[CR] รสดีเด็ดสเต็กเฮาส์ บุฟเฟ่ต์สเต็กคุณภาพ

เมื่อเดือนก่อน เห็นโฆษณาบุฟเฟ่ต์ร้านเสต็กรสดีเด็ด ราคา 750 บาท จองผ่าน Hungry Hub จากที่เคยไปกินแบบตามสั่งมา 2 ครั้ง พอเห็นราคานี้ ก็เลยกดจองไป แต่กว่าจะหาวันว่างได้ ก็วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม รอบนี้มากัน 5 คน

ร้านนี้ เจ้าของคือคุณนพ เป็นเจ้าของเดียวกันกับร้านปิ้งย่างรสดีเด็ดที่ตั้งห่างไปราวๆ 200 เมตร ร้านปิ้งย่างจะอยู่ก่อนถึงจุฬาซอย 9 ส่วนร้านสเต็กจะอยู่ก่อนถึงจุฬาซอย 5 ถ้ามาจากหัวลำโพงมุ่งหน้าแยกสามย่าน ร้านจะอยู่เลยแยกบรรทัดทองมาราวๆ 100 เมตร

มาถึงร้านเกือบๆบ่าย 2 เจอคุณนพเจ้าของร้าน เลยได้คุยกันนิดหน่อย ได้ความว่า คุณนพอยากให้คนได้กินเนื้อสเต็กดีๆในราคาที่พอจับต้องได้ เลยจัดโปรนี้ขึ้นมา และน่าจะยังมีต่อไปเรื่อยๆ และกำลังจะจัดบุฟเฟ่ต์อีกระดับในราคาที่แพงกว่านี้ โดยบุฟเฟ่ต์สเต็กแบบพรีเมี่ยม จะมีเนื้อวากิวระดับ A4 จากญี่ปุ่น (ถ้าผมจำไม่ได้ว่าเป็นส่วนริบอายหรือเซอร์ลอยด์) และจะมีหอยโฮตาเตะย่างบนฝามาเสิร์ฟเป็นตัวๆ ซึ่งราคายังอยู่ระหว่างตัดสินใจอยู่ว่าจะตั้งราคาไหน

หน้าตาของเนื้อวากิวญี่ปุ่นจะเป็นแบบนี้ครับ

คุยกันพอหอมปากหอมคอ พอสมาชิกมาพร้อม ก็เริ่มสั่งอาหารเลย
ก่อนอื่นขอโชว์รายการอาหารก่อน ในการสั่ง มีเงื่อนไขเล็กน้อยตรงที่ รายการที่ 1-7 สามารถสั่งได้คนละ 1 ที่เท่านั้น ส่วนรายการที่เหลือ จะสั่งซ้ำเท่าไหร่ก็ได้ ส่วนเวลา ผมไม่แน่ใจว่าให้เท่าไหร่ แต่ผมนั่งกันเต็ม 2 ชม.จากบ่าย 2 ถึงบ่าย 4

เริ่มจากซีซ่าสลัดก่อนเลย รสชาติมาตรฐาน เบคอนเค็มกำลังดี น้ำสลัดรสไม่จัดเกินไป เข้ากันได้ดี รายการนี้จัดไป 2 จาน

ต่อด้วยของกินเล่น 3 อย่าง 
เริ่มด้วยเฟรนช์ฟราย ทอดมาร้อนๆ โรยผงปาปริก้า จิ้มกับทาทาร์ซอส ซึ่งเป็นรสชาติที่ผมไม่เคยเจอจากที่อื่น จากการสอบถาม ทางร้านผสมแตงกวาดองที่ร้านดองเอง เอามาสับละเอียดผสมลงไป อร่อยจนต้องสั่งซ้ำเพิ่มอีกจาน ทั้งๆที่จริงๆอยากเก็บท้องไว้ลุยกับเนื้อมากกว่า

ต่อด้วยหัวหอมทอด มากับซอสบาร์บีคิวรสอ่อนๆ เข้ากันได้ดี อร่อยจนต้องสั่งเพิ่มอีกเช่นกัน

