สวัสดีค่ะ ขอเล่าย้อนกลับไป 3 ปีที่แล้ว ผลจากการมุ่งมั่นปฏิบัติภาระกิจกู้ชาติงานออฟฟิตอยู่เป็นปีๆ มารู้ตัวอีกที เจ้าของกระทู้ร่างพังมากค่ะ วันๆทำแต่งาน กินนอนไม่เป็นเวลา อย่าได้ถามเรื่องออกกำลังกาย แค่ลุกเดินจากโต๊ะทำงานไปห้องน้ำ ก็ถือว่ามากพอแล้ว จนอดรนทนสภาพตัวเองไม่ไหว จากที่น้ำหนักไม่เคยเกิน 60 ผ่านไป 1 ปี ขยับขึ้นไปแตะที่ 69 (บางทีก็ 70) ถึงกับร้องไม่ออกเลยทีเดียว
รูปตอนน้ำหนัก 69 กก. ตัวแทบแตก (มกราคม 59)
ตอนนั้นลองปรึกษาพวกเทรนออนไลน์ที่ขายพร้อมอาหารเสริมก็เน้นคุมอาหาร ไม่เน้นออกกำลังกาย เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลา บลาๆๆ ดูจากทรงน่าจะได้แค่ผอม แต่ไม่ฟิตแอนด์เฟิร์ม เลยตัดสินใจเด็ดขาด ยอมควักตังค์ซื้อสมาชิกฟิตเนสแบบรายปี จากความตั้งใจที่จะยกเวทแบบเบาๆ ไลท์ๆ เหมือนชะนีทั่วไปเค้ายกกัน แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือโคตรจะล่ำ กล้ามกับไขมันผสมกันอยู่ในร่างเดียว ที่สำคัญน้ำหนักสวิงมาก ขึ้นๆลงๆ ช่วงแรกๆลงมาประมาณ 2-3 กก. เล่นๆไป ทำไมมันขึ้นมาอีกแระ สุดท้ายน้ำหนักจบที่ 68 กก.

รูปตอนเข้าฟิตเนส มีความหนาและแน่น

ผ่านไป 4 เดือน เริ่มมีความล่ำ

น้ำหนักกลับมาที่ 68 กก. โคตรช้ำใจ ที่ผ่านมามันคืออะไร??????
สาเหตุหลักมาจาก
ข้อแรก ไม่คุมอาหาร เพราะมีความเชื่อที่ผิดๆ ว่า กินไปเหอะ เดี๋ยวค่อยไปเอาออก บุฟเฟ่ชาบู หมูกระทะ ที่ไหนว่าแน่ พรี่ไปลองมาหมด ตามมาด้วยเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ที่ไม่เคยว่างเว้น อาทิตย์นึงต้องมี 2-3 วัน
ข้อสอง ไม่คาดิโอ เข้าฟิตเนสเมื่อใด ต้องพุ่งตัวเข้าไปยกเวทอย่างเดียว ไม่แม้แต่จะเดินวอร์มให้เสียเวลา
ข้อสาม ไม่คุมน้ำหนักของเวทให้คงที่ ยกแล้วไม่เจ็บไม่เลิก ต้องเพิ่มน้ำหนักขึ้นเรื่อยๆ ล่ำกว่าพรี่ก็เทรนเนอร์ที่ฟิตเนสหล่ะค่ะ
กลุ้มใจถึงขีดสุด ประกอบกับสมาชิกหมดอายุ จะไปต่อหรือพอแค่นี้ สับสนวนเวียนอยู่พักนึง ก็เริ่มมองหาหนทางใหม่ อยากลองเปลี่ยนแนวบ้าง
สุดท้ายตัดสินใจลงเรียนมวยไทย ช่วงเดือนแรกเรียนประมาณอาทิตย์ละ 3 วัน

บั้นท้าย แขนและท่อนขาอันทรงพลังนั้น ได้มาจากการเล่นเวทอย่างหนักและตามใจปาก ล่ำทั้งตัว ไม่ต้องกลัวเวลาเดินในซอยเปลี่ยว
ก็ยังไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่ เพราะไม่คุมอาหาร จนในที่สุด ลองดูอีกครั้งเป็นงัยเป็นกัน ลองลงเรียนแบบจริงจัง ควบคู่กับการคุมอาหาร หลักๆคือไม่ทานมื้อดึก ไม่ทานจุกจิก ดื่มน้ำให้ได้วันละ 2 ลิตร

ค่อยๆเห็นผลทีละช้าๆ ไม่รีบ ไปเรื่อยๆ

สัดส่วนและน้ำหนักลดลงตามลำดับ

ริ้วๆอะไรแวปๆที่หน้าท้อง

เอสสสสสสสสส เตะหนักๆจะได้เบิร์นๆ

ในบางมุมก็ยังมีความหนาของมวลร่างกายอยู่นะ

5 เดือนผ่านไป พอให้เห็นความแตกต่างในชุดเดิม
สรุปลงเรียนมวยไทยมาได้ครบปี น้ำหนักลงมาแตะที่ 63 แต่สัดส่วนลดลงทั้งตัว ได้กล้ามเนื้อมาแทนที่ ป้าแฮปปี้มากๆ


ปล.1 ไม่ใช่กระทู้พลีชีพนะคะ เพราะยังไม่ลีนทั้งตัว ยังมีไขมันสะสมอยู่อีกหลายจุด แต่สำหรับคนวัย 40+ ถือว่าเป็นอะไรที่พอใจในระดับนึงเลย
และอยากจะบอกว่า ถ้าเจ้ทำได้ คุณๆทั้งหลายก็ทำได้ค่ะ สาวๆ อย่าให้อายเจ้นะคะ เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังลดความอ้วนค่ะ ทำเพื่อตัวเอง และรักตัวเองให้มากๆ
ปล.2 ตั้งใจจะเรียนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะไม่มีแรงต่อยค่ะ อยากรู้ว่าตัวเองจะไปจบที่อายุเท่าไหร่ ^^
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกันนะคะ วิชาการไม่ค่อยมี เพราะคนอื่นเค้าโพสต์กันเยอะแล้ววววววว
ชะนีวัย 40+ กับกีฬามวยไมย ที่ใครๆก็ต่อยได้
รูปตอนน้ำหนัก 69 กก. ตัวแทบแตก (มกราคม 59)
ตอนนั้นลองปรึกษาพวกเทรนออนไลน์ที่ขายพร้อมอาหารเสริมก็เน้นคุมอาหาร ไม่เน้นออกกำลังกาย เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลา บลาๆๆ ดูจากทรงน่าจะได้แค่ผอม แต่ไม่ฟิตแอนด์เฟิร์ม เลยตัดสินใจเด็ดขาด ยอมควักตังค์ซื้อสมาชิกฟิตเนสแบบรายปี จากความตั้งใจที่จะยกเวทแบบเบาๆ ไลท์ๆ เหมือนชะนีทั่วไปเค้ายกกัน แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือโคตรจะล่ำ กล้ามกับไขมันผสมกันอยู่ในร่างเดียว ที่สำคัญน้ำหนักสวิงมาก ขึ้นๆลงๆ ช่วงแรกๆลงมาประมาณ 2-3 กก. เล่นๆไป ทำไมมันขึ้นมาอีกแระ สุดท้ายน้ำหนักจบที่ 68 กก.
รูปตอนเข้าฟิตเนส มีความหนาและแน่น
ผ่านไป 4 เดือน เริ่มมีความล่ำ
สาเหตุหลักมาจาก
ข้อแรก ไม่คุมอาหาร เพราะมีความเชื่อที่ผิดๆ ว่า กินไปเหอะ เดี๋ยวค่อยไปเอาออก บุฟเฟ่ชาบู หมูกระทะ ที่ไหนว่าแน่ พรี่ไปลองมาหมด ตามมาด้วยเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ที่ไม่เคยว่างเว้น อาทิตย์นึงต้องมี 2-3 วัน
ข้อสอง ไม่คาดิโอ เข้าฟิตเนสเมื่อใด ต้องพุ่งตัวเข้าไปยกเวทอย่างเดียว ไม่แม้แต่จะเดินวอร์มให้เสียเวลา
ข้อสาม ไม่คุมน้ำหนักของเวทให้คงที่ ยกแล้วไม่เจ็บไม่เลิก ต้องเพิ่มน้ำหนักขึ้นเรื่อยๆ ล่ำกว่าพรี่ก็เทรนเนอร์ที่ฟิตเนสหล่ะค่ะ
กลุ้มใจถึงขีดสุด ประกอบกับสมาชิกหมดอายุ จะไปต่อหรือพอแค่นี้ สับสนวนเวียนอยู่พักนึง ก็เริ่มมองหาหนทางใหม่ อยากลองเปลี่ยนแนวบ้าง
สุดท้ายตัดสินใจลงเรียนมวยไทย ช่วงเดือนแรกเรียนประมาณอาทิตย์ละ 3 วัน
ก็ยังไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่ เพราะไม่คุมอาหาร จนในที่สุด ลองดูอีกครั้งเป็นงัยเป็นกัน ลองลงเรียนแบบจริงจัง ควบคู่กับการคุมอาหาร หลักๆคือไม่ทานมื้อดึก ไม่ทานจุกจิก ดื่มน้ำให้ได้วันละ 2 ลิตร
สรุปลงเรียนมวยไทยมาได้ครบปี น้ำหนักลงมาแตะที่ 63 แต่สัดส่วนลดลงทั้งตัว ได้กล้ามเนื้อมาแทนที่ ป้าแฮปปี้มากๆ
ปล.1 ไม่ใช่กระทู้พลีชีพนะคะ เพราะยังไม่ลีนทั้งตัว ยังมีไขมันสะสมอยู่อีกหลายจุด แต่สำหรับคนวัย 40+ ถือว่าเป็นอะไรที่พอใจในระดับนึงเลย
และอยากจะบอกว่า ถ้าเจ้ทำได้ คุณๆทั้งหลายก็ทำได้ค่ะ สาวๆ อย่าให้อายเจ้นะคะ เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังลดความอ้วนค่ะ ทำเพื่อตัวเอง และรักตัวเองให้มากๆ
ปล.2 ตั้งใจจะเรียนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะไม่มีแรงต่อยค่ะ อยากรู้ว่าตัวเองจะไปจบที่อายุเท่าไหร่ ^^
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกันนะคะ วิชาการไม่ค่อยมี เพราะคนอื่นเค้าโพสต์กันเยอะแล้ววววววว