เธอตักกับแกล้มมาให้ แค่พูดไปอย่างนั้นเอง ไม่ได้จริงจังอะไร
ฝันหวาน (Sweet dream )7
.
ถ้าผัวไม่สนใจอย่าหยุดสวยนะเว้ย ถึงแม้ว่าความสวยจะหยุดผัวไม่ได้ แต่! ความสวยก็ทำให้หาผัวใหม่ได้! ว๊าว! ฮา
พรนภาเล่นติ๊กต็อกคนเดียวพูดคนเดียว เป็นแอพพลิเคชันที่กำลังฮิตกันในตอนนี้ จะทำอะไรก็ได้ในเวลานี้ เพราะได้เป้าได้ยอดทีมแล้วเรียบร้อย จะเล่นอะไรต่อหน้ากล้องซีซีทีวีก็ได้ เธอคิดเองเออเองทั้งนั้น ฮา
“พี่ออ นภาไปร้านสะดวกซื้อก่อนนะ “ เธอเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าเสื้อ เงยหน้าพูดกับผู้จัดการเมื่อนึกขึ้นได้ว่าลืมอะไรขึ้นมา “เอาอะไรอะเปล่า”
“ไม่อ่ะ แล้วไปซื้ออะไร” อรวีก็อีกคนที่กำลังง่วนอยู่กับการเล่นโทรศัพท์ คุยกับเพื่อนที่ไหนก็ไม่ทราบได้ เพื่อนเยอะเหลือเกินคนนี้
“กระดาษห่อของขวัญ”
“ถ้าแกบอกว่าจะห่อให้พี่เมธีกูจะกรี๊ดเดี๋ยวนี้เลยนะ ฮา” อรวีพูดติดตลก ชอบพูดแซวเธอเสมอ ๆ สำหรับเรื่องนี้ “อย่าบอกว่าที่ซื้อเรย์แบนตัวเมื่อกี้เนี่ยจะห่อของขวัญให้เค้า เพื่อนร่วมห้องใช้อะไรอ่ะ เพย์บอย450 ฮา กูหัว”
“โอย พี่ออ! ฮ่วย! ไม่ใช่! ไม่ใด้ซื้อให้ใครทั้งนั้นแหละ ของลูกค้านภา เค้าจะให้ห่อของขวัญให้ ฮ่วย! คิดอะไรก็ไม่รู้” พรนภาหัวเราะ นึกขำผู้จัดการของตน ระแวงเกินเหตุ เอะอะอะไรก็จะเป็นเมธีตลอดเลยช่วงนี้
“ของพี่สาวพี่โค๊ก ห่อของขวัญให้พี่ด้วยนะว่าสั้น จะคุ้มมั้ยหนิกู บริษัทก็ไม่มีงบห่อของขวัญให้ลูกค้าด้วยสิ ควักกระเป๋าตัวเอง” พรนภาบ่นให้กับเรื่องนี้ แต่ก็ไม่มีใครใช้ให้ทำ ก็พึ่งจะมีคนนี่แหละที่ใช้เธอ พรนภาก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร งานบริการก็แบบนี้ อีกอย่างลูกค้าก็ไม่ใช่ใครที่ไหน
“ แต่เค้าจ่ายนา นภาแค่จ่ายค่ากระดาษห่อของขวัญ หรือเปล่านะ! อย่าว่าต้องซื้อด้วย เออก็คงจะเป็นอย่างนั้น” พรนภาบ่นถึงลูกค้ากิตติมศักดิ์คนนี้ จะคิดค่าห่อก็รู้สึกเกรงใจพิลึก ทั้งคู่คุยกันไปหัวร่อกันไป ก็ไม่ได้เสียหายอะไร
“ให้แฟนเค้าเหรอ”
“ไม่ ให้พ่อพี่โค๊ก ใส่ธรรมดาไม่เป็นต้องเรย์แบนเท่านั้น แต่เค้าก็ใส่แต่เรย์แบนล่ว๊า นี่ไงก็เลยห่อให้ไม่คิดค่าห่อ ฮา วันเกิดเค้า ส่งนู่นนะ ส่งกาล่านู่น” พรนภาหมายถึงชื่อจังหวัดภูมิลำเนาของเธอ พูดศัพท์ส่วนตัวของเธอ ที่หมายถึงชื่อจังหวัดนั่นแหละ อรวีก็เข้าใจในทันที
