ฝันหวาน (Sweet Dream) 38

กระทู้สนทนา

.

               บนถนนที่ทอดยาวไกลสุดลูกหูลูกตาในเวลากลางคืนแบบนี้ก็น่ามองเหมือนกันนะ แสงไฟส่องทางที่ตั้งเรียงรายไปตามถนนมองแล้วมันแลดูสวยดี พรนภานึกอะไรเพลิน ๆ สายตามองทอดไปข้างหน้าไกล ๆ ภายในรถคันหรูของเธอกับเมธี ระหว่างนั่งรถกลับคอนโด

                วันนี้เมธีอาสามาส่งทำงาน ขากลับจึงต้องมารับ ขณะนี้หนึ่งทุ่มกว่า ๆ รถก็ยังติดคับคั่งถนนเหมือนเดิม พวกเธอชินกันแล้วกับภาพและบรรยากาศแบบนี้ ทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถมอเตอร์ไซค์ และรถรับส่งพนักงานค่อย ๆ วิ่งต่อท้ายกันไป อีกฝั่งถนนก็ไม่ต่างกันมากนัก

                “รถติดจัง” เสียงบ่นเบา ๆ แต่ไม่ได้สื่อความหมายว่าหงุดหงิด เจ้าของเสียงนั้นคือเมธีเอง เมธีบ่นอุบอิบปรายตาหันมามองเธอแวบหนึ่งก่อนจะหันกลับไปมองถนนตามเดิม นิ้วที่จับพวงมาลัยเคาะไปตามจังหวะเพลงที่กำลังเปิดฟังอย่างสบายใจ “เหนื่อยมั้ยคะ” ถามเธอพร้อมเอื้อมมือมาวางบนศีรษะของเธอเหมือนที่เคยทำ และเธอก็ชอบมาก ชอบให้เขาทำแบบนี้

                “วันนี้ไม่เท่าไหร่ค่ะ กินหมูทะมั้ยเค้าอยากกินอ่ะ” พรนภาชวน เธอตัดคำว่ากะออกให้กระชับและได้ใจความตามแบบฉบับของเธอ ลุ้นว่าสามีจะตอบตกลงเอาด้วยหรือไม่ “นภาอยากกิน ซื้อเป็นชุดมาย่างกินที่ห้อง”

                “น้องจะกินกี่ชิ้น !” เขาหันมายิ้มกลั้วหัวเราะให้ภรรยาระหว่างขับรถ เพียงถามเพื่อความสนุกเท่านั้นเอง เพราะอย่างไรเสียสุดท้ายก็ต้องเป็นตนเองที่คอยกินให้หมดอยู่ดีไม่ว่าจะน้อยหรือมาก

                พรนภาหันควับมาจ้องหน้าสามี และก็หัวเราะเช่นกันด้วยนึกขันกับคำถามที่เขาถาม “พี่เมธี ฮ่วย !” เม้มปากยิ้มแบบเขินเพราะสิ่งที่เขาพูดก็มีส่วนจริง “นภาก็กินหลาย ๆ ชิ้นแหละ กินให้หมดเลยให้เกลี้ยงเลย กินไม่เหลือหรอเลย หึหึ”

                “เหรอ... กินก็กินค่ะ พี่ก็แค่ถามเฉย ๆ พี่ยังไม่ทันได้ปฏิเสธเลย นภาจะมองค้อนพี่ทำไมเนี่ย ร้านไหนเอ่ย “

                “ร้านเดิมข้างคอนโดเรา”

                “เคค่า” เขาตอบแบบเอาใจเธอมากที่สุด ไม่เคยสักครั้งที่จะขัดใจถ้าไม่เหลือบากกว่าแรงจริง ๆ

                สองคนพูดคุยกันไปเรื่อยระหว่างทางกลับบ้าน อีกไม่ไกลก็จะถึงที่ ๆ พวกเธอพักอาศัยกันแล้ว พรนภาปรับเบาะเอนลงนิดหน่อย พลิกตัวนอนหันหน้ามามองเขาขับรถ มองใบหน้าเรียวเข้มที่เต็มไปด้วยไรหนวดก็มีความสุขดีเหมือนกัน ตอนสมัยหนุ่ม ๆ ตอนยี่สิบสามสิบพี่เมธีจะหล่อขนาดไหนนะ ถึงตอนนี้กาลเวลาก็ไม่ได้พรากความหล่อไปจากเขาเลย

