ทำไม tual อ่านว่า ชวล ?

เราสงสัยมาจากคำว่าจิตวิญญาณหรือ spiritual อะค่ะ 
เราเห็นคำอ่านมันอ่านว่า ซพี-รีชวล ฟังเสียงจากแอพ google translate ก็ออกเสียง ชวล
แลัวก็มีคำว่า vision ที่อ่านว่า วิชั่น ทั้งที่เป็นตัว s
บางทีตัว b ก็ออกเสียง พ
บางทีตัว t ก็ไม่ได้ออกเสียง ท หรือ ต
วอนผู้รู้บอกเราหน่อยนะคะไม่ทราบจริงๆ🙏🏻
ผิดพลาดตรงไหนบอกด้วยนะคะ ตอบด้วยคำสุภาพและดีๆหน่อยนะคะเราไปดูบางกระทู้ตอบไม่ค่อยดีเลย
บางทีก็เหมือนแอบด่าว่าทำไมไม่รู้ ไม่รู้จริงหรอ เราแค่ไม่ทราบเพราะไม่เคยเรียนหรือเห็นมาจากไหน
อยากได้คำอธิบายจริงๆค่ะ ขอบคุณล่วงหน้านะคะ❤️
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
อันนี้ไม่ใช่เกิดจากความเพี้ยนใด ๆ นะครับ
มีระบบชัดเจน และไม่ใช่ข้อยกเว้นพิเศษ
ไม่ใช่แค่ในคำอีกด้วยนะครับ มีในการพูดในประโยคทั้งหลายด้วย
แต่อันนี้ เป็นสิ่งที่ยากไปอีกขั้น ของคนที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา

ความต่างไปนั้น เกิดจากการต่อพยางค์ เปลี่ยนผ่านจากการเชื่อมสระต่อไปหาพยัญชนะ สระไปสระ หรือพยัญชนะไปหาสระครับ  ในปาก เวลาออกเสียงพยัญชนะข้างท้าย ไปต่ออีกพยางค์ หรืออีกคำ รวมกัน ผวมใหม่ ทำให้เสียงเปลี่ยนเป็นอีกเสียง
ไม่ได้มองว่าแยกเป็นเอกเทศจริง เป็นพยางค์ ๆ ๆ แยกกัน อย่างเราคิดเราใช้
ที่เป็นการเชื่อมคำไปคำในประโยค ยิ่งถ้าสำเนียงแบบเกาะอังกฤษหลายแห่ง หรือในภาษาพวกผู้ดี พวกนักวิชาการ นักการเมืองในสภา สะกดออกเยอะ ๆ ทุกถ้อยคำ (เรียกว่า enunciate) จะยิ่งชัดกว่าคนตามตลาด

เวลาเชื่อมต่อกัน เลยทำให้เสียงมัน "เชื่อม" เป็นเนื้อเดียวกัน เสียงต่างไป... นี่แหละ เป็นหนึ่ง ที่ทำให้ "สำเนียง" ต่างไปด้วย ภาษาอังกฤษของทางยุโรป กับภาษาอังกฤษแบบอินเดีย จีน ไทย ฯลฯ
แล้วที่คนไทยร้อยละ 99 ไม่รู้
go จริง ๆ ในความรู้สึกของเจ้าของภาษา ไม่ใช่ โก แต่เป็น "โกว"
(ไปฟังสำเนียง Queen ตามคลิป หรือดูหนัง ดูซีรี่ย์ สังเกตเงี่ยหูฟังดูจะได้ยินออกชัดกว่าเสียงอื่น หรือเสียงคนอเมริกัน)
be เสียงจริงคือ "บีย"


อย่างเช่น
going ไม่ได้อ่าน โก-อิ้ง แต่ go-wing
be a sport คนอังกฤษก็จะคิดในใจ แล้วพูด "be ya sport"
being คนอังกฤษไม่ได้พูด ไม่ได้อ่าน บี-อิ้ง แบบเรา แต่บี-ยิ่ง be-ying
reaction พูดว่า re-yaction รีแยคชั่น
volume ไม่ใช่อ่านว่า วอลลุ่ม แต่เป็น วอลยุ่ม
schedule อังกฤษ พูด-อ่าน เชด-ยู่ล/เชด-จู้ล  อเมริกันอ่าน สเก-จู้ล





ไม่ใช่แค่นี้ มีอีกมากมาย
สนใจ ผมหาเอาที่สรุปเป็นสไลด์มาให้ (ที่เอามาข้างบน ก็เป็นหนึ่งในนั้น ตรงตัวอย่างกับที่จขกท. ถาม คือเสียงกลายเป็น ช ) ลองมองผ่าน ๆ พอเข้าใจกว้าง ๆ คร่าว ๆ ก่อนจะไปทบทวนที่อธิบายละเอียดกว่านี้ ค่อยไปว่ากัน
ลองคลิกไปอ่าน แล้วลองอ่านประโยคตัวอย่างตาม

https://slideplayer.com/slide/8286737/
https://www.slideshare.net/JacquelineTrademan/connected-speech-80180238

แต่ต้องอาศัยความจำไปก่อน สำหรับคนยังไม่คุ้น
อธิบายลึกกว่า จะต้องศึกษา ความต่างระหว่างเสียง ที่สายเสียงสั่นในลำคอกับไม่สั่นไปอีกด้วย ภาษาไทยเขียนแทนไม่ได้จริง

ซึ่งเรื่องเดียวกับการใส่คำ ed ข้างท้าย ว่าทำไมออกเสียงไปต่างกัน
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ



t กับ d ในภาษา คือตัวเดียวกัน
แต่ d สายเสียงสั่นเสียงก้อง เอามือจับคอ จะรู้สึกแยกความต่าง ว่า t เสียงอยู่แค่ลิ้นกับปาก คอไม่ขยับ
เช่นเดียวกับ คู่ของ
f กับ v,
s กับ z,
b กับ p,
TH ใน think, therory กับ TH ใน this, those, that




ถ้าอักษรยึกยือ ยากไป หรือข้างบนเขียนเป็นตัวธรรมดายังงง เพราะพื้นฐานแต่ละคนเรียนมาไม่เหมือนกัน
ลองดูคลิป ที่ถึงจะยังเข้าใจไม่หมด แต่ผมแน่ใจว่าพอตอบข้อข้องใจของประเด็นในกระทู้ได้... มีเสียงให้ฟังจริง
(ผมหาให้ไม่ได้ครบเนื้อหาในไสลด์ แต่ฟังแล้วจะเริ่มตอบคำถามได้เยอะพอควร ว่ามีที่มา )

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่