“ฉลองคอมไหนวะเรา !” ผู้จัดการของเธอชวน ทุก ๆ เดือนถ้าได้ครบทุกเป้า ได้ครบทุกยอด ผู้จัดการของเธอจะพาไปเลี้ยงเสมอ โดยเป็นคนจ่ายเอง “ร้านเดิม! เบียร์วุ้น กูรู้ความในใจมืงไอ้นภา ฮา ไม่ต้องพูดพี่รู้ ได้หมดจัดไป หาวันมา จะชวนพี่เมธีมั้ย หรือเพื่อนร่วมห้องเคลียร์มา”
อรวีพูดแทนเธอคิดแทนเธอไปหมด ทว่าพูดด้วยความตลกขบขัน ไม่ได้ออกไปในทางต่อว่า พวกเธอเข้าใจกันเป็นอย่างดี
“พี่ออ เจ้าคิดว่าใครล่ะ ฮา” พรนภาอมยิ้มปรายตามองผู้จัดการสาวสวย หุ่นนางแบบหน้าตาจิ้มลิ้มตรงหน้า “ยังไม่เที่ยงเลย เดี๋ยวรอให้พี่เมธีทักมาก่อน จะถามว่าคืนนี้ว่างมั้ย ถ้าว่างก็ไปคืนนี้เลย ถ้าไม่ว่างจะไปวันไหนเดี๋ยวนภาบอกเด้อ”
“เรียกเค้าว่าไงนะ” อรวีทำหน้าตาทะเล้นถามเธอถึงบุคคลที่สาม
“พี่เมธีขา” พรนภาจีบปากจีบคอพูดเอียงอายขวยเขิน ตบมุกกันกับผู้จัดการ
“เรียกผัวว่าไงนะ”
“บักห่า ฮา” พวกเธอหัวเราะคุยกันอยู่สองคน ระหว่างทำงาน ตอนนี้เคลียร์ข้อมูลลูกค้าเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว ว่าง ๆ ก็นั่งเม้าส์กันไปเรื่อยเปลื่อย
กรี๊ด! “พี่เมธีทักมาแล้ว ตรงเวลาเป๊ะ” พรนภากรี๊ดกร๊าดดีใจมาก เป็นแบบนี้ทุก ๆ วัน ทั้งที่เมธีก็ทักมาทุกเที่ยงยกเว้นวันหยุด เมธีไม่เคยรู้เลยว่าเธอรอคอยเขาในทุก ๆ วันเสมอ
“ถาม ๆ ว่างเปล่า เร็ว ๆ “ อรวีลากเก้าอี้มานั่งใกล้ ๆ ผู้จัดการของเธอก็รู้จักเมธีดีพอ ๆ กับเธอนี่แหละ เคยเจอกันหลายครั้งแล้ว จึงไม่มีปัญหาในการไปนั่งดื่มเหล้าด้วยกันในคืนนี้ ถ้าหากเมธีว่างไปด้วย
“พี่เมธีคืนนี้ว่างมั้ยคะ ไม่ว่างไม่เป็นไรค่ะ ถามเฉย ๆ “ เธอพิมพ์ข้อความส่งไปถามเมธี หลังจากที่เมธีทักหาเธอประโยคแรก
“ว่างเสมอครับถ้าหนูต้องการ” กรี๊ด! พรนภากรี๊ดในใจด้วยความดีใจ เมธีว่างด้วย ให้มันได้แบบนี้สิพี่เมธีเธอถึงได้ปลื้มที่สุด “ก็ดีเหมือนกันครับ ไม่ได้เจอหน้าหลายวันแล้ว พี่คิดถึง” พรนภารีบเก็บมือถือเข้ากระเป๋าเสื้อตัวเองทันที ไม่รู้ว่าอรวีอ่านทันหรือเปล่า
“ฮา แน่! มีรีบเก็บมือถือด้วย เค้าบอกคิดถึงล่ะสิ” อรวีนั่งข้าง ๆ เธอแซวเข้าให้ บอสอมยิ้มไม่ไม่ตอบอะไร “ชั้นเห็นนะเมื่อกี้! พี่คิดถึงน่ะ อิอิ”