ของกินเล่นอีกรายการคือ Buffalo Wing จานนี้ผมไม่ได้ลอง แต่น้องๆที่ไปด้วยกันบอกว่า ต้องกินตอนร้อนๆ 
ส่วนตัวผมเองเคยลองรายการนี้แล้วตอนที่มากินแบบสั่งเป็นจานๆ ซอสที่มาด้วยกันผสมบลูชีส เสิร์ฟพร้อมเซอรอรี่ ซึ่งผมไม่ค่อยชอบบลูชีสเท่าไหร่ เลยกินแค่ไก่ ไม่ได้กินเครื่องเคียง

มาเริ่มจานหลักกันเลย เริ่มด้วย Ribeye (Dye-Aged) 
จานที่อยู่ในรายการที่ 1-7 จะเสิร์ฟมาพร้อมผักย่าง
ทุกจานที่สั่ง จะสั่งแบบมีเดียม เพราะทุกคนที่ไปด้วยกินระดับนี้กัน
จานนี้สั่งไป 2 ที่ เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ หอมกลิ่นเนื้อ แนะนำให้ลอง

จานต่อมาเป็น T-Bone (Thai Beef)
สั่งไป 2 ที่เช่นกัน เนื้อนุ่มและหอมเช่นกัน แนะนำให้สั่ง

จานต่อมาเป็น Sirloin (Dye-Aged) จานนี้สั่งไปแค่ 1 ที่ เพราะโควต้าหมด เนื้อมาดีอีกเช่นกัน นุ่ม หอม ถ้ากินมันได้ ก็จัดการไปพร้อมเนื้อเลยครับ

จานต่อมาเป็น Sirloin (Thai Beef) 
เนื้อตัวนี้ จะเหนียวขึ้นมาหน่อยนึง แต่ก็ยังถือว่านุ่มอยู่ ถ้าท้องยังไม่อิ่ม ก็สั่งกระหน่ำได้ครับ 
จานนี้จัดไป 2 ที่

จานต่อมาเป็น Tenderloin (Dye Aged) สั่งมา 2 ที่ เพราะน้องคนนึงที่ไปด้วยชอบส่วนนี้
เนื้อนุ่มขนาดเอามีดกดก็แทบขาดแล้ว แต่ผมกลับเฉยๆกับจานนี้ เพราะรู้สึกว่า ความหอมมันสู้ส่วน Sirlion ไม่ได้
ส่วนตัวแล้ว เนื้อสเต็กส่วนที่ผมชอบคือ ทีโบน - ริบอาย - เซอร์ลอยด์ - เทนเดอร์ลอยด์ ตามลำดับครับ

จานต่อมาเป็นเนื้อพีคาน่า จานนี้ไม่ได้อยู่ในรายการ แต่คุณนพจะเอาเข้ามารวมในรายการ เริ่มเดือนเมษายน วันนี้คุณนพเลยจัดมาให้ลองชิม 2 จานครับ
เนื้อส่วนนี้ เป็นส่วนที่อยู่เหนือสะโพก รสชาติจะเหนียวหนึบขึ้นมาเล็กน้อย แต่จะชุ่มฉ่ำน้ำจากเนื้อ เคี้ยวเพลินครับ

ในส่วนของซอส ที่ร้านมีให้เลือก 4 แบบคือ ซอสเห็ด ซอสพริกไทยดำ ซอสไวน์แดง และน้ำจิ้มแจ่ว
คุณนพคุยให้ฟังว่า น้ำเกรวี่ที่นำมาทำซอส มาจากการเคี่ยวกระดูกวัวหลายสิบชั่วโมง รสชาติซอสจึงออกมาอร่อย
วันที่ไป ซอสเห็ดหมด เลยลองแค่ 3 แบบที่เหลือ
ซอสพริกไทยดำ อร่อย เข้ากันได้ดีกับเนื้อทุกจาน
ซอสไวน์แดง ตัวนี้รสอ่อนกว่า อธิบายรสชาติไม่ถูก แต่กินแล้ว รู้สึกว่ามันช่วยขับรสชาติของเนื้อให้เด่นขึ้นมาอีก (ลืมถ่ายรูปมา)
น้ำจิ้มแจ่ว อันนี้ผมลองชิมแล้ว มันออกรสหวาน เลยไม่ได้จิ้มตัวนี้เลย
โดยรวมแล้ว ถึงแม้จะไม่จิ้มซอส ในตัวของเนื้อเองก็อร่อยอยู่แล้ว เนื้อดีๆ แค่โรยเกลือ-พริกไทย มันก็อร่อยในตัวมันเองอยู่แล้ว