                “มองพี่ทำไมคะ พี่หล่อใช่มั้ย อิอิ”

                “ฮื้ย ! หน่ายคนเด้วะ ฮา”

                บรื๊น ๆ ! เสียงรถกระบะแต่งวิ่งแซงซ้ายพวกเธอไปด้วยความเร็วระดับหนึ่ง เพราะไหล่ทางไม่มีสิ่งกีดขวาง มันจึงพอที่จะให้รถเบียดซ้ายวิ่งไปได้ รถส่วนใหญ่ไม่มีใครทำยกเว้นมอเตอร์ไซค์เท่านั้น รถคันอื่นก็วิ่งตามกันไปอย่างมีระเบียบ ทว่าคนคันนี้เกือบเฉี่ยวรถของพวกเธอเข้าให้

               เมธีและเธอได้แต่มองแบบปลง โดยเฉพาะเธอที่มองแบบหยามเหยียดนิดหน่อย คิดว่าเท่หรืออย่างไร รถก็ใช่ว่าจะแต่งสวยหรอกนะ ดีที่ไม่เฉี่ยวรถของเธอไม่อย่างนั้นไม่จบง่าย ๆ แน่ ถนนมีให้วิ่งดี ๆ ไม่วิ่งจะรีบไปไหนนักหนา ทุกคนก็ล้วนแต่รีบกันหมดนั่นแหละ
               
               “จะรีบไปไหนนักหนาค๊าบ” เมธีพูดออกมาแบบติดตลก คงไม่ได้นึกโกรธเหมือนอย่างเธอ

                “รีบไปสร้างตัวไงพี่เมธีไม่รู้เหรอ วัยรุ่นสร้างตัวนะนั่น ฮา” พูดแซวรถกระบะแต่งคันนั้น ทั้งสองคนหัวเราะให้กันและกัน “ นั่นไง ! แซงซ้ายไปสุดท้ายก็เปิดไฟขอเข้าถนนอยู่ดี พี่เมธีอย่ามีน้ำใจให้มันนะ หมั่นไส้นัก” ขับมาไม่ทันเท่าไหร่พวกเธอก็เห็นรถกระบะคันนั้นเปิดไฟเลี้ยวขวาขอเข้าเลนถนน และเธอก็ไม่ยอมให้สามีมีน้ำใจกับคนแบบนี้ด้วย เมธีก็ไม่ได้ชะลอรถให้ รอรถคันหลังชะลอให้ก็แล้วกัน

                พอขับเลยมาแล้วพรนภายังหันหลังกลับไปมอง สมน้ำหน้าทุกคนอยากรีบกลับไปพักผ่อนกันทั้งนั้นแหละ เห็นแก่ตัว ! คนพวกนี้ ก่อนจะหันหน้าบูด ๆ กับมาเหมือนเดิม

                “ช่างเค้าเถอะค่ะ จะถึงร้านหมูกระทะแล้ว ตกลงกินแน่นะหมูกระทะน่ะ” เขาถามย้ำ

               “กินค่า ! จอดเลยเค้าลงไปซื้อเอง “

               “ตับไม่ต้องเอามาเยอะนะคะ ตับส่วนตัวพี่มีให้กินอยู่แล้ว”

               “พี่เมธี ! ฮ่วย ! “ พรนภาเขินพูดอะไรไม่ออก ได้แต่อมยิ้ม “ลงมาซื้อด้วยกันเลยนะ โทษฐานที่พูดอะไรก็ไม่รู้”

                เขายิ้มปรายตามองพรนภาอย่างกับจะกลืนกิน มองทีไรเธอก็สวยเหมือนนางฟ้าในใจของเขาเสมอ “เอ้า ! ลงก็ลงค่ะ” เมธีจอดรถขอบ ๆ ถนนชิดหน้าร้านหมูกระทะ ทั้งสองคนลงมาเลือกสรรวัตถุดิบอย่างคุ้นเคยเพราะซื้อที่นี่บ่อย เนื่องจากร้านมันอยู่ไม่ไกลจากที่พักของพวกเธอนัก ร้านนี้จึงถูกเลือกเสมอ ๆ ทุกคราวที่อยากกิน

