หน้าแรก
คอมมูนิตี้
แท็ก
คลับ
เลือกห้อง
ดูเพิ่มเติม
รวมมิตร
บลูแพลนเน็ต
ชายคา
สีลม
ซิลิคอนวัลเลย์
ห้องสมุด
โต๊ะเครื่องแป้ง
สยามสแควร์
ดิโอลด์สยาม
เฉลิมกรุง
จตุจักร
พันทิป
ไร้สังกัด
กรีนโซน
หอศิลป์
บางขุนพรหม
ศุภชลาศัย
ก้นครัว
กล้อง
แกลเลอรี่
ไกลบ้าน
เฉลิมไทย
ชานเรือน
ถนนนักเขียน
ภูมิภาค
มาบุญครอง
รัชดา
ราชดำเนิน
ศาลาประชาคม
ศาสนา
สวนลุมพินี
สินธร
หว้ากอ
การ์ตูน
บางรัก
พรหมชาติ
กรุงโซล
แก็ดเจ็ต
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[SR] รีวิว BlueSpice & Herbs โรงแรม Grande Centre Point Terminal 21 บุฟเฟ่ต์มื้อเที่ยงนานาชาติแค่ 490 บาท
กระทู้รีวิว
บุฟเฟ่ต์โรงแรม
อาหารซีฟู้ด
อาหารบุฟเฟ่ต์
อาหารนานาชาติ
อาหารคาว
วันนี้ผมได้รับการรับเชิญจาก PR ของห้องอาหาร BlueSpice & Herbs ที่ตั้งอยู่บริเวณชั้น 5 ห้าง Terminal 21 วิธีการเดินทางมาก็ที่นี่ง่ายๆเพียงลงสถานี BTS อโศกหรือ MRT สถานีสุขุมวิทก็มาโผล่ที่หน้าห้างทันที ให้เข้ามารีวิวบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติที่จัดขึ้นทุกวันเวลา 11.30 - 14.30 น. ราคาหัวละ 490 บาท ส่วนมื้อเย็นก็มีให้บริการเช่นเดียวกัน แต่มีเงื่อนไขคือต้องจองขั้นต่ำ 50 ที่ขึ้นไปตกราคาคนละ 590 บาท (ใช้เวลาการเตรียมงานประมาณ 1 อาทิตย์) วิธีเข้ามาที่ห้องอาหารนั้นสามารถเข้าได้ 2 ช่องทางคือจากหน้าร้านกาแฟ Bake Brothers ตรงชั้น 5 ของห้าง Terminal 21 ให้เดินเข้าไปจนสุดด้านในร้านก็จะพบกับทางเชื่อมพิเศษเข้าไปห้องอาหารของโรงแรม Grande Centre Point Terminal 21 นั่นหมายความว่าเราจะเดินเข้าจากที่ล๊อบบี้ของทางโรงแรมด้านหลังห้างขึ้นมาที่ห้องอาหารนี้ก็ได้เช่นเดียวกัน ตอนนี้ก็ใกล้เวลาที่บุฟเฟ่ต์จะเริ่มต้นขึ้นแล้วเรารีบเข้าไปด้านในห้องอาหารกันดีกว่าครับผม
ตอนนี้เราโผล่เข้ามาอยู่ที่ห้องอาหาร BlueSpice & Herbs ของโรงแรม Grande Centre Point Terminal 21 ชั้น 5 กันแล้ว บรรยากาศภายในห้องอาหารเป็นสีเทา ตัดด้วยเฟอร์นิเจอร์พวกโต๊ะ/โซฟาต่างๆสีน้ำตาลเข้ม ดูหรูหราตามแบบฉบับห้องอาหารบนโรงแรมใจกลางเมือง วางกระเป๋าให้เรียบร้อยแล้วเดินไปสำรวจที่ไลน์อาหารกันครับ
พื่นที่ในไลน์อาหารถือว่ากว้างขวางและมีอาหารให้เลือกเยอะเกินราคา 490 ไปมาก ถูกแบ่งออกเป็นโซนอาหาร Seafood On Ice/ซูชิและอาหารญี่ปุ่น/ปรุงร้อนพร้อมทาน/เมนูเนื้อสัตว์ย่างพร้อมข้าวเหนียวสไตล์ไทย/สลัดผัก/ผักสด-ผักลวก-ผักทอดเสิร์ฟพร้อมน้ำพริกสไตล์ไทย/เมนู Hot Dish จานร้อนที่เต็มไปด้วยอาหารไทยและอาหารฝรั่งหลากหลาย/ชาบูสไตล์ญี่ปุ่นที่สามารถเลือกวัตถุดิบต่างๆได้ด้วยตัวเอง/อาหารปรุงสดอย่างพาสต้าที่เลือกเส้นและซอสได้ตามใจ/มินิพิซซ่าที่สามารถใส่หน้าอะไรก็ได้ลงไปให้พนักงานอบร้อนๆ/ส้มตำแบบตามสั่งไว้ทานคู่กับเนื้อสัตว์ย่างสไตล์อีสาน/เครื่องดื่มร้อนและเย็นแบบจัดเต็ม/ผลไม้สดและของหวานทั้งไทยและฝรั่ง ถือว่าจัดเต็มเลยล่ะ แถมมองออกไปนอกหน้าต่างยังเห็น 4 แยกอโศกที่การจราจรติดขัดได้อย่างชัดเจน อาหารเยอะแถมได้ชมวิวสวยๆนอกหน้าต่างด้วยแบบนี้ คุ้มค่าคุ้มราคาไปแล้ว เดี๋ยวเรามาดูที่คุณภาพของอาหารกันครับว่าจะจัดเต็มเหมือนกันไหม
โซนแรกเป็น Seafood On Ice มีอาหารทะเลวางบนน้ำแข็งให้เลือกทานถึง 4 เมนูได้แก่หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ลวกที่ดูเหมือนจะตัวเล็กกว่าที่เสิร์ฟตามโรงแรมทั่วไปแต่เนื้อมัน-เยอะเต็มฝาหอยดีครับ/กุ้งขาวต้มสุกขนาดกลางๆแต่เนื้อแน่นหวานฉ่ำ/ปลาแซลมอนซาชิมิแล่มาพอดีคำเรียงตัวสวยงามในถาดเนื้อแทรกไขมันกำลังดี จะทานกับโชยุ-วาซาบิหรือน้ำจิ้มซีฟู๊ดแบบแซลมอนแช่น้ำปลาก็แซ่บโดนใจ/ปูอัดคุณภาพดีรสหวานเนื้อแน่นถือว่าคุณภาพดีเลยครับ
ซูชิมีให้เลือกทั้งหมด 4 หน้าเมนูแรกเป็นซูชิมากิโรลสอดไส้ด้วยไข่หวาน-แตงกวา-ผักดองและคลุกลงในงาขาวคั่ว/ซูชิหน้ากุ้งต้มท๊อปปิ้งด้วยไข่กุ้งปรุงรส/ซูชิหน้าพุงปลาแซลมอนท๊อปปิ้งด้วยขิงดองสีชมพูช่วยลดความเลี่ยน/ซูชิมากิโรลแบบเดียวกับเมนูแรกแต่เปลี่ยนจากคลุกงาเป็นไข่กุ้งปรุงรสแทน ข้าวที่ปรุงรสซูชิมามีความเคี้ยวหนึบ-หวานอมเปรี้ยวนิดๆเข้ากับท๊อปปิ้งได้เป็นอย่างดี ข้างกันเป็นซุปมิโสะรสชาติเข้มข้นหอมกลิ่นมิโสะ เบสของซุปรสปลากลมกล่อมวางไว้คู่กับเครื่องต่างๆทั้ง เต้าหู้ขาวนิ่ม/สาหร่ายวากาเมะ/ต้นหอมญี่ปุ่นซอย นอกจากนี้ยังมียำสาหร่ายญี่ปุ่น /โชยุ/วาซาบิเรียงไว้ใกล้ๆกัน หลายๆโรงแรมมันจะเสิร์ฟเป็นสเต็กชิ้นใหญ่หั่นพร้อมทาน แต่ที่ห้องอาหารนี้เสิร์ฟเป็นไก่ย่างสับเป็นชิ้นและคอหมูย่างหั่นสไลด์เสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียวห่อใบตองนึ่งร้อนๆสไตล์อีสาน เป็นอีก 2 เมนูที่ชอบมากครับเพราะถ้าไปทานที่ร้านอาหารอีสานดีๆสมัยนี้ราคาแพง แถมที่นี่หมักมาอร่อยรสชาติหวานเค็มหอมถึงเครื่องสมุนไพรแบบเข้มข้น ย่างมาสุกเกรียมนอกเนื้อด้านในชุ่มฉ่ำ เสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มแจ่วมะขามรสชาติเปรี้ยวอมหวาน หอมกลิ่นข้าวคั่วและสมุนไพรไทย มีความดีงามไม่แพ้กับร้านด้านนอกแต่สามารถตักทานได้ไม่อั้น โดนสุดๆเลยครับ
มาต่อกันด้วยโซนสลัดผักที่เราสามารถปรุงรสได้เอง มีให้เลือกทั้งหอมหัวใหญ่/พริกหวานสีแดง/มะเขือเทศเชอรี่/แตงกวา/ผักสลัดใบเขียว/บล๊อกโคลี่/ถั่วแดง/ลูกเดือย/แครอท/ถั่วลันเตา/มะกอกเขียว/ดอกเคเปอร์ไว้ทานคู่กับน้ำสลัดครีม/น้ำสลัดงาญี่ปุ่น/น้ำสลัดเทาซันไอแลนด์/น้ำมันมะกอก/น้ำส้มสายชูหมักจากองุ่น นำมาคลุกผสมลงในถาดไม้ได้ตามใจ ต่อกันด้วยโซนชุดผักสด/ผักต้ม/ผักชุบแป้งทอดและแคปหมูทอดกรอบๆเรียงอย่างสวยงามเอาไว้ทานคู่กับน้ำพริกสไตล์ไทยทั้ง น้ำพริกปล่าย่างแบบป่นแห้งและน้ำพริกหนุ่มตำรับภาคเหนือ หรือว่าอยากนำไปทานคู่กับข้าวสวยหรือข้าวเหนียวร้อนๆก็ได้ รสชาติน้ำพริกก็รสเผ็ดจัดจ้านถึงเครื่องทั้ง 2 สูตร ถูกใจสายแซ่บแน่นอนครับ
มาต่อกันด้วยโซนอาหาร Hot Dish แบบปรุงร้อนๆพร้อมตักให้ทานเรียงรายกันเป็นแนวยาวหลากหลายเมนูทั้งข้าวสวย/ข้าวผัดไข่/มะเขือม่วงผัดหมูสับรสชาติเข้มข้น/ต้มข่าไก่รสชาติเปรี้ยวมะนาว หอมมันกะทิและเครื่องต้มข่า/ ยำมีให้ทานถึง 2 สูตรทั้งยำปลาหมึกบั้งลวกที่ซึมซับน้ำยำได้เป็นอย่างดีและยำปลาดุกฟูกรอบๆ เสิร์ฟมาเป็นแพใหญ่แยกน้ำยำรสเปรี้ยว/หวานพร้อมเครื่องยำแน่นๆเอาไว้เป็นถ้วยอยากได้รสชาติแซ่บแค่ไหนก็ตักราดได้ตามใจเลยครับ
ต่อกันด้วยมัสมั่นเนื้อรสชาติเข้มข้น เนื้อวัวที่ใช้ตุ๋นเป็นเนื้อน่องลายนุ่มละลายในปากทานกับน้ำแกงรสเข้มข้นมันฝรั่งสุกนุ่ม เป็นอีกเมนูที่แนะนำให้ลองครับ/ห่อหมกปลารสชาติพริกแกงเข้มข้น ตีเนื้อมาเนียนผสมกับเนื้อปลา ด้านล่างรองด้วยกระหล่ำปลีสไลด์ อันนี้ก็อร่อยดีครับ/ซุปฟักทองสัมผัสหวานตัดเค็มนิดๆหอมกลิ่นครีมที่ผสมลงไป ไว้ทานเปล่าๆหรือทานคู่กับขนมปังกระเทียมก็ใช้ได้ครับ/มันม่วงเผา-เห็ดออเร็นจิย่าง/ผักโขมอบชีส ผักโขมผัดกับเนยและครีมปรุงรสมาเค็มอ่อนๆราดชีสและอบจนเป็นสีเหลืองทอง สะใจคนชอบทานชีสสุดๆ และเมนูสุดท้ายเป็นอกไก่ย่างที่มีเนื้อค่อนข้างแห้งราดด้วยซอสมะเขือเทศปรุงรสเข้มข้น รสชาติเปรี้ยวอมหวานทานง่ายสไตล์อาหารอิตาเลียน
ตามมาด้วยโซน Highlight อย่างชาบูชไสไตล์ญี่ปุ่นแบบทำเอง สามารถเลือกได้ทั้งเนื้อสันคอหมู/เนื้อวัวสไลด์/ ปูอัด/หอยเมลงภู่นิวซีแลนด์/ลูกชิ้นนารูโตะสไลด์/กุ้งลวก/แซลมอนหั่นเต๋า/หมูแดงพร้อมผักและเส้นอีกหลากหลายที่สามารถเลือกใส่ชามได้ตามใจ จากนั้นยื่นชามให้กับน้องพนักงานเพื่อทำการลวกจนสุกดี และทำการราดซุปชาบูน้ำใสมาให้เสร็จสรรพพร้อมทาน เลือกทานพร้อมกับน้ำจิ้มได้ถึง 3 สูตรคือ น้ำจิ้มสุกี้สูตรต้นตำรับรสชาติหวานเผ็ดเค็มเปรี้ยวหอมกลิ่นเต้าหู้ยี้และน้ำมันงาอ่อนๆ รสชาติเข้มข้นลงตัว อันต่อมาเป็นน้ำจิ้มสูตรงาที่ไม่เหมือนกับร้านชาบูไหนที่เคยทานมาก่อน เพราะเป็นงาบดที่ปรุงมารสชาติเผ็ดเปรี้ยวแต่เปลี่ยนจากเบสของน้ำจิ้มที่เป็นซอสพริกเป็นซอสงาแทน รสชาติเข้มข้นไม่เหมือนใครดีครับ สุดท้ายคือน้ำจิ้มพอนสึรสเปรี้ยว/เค็มอมหวานนิดๆ ทานแล้วแก้เลี่ยนเนื้อที่มีไขมันเยอะๆได้ดีทีเดียว เพิ่มต้นหอมซอย/กระเทียมสับหรือพริกสดลงไปในน้ำจิ้มได้ตามใจ ถ้าใครอยากทานชาบูเนื้อล้วนๆแบบไม่อยากกินผักเลยก็สามารถตักเอาแต่เนื้อและขอน้ำซุปน้อยๆเหมือนกับที่ทานร้านชาบูตามใจเราก็ได้ครับ
ตามมาด้วยโซนอาหารยุโรปอย่างพาสต้าผัดร้อนๆที่เลือกซอสได้ทั้งซอสพริกกระเทียมไส้อั่ว/ซอสคาโบนาร่าไข่กุ้งและกุ้งสดและซอสมะเขือเทศปลาแซลมอน ส่วนเส้นนั้นก็เลือกได้ 3 แบบคือสปาเก็ตตี้เส้นกลมปกติ/สปาเก็ตตี้เส้นกลมแบบหมึกดำและเส้นแพนเน่ ข้างๆกันเป็นมินิพิซซ่าโดยใช้แป้งกลมเล็กๆทาซอสมะเขือเทศเข้มข้นบางๆเอาไว้ จากนั้นเราสามารถคีบท๊อปปิ้งต่างๆทั้งสับปะรด/มะเขือเทศ/ปูอัด/กะเพราไก่/ปลาหมึก/กุ้ง/แฮม/ไส้กรอก จากนั้นยื่นให้น้องพนักงานอบให้ ใช้เวลาอบประมาณ 10 นาทีจนได้พิซซ่าแป้งกรอบสีเหลืองทอง ราดชีสมาเยอะจนแทบไม่เห็นเครื่อง ปรุงรสด้วยซอสพริก/ซอสมะเขือเทศ/ซอสพริกทาบาสโก้/ออริกาโน่และชีสพาเมซานผงโรยเพิ่มได้แบบกระหน่ำจนกว่าจะพอใจ ใครที่ชอบทานพิซซ่าแบบอบสดใส่ชีสลงไปเยอะๆต้องถูกใจสิ่งนี้มากๆแน่นอนเลยครับผม
****** เกิน 10,000 ตัวอักษร ขอรีวิวต่อในช่อง Comment นะครับ *****
ชื่อสินค้า:
BlueSpice & Herbs โรงแรม Grande Centre Point Terminal 21
คะแนน:
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
- ได้รับสินค้าหรือบริการมาใช้รีวิวฟรี โดยไม่ต้องคืนสินค้าหรือบริการนั้น
- ไม่ได้รับค่าจ้างแต่ได้รับผลประโยชน์อย่างอื่น เช่น บัตรกำนัล ค่าเดินทางตามจริง
ข้อมูลเพิ่มเติม
ได้ Gift Voucher 10 ใบสำหรับใช้ทำกิจกรรมในเพจ "เสพติดการกิน"
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
บอสพาชิม : Juksunchae
Review ในวันนี้จะขอพาทุกท่านไปชิมอาหารเกาหลี ไฟน์ไดน์ กัน Juksunchae เป็นร้านอาหารเกาหลีเดียวในกรุงเทพที่ติด Michelin guide และหลังจากที่ได้ไปชิมผมว่าเหลือแค่กา
Isle of Jura
วิธีทำ ต้มข่าไก่ (Tom Kha Gai) น้ำกะทิเข้มข้น กลมกล่อมไม่เลี่ยน ทำง่าย ๆ ได้ที่บ้าน | SGE & เชฟเจิน
ต้มขาไก่ (Tom Kha Gai) สูตรนี้มาจากคุณแม่เลยค่ะ ที่บ้านของเจินชอบทำกันมาก ๆ และเจินก็ชอบกินด้วย จะมีรสชาติกลมกล่อมไม่เปรี้ยวโดดเกินไป น้ำกะทิจะหอมข้นมาก ถึงเครื่องสมุนไพรแบบสุด ๆ ทำง่ายมากนะคะ ใครจะนำ
Spring Green Evolution
มะยงชิดลอยแก้ว เปรี้ยวๆหวานๆ ทานแล้วชื่นใจดีจัง
มะยงชิดอินทรีย์ ปลอดภัยไร้สารพิษ ส่งตรงมาจากสวน ลูกใหญ่ เนื้อเยอะ รสชาติหวานอมเปรี้ยวนิดๆ บวกกับอากาศที่ค่อนข้างร้อนจัดแบบนี้ เมนูลอยแก้ว จึงเป็นเมนูที่ดี เหมาะกับสถานการณ์ค่ะ วิธีเลือกมะยงชิด
เที่ยวสบายสบาย
โกวเล็ก สุกี้ฮ่องกง ศาลายา
สนใจ "โกวเล็ก สุกี้ฮ่องกง ศาลายา" 📍เที่ยวตามใจเมียมาแจกพิกัดความอร่อย ฟิน กับร้านเด็ดย่านศาลายากันครับ ร้านไม่ลับที่คนย่านศาลายารู้กันว่าอร่อยมาแล้วต้องกลับไปอีก เ
สมาชิกหมายเลข 6872732
ข้าวผัดป่า
เครื่องปรุงที่สำคัญคือ ยี่หร่ากับยอดชะอมครับ นอกนั้นจะใส่อะำรก็ได้ครับ พริกกระเทียม เนื้อสัตว์ ผมใช้หมูสับเยอะหน่อย ว่าจะไม่กินไข่ดาว ปรุงรส ถ้านึกรสชาติไม่ออกให้นึกถึงผัดกะเพราครับ ผ
กะเพราไม่ใส่ผัก
BufFeast Review : รีวิวปิ้งย่างกะทะร้อนเจ้าดัง "ติดมันส์" @ถนนรัตนาธิเบศร์
พอดีเพื่อนผมชนะแข่งทำอาหาร จึงอยากฉลองด้วยการไปกินร้านหมูกะทะ พอดีนึกถึงร้าน ติดมันส์ ก็เลยชวนมันไปกินสาขารัตนาธิเบศร์ ที่อยู่โซนละแวกบ้านของผมซะเลย ร้านอยู่ริมถนนรัตนาธิเบศ
TheHeatBufFeast
[CR] ร้าน ครัวน้ำยาปลาเผา (จ.อุตรดิตถ์)
วันนี้จะมารีวิวร้านขึ้นชื่อของจังหวัดอุตรดิตถ์ค่ะ ชื่อร้าน "ครัวน้ำยาปลาเผา" ขอนิยามสั้นๆว่า อร่อย เสิร์ฟไว ราคาโดนใจ ดูในภาพอาจจะรู้สึกว่าธรรมดา แต่รสชาติบอกเลยว่าไม่ธรรมดา คือ
สมาชิกหมายเลข 8016770
ผัดผักซอสสุกี้ใส่หมู3ชั้นย่าง
ผักเท่าที่มีตามใจชอบ ไข่ 1 ฟอง หมูยอเหลือๆหน่อยนึง ย่าง 3 ชั้นด้วยไฟอ่อนๆ เหลืองได้ที่หั่นเป็นชิ้นพักไว้ หมูยอ กระเทียมสับ ไข่ไก่ ผัดให้ไข่เซ็ตตัว ไม่อย่างนั้นจะเป็นโคลน ผักลง
กะเพราไม่ใส่ผัก
เห็ดชุบไข่ทอด ยำเห็ดชุบไข่ทอด - สุกัญญา มิเกล เข้าครัวปรุงอาหาร
เห็ดชุบไข่ทอด ยำเห็ดชุบไข่ทอด - สุกัญญา มิเกล เข้าครัวปรุงอาหาร . ของที่กินกันทุกวันนี้มีหลายต้นทาง มาจากคนทำที่ช่างคิด มีจินตนาการ ได้อะไรมา ขาดเหลืออย่าง
สมาชิกหมายเลข 5822800
รีวิวห้องอาหาร BlueSpice โรงแรม Grande Center Point สุขุมวิท 55 บุฟเฟ่ต์ข้าวต้มสุดคุ้มเพียง 420 บาท!
วันนี้ผมได้รับการรับเชิญจาก PR ของห้องอาหาร BlueSpice โรงแรม Grande Center Point สุขุมวิท 55 ให้เข้ามารีวิวบุฟเฟ่ต์ข้าวต้มมื้อค่ำที่มีชื่อว่า Sha
Food Addicts
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บุฟเฟ่ต์โรงแรม
อาหารซีฟู้ด
อาหารบุฟเฟ่ต์
อาหารนานาชาติ
อาหารคาว
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แบ่งปัน :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[SR] รีวิว BlueSpice & Herbs โรงแรม Grande Centre Point Terminal 21 บุฟเฟ่ต์มื้อเที่ยงนานาชาติแค่ 490 บาท
ตอนนี้เราโผล่เข้ามาอยู่ที่ห้องอาหาร BlueSpice & Herbs ของโรงแรม Grande Centre Point Terminal 21 ชั้น 5 กันแล้ว บรรยากาศภายในห้องอาหารเป็นสีเทา ตัดด้วยเฟอร์นิเจอร์พวกโต๊ะ/โซฟาต่างๆสีน้ำตาลเข้ม ดูหรูหราตามแบบฉบับห้องอาหารบนโรงแรมใจกลางเมือง วางกระเป๋าให้เรียบร้อยแล้วเดินไปสำรวจที่ไลน์อาหารกันครับ
พื่นที่ในไลน์อาหารถือว่ากว้างขวางและมีอาหารให้เลือกเยอะเกินราคา 490 ไปมาก ถูกแบ่งออกเป็นโซนอาหาร Seafood On Ice/ซูชิและอาหารญี่ปุ่น/ปรุงร้อนพร้อมทาน/เมนูเนื้อสัตว์ย่างพร้อมข้าวเหนียวสไตล์ไทย/สลัดผัก/ผักสด-ผักลวก-ผักทอดเสิร์ฟพร้อมน้ำพริกสไตล์ไทย/เมนู Hot Dish จานร้อนที่เต็มไปด้วยอาหารไทยและอาหารฝรั่งหลากหลาย/ชาบูสไตล์ญี่ปุ่นที่สามารถเลือกวัตถุดิบต่างๆได้ด้วยตัวเอง/อาหารปรุงสดอย่างพาสต้าที่เลือกเส้นและซอสได้ตามใจ/มินิพิซซ่าที่สามารถใส่หน้าอะไรก็ได้ลงไปให้พนักงานอบร้อนๆ/ส้มตำแบบตามสั่งไว้ทานคู่กับเนื้อสัตว์ย่างสไตล์อีสาน/เครื่องดื่มร้อนและเย็นแบบจัดเต็ม/ผลไม้สดและของหวานทั้งไทยและฝรั่ง ถือว่าจัดเต็มเลยล่ะ แถมมองออกไปนอกหน้าต่างยังเห็น 4 แยกอโศกที่การจราจรติดขัดได้อย่างชัดเจน อาหารเยอะแถมได้ชมวิวสวยๆนอกหน้าต่างด้วยแบบนี้ คุ้มค่าคุ้มราคาไปแล้ว เดี๋ยวเรามาดูที่คุณภาพของอาหารกันครับว่าจะจัดเต็มเหมือนกันไหม
โซนแรกเป็น Seafood On Ice มีอาหารทะเลวางบนน้ำแข็งให้เลือกทานถึง 4 เมนูได้แก่หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ลวกที่ดูเหมือนจะตัวเล็กกว่าที่เสิร์ฟตามโรงแรมทั่วไปแต่เนื้อมัน-เยอะเต็มฝาหอยดีครับ/กุ้งขาวต้มสุกขนาดกลางๆแต่เนื้อแน่นหวานฉ่ำ/ปลาแซลมอนซาชิมิแล่มาพอดีคำเรียงตัวสวยงามในถาดเนื้อแทรกไขมันกำลังดี จะทานกับโชยุ-วาซาบิหรือน้ำจิ้มซีฟู๊ดแบบแซลมอนแช่น้ำปลาก็แซ่บโดนใจ/ปูอัดคุณภาพดีรสหวานเนื้อแน่นถือว่าคุณภาพดีเลยครับ
ซูชิมีให้เลือกทั้งหมด 4 หน้าเมนูแรกเป็นซูชิมากิโรลสอดไส้ด้วยไข่หวาน-แตงกวา-ผักดองและคลุกลงในงาขาวคั่ว/ซูชิหน้ากุ้งต้มท๊อปปิ้งด้วยไข่กุ้งปรุงรส/ซูชิหน้าพุงปลาแซลมอนท๊อปปิ้งด้วยขิงดองสีชมพูช่วยลดความเลี่ยน/ซูชิมากิโรลแบบเดียวกับเมนูแรกแต่เปลี่ยนจากคลุกงาเป็นไข่กุ้งปรุงรสแทน ข้าวที่ปรุงรสซูชิมามีความเคี้ยวหนึบ-หวานอมเปรี้ยวนิดๆเข้ากับท๊อปปิ้งได้เป็นอย่างดี ข้างกันเป็นซุปมิโสะรสชาติเข้มข้นหอมกลิ่นมิโสะ เบสของซุปรสปลากลมกล่อมวางไว้คู่กับเครื่องต่างๆทั้ง เต้าหู้ขาวนิ่ม/สาหร่ายวากาเมะ/ต้นหอมญี่ปุ่นซอย นอกจากนี้ยังมียำสาหร่ายญี่ปุ่น /โชยุ/วาซาบิเรียงไว้ใกล้ๆกัน หลายๆโรงแรมมันจะเสิร์ฟเป็นสเต็กชิ้นใหญ่หั่นพร้อมทาน แต่ที่ห้องอาหารนี้เสิร์ฟเป็นไก่ย่างสับเป็นชิ้นและคอหมูย่างหั่นสไลด์เสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียวห่อใบตองนึ่งร้อนๆสไตล์อีสาน เป็นอีก 2 เมนูที่ชอบมากครับเพราะถ้าไปทานที่ร้านอาหารอีสานดีๆสมัยนี้ราคาแพง แถมที่นี่หมักมาอร่อยรสชาติหวานเค็มหอมถึงเครื่องสมุนไพรแบบเข้มข้น ย่างมาสุกเกรียมนอกเนื้อด้านในชุ่มฉ่ำ เสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มแจ่วมะขามรสชาติเปรี้ยวอมหวาน หอมกลิ่นข้าวคั่วและสมุนไพรไทย มีความดีงามไม่แพ้กับร้านด้านนอกแต่สามารถตักทานได้ไม่อั้น โดนสุดๆเลยครับ
มาต่อกันด้วยโซนสลัดผักที่เราสามารถปรุงรสได้เอง มีให้เลือกทั้งหอมหัวใหญ่/พริกหวานสีแดง/มะเขือเทศเชอรี่/แตงกวา/ผักสลัดใบเขียว/บล๊อกโคลี่/ถั่วแดง/ลูกเดือย/แครอท/ถั่วลันเตา/มะกอกเขียว/ดอกเคเปอร์ไว้ทานคู่กับน้ำสลัดครีม/น้ำสลัดงาญี่ปุ่น/น้ำสลัดเทาซันไอแลนด์/น้ำมันมะกอก/น้ำส้มสายชูหมักจากองุ่น นำมาคลุกผสมลงในถาดไม้ได้ตามใจ ต่อกันด้วยโซนชุดผักสด/ผักต้ม/ผักชุบแป้งทอดและแคปหมูทอดกรอบๆเรียงอย่างสวยงามเอาไว้ทานคู่กับน้ำพริกสไตล์ไทยทั้ง น้ำพริกปล่าย่างแบบป่นแห้งและน้ำพริกหนุ่มตำรับภาคเหนือ หรือว่าอยากนำไปทานคู่กับข้าวสวยหรือข้าวเหนียวร้อนๆก็ได้ รสชาติน้ำพริกก็รสเผ็ดจัดจ้านถึงเครื่องทั้ง 2 สูตร ถูกใจสายแซ่บแน่นอนครับ
มาต่อกันด้วยโซนอาหาร Hot Dish แบบปรุงร้อนๆพร้อมตักให้ทานเรียงรายกันเป็นแนวยาวหลากหลายเมนูทั้งข้าวสวย/ข้าวผัดไข่/มะเขือม่วงผัดหมูสับรสชาติเข้มข้น/ต้มข่าไก่รสชาติเปรี้ยวมะนาว หอมมันกะทิและเครื่องต้มข่า/ ยำมีให้ทานถึง 2 สูตรทั้งยำปลาหมึกบั้งลวกที่ซึมซับน้ำยำได้เป็นอย่างดีและยำปลาดุกฟูกรอบๆ เสิร์ฟมาเป็นแพใหญ่แยกน้ำยำรสเปรี้ยว/หวานพร้อมเครื่องยำแน่นๆเอาไว้เป็นถ้วยอยากได้รสชาติแซ่บแค่ไหนก็ตักราดได้ตามใจเลยครับ
ต่อกันด้วยมัสมั่นเนื้อรสชาติเข้มข้น เนื้อวัวที่ใช้ตุ๋นเป็นเนื้อน่องลายนุ่มละลายในปากทานกับน้ำแกงรสเข้มข้นมันฝรั่งสุกนุ่ม เป็นอีกเมนูที่แนะนำให้ลองครับ/ห่อหมกปลารสชาติพริกแกงเข้มข้น ตีเนื้อมาเนียนผสมกับเนื้อปลา ด้านล่างรองด้วยกระหล่ำปลีสไลด์ อันนี้ก็อร่อยดีครับ/ซุปฟักทองสัมผัสหวานตัดเค็มนิดๆหอมกลิ่นครีมที่ผสมลงไป ไว้ทานเปล่าๆหรือทานคู่กับขนมปังกระเทียมก็ใช้ได้ครับ/มันม่วงเผา-เห็ดออเร็นจิย่าง/ผักโขมอบชีส ผักโขมผัดกับเนยและครีมปรุงรสมาเค็มอ่อนๆราดชีสและอบจนเป็นสีเหลืองทอง สะใจคนชอบทานชีสสุดๆ และเมนูสุดท้ายเป็นอกไก่ย่างที่มีเนื้อค่อนข้างแห้งราดด้วยซอสมะเขือเทศปรุงรสเข้มข้น รสชาติเปรี้ยวอมหวานทานง่ายสไตล์อาหารอิตาเลียน
ตามมาด้วยโซน Highlight อย่างชาบูชไสไตล์ญี่ปุ่นแบบทำเอง สามารถเลือกได้ทั้งเนื้อสันคอหมู/เนื้อวัวสไลด์/ ปูอัด/หอยเมลงภู่นิวซีแลนด์/ลูกชิ้นนารูโตะสไลด์/กุ้งลวก/แซลมอนหั่นเต๋า/หมูแดงพร้อมผักและเส้นอีกหลากหลายที่สามารถเลือกใส่ชามได้ตามใจ จากนั้นยื่นชามให้กับน้องพนักงานเพื่อทำการลวกจนสุกดี และทำการราดซุปชาบูน้ำใสมาให้เสร็จสรรพพร้อมทาน เลือกทานพร้อมกับน้ำจิ้มได้ถึง 3 สูตรคือ น้ำจิ้มสุกี้สูตรต้นตำรับรสชาติหวานเผ็ดเค็มเปรี้ยวหอมกลิ่นเต้าหู้ยี้และน้ำมันงาอ่อนๆ รสชาติเข้มข้นลงตัว อันต่อมาเป็นน้ำจิ้มสูตรงาที่ไม่เหมือนกับร้านชาบูไหนที่เคยทานมาก่อน เพราะเป็นงาบดที่ปรุงมารสชาติเผ็ดเปรี้ยวแต่เปลี่ยนจากเบสของน้ำจิ้มที่เป็นซอสพริกเป็นซอสงาแทน รสชาติเข้มข้นไม่เหมือนใครดีครับ สุดท้ายคือน้ำจิ้มพอนสึรสเปรี้ยว/เค็มอมหวานนิดๆ ทานแล้วแก้เลี่ยนเนื้อที่มีไขมันเยอะๆได้ดีทีเดียว เพิ่มต้นหอมซอย/กระเทียมสับหรือพริกสดลงไปในน้ำจิ้มได้ตามใจ ถ้าใครอยากทานชาบูเนื้อล้วนๆแบบไม่อยากกินผักเลยก็สามารถตักเอาแต่เนื้อและขอน้ำซุปน้อยๆเหมือนกับที่ทานร้านชาบูตามใจเราก็ได้ครับ
ตามมาด้วยโซนอาหารยุโรปอย่างพาสต้าผัดร้อนๆที่เลือกซอสได้ทั้งซอสพริกกระเทียมไส้อั่ว/ซอสคาโบนาร่าไข่กุ้งและกุ้งสดและซอสมะเขือเทศปลาแซลมอน ส่วนเส้นนั้นก็เลือกได้ 3 แบบคือสปาเก็ตตี้เส้นกลมปกติ/สปาเก็ตตี้เส้นกลมแบบหมึกดำและเส้นแพนเน่ ข้างๆกันเป็นมินิพิซซ่าโดยใช้แป้งกลมเล็กๆทาซอสมะเขือเทศเข้มข้นบางๆเอาไว้ จากนั้นเราสามารถคีบท๊อปปิ้งต่างๆทั้งสับปะรด/มะเขือเทศ/ปูอัด/กะเพราไก่/ปลาหมึก/กุ้ง/แฮม/ไส้กรอก จากนั้นยื่นให้น้องพนักงานอบให้ ใช้เวลาอบประมาณ 10 นาทีจนได้พิซซ่าแป้งกรอบสีเหลืองทอง ราดชีสมาเยอะจนแทบไม่เห็นเครื่อง ปรุงรสด้วยซอสพริก/ซอสมะเขือเทศ/ซอสพริกทาบาสโก้/ออริกาโน่และชีสพาเมซานผงโรยเพิ่มได้แบบกระหน่ำจนกว่าจะพอใจ ใครที่ชอบทานพิซซ่าแบบอบสดใส่ชีสลงไปเยอะๆต้องถูกใจสิ่งนี้มากๆแน่นอนเลยครับผม
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น