“พี่ออ!” พรนภาเขินทำอะไรไม่ถูกที่โดนแซวแบบไม่ทันตั้งตัว เมธีจะส่งอะไรมาก็ไม่คิดสักหน่อย นี่วันทำงานนะ บางทีเธออาจไม่ได้อยู่คนเดียว ทว่าก็โกรธไม่ลง จะให้โกรธลงได้อย่างไรล่ะ ในเมื่อลึก ๆ ของก้นบึ้งหัวใจ เธอก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน พอนึกถึงเรื่องนี้ก็แอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ
“พี่ออ นภาทำผิดมากมั้ย” พรนภาเพียงถามไปอย่างนั้นเอง ความจริงเธอรู้ดีว่าทำแบบนี้มันผิดเต็มประตูเลยทีเดียว มองหน้าผู้จัดการ แววตาฉายความกังวลลึก ๆ แต่เธอก็ยังอยากทำ อยากทำแบบนี้ มันคือความสุข ความสุขที่เธอเองก็หาเหตุผลมาหักล้างให้มันดูดี ดูถูกต้องไม่ได้
“เฮ้อ เกิดชาติเดียวน้องนภา อะไรดีต่อใจก็ทำไปเถอะ” เธอทราบดีว่าอรวีก็ไม่รู้จะปลอบใจเธออย่างไรเช่นกัน เรื่องนี้ถามใคร ๆ ก็บอกว่าผิดและไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง “แค่หลบน้องโค๊กดี ๆ ก็แล้วกัน ฮา”
“พี่ออ ฮ่วย อย่าพูดถึงบุคคลอื่นสิ “
“แก ชั้นก็ยังกลัวมันยิงผิดคนอยู่นะแก ชั้นก็กลัวตายเป็นอยู่นะว่าไป” พี่อ่อทั้งพูดทั้งหัวร่อ ใช่ว่าจะเป็นคนดีอะไรมากมาย
“ไม่ตายหรอก หาว่าเจ้ากะดาย! เค้าไม่สนใจนภาหรอก นภาบอกไว้หลายวันแล้วว่าจะเลี้ยงคอม ถ้าวันไหนเข้าคอมอ่ะ กับพี่ออกับกิ๊กพี่ออ” เรื่องนี้พี่โค๊กทราบดี ทุก ๆ เดือนเธอจะต้องไปเลี้ยงฉลองคอมกับผู้จัดการ ไม่ว่าจะอยู่กับคนไหน ๆ ก็ตาม
เป็นอย่างนี้มานานแล้ว พี่โค๊กจึงไม่ได้ใส่ใจอะไร เธอจึงคิดว่าจะใช้เรื่องนี้บังหน้าในการเจอกับพี่เมธี แค่เดือนละครั้ง เดือนละครั้งถือว่ามากพอแล้วสำหรับความสุข สำหรับหัวใจของเธอที่ใครยากจะเข้าใจ
“แก ถ้าแฟนแกเค้าสงสัยขึ้นมาล่ะ ตกลงพี่ออแมร่งหญิงหรือชายวะไรงี้ ทำไงอ่ะ แกโกหกว่ากิ๊กพี่อ่ะ” อรวีเริ่มเป็นกังวลถึงเรื่องนี้ รสนิยมของเธอไม่ใช่ชายแท้ เกรงว่าพี่โค๊กจะสงสัยเอาได้ง่าย ๆ “ชั้นเป็นห่วงแกนะเนี่ย”
“ก็จะบอกว่า พี่ออเค้าได้หมดตัวเอง เอ็นก็ได้นิ้วก็ดี ฮา ก็จะบอกแบบนี้”
“ว๊ายชั้นกรี๊ดเลย! ฮา ไอ้นภา โอยน้องมันคงจะมองกู_ส่อนมากอ่ะ ฮา” อรวีแทบหัวเราะลั่นที่ทำงาน พูดถึงพี่โค๊กกลัวจะมองไปในทางไม่ดี“เออ ๆ เอาที่พวกคุณเธอสบายใจแล้วกัน เอาที่มืงกับคุณเมธีสบายใจแล้วกัน ฮา”
“น่า เดือนละครั้งเอง ว่าแต่พี่พลอยเหอะ เข้าใจใช่มั้ย” พรนภาทำสายตาออดอ้อน อ้อนวอนผู้จัดการสุดกำลัง “เดี๋ยวนภาคุยกับพี่เมธีก่อนยังไงเดี๋ยวบอกนา”
“อะเค!”
