Who is the Killer? บทที่ ๕

กระทู้สนทนา
อเนชากลับมาเยี่ยมบ้านแล้ว ที่บ้านจะเป็นอย่างไรบ้าง ไปอ่านต่