สวัสดีค่ะ
มาอัพเดทการออกกำลังกาย และร่างล่าสุด จากการออกกำลังกายค่ะ กระทู้เก่าเป็นรีวิว ออกกำลังกาย ตอนนี้เข้าฟิตเนสได้ ปีกว่า ๆ แล้ว ออกตัวก่อนว่าเรา มีเทรนเนอร์ , เราเทรนกับ PTและ เทรนเองด้วย เราเข้าฟิตเนส 4-5 วันต่อสัปดาห์ วันล่ะ 1 ชั่วโมง บางอาทิตย์ฟิต ๆ ก็ ออกทั้งสัปดาห์ เสาร์อาทิตย์ เทรนตัวเอง
แรกๆ ออกกำลังกายก็ตั้งใจเพื่อ”ลดน้ำหนัก”ค่ะ อยากผอมว่างั้น 5555
แต่เมื่อเข้ายิม รู้จักการออกกำลังกายดีขึ้น คำว่า”ลดน้ำหนัก” กับ “อยากผอม” ก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไปค่ะ เพราะอะไรเหรอ?
อยากผอม ? เคยผอมล่ะ แห้งเชียว ก้นก็ไม่มี ด้วยความที่รูปร่างแทบไม่มีอะไรเลย สะโพก เอว ก้น ไม่มี ตอนผอม มันก็ก็จะเหมือน “ไม้ขีดไฟ” ค่ะ หัวกลมๆ แล้วก็ตรง ๆ มีไม้แท่งลงมา
ตอนน้ำหนักเยอะ ไขมันอุดมสมบูรณ์ เหรอ อู๊ยยยยยยย!!! พองยังอึ่งอ่าง อึดอัดมาก พุงชนนมค่ะ
ขาเบียดเดินแล้วเสียดสีกัน เป็นอะไรที่ ไม่ชอบมาก (อ้วนสุดตอนกินยารักษาไทรอยด์ค่ะ )
ตอนเข้ายิมอีกรอบ ความคิดเราคือ ต้องผอม ! ต้องเพรียว ! ผอมแล้ว หุ่นดี
ตอนที่เริ่มออกกำลังกายค่ะ เริ่มจากจุดนี้
แต่ยิมแรกที่เราสมัคร เป็นยิมหญิงล้วน PT ก็ผู้หญิงหมด และเกือบทุกคนประกวดเวทีหุ่นสวย (ที่ญี่ปุ่นนะคะ)
หุ่นเค้าไม่ได้ผอมนะคะ แต่หุ่นดี มีก้น มีเอว
ตอนแรกแน่วแน่มาก น้ำหนักต้องลด ชั่งตลอด 3 เดือนแรก ไม่ลดค่ะ เคืองนิด ๆ แต่....... รูปร่างเราเปลี่ยนแปลงค่ะ
แต่ที่ชอบที่สุด คือตัวแน่นขึ้น ไม่เหลว ไม่ย้วย เริ่มชอบ เริ่มไม่สนใจน้ำหนักแล้ว ที่นี้
คำว่า” หุ่นดี” ของเราก็เปลี่ยนไปค่ะ เรารู้ว่าเราทำให้เอวเราเล็งลง แล้วเพิ่มสะโพก เพิ่มก้น ได้
วู๊ๆๆๆๆๆ ความตั้งใจก็เปลี่ยนไป ทีนี้ก็ปั้นหุ่นค่ะ ไม่อยากผอม ไม่อยากน้ำหนักเท่านั้น เท่านี้แล้ว
อยากมีก้น อยากมีเอว อยากตัวแน่นๆ ใส่เสื้อผ้าแล้วสวยแทน
วิธีการออกกำลังกายของเราก็แบ่ง เล่นขา และ เล่นช่วงบน สลับกันไป พร้อมคาร์ดิโอ(วิ่ง , ปั่นจักรยาน)
ช่วงหลังมาหันมาเล่น CrossFit ก็จะได้ออกกำลังกายเกือบทุกส่วน ความอึดจะเยอะขึ้นหน่อย
เพราะส่วนมากเป็นออกกำลังกายแบบต่อเนื่องไม่พัก 20-30 นาที (เราก็พักบ้างแหละ ตายคาพื้นประจำ)
ส่วนเรื่องรูปร่าง เปลี่ยนไปเป็นรายเดือนค่ะ 555555555
อันนี้พูดจริง ๆ นัดกินข้าวกับเพื่อน ทุกครั้งเค้าจะทัก
เฮ้ย!!! ไหล่แกใหญ่ขึ้น ชอบรูปร่างแกเดือนที่แล้วมากกว่า
ว๊าว .... รอบนี้ก้นสวย
ช่วงนี้เอวใหญ่ ขาลีบ อะแก
เราชอบถ่ายรูปเช็คร่างกายตัวเองค่ะ เห็นความเปลี่ยนแปลงดี 55555 อย่างเราถ้าไปเที่ยวกลับมาที ตัวบวม เห็นชัดเลย
(กินอาหารเค็ม ขนม กินทุกอย่าง มาเที่ยวนิ ) สักอาทิตย์กว่า ๆ ก็กลับมาแบบเดิมค่ะ
พอเราเห็นตัวเองดีขึ้น มันก็มีกำลังใจทำทำให้ดีขึ้นไปอีก ให้มองระยะยาวนะคะ ไม่ใช่ 3 -7 วัน
แล้วเดี๋ยวนี้ข้อมูลในเน็ตก็ต้องระวัง ทั้งการกิน ทั้งการออกกำลังกาย เท่าที่เจอมา
ท่าก้นเด็งใน 14 วัน (คืออะไร ? จะลด จะหด ได้เร็วขนาดนั้น)
6 แพ็ค ภายใน 1 เดือน ? ( % ไขมันในร่างกายต้องน้อยพอที่กล้ามเนื้อหน้าท้องโผล่)
กินโปรตีนเพิ่ม 6 แพ็ค กล้ามท้อง (โปรตีนอะไรจะฉลาดขนาดนั้น มี GPS ในตัวด้วย รู้พิกัดว่าต้องไปไหน)
อีกหลายอย่างค่ะ อยากให้มีเสพอย่างมีสติ อย่างที่เราเขียนมา เราก็ไม่ใช่มีประสบการณ์ สอนใครได้
แนะนำได้ ลองปรับใช้กับตัวเองค่ะ เราแวดล้อมด้วยคนที่ออกกำลังกาย ตัวโต ๆ การกิน
การออกกำลังกาย เค้าแตกต่างกันหมดค่ะ สูตรใคร สูตรมันค่ะ
เราก็ไปยิมเก็บประสบการณ์ เก็บความรู้ ลองผิด ลองถูก อะไรที่ทำไม่ได้ ก็พยายามไปเรื่อย ๆ
เราจะไม่ค่อยมีรูปตอนออกกำลังกายนะคะ เพราะเวลาออกกำลังกายเราไม่จับโทรศัพท์ค่ะ นอกจากคนอื่นจะถ่ายให้ หรือแอบถ่ายติด
ส่วนเรื่องอาหารการกิน อันนี้สำคัญเชียว อย่าคิดว่าออกกำลังกายแล้วกินอะไรก็ได้ ไม่อ้วน ชั้นเอาออกไปแล้วนะคะ คือมันต้องสมดุลกัน
คำว่าสมดุลกัน อยู่ตรงไหน ? บอกไม่ได้ค่ะ เพราะร่างกายทุกคนแตกต่างกัน ทำกิจกรรมต่างกัน การใช้ชีวิตต่างกัน
แล้วทำยังไงให้สมดุล? ก็ต้องมามองการกิน การออกกำลังกาย กิจกรรมประจำวัน ใช้การสั่งเกต และปรับปรุงให้เข้ากับตัวเองล้วน ๆ ค่ะ ลองผิด ลองถูกค่ะ
ออกกำลังกายกลัวขาใหญ่ กล้ามใหญ่ ไม่จริง ผู้หญิงขึ้นยากมาก เรากลับกลัวกล้ามเนื้อหาย กลัวก้นหาย 55555
เราออกกำลังกาย 4-5 วัน ออกหนักด้วย และนี้คือสิ่งที่ได้
เราระบบเผาผลาญพัง กินพัง ร่างพัง ยังกู้ให้ดีขึ้นได้ แค่ อย่าท้อเท่านั้นค่ะ ออกกำลังกายไม่ได้อยู่ที่
อกกำลังกายไม่จำเป็นต้องที่ฟิตเนส ที่บ้านก็ทำได้ ไม่มีอุปกรณ์ก็ทำได้ body weights ทำให้ชิน เป็นนิสัย 15-30 นาที สุขภาพดีแน่นอนค่ะ
สอบถามได้นะคะ เราตอบแบบไม่หวง แนะนำได้เท่าที่เราเข้าใจ จากประสบการณ์ค่ะ ขอบคุณที่แวะมาค่ะ Instagram: romie_ss
เมื่อสาวไทย ไปแปลงร่างที่ฟิตเนสญี่ปุ่น