แล้วเธอก็หลบมุมกล้องนั่งแชทคุยกับพี่เมธี คืนนี้จะไปเจอกันที่ร้านเดิมจึงค่อนข้างคุยนานหน่อย เมธีก็เหมือนจะติดใจ ไม่อยากจบการสนทนา อยากคุยนาน ๆ ทั้งเธอด้วย
วันนี้พรนภายอมเมธีหนึ่งวัน งานก็เคลียร์เสร็จเรียบร้อยแล้ว เมธีเองเช่นกันคงจะว่างถึงได้คุยกับเธอได้นานสองนานขนาดนี้
“เจอกันนะคะพี่เมธี โต๊ะเดิมเด้อ ไปกับพี่ออเหมือนเดิม เคลียร์คิวดี ๆ ด้วย ไม่อยากปะทะกับใครนา ฮา”
“มองพี่ในแง่ร้ายอีกแล้ว ไม่มีครับ... โอเคเลิกงานเจอกันเด้อ”
คุยกันแค่นี้ก็ทำให้เธอยิ้มได้ตลอดทั้งวัน ไม่โทรคุยกัน ไม่จู้จี้จุกจิก ไม่เจ้ากี้เจ้าการ ไม่บังคับจิตใจ รู้และเข้าใจสถานะของซึ่งกันและกันดี รู้ว่าไฟมันร้อนเธอก็ยังอยากจะเล่นกับมัน แม้ว่าต้องแลกด้วยชีวิต
“พี่ออ พี่เมธีตกลง ร้านเดิมนะ โต๊ะเดิม”
“โอเค” อรวีปรายตามองเธอ อมยิ้มให้นิดหน่อย “ไอ้นภาแกนี่นะ วอนท์จริง ๆ เลย แล้วกูก็บ้าจี้ไปกับมืงด้วยนะ ฮา”
“ตายทั้งโต๊ะอ่ะพี่ ฮา นภาตายก่อน พี่เมธีตายเป็นคนที่สอง แล้วก็พี่ออคนสุดท้าย ข้อหาสมรู้ร่วมคิด ฮา”
“ไอ้นภา โอย กูหัว ตายก็ตายวะ ฮา แต่ก็หลอน ๆ อยู่นะ กลัวอยู่ อย่าว่าไม่กลัว วันดีคืนดีเค้าขับรถผ่านมาเจอทำไง”
“ก็ชู้พี่ออไง”
“เออ พี่ลืมว่ะ ชู้พี่ ๆ ฮา อี่พลอยมองบนกูอี้กคืนนี้ แต่ก็ม๊ายแคร์!”