                เมธีเป็นคนตักวัตถุดิบที่จะกิน ส่วนพรนภาก็แค่ชี้นิ้วสั่งว่าจะกินอะไรบ้าง เมธีเป็นคนตักใส่ถุง พรนภาชอบอยู่ไม่กี่อย่าง นอกนั้นเป็นเมธีที่คัดสรรเอาเฉพาะส่วนที่ตัวเองชอบมา เมื่อพอแล้วก็จ่ายตังค์กลับคอนโด ถึงสักทีวันนี้ไม่ใช่วันสุดสัปดาห์สักหน่อย รถเยอะชะมัด รู้สึกว่าจะใช้เวลานานกว่าทุกครั้งที่ไปรับพรนภา

                เมื่อมาถึงห้องพักพรนภารู้หน้าที่ตนเองเป็นอย่างดี จัดเตรียมอุปกรณ์เตาย่างไฟฟ้า จาน ช้อน และหั่นผักเตรียมพร้อมให้เมธีรอรับประทานอย่างเดียวก็พอ เมธีเองเมื่อมาถึงก็จัดการเปลี่ยนชุดลำลอง เป็นกางเกงฟุตบอลเสื้อฟุตบอลทีมรักของตน เป็นชุดที่เขาชอบใส่เวลาอยู่ที่ห้อง พรนภาก็ไม่ขัดเมธีในชุดนักฟุตบอลก็หล่อไปอีก

                เขาสัมผัสได้ถึงการแอบมองของเธอ “มองทำไมครับ ไม่เคยเห็นโมฮาเมดซาร่าเหรอ ฮา”

                พรนภาหัวเราะเรื่อ “บู้ย ! ซาร่าพะนะ”

                “เค้าออกจะหล่อ พี่หล่อหรือไม่หล่อ” แกล้งซะเลย แกล้งถามไปอย่างนั้นเอง ชอบท่าทางของเธอที่เลิกลักก่อนตอบ

                “หล่อ !” เธอเน้นเสียง “หล่อก็ได้พอใจยัง มานั่งได้แล้วค่ะ นภาย่างรอจนจะไหม้หมดแล้วเนี่ย ฮ่วย ! คนหยังย้องตะกะของ ฮา” เมธีเองก็ขำกับคำพูดของเธอ ทุกนาทีที่อยู่ด้วยกันให้มันมีแต่ความสุขและเสียงหัวเราะก็พอ

                ปาร์ตี้หมูกระทะเริ่มขึ้น พรนภาไม่ออกกำลังกาย ขอจัดเต็มที่แล้วกันสำหรับวันนี้ ไม่ว่าจะกินที่ร้านหรือย่างเองที่ห้อง ความอร่อยไม่เคยเปลี่ยน ยกเว้นแต่บรรยากาศมันไม่เหมือนกันก็เท่านั้น

                ต่างคนต่างเพลินไปกับเนื้อย่างบนเตา หมูสามชั้นของโปรดของเธอถูกยกนำมาย่างอยู่บ่อย ๆ โดยเมธีเป็นคนจัดการให้ เธอมีหน้าที่เพียงหยิบมาจิ้มน้ำจิ้มแล้วก็เอาเข้าปากไป เป็นมื้อเย็นที่อร่อยที่สุด ย่างไปด้วย พูดคุยกันไปเรื่อยตามประสาสามีภรรยา พูดถึงอนาคตที่จะทำร่วมกัน คุยเพลินจนลืมว่าตัวเองกินไปเยอะเหมือนกัน

                “พี่เมธี เค้าอยากสวยเหมือนพี่แหวน” เมื่อเริ่มรู้สึกอิ่มจึงหยุดพักก่อน นั่งเขี่ยโทรศัพท์ดูรูปคนนู้นคนนี้ไปเรื่อยในเฟซบุ๊ก เจอรูปภรรยาของเพื่อนสามีเช็คอินที่คลินิกเสริมความงาม ไม่ทราบว่าไปทำอะไรแต่คงหนีไม่พ้นไปทำสวยนั่นแหละ

