ในประเทศเกาหลี อาหารริมทางที่ได้รับความนิยมที่สุดในฤดูหนาวคือ ซุปออมุก หรือ โอเด้ง เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยว หรือแม้กระทั้ง คนเกาหลีเองในทุกเพศทุกวัย
วิธีทำ ออมุก ก็คือเริ่มจากนำเนื้อปลาชนิดที่จะใช้ นำก้างออกให้เรียบร้อย จากนั้นเอาเนื้อปลาที่ได้มาบดให้ได้ที่ จึงนำมาผสมกับแป้ง หมักให้เข้ากันจนเป็นเนื้อละเอียด แล้วนำไปต้มในนำ้ซุปที่เตรียมไว้ จากนั้นรอให้สุกได้ที่ ก็สามารถรับประทานได้เลย แนะนำให้ทานตอนที่ยังร้อนๆ จะอร่อยมาก หรือนำไปทำให้สุกในรูปแบบอื่นๆก็ได้
สำหรับออมุกของเกาหลีนั้น จะเลือกใช้เนื้อปลาที่มีสีขาว ซึ่งล้วนเป็นปลาคุณภาพดี ทำให้มีความมันวาว เด้ง นุ่ม ยืดหยุ่นเป็นพิเศษ ลักษณะออมุก ที่กล่าวข้างต้นคือ ออมุกที่ดี อุดมไปด้วยโปรตีนและกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูงช่วยยับยั่งคอเลสเตอรอลและลดโอกาสการเกิดโรคชรา
การผลิต ออมุกที่ดีต้องคำนึงถึงระยะเวลาในการเก็บรักษา นอกจากจะมีรสชาติอร่อยแล้ว เทคโนโลยีที่ใช้ในการแช่แข็งก็สำคัญมากเช่นกัน เพราะเมื่อนำมาต้ม ออมุกที่ดีควรยังมีความเป็นเอกลักษณ์ของออมุกคือไม่เละ มีความมันวาวที่ผิว เด้ง นุ่ม และยืดหยุ่น สำหรับออมุกของ K•Fish นั้น แน่นอนว่าได้รับการประเมินอย่างละเอียดตั้งแต่คุณภาพไปจนถึงความยืดหยุ่นทำให้อร่อยไร้กังวล
อุตสาหกรรมออมุกเกาหลี เดิมทีได้รับอิทธิพลมาจากชาวญี่ปุ่นในช่วงยุคอาณานิคมญี่ปุ่นในสมัยนั้น ตลาดขายปลาและออมุก ได้รับความนิยมสูงแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ผู้คนเริ่มหันมาผลิตและบริโภคออมุกมากขึ้น จนเป็นที่คุ้นเคยตั้งแต่นั้นมา
ชื่อปูซานออมุก (Busan Fish Cake) ได้รับความนิยมและเป็นที่ยอมรับมาจนถึงทุกวันนี้ คนเกาหลีเอง เมื่อพูดถึงออมุกก็จะนึกถึง ออมุกจากปูซาน หรือแม้พูดถึงปูซานก็จะนึกถึง ออมุก ตั้งแต่นั้นมาก็เลยกลายเป็นอาหารที่ใครๆก็ชอบเพราะหาซื้อได้ง่าย และกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอาหารเกาหลี ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเคียงจากออมุก ซุปออมุกหรือแม้กระทั่งออมุกเสียบไม้นานาแปรรูป ปรับให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้บริโภค
เมื่อไม่นานมานี้ ออมุกเกาหลีถูกนำเสนอในลักษณะ “ออมุก เบเกอรี่” โดยผลิตสดๆชิ้นต่อชิ้น เพื่อควบคุมคุณภาพและนำมาวางขายบนเคาน์เตอร์ จัดวางสวยงามไม่ต่างจากร้านเบเกอรี่ขนมปังสวยๆจากที่ขายริมถนนเป็นส่วนใหญ่ ก็มีไอเดียเพื่อเพิ่มมูลค่า ขายในลักษณะ ออมุกเบเกอรี่ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ
ออมุกเป็นอาหารที่มีโปรตีนสูงจึงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในทุกเพศทุกวัย ทุกเชื้อชาติอีกทั้งยังสามารถนำมาปรับแต่งเป็นรูปแบบต่างๆให้สอดคล้องกับความต้องการในตลาด ผู้คนสามารถเลือกซื้อได้ในหลากหลายรูปแบบ เช่นออมุกคร็อกเกตต์, ออมุกม้วนชีส,ออมุกม้วนเบคอน,ออมุกม้วนสาหร่าย, ออมุกผสมเนื้อปู เป็นต้น
ในออมุกเบเกอรี่ ผู้บริโภคสามารถนำถาดมาเดินเลือกซื้อเหมือนซื้อขนมปังตามร้านทั่วไปได้ ถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์แปลกใหม่ ในประเทศไทยและในต่างประเทศ ออมุกถูกรู้จักในชื่อโอเด้ง แท้จริงแล้วโอเด้งคือซุปออมุกส่วนออมุกที่ขายเป็นชิ้นหรือเสียบไม้พร้อมทานนั้นคือ คะมะโบะโกะ ในภาษาญี่ป่น
นอกจากนี้เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทางกระทรวงมหาสมทุรและการประมงสาธารณรัฐเกาหลีใต้ ได้จัดให้มีกิจกรรมพิเศษคือการจัดประกวด คิดชื่อ “ออมุก ” เป็นภาษาอังกฤษ รวมระยะเวลาทั้งหมด 2 เดือน เพื่อประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศโดยชื่อที่รับการคัดเลือกให้ได้รับรางวัลชนะเลิศก็คือ “Eomuk”
เมนูสุดฮิต ติดกระแส ในฤดูหนาวชาวเกาหลี 👍
ในประเทศเกาหลี อาหารริมทางที่ได้รับความนิยมที่สุดในฤดูหนาวคือ ซุปออมุก หรือ โอเด้ง เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยว หรือแม้กระทั้ง คนเกาหลีเองในทุกเพศทุกวัย
วิธีทำ ออมุก ก็คือเริ่มจากนำเนื้อปลาชนิดที่จะใช้ นำก้างออกให้เรียบร้อย จากนั้นเอาเนื้อปลาที่ได้มาบดให้ได้ที่ จึงนำมาผสมกับแป้ง หมักให้เข้ากันจนเป็นเนื้อละเอียด แล้วนำไปต้มในนำ้ซุปที่เตรียมไว้ จากนั้นรอให้สุกได้ที่ ก็สามารถรับประทานได้เลย แนะนำให้ทานตอนที่ยังร้อนๆ จะอร่อยมาก หรือนำไปทำให้สุกในรูปแบบอื่นๆก็ได้
สำหรับออมุกของเกาหลีนั้น จะเลือกใช้เนื้อปลาที่มีสีขาว ซึ่งล้วนเป็นปลาคุณภาพดี ทำให้มีความมันวาว เด้ง นุ่ม ยืดหยุ่นเป็นพิเศษ ลักษณะออมุก ที่กล่าวข้างต้นคือ ออมุกที่ดี อุดมไปด้วยโปรตีนและกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูงช่วยยับยั่งคอเลสเตอรอลและลดโอกาสการเกิดโรคชรา
การผลิต ออมุกที่ดีต้องคำนึงถึงระยะเวลาในการเก็บรักษา นอกจากจะมีรสชาติอร่อยแล้ว เทคโนโลยีที่ใช้ในการแช่แข็งก็สำคัญมากเช่นกัน เพราะเมื่อนำมาต้ม ออมุกที่ดีควรยังมีความเป็นเอกลักษณ์ของออมุกคือไม่เละ มีความมันวาวที่ผิว เด้ง นุ่ม และยืดหยุ่น สำหรับออมุกของ K•Fish นั้น แน่นอนว่าได้รับการประเมินอย่างละเอียดตั้งแต่คุณภาพไปจนถึงความยืดหยุ่นทำให้อร่อยไร้กังวล
อุตสาหกรรมออมุกเกาหลี เดิมทีได้รับอิทธิพลมาจากชาวญี่ปุ่นในช่วงยุคอาณานิคมญี่ปุ่นในสมัยนั้น ตลาดขายปลาและออมุก ได้รับความนิยมสูงแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ผู้คนเริ่มหันมาผลิตและบริโภคออมุกมากขึ้น จนเป็นที่คุ้นเคยตั้งแต่นั้นมา
ชื่อปูซานออมุก (Busan Fish Cake) ได้รับความนิยมและเป็นที่ยอมรับมาจนถึงทุกวันนี้ คนเกาหลีเอง เมื่อพูดถึงออมุกก็จะนึกถึง ออมุกจากปูซาน หรือแม้พูดถึงปูซานก็จะนึกถึง ออมุก ตั้งแต่นั้นมาก็เลยกลายเป็นอาหารที่ใครๆก็ชอบเพราะหาซื้อได้ง่าย และกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอาหารเกาหลี ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเคียงจากออมุก ซุปออมุกหรือแม้กระทั่งออมุกเสียบไม้นานาแปรรูป ปรับให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้บริโภค
เมื่อไม่นานมานี้ ออมุกเกาหลีถูกนำเสนอในลักษณะ “ออมุก เบเกอรี่” โดยผลิตสดๆชิ้นต่อชิ้น เพื่อควบคุมคุณภาพและนำมาวางขายบนเคาน์เตอร์ จัดวางสวยงามไม่ต่างจากร้านเบเกอรี่ขนมปังสวยๆจากที่ขายริมถนนเป็นส่วนใหญ่ ก็มีไอเดียเพื่อเพิ่มมูลค่า ขายในลักษณะ ออมุกเบเกอรี่ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ
ออมุกเป็นอาหารที่มีโปรตีนสูงจึงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในทุกเพศทุกวัย ทุกเชื้อชาติอีกทั้งยังสามารถนำมาปรับแต่งเป็นรูปแบบต่างๆให้สอดคล้องกับความต้องการในตลาด ผู้คนสามารถเลือกซื้อได้ในหลากหลายรูปแบบ เช่นออมุกคร็อกเกตต์, ออมุกม้วนชีส,ออมุกม้วนเบคอน,ออมุกม้วนสาหร่าย, ออมุกผสมเนื้อปู เป็นต้น
ในออมุกเบเกอรี่ ผู้บริโภคสามารถนำถาดมาเดินเลือกซื้อเหมือนซื้อขนมปังตามร้านทั่วไปได้ ถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์แปลกใหม่ ในประเทศไทยและในต่างประเทศ ออมุกถูกรู้จักในชื่อโอเด้ง แท้จริงแล้วโอเด้งคือซุปออมุกส่วนออมุกที่ขายเป็นชิ้นหรือเสียบไม้พร้อมทานนั้นคือ คะมะโบะโกะ ในภาษาญี่ป่น
นอกจากนี้เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทางกระทรวงมหาสมทุรและการประมงสาธารณรัฐเกาหลีใต้ ได้จัดให้มีกิจกรรมพิเศษคือการจัดประกวด คิดชื่อ “ออมุก ” เป็นภาษาอังกฤษ รวมระยะเวลาทั้งหมด 2 เดือน เพื่อประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศโดยชื่อที่รับการคัดเลือกให้ได้รับรางวัลชนะเลิศก็คือ “Eomuk”