“เดี๋ยวนภาโทรบอกพี่โค๊กก่อนนะ “ แล้วเธอก็แชทคุยกับแฟน พี่โค๊กก็ไม่ได้ว่าอะไรเหมือนเดิม เข้าทางเสียอีก ถามว่ากลับกี่โมงแค่นั้นเอง สบายใจเขาต่างหากล่ะ จะได้ไม่มีคนโทรตามให้รำคาญใจเช่นทุกวัน
คืนแห่งความสุขกลับมาอีกแล้ว แม้จะรู้ว่ามันผิดแค่ไหน เธอก็ยังร่ำร้องที่จะทำมัน แค่มาเจอกันเท่านั้นเอง เธอจะไม่มีวันทำอะไรมากไปกว่านี้แน่นอน เธอจะไม่มีวันทำให้พี่โค๊กหรือใครเดือดร้อนเพราะเธอ
พี่เมธีคือความสุขเล็ก ๆ ของเธอ พี่เมธีคือคนในฝันของเธอ พี่เมธีคือคนที่มาเติมเต็มในสิ่งที่พี่โค๊กลืมต่างหาก ไม่มีใครเป็นมือที่สามทั้งนั้น
โลกอีกใบ โลกที่มีแต่ความสุข โลกที่เธอโหยหาตามหามานาน เมื่อคราวถูกปล่อยทิ้งขว้าง พี่เมธีคือทุกอย่างของโลกใบนี้
ณ ร้านเบียร์วุ้น
เสียงเพลงบรรเลงเคล้าคลึงความรู้สึกของผู้มาใช้บริการร้านเบียร์วุ้นแห่งนี้ มีผู้คนหลายอาชีพที่เข้ามานั่งดื่มสังสรรค์กันหลังเลิกงาน เธอกับอรวีก็เป็นหนึ่งในนั้นคนจำนวนนั้น
เช่นเดิมเมื่อมาถึงก็เจอเมธีมานั่งจองโต๊ะก่อนแล้ว เป็นโต๊ะเดิม มุมเดิมที่พวกเธอเคยนั่ง พรนภามองเห็นเมธีตั้งแต่เดินเข้ามา อมยิ้มด้วยความเขินอายอยู่คนเดียว ทั้งเมธีก็ส่งยิ้มให้ด้วย ถึงจะคุยกันตอนเที่ยงทุกวันใช่ว่าจะเจอกันทุกวัน ความเขินอายจึงมีหลงเหลืออยู่บ้าง
“สวัสดีค่ะพี่เมธี” พวกเธอทั้งสองคนกล่าวทักทาย พร้อมทั้งเมธีลุกขึ้นยืนรับไหว้พวกเธอด้วย ก่อนที่จะพากันนั่งลง อรวีกับเธอนั่งโต๊ะฝั่งเดียวกัน ส่วนเมธีนั่งอีกฝั่งคนเดียว
เมธีเองก็เช่นกัน เอาแต่ยิ้มมองหน้าเธออยู่อย่างนั้น อันที่จริงพวกเธอมาเจอกัน ก็ไม่ได้คุยอะไรกันสักเท่าไหร่ ยกแก้วเบียร์ดื่มแล้วก็นั่งยิ้ม
“เข้าคอมแล้วดิ ถึงมาได้เนี่ย ใช่มั้ยน้องนภา” เมธีชวนคุยบ้าง เมื่อแอลกอฮอล์เริ่มทำงาน
“ใช่ค่ะ พี่เมธีว่างเหรอวันนี้” ถามคำถามเสร็จก็จิบเบียร์ปรายตามองคนตรงหน้า รอคำตอบ
“ใช่ค่ะ พี่ว่างทุกวันเลย”
“เมื่อวานมากับใครล่ะ ฮา นภาถามเฉย ๆ ไม่ซี ๆ “ ทว่าปากบอกไม่ซีเรียสแต่หัวใจเศร้าอย่างบอกไม่ถูก เธอจะไปห้ามเขาได้อย่างไรกัน ไม่ได้เป็นเจ้าของ ไม่ได้เป็นอะไรกันเลย เมธีจะคุยกับใคร จะคบกับใคร และจะเลิกกับเธอก็ได้ทั้งนั้น
“เมื่อวานไม่ได้มาค่ะ พี่ไม่ว่าง แล้วก็ถึงมาก็มาคนเดียวเด้อ เพราะน้องนภาไม่ว่างน้อ”
“จริงเหรอ” พรนภาอมยิ้มเขินและอายจะตายอยู่แล้ว
“ค่ะ”
“เอ่อ อืมม์ นภาตักกุ้งแช่นำปลาให้พี่หน่อย เฮ้อ รู้สึกเหมือนส่วนเกินแปลก ๆ ว่ะ ฮา” อรวีพูดลอย ๆ ยิ้มให้เธอกับเมธี แล้วใช้เธอตักกับแกล้มมาให้ แค่พูดไปอย่างนั้นเอง ไม่ได้จริงจังอะไร