                “ไปทำอะไรอีกล่ะ” เมธีตอบแบบท่าทางเฉยเมย ไม่ตื่นเต้นอะไรด้วย ไม่ใช่เพราะเป็นผู้ชายจึงไม่ตื่นเต้นกับเรื่องแบบนี้ แต่เพราะทราบมาก่อนแล้วจากคำบ่นของเพื่อนสนิท ซึ่งคือสามีของแหวนเอง

               “ทำไรอีกล่ะพะนะ พูดเหมือนพี่เค้าทำบ่อย” มองคนตรงหน้าด้วยแววตาสงสัย กับคำพูดเมื่อสักครู่

                “โถ่ พี่หนุ่มบ่นให้พี่ฟังทุกวันค่ะ ขี้เกียจจะไปนั่งรอ ครั้งนึงก็ไปทำที่พัทยา แต่รอบนี้คลินิกตรงนั้นใช่มั้ย”

                “ช่าย เห็นมั้ยพี่หนุ่มน่ารักจะตายพาแฟนไปทำสวยด้วย นั่งรอด้วย ชิ ไม่เหมือนบางคนแถวนี้ ”

                “เอ้า ! “

                “พี่เมธีนภาอยากทำจมูกเหมือนพี่ออร์ดี้ ไม่แพงสามหมื่นเอง” พูดแล้วก็ฉีกยิ้มให้คนตรงหน้า จ้องมองด้วยตาเป็นประกาย พวกเธอเริ่มอิ่มกันแล้ว ต่างคนต่างเมินเนื้อย่างบนเตา ปล่อยให้มันวางอยู่อย่างนั้น
                เมธีหัวเราะก่อนจะตอบ “ไม่เป็นไรค่ะ ไม่มีดั้งพี่ก็ชอบ พี่ชอบแบบนี้ แบบนี้สวยสำหรับพี่แล้ว” ส่งยิ้มให้เธอคืน

                พรนภามองค้อนให้ทันที ทำฟึดฟัดใส่ ทว่าไม่ได้จริงจัง อยากทำแต่ไม่ถึงกับอยากมากขนาดนั้น ขอ ๆ ไปอย่างนั้นเอง “สวยแล้วพะนะ อือ... พี่เมธี !”

                “คะ ว่า” เขาตอบ เล่นไปกับเธอด้วย เวลานี้พรนภาก็เหมือนเด็กคนหนึ่งในสายตาของเขา คอยฟังว่าเธอจะพูดอะไรอย่างนึกขัน อยู่กับเธอคนนี้ชีวิตมีแต่เสียงหัวเราะและรอยยิ้มในทุก ๆ วัน เปิดโลกทัศน์บางอย่างให้กับเขา อาจจะเป็นด้วยวัยของเธอและเขาที่ต่างกัน การกระทำหลายอย่างที่ต่างวัยกันมันจึงเป็นสิ่งที่ตื่นเต้นเสมอ ๆ

                “นภาอยากสักคิ้วเหมือนพี่แป้ง หมื่นเดียวเอง สักคิ้วถาวรหกมิติ ไม่ต้องเขียนเลย สวย !” เธอพูดเองก็หัวเราะตัวเองไปด้วย เพียงพูดหยอกล้อไม่ได้หวังผล หลังเลิกงานเป็นช่วงเวลาของเขาและเธอ อยากทำทุก ๆ วินาทีให้เกิดแต่ความสุขที่สุด

                “ไม่เป็นไรค่ะ น้องนภาเขียนเองก็สวยแล้ว สวยจริง ไม่ต้องไปสักให้เจ็บ เดี๋ยวพี่ซื้อที่เขียนคิ้ว ดินสอใช่มั้ย ซื้อให้เยอะ ๆ เลย แต่ว่าคิ้วสดไม่ต้องสักไม่ต้องเขียนพี่ก็รัก ” ทั้งคู่หัวเราะให้ซึ่งกันและกัน พรนภาถอนหายใจเฮือกใหญ่ อันนี้ก็ไม่ได้ ไม่ได้อีกแล้ว ขอทำอะไรได้บ้างเนี่ย ปรายตามองสามีพร้อมนึกในใจ

                “โถ่ พี่เมธีอ่ะ ทำไรได้มั่งเนี่ย ฮ่วย “ แกล้งพูดงอนตุ๊บป่องเข้าให้ “พี่เมธี “ พูดไปพร้อมยิ้มกลั้วหัวเราะอีก เหมือนกำลังเล่นตลกกันอยู่ ชอบที่เวลาทำตัวไร้สาระเมธีก็ไม่เคยเบื่อหน่ายหรือบ่นเลยสักคำ แถมยังเล่นและทำตัวไร้สาระไปกับเธออีกด้วย

                “ค่ะ “ ตอบไปพร้อมเสียงหัวเราะของเขาและเธอ “ว่า” แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ว่าภรรยาคราวลูกคนนี้จะพูดอะไรต่อ ต้องลดอายุลงมาให้เท่ากันกับเธอ ให้ไปกับเธอได้เสมอ ๆ

                “นภาอยากจัดฟัน” พอพูดถึงสิ่งนี้แววตาก็เปลี่ยนเป็นเศร้าลงทันที จนเขาสัมผัสได้

                “มันจัดไม่ได้หนิ เคยไปถามแล้วไม่ใช่เหรอ ตั้งสามคลินิค” คราวนี้ไม่ได้ปฏิเสธ กลับเป็นความรู้สึกเห็นใจเธอด้วยซ้ำ “ไม่เป็นไรไม่จัดฟันพี่ก็รักค่ะ ฮา” เมื่อบรรยากาศกำลังจะอึมครึมไปด้วยความเสียใจของพรนภา เพราะสาเหตุบางประการที่ทำไม่ได้

                “อือ ช่างเหอะ” รู้สึกเสียใจแต่ไม่เสียดาย

                “ก็ใครใช้ให้น้องไปถอนฟันก่อนล่ะ” พอเขาพูดประโยคนี้ พรนภาคนเดิมก็กลับมาอีกครั้ง สีหน้าและแววตาตื่นเต้นเหมือนก่อนหน้านี้กลับมาอีกครั้ง พรนภาคนที่เป็นเด็กตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลากลับมาแล้ว เขาชอบแบบนี้ นี่แหละพรนภาของเขา

                “เอ้า ! ก็ตอนนั้นมันปวดนั่นเด่ ใครจะไปรู้ว่าโตขึ้นจะอยากจัดฟัน เป็นพี่ ๆ ก็ต้องถอนเชื่อนภาเหอะ“ พูดแล้วก็หัวเราะอีกตามเคย นึกโมโหตัวเองตอนวัยรุ่นอยู่เหมือนกัน ทำไมถึงต้องไปถอนฟันก็ไม่รู้ “พี่เมธี !”

                “ฮะ ว่า ! “ เบิกตากว้างอย่างคนตกใจ อยากแกล้งเท่านั้น “ยังมีอีกเหรอคะ ฮา “ ตั้งใจฟังสิ่งที่พรนภาจะขอ จะขออะไรอีกนะ รอฟังอย่างนึกเอ็นดู ถ้าเธอจะทำจริง ๆ ทำไมเขาจะให้ไม่ได้ ที่ผ่านมาเห็นพูดแบบนี้ประจำ ไม่เห็นจะไปทำสักที

                “เอ้าพี่เมธี ฮ่วย ! ยังไม่หมด นภามีสิ่งอยากทำอีกเพียบ เอาให้สวยไปเลย” จ้องมองหน้าสามีด้วยรอยยิ้ม ในห้องพักเล็ก ๆ แต่อบอวนไปด้วยความสุข ความรัก ความเข้าใจ และความเอาใจใส่ซึ่งกันและกันของพวกเธอ

                เมื่อเริ่มรู้สึกว่าหมูกระทะย่อยแล้วก็ลงมือทานใหม่ เวลาแห่งความสุขมันช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน สามทุ่มเข้าให้แล้ว พรุ่งนี้ยังต้องทำงานกันทั้งสองคน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่