ลองสั่ง ข้าวกะเพราเนื้อน่อง+ไข่ดาว กับ สปาเก็ตตี้กะเพราเนื้อ มาลองอย่างละจาน
สปาเก็ตตี้ เผ็ด รสจัด เนื้อหั่นเต๋า เคี้ยวหนึบดี
ข้าวกะเพรา เนื้อน่องหั่นมาเป็นแผ่น รสจะออกเค็มกว่านิดนึง เผ็ดและรสจัดเช่นกัน กินกับข้าวสวยจะเข้ากันพอดี ไข่ดาวทอดมาแบบไข่ขาวกรอบ ไข่แดงยังเป็นยางมะตูมอยู่
เป็น 2 จานที่แนะนำให้สั่ง ถ้าใครกินเผ็ดไม่ได้มาก ควรแจ้งพนักงานด้วย เพราะเผ็ดมากจริงๆ เนื่องจากใช้พริกขี้หนูสวน แต่สำหรับผมแล้ว กะเพราะมันต้องเผ็ดแบบนี้แหละ และถ้าจะสั่ง ควรจะกินหลังจากจบกับพวกสเต็กต่างๆก่อน เพราะว่ารสมันจัด ไปกินสลับกับสเต็ก เดี๋ยวรสชาติมันจะไปตีกัน

อิ่มแล้วก็ตบท้ายด้วยขนมล้างปากซักหน่อย มีให้เลือก 2 อย่างคือ ลูกตาลลอยแก้ว กับ สัปปะรดลอยแก้วในน้ำเสาวรส
ผมสั่งสัปปะรดไป รสชาติหวานๆเปรี้ยวๆ กินแล้วชื่นใจ
ได้ลองชิมลูกตาลลอยแก้วคำนึง มันออกหวานอย่างเดียว ผมว่าเอารสเปรี้ยวๆมากินจบท้ายน่าจะดีกว่า

ในส่วนของสเต็ก จะเสิร์ฟมาแบบนี้ โดยข้างล่างจะมีถ่านใส่มานิดหน่อย น่าจะเพื่อให้เนื้อไม่เย็นเร็ว แต่ก็ไม่ควรทิ้งไว้นาน เพราะความร้อนจะทำให้เนื้อสุกขึ้นมาอีกนิดนึง
ในส่วนของผักย่าง ผมว่าทำมาได้ดีทั้ง 3 อย่าง มะเขือเทศผมจัดหมดไม่มีเหลือ แต่แตง (น่าจะเป็นซูกินี่) กัยฟักทอง กินไปแค่บางส่วน เพราะกลัวจะไม่เหลือท้องไว้กินเนื้อ
บรรยากาศร้าน จัดได้ดี (ไม่ได้ถ่ายรูปมา เพราะเกรงใจลูกค้าคนอื่นๆ) มีตู้โชว์เนื้อ และส่วนของครัวก็ทำเป็นห้องกระจก ย่างกันให้เห็นๆเลย โต๊ะจะมี 2 แบบ แบบที่เป็นโต๊ะกินข้าวธรรมดา กับแบบที่เป็นชุดโซฟา แล้วแต่ลูกค้าจะเลือกนั่งแบบไหน

เป็นร้านที่สายเนื้อไม่ควรพลาด ส่วนตัวผม กะว่าเดือนหน้าจะไปจัดอีกซักรอบ ราคา 750 บาทถือว่าคุ้มมาก เพราะจากที่เคยไปกินแบบสั่งเป็นจาน ถ้าผมจะกินให้อิ่มเหมือนที่ไปกินแบบบุฟเฟ่ต์ คงต้องจ่ายราวๆ 1,500 บาท
หวังว่าทางร้านจะยังคงราคานี้ไปนานๆนะครับ จะได้ไปอุดหนุนอยู่เรื่อยๆ
ชื่อสินค้า:   รสดีเด็ดสเต็กเฮาส์
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่