หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] รีวิวร้าน"Jukkumi"ปลาหมึกผัดรสเผ็ดในกระทะร้อนและอาหารเกาหลีแบบครบวงจร ได้อารมณ์แดนโสมใจกลางทองหล่อ!
กระทู้รีวิว
อาหารคาว
อาหารเกาหลี
ร้านอาหาร
อาหาร
เปิดทีวีดูซีรี่ย์สเรื่องวุ่นรักสาวนักกินแล้วเกิดอยากอาหารเกาหลีขั้นขีดสุด ! ไม่ไหวแล้วฉันจะต้องทานให้ได้ เปิด Google หาร้านอาหารเกาหลีน่าสนใจ ต๊อกโปกี/บูเดจิเก/จาจังมยอน/บีบิมบับ มันธรรมดาเกินไป อยากกินเมนูที่มีความ Advance มากกว่านั้น จนเจอกับร้าน Jukkumi เป็นร้านปลาหมึกผัดเผ็ดสไตล์เกาหลี ได้ยินแล้วเปรี้ยวปาก เพราะเคยทานตอนไปเที่ยวเกาหลีจำได้ว่ารสชาติแซ่บมาก คลุกข้าวทานได้หลายจาน และไม่ค่อยมีร้านอาหารเกาหลีในไทยที่ขายเมนูเฉพาะทางแบบนี้ โดยปัจจุบันมี 2 สาขาคือ เดอะมอลล์งามวงศ์วานชั้น 5 และโครงการ J Avenue ทองหล่อชั้น 2 เลยเลือกสาขาที่ใกล้บ้านที่สุด เดินทางด้วย BTS ลงสถานีทองหล่อ แล้วต่อรถเข้ามาในซอยสุขุมวิท 55 อีกเล็กน้อยเข้ามาในโครงการ J Avenue ชั้น 2 ก็จะพบกับหน้าร้านที่เป็นประตูไม้ขนาดใหญ่/หลังคากระเบื้องแบบบ้านเกาหลีโบราณ สัญลักษณ์เป็นปลาหมึกยักษ์ตามเมนู Signature ของที่ร้าน แสดงว่าเรามาถึงแล้วครับผม
ก่อนเข้าไปในร้านขอดูราคาและเมนูก่อนว่ามีอะไรให้ทานบ้าง? เมนูปลาหมึกผัดรสเผ็ดกระทะร้อนเริ่มต้นที่ 520 บาท มีทั้งแบบเนื้อปลาหมึกล้วน/ผสมเนื้อสัตว์(เนื้อหมู/เนื้อวัว) และอาหารทะเลต่างๆเพื่อความความหลากหลายในกระทะ ท๊อปปิ้งสำหรับเพิ่มลงในกระทะเริ่มต้นที่ 30 บาทแพงสุด 200 บาท ข้าวสวยผสมไข่ปลาบินสำหรับปิดท้ายเริ่มต้น 120 บาท บูเดจิเกหม้อไฟเริ่มต้นที่ 580 บาท ท๊อปปิ้งเริ่มต้นที่ 30-100 บาท เมนูหม้อและกระทะร้อนจะมี 2 ราคา(500g.-800g.หรือไซส์M-L)สำหรับทาน 2 และ 3 คนตามลำดับ ถ้าหากใครมาคนเดียวสั่งแล้วเป็นกระทะใหญ่กลัวทานไม่หมด ทางร้านก็มีอาหารเกาหลีเป็นแบบ Set Menu ผัดให้เสร็จพร้อมทานเริ่มต้นที่ 140-200 บาท อาหารทานเล่นเมนูเกาหลีเริ่มต้นที่ 120 - 160 บาท เมนูสำหรับเด็ก/เมนูสั่งทานกลับบ้าน พร้อมเครื่องดื่มและของหวาน ดูจากราคาแล้วถือว่ากลางๆ ไม่ถูกหรือแพงจนเกินไปสำหรับร้านอาหารในย่านทองหล่อ เข้าไปด้านในกันครับ
เข้ามาภายในร้านบรรยากาศคล้ายกับบ้านเกาหลีโบราณ ที่ตกแต่งด้วยสีขาวตัดลายไม้สีอ่อนดูสว่างสดใส พื้นร้านปูด้วยกระเบื้องหินสีดำและเทา ต้นไม้ภายในร้านก็ใช้เป็นต้นไม้จริงๆ เปิดไฟสว่างและมีหน้าต่างเปิดรับแสงแดดขนาดใหญ่ดูสบายตา และทุกโต๊ะจะมีเตาไฟฟ้าพร้อมอยู่เสมอ ไม่ดำอึมครึมแบบร้านอาหารเกาหลีเจ้าตลาดหลายๆร้าน และมีลูกค้าสาวชาวเกาหลีใช้บริการอยู่ด้วย แปลว่าปลาหมึกผัดเผ็ดของที่ร้านนี้รสชาติมันต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ
วันนี้ยกเพื่อนๆผู้คลั่งไคล้อาหารเกาหลีมาเปิบด้วยกันถึง 4 คน เลือกโต๊ะที่จะนั่งเรียบร้อย บนโต๊ะมีกระดาษรองจานที่มีการบ่งบอกถึงเรื่องราวความดีๆของเมนูปลาหมึกผัดเผ็ดอันเป็นพระเอกของร้านนี้ (เรื่องราวโดยรวมคือมันดีต่อสุขภาพ) และมีป้ายบอกวิธีกินอย่างถูกต้องไว้ถึง 9 ขั้นตอน ขั้นตอนแรกที่เราต้องทำคือสั่งอาหารโดยเลือกระดับความเผ็ดได้ 3 ระดับ พนักงานแนะนำว่าระดับ 2 ได้รับความนิยมที่สุดในร้าน แต่เราสายทานเผ็ดอยู่แล้วขอเบอร์ 3 เลยละกัน ก่อนที่จะเริ่มทานทางร้านจะแจกผ้ากันเปื้อนหลากหลายสีสันดูสดใสให้เราใส่ก่อนอาหารจะออกมา และที่โต๊ะยังมีปุ่มกดเรียกพนักงานไม่ต้องยกให้เมื่อยมือสะดวกมากๆ ระหว่างนี้เราก็นั่งเม้าท์มอยรออาหารไปก่อนครับผม
เครื่องดื่มมาเสิร์ฟก่อน 3 เมนูคือ"บลูเลมอนโซดา"น้ำเชื่อมรสบลูฮาวายผสมมะนาวมีความหวานอมเปรี้ยวหอมซ่าสดชื่น "ลูกพลัมโซดา" น้ำเชื่อมรสบ๊วยเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดหอมเตะจมูกท๊อปปิ้งด้วยโซดาเย็นซ่าสดชื่นลงตัว และ"ส้มยูสุโซดา" แยมส้มยูสุใส่ทั้งเนื้อและเปลือกรสหวานหอม อมขมเปลือกส้มนิดๆทานคู่กับโซดาเย็นๆ รสหวานหอมลงตัว (ทุกแก้วราคาแก้วละ 90 บาท) และทางร้านก็ยกเครื่องเคียงมาให้(ไม่มีคิดเงินเพิ่ม) เริ่มจาก "ซุปสาหร่ายเกาหลี"รสหอมหวานกลมกล่อม/"ซอสซัมจัง"รสเค็มหอมกลิ่นเต้าเจี้ยวสำหรับทานกับปลาหมึกผัด/"กิมจิผักกาดขาว"เปรี้ยว-เค็มผักกาดขาวมีความกรอบฉ่ำน้ำลงตัว น้องพนักงานบอกว่ากิมจิที่ร้านนำเข้าจากเกาหลีโดยตรง(อร่อยมากครับ)/เส้นแก้วสาหร่ายคลุกมายองเนสรสหวานนำกรุบกรอบในปาก/ถั่วงอกผัดน้ำมันงาหอมๆรสเค็มนิดๆลงตัว/หัวไชเท้าสไลด์ดอง รสหวานเปรี้ยวฉุนน้ำส้มสายชูเสิร์ฟมาเย็นๆทานแล้วกรอบเย็นสดชื่นสุดๆ/ผักสดรวมทั้งแตงกวาญี่ปุ่น-ผักกาดหอม-แครอทและใบงา ทั้งหมดนี้ขอเติมได้ 3 รอบต่อโต๊ะ รู้สึกเหมือนให้เติมน้อยแต่พอทานจริงๆก็พอดีครับ
เมนูแรกที่เป็นพระเอกของทางร้าน "จุซัมยับ" เผ็ดระดับ 3 ขนาดสำหรับทาน 2 คน(500กรัม) ราคา 580 บาทให้กระทะประกอบด้วยปลาหมึกขนาดกำลังดีหมักซอสรสเผ็ดสไตล์เกาหลีสูตรของทางร้าน เนื้อไม่เหนียวเพื่อนๆผมเป็นคนจัดฟันสามารถทานได้อย่างสบายๆ /แป้งต๊อกโปกีแบบแท่งใหญ่/เห็ดหอมสด/ใบงาหั่นท่อน/ต้นหอมหั่นท่อน/กระหล่ำปลีฝอยและหมูสามชั้นสไลด์ล้อมรอบกระทะ มาถึงพนักงานจะเปิดเตาและผัดทุกอย่างให้เข้ากัน และรอจนน้ำงวดเล็กน้อย(พอซอสเคลือบปลาหมึก) จากนั้นห่อด้วยผักต่างๆได้ตามใจ แต่ทางร้านแนะนำให้ทานกับใบงาถือว่าดีงามมาก ปลาหมึกเนื้อกรอบทานกับเนื้อหมูสามชั้นและแป้งต๊อกนุ่มๆ หอมกลิ่นใบงาขึ้นจมูกเข้ากันได้ดีกับซอสรสหวานเผ็ด (ถึงจะเผ็ดเบอร์ 3 แต่ส่วนตัวรู้สึกว่าเผ็ดกำลังดี) ไม่เหม็นกลิ่นคาวปลาหมึก(ทางร้านล้างมาเป็นอย่างดี) และกลิ่นเฉพาะของโคชูจัง ทานเคียงกับผักดองต่างๆเปลี่ยนรสชาติไปเรื่อยๆ บอกเลยว่าอร่อยฟินห์ถึงใจเลยครับ
เมนูต่อไปมาเสิร์ฟคือ "บูลเดจิเก" หรือหม้อไฟทหารเกาหลี(ใครอยากรู้ว่าทำไมถึงชื่อนี้ไปค้นหาใน Google เอา) ราคา 580 บาท หม้อนี้สำหรับทาน 2 คน ในหม้อประกอบไปด้วยแฮม/ไส้กรอกรมควัน/ไส้กรอกชีส/โบโลน่า/เต้าหู้ขาว/มันดู(เกี๊ยวไส้หมูสไตล์เกาหลี)/เบคอน/แป้งต๊อกสไลด์/กิมจิ/เส้นบะหมี่เกาหลี/ต้นหอมญี่ปุ่น/กุ้ยช่าย รวมๆคือแน่นเต็มหม้อ ราดด้วยน้ำซุปกระดูกปลาและสาหร่ายที่ต้มนานจนคอลลาเจนปลาออกมาเป็นสีขาวขุ่น ไม่เหมือนร้านไหน วิธีการทานคือไม่ต้องรีบร้อน ปล่อยต้มไปเรื่อยๆจนน้ำเริ่มงวดจะอร่อยกว่า หม้อนี้ไม่ได้ปรุงรสด้วยโคชูจังอย่างเดียว แต่ใส่เต้าเจี้ยวสูตรเฉพาะที่รสเค็มอ่อนๆผสมพริกป่นเกาหลีลงไปเพื่อให้น้ำข้น/เผ็ด ซดแล้วสะใจ ไม่เหม็นกลิ่นเฉพาะของโคชูจัง เปลี่ยนรสชาติและสัมผัสการเคี้ยวด้วยการเปลี่ยนวัตถุดิบในหม้อเรื่อยๆ ซดเพลินจนหยดสุดท้าย
เมนูอาหารทานเล่นเกาหลีออกมากันแบบรัวๆทั้ง "จับแช" ราคา 160 บาท ผัดวุ้นเส้นสไตล์เกาหลีเส้นเหนียวนุ่มสู้ฟัน ผัดในน้ำมันงาหอมๆ หวานด้วยรสผัดต่างๆทั้งหอมหัวใหญ่/ต้นหอม/แครอท/พริกหวาน และเพิ่มสัมผัสในการเคี้ยวด้วยเนื้อหมูอีกนิดนึง อร่อยดีแต่ชุ่มน้ำมันงาไปหน่อยนึง ต่อกันด้วย "คาลบีชิคเก้น" ราคา 120 บาท ปีกบนไก่ชุบแป้งทอดกรอบเคลือบด้วยซอสฮันนี่การ์ลิครสหวานหอมกระเทียมกลมกล่อม ราดซอสมาชุ่มฉ่ำดูเหมือนจะหวานเกินไปแต่รสชาติกลับอร่อยลงตัวกว่าที่คิด ดีงามไม่แพ้ไก่ทอดเกาหลีเจ้าดังเลยครับ สุดท้ายเป็น "ไข่ม้วนชีส" ราคา 150 บาท ไข่เจียวม้วนสไตล์เกาหลีนุ่มๆสอดไส้ด้วยชีสเพิ่มความหอมมัน ท๊อปปิ้งด้วยไข่ปลาบินปรุงรสกรุบกรอบๆมาด้านบน เสิร์ฟมาพร้อมซอสมะเขือเทศรสเปรี้ยวหวานเข้มข้น ช่วยลดความเลี่ยนจากไข่และชีสลงได้เยอะเลยครับ
ทานไปเรื่อยๆจนถึงโค้งสุดท้ายที่ใครเป็นคออาหารเกาหลีต้องชอบขั้นตอนนี้มากที่สุด นั่นคือการทำข้าวผัดจากซอสที่เหลือในกระทะ สั่งเป็นข้าวสวยผสมไข่ปลาบินไซส์เล็กราคา 120 บาท ข้าวญี่ปุ่นเม็ดกลมอ้วนผสมน้ำมันงา/สาหร่ายเส้น ผัดให้เข้ากับซอสปลาหมึกรสเผ็ดที่เหลืออยู่ในกระทะ เพิ่มความหรูหราด้วยการโรยไข่ปลาปรุงรสสไตล์ญี่ปุ่นลงไปถ้วยใหญ่ แผ่ให้ข้าวสุกกรุบกรอบแบบข้าวตังเพื่อความหอมกระทะเวลาทาน จะตักทานเปล่าๆหรือสั่งผักสดมาห่อทานคู่กันก็อร่อยสดชื่น หอมกลิ่นข้าวเกรียมๆ/น้ำมันงา/สาหร่าย/กรุบกรอบและกลมกล่อมด้วยไข่ปลาปรุงรส ทานคู่กับผักดองและเครื่องเคียงรสอื่นๆไปเรื่อยๆ เป็นการปิดท้ายมื้อที่เป็นนิพพานของสายเกาอย่างแท้จริงครับ
****** เกิน 10,000 ตัวอักษร ขอรีวิวต่อในช่อง Comment นะครับ ******
ชื่อสินค้า:
Jukkumi สาขา J Avenue ทองหล่อ
คะแนน:
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
- จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
- ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
มักกะโรนีกุ้งสด คุณค่าที่คู่ควร
ขอแวะพักกินเส้นแบบฝรั่ง ผัดมักกะโรนีกุ้งสด ที่ทำรับประทานเองก็อร่อยเหาะขึ้นฟ้า 😆 ทำง่าย กุ้งสด เนย มะเขือเทศ หอมใหญ่ ซอสมะเขือเทศ น้ำมันหอย (วันนี้ไม่มีไข่) ต้มเส้นมักกะโรนี ระหว่างนั้นเตรียมเครื่อ
เดหลีสีแดง
天ぷら蕎麦 ทำกับข้าววันหยุด เทมปุระโซบะ แหนมผัดไข่
ปกติรอแฟนทำอาหาร กินเสร็จไปนั่งเขี่ยๆเล่นพันทิป ดูยูทูปบ้าง แฟนยังไม่กลับมา กลายเป็นชายโสดหัดเข้าครัวครับ เทมปุระโซบะ เป็นเส้นพร้อมทาน ทำง่ายๆ เค้าซื้อ 1แถม1 ด้วย สบายเลย แต่ต้มน้ำในกา เทน้ำ
สมาชิกหมายเลข 4755513
Jukkumi ร้านอาหารเกาหลีเด็ดๆย่านสุขุมวิท
พาไปทานอาหารเกาหลีกัน 👉 อร่อยแบบไม่ต้องบินไกล แค่พุ่งตัวไป Jukkumi Thailand ร้านอาหารเกาหลี สไตล์ฮงแด ย่านสุขุมวิท ที่อยู่ในโครงการ RQ Bite คอมมูนิตี้ มอลล์ ที่มี Playground เหมาะสำหรับพาเด็กๆ มาเล่น
พี่ผัก
ตามรอยร้านดัง มาสาขาใหม่กับ "Minami At Ari" ร้านดังจาก Minami At Warehouse 26 ตอนนี้ขยายมาที่ซอยอารีย์
เปิดตำนานความอร่อย ตามชื่อ Minami ที่แปลว่า ทิศใต้อาหารเด็ดจานนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากคางาวะ ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น ด้วยความโฮมมี่ และ เมนู Signature เฉพาะตัวกับ เมนูไก่เบิร์นไฟ สไตล์คางาวะ ที่มีส
fantastic_biggy
รีวิว "SINSA Korean BBQ & Bar" บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง-บาร์เกาหลี เริ่มต้นคนละ 399฿++ อยู่ในซอยศาลาธรรมสพน์
ใครจะไปคิดว่าย่านพุทธมณฑลสาย 2 ภายในซอยศาลาธรรมสพน์อันแสนเงียบสงบจะมีร้านบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง,บาร์สไตล์เกาหลีมาเปิดใหม่สถานที่ใหญ่โตอลังการชื่อว่า "SINSA Korean BBQ & Bar" ราคาเริ่มต้นแค่คนล
Food Addicts
🥰❤🌿🌺🐷🌶@@...(*_*)น้ำพริกมะขามอ่อนแบบผัด(*_*)...@@🥰❤🌿🌺🐷🌶
😍🌸🌶🥣🐷👌วันนี้ขอนำเสนอน้ำพริกมะขามอ่อนแบบผัด เมนูเพื่อสุขภาพของใครหลาย ๆ คน มีรสชาติที่กลมกล่อม เปรี้ยวนำ หวานตาม และไม่เผ็ดจนเกินไป ทำได้ง่าย ทำครั้งหนึ่งเก็บไว้กินได้ หลายวันเลย น้ำพร
สมาชิกหมายเลข 3902534
สระบุรี กิน เที่ยว 9 พิกัด ราคาเบาๆ สบายกระเป๋า
หมีเป็ดแนะนำพิกัด กิน เที่ยว ง่ายๆ ที่สระบุรีค่ะ ตื่นสายก็เที่ยวได้ สบายๆ เติมพลังมื้อแรกด้วยต้มเลือดร้านเล็กโอชา ร้านเก่าแก่ของสระบุรี หมูสับหมักมาดีมีรสชาติ หมูชิ้นนุ่มหอมน้ำมันงา เครื่องในชิ้นให
หมีเป็ด
Phed Phed Ground คลองลัดมะยม ร้านส้มตำที่เผ็ดเผ็ดสมชื่อ
วันนี้อยากกินของแซ่บ หลังจากแวะไปหาหมอฟันก็เลยมาหาไรกินต่อแถวคลองลัดมะยม ร้าน เผ็ดเผ็ด สาขา Ground ที่ตอนแรกสาขานี้เปิดอยู่ในตลาดน้ำคลองมะยมโซน 3 แล้วย้ายมาอยู่ฝั่งตรงข้ามปรับปรุงอาคารใหม่ ใหญ่กว่าเด
KoolkyBear
BufFeast Review : ร้านหม้อต้มแนวอิสานในซอยสุดแคบ "เปิบ" @ เอ-วัน อารีย์ ซอย 1
เดือนนี้ผมมาดูงานแถวบางซื่อ ก็เลยได้โอกาสแวะกินร้านละแวกนี้ ขอเริ่มที่ร้านต้มแนวอิสาน ที่อยู่ในย่านอารีย์ ชื่อว่า เปิบ ตั้งอยู่ในตึก A-One Ari ณ ซอยอารีย์ 1 สำหรับที่นี่นั้นจะมีความพิเศษตรงที่มีอาหาร
TheHeatBufFeast
🥰❤🌳🌶🥭🌺@@...(*_*)น้ำชุบลูกม่วงเบา/น้ำพริกมะม่วงเบา(*_*)...@@🥰❤🌳🌶🥭🌺
😀🌶🥭👍🌷วันนี้ขอนำเสนอ น้ำชุบลูกม่วงเบา/น้ำพริกมะม่วงเบา น้ำพริกของพี่น้องชาวปักษ์ใต้ ที่มีรสชาติเปรี้ยวเผ็ดแซ่บ หอมกลิ่นกะปิย่าง ใครได้กินแล้วจะติดในความอร่อย สำหรับลูกม่วงเบาหรือมะม่วงเบานั้นเป็นมะม่ว
สมาชิกหมายเลข 3902534
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
อาหารคาว
อาหารเกาหลี
ร้านอาหาร
อาหาร
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 1
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] รีวิวร้าน"Jukkumi"ปลาหมึกผัดรสเผ็ดในกระทะร้อนและอาหารเกาหลีแบบครบวงจร ได้อารมณ์แดนโสมใจกลางทองหล่อ!
ก่อนเข้าไปในร้านขอดูราคาและเมนูก่อนว่ามีอะไรให้ทานบ้าง? เมนูปลาหมึกผัดรสเผ็ดกระทะร้อนเริ่มต้นที่ 520 บาท มีทั้งแบบเนื้อปลาหมึกล้วน/ผสมเนื้อสัตว์(เนื้อหมู/เนื้อวัว) และอาหารทะเลต่างๆเพื่อความความหลากหลายในกระทะ ท๊อปปิ้งสำหรับเพิ่มลงในกระทะเริ่มต้นที่ 30 บาทแพงสุด 200 บาท ข้าวสวยผสมไข่ปลาบินสำหรับปิดท้ายเริ่มต้น 120 บาท บูเดจิเกหม้อไฟเริ่มต้นที่ 580 บาท ท๊อปปิ้งเริ่มต้นที่ 30-100 บาท เมนูหม้อและกระทะร้อนจะมี 2 ราคา(500g.-800g.หรือไซส์M-L)สำหรับทาน 2 และ 3 คนตามลำดับ ถ้าหากใครมาคนเดียวสั่งแล้วเป็นกระทะใหญ่กลัวทานไม่หมด ทางร้านก็มีอาหารเกาหลีเป็นแบบ Set Menu ผัดให้เสร็จพร้อมทานเริ่มต้นที่ 140-200 บาท อาหารทานเล่นเมนูเกาหลีเริ่มต้นที่ 120 - 160 บาท เมนูสำหรับเด็ก/เมนูสั่งทานกลับบ้าน พร้อมเครื่องดื่มและของหวาน ดูจากราคาแล้วถือว่ากลางๆ ไม่ถูกหรือแพงจนเกินไปสำหรับร้านอาหารในย่านทองหล่อ เข้าไปด้านในกันครับ
เข้ามาภายในร้านบรรยากาศคล้ายกับบ้านเกาหลีโบราณ ที่ตกแต่งด้วยสีขาวตัดลายไม้สีอ่อนดูสว่างสดใส พื้นร้านปูด้วยกระเบื้องหินสีดำและเทา ต้นไม้ภายในร้านก็ใช้เป็นต้นไม้จริงๆ เปิดไฟสว่างและมีหน้าต่างเปิดรับแสงแดดขนาดใหญ่ดูสบายตา และทุกโต๊ะจะมีเตาไฟฟ้าพร้อมอยู่เสมอ ไม่ดำอึมครึมแบบร้านอาหารเกาหลีเจ้าตลาดหลายๆร้าน และมีลูกค้าสาวชาวเกาหลีใช้บริการอยู่ด้วย แปลว่าปลาหมึกผัดเผ็ดของที่ร้านนี้รสชาติมันต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ
วันนี้ยกเพื่อนๆผู้คลั่งไคล้อาหารเกาหลีมาเปิบด้วยกันถึง 4 คน เลือกโต๊ะที่จะนั่งเรียบร้อย บนโต๊ะมีกระดาษรองจานที่มีการบ่งบอกถึงเรื่องราวความดีๆของเมนูปลาหมึกผัดเผ็ดอันเป็นพระเอกของร้านนี้ (เรื่องราวโดยรวมคือมันดีต่อสุขภาพ) และมีป้ายบอกวิธีกินอย่างถูกต้องไว้ถึง 9 ขั้นตอน ขั้นตอนแรกที่เราต้องทำคือสั่งอาหารโดยเลือกระดับความเผ็ดได้ 3 ระดับ พนักงานแนะนำว่าระดับ 2 ได้รับความนิยมที่สุดในร้าน แต่เราสายทานเผ็ดอยู่แล้วขอเบอร์ 3 เลยละกัน ก่อนที่จะเริ่มทานทางร้านจะแจกผ้ากันเปื้อนหลากหลายสีสันดูสดใสให้เราใส่ก่อนอาหารจะออกมา และที่โต๊ะยังมีปุ่มกดเรียกพนักงานไม่ต้องยกให้เมื่อยมือสะดวกมากๆ ระหว่างนี้เราก็นั่งเม้าท์มอยรออาหารไปก่อนครับผม
เครื่องดื่มมาเสิร์ฟก่อน 3 เมนูคือ"บลูเลมอนโซดา"น้ำเชื่อมรสบลูฮาวายผสมมะนาวมีความหวานอมเปรี้ยวหอมซ่าสดชื่น "ลูกพลัมโซดา" น้ำเชื่อมรสบ๊วยเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดหอมเตะจมูกท๊อปปิ้งด้วยโซดาเย็นซ่าสดชื่นลงตัว และ"ส้มยูสุโซดา" แยมส้มยูสุใส่ทั้งเนื้อและเปลือกรสหวานหอม อมขมเปลือกส้มนิดๆทานคู่กับโซดาเย็นๆ รสหวานหอมลงตัว (ทุกแก้วราคาแก้วละ 90 บาท) และทางร้านก็ยกเครื่องเคียงมาให้(ไม่มีคิดเงินเพิ่ม) เริ่มจาก "ซุปสาหร่ายเกาหลี"รสหอมหวานกลมกล่อม/"ซอสซัมจัง"รสเค็มหอมกลิ่นเต้าเจี้ยวสำหรับทานกับปลาหมึกผัด/"กิมจิผักกาดขาว"เปรี้ยว-เค็มผักกาดขาวมีความกรอบฉ่ำน้ำลงตัว น้องพนักงานบอกว่ากิมจิที่ร้านนำเข้าจากเกาหลีโดยตรง(อร่อยมากครับ)/เส้นแก้วสาหร่ายคลุกมายองเนสรสหวานนำกรุบกรอบในปาก/ถั่วงอกผัดน้ำมันงาหอมๆรสเค็มนิดๆลงตัว/หัวไชเท้าสไลด์ดอง รสหวานเปรี้ยวฉุนน้ำส้มสายชูเสิร์ฟมาเย็นๆทานแล้วกรอบเย็นสดชื่นสุดๆ/ผักสดรวมทั้งแตงกวาญี่ปุ่น-ผักกาดหอม-แครอทและใบงา ทั้งหมดนี้ขอเติมได้ 3 รอบต่อโต๊ะ รู้สึกเหมือนให้เติมน้อยแต่พอทานจริงๆก็พอดีครับ
เมนูแรกที่เป็นพระเอกของทางร้าน "จุซัมยับ" เผ็ดระดับ 3 ขนาดสำหรับทาน 2 คน(500กรัม) ราคา 580 บาทให้กระทะประกอบด้วยปลาหมึกขนาดกำลังดีหมักซอสรสเผ็ดสไตล์เกาหลีสูตรของทางร้าน เนื้อไม่เหนียวเพื่อนๆผมเป็นคนจัดฟันสามารถทานได้อย่างสบายๆ /แป้งต๊อกโปกีแบบแท่งใหญ่/เห็ดหอมสด/ใบงาหั่นท่อน/ต้นหอมหั่นท่อน/กระหล่ำปลีฝอยและหมูสามชั้นสไลด์ล้อมรอบกระทะ มาถึงพนักงานจะเปิดเตาและผัดทุกอย่างให้เข้ากัน และรอจนน้ำงวดเล็กน้อย(พอซอสเคลือบปลาหมึก) จากนั้นห่อด้วยผักต่างๆได้ตามใจ แต่ทางร้านแนะนำให้ทานกับใบงาถือว่าดีงามมาก ปลาหมึกเนื้อกรอบทานกับเนื้อหมูสามชั้นและแป้งต๊อกนุ่มๆ หอมกลิ่นใบงาขึ้นจมูกเข้ากันได้ดีกับซอสรสหวานเผ็ด (ถึงจะเผ็ดเบอร์ 3 แต่ส่วนตัวรู้สึกว่าเผ็ดกำลังดี) ไม่เหม็นกลิ่นคาวปลาหมึก(ทางร้านล้างมาเป็นอย่างดี) และกลิ่นเฉพาะของโคชูจัง ทานเคียงกับผักดองต่างๆเปลี่ยนรสชาติไปเรื่อยๆ บอกเลยว่าอร่อยฟินห์ถึงใจเลยครับ
เมนูต่อไปมาเสิร์ฟคือ "บูลเดจิเก" หรือหม้อไฟทหารเกาหลี(ใครอยากรู้ว่าทำไมถึงชื่อนี้ไปค้นหาใน Google เอา) ราคา 580 บาท หม้อนี้สำหรับทาน 2 คน ในหม้อประกอบไปด้วยแฮม/ไส้กรอกรมควัน/ไส้กรอกชีส/โบโลน่า/เต้าหู้ขาว/มันดู(เกี๊ยวไส้หมูสไตล์เกาหลี)/เบคอน/แป้งต๊อกสไลด์/กิมจิ/เส้นบะหมี่เกาหลี/ต้นหอมญี่ปุ่น/กุ้ยช่าย รวมๆคือแน่นเต็มหม้อ ราดด้วยน้ำซุปกระดูกปลาและสาหร่ายที่ต้มนานจนคอลลาเจนปลาออกมาเป็นสีขาวขุ่น ไม่เหมือนร้านไหน วิธีการทานคือไม่ต้องรีบร้อน ปล่อยต้มไปเรื่อยๆจนน้ำเริ่มงวดจะอร่อยกว่า หม้อนี้ไม่ได้ปรุงรสด้วยโคชูจังอย่างเดียว แต่ใส่เต้าเจี้ยวสูตรเฉพาะที่รสเค็มอ่อนๆผสมพริกป่นเกาหลีลงไปเพื่อให้น้ำข้น/เผ็ด ซดแล้วสะใจ ไม่เหม็นกลิ่นเฉพาะของโคชูจัง เปลี่ยนรสชาติและสัมผัสการเคี้ยวด้วยการเปลี่ยนวัตถุดิบในหม้อเรื่อยๆ ซดเพลินจนหยดสุดท้าย
เมนูอาหารทานเล่นเกาหลีออกมากันแบบรัวๆทั้ง "จับแช" ราคา 160 บาท ผัดวุ้นเส้นสไตล์เกาหลีเส้นเหนียวนุ่มสู้ฟัน ผัดในน้ำมันงาหอมๆ หวานด้วยรสผัดต่างๆทั้งหอมหัวใหญ่/ต้นหอม/แครอท/พริกหวาน และเพิ่มสัมผัสในการเคี้ยวด้วยเนื้อหมูอีกนิดนึง อร่อยดีแต่ชุ่มน้ำมันงาไปหน่อยนึง ต่อกันด้วย "คาลบีชิคเก้น" ราคา 120 บาท ปีกบนไก่ชุบแป้งทอดกรอบเคลือบด้วยซอสฮันนี่การ์ลิครสหวานหอมกระเทียมกลมกล่อม ราดซอสมาชุ่มฉ่ำดูเหมือนจะหวานเกินไปแต่รสชาติกลับอร่อยลงตัวกว่าที่คิด ดีงามไม่แพ้ไก่ทอดเกาหลีเจ้าดังเลยครับ สุดท้ายเป็น "ไข่ม้วนชีส" ราคา 150 บาท ไข่เจียวม้วนสไตล์เกาหลีนุ่มๆสอดไส้ด้วยชีสเพิ่มความหอมมัน ท๊อปปิ้งด้วยไข่ปลาบินปรุงรสกรุบกรอบๆมาด้านบน เสิร์ฟมาพร้อมซอสมะเขือเทศรสเปรี้ยวหวานเข้มข้น ช่วยลดความเลี่ยนจากไข่และชีสลงได้เยอะเลยครับ
ทานไปเรื่อยๆจนถึงโค้งสุดท้ายที่ใครเป็นคออาหารเกาหลีต้องชอบขั้นตอนนี้มากที่สุด นั่นคือการทำข้าวผัดจากซอสที่เหลือในกระทะ สั่งเป็นข้าวสวยผสมไข่ปลาบินไซส์เล็กราคา 120 บาท ข้าวญี่ปุ่นเม็ดกลมอ้วนผสมน้ำมันงา/สาหร่ายเส้น ผัดให้เข้ากับซอสปลาหมึกรสเผ็ดที่เหลืออยู่ในกระทะ เพิ่มความหรูหราด้วยการโรยไข่ปลาปรุงรสสไตล์ญี่ปุ่นลงไปถ้วยใหญ่ แผ่ให้ข้าวสุกกรุบกรอบแบบข้าวตังเพื่อความหอมกระทะเวลาทาน จะตักทานเปล่าๆหรือสั่งผักสดมาห่อทานคู่กันก็อร่อยสดชื่น หอมกลิ่นข้าวเกรียมๆ/น้ำมันงา/สาหร่าย/กรุบกรอบและกลมกล่อมด้วยไข่ปลาปรุงรส ทานคู่กับผักดองและเครื่องเคียงรสอื่นๆไปเรื่อยๆ เป็นการปิดท้ายมื้อที่เป็นนิพพานของสายเกาอย่างแท้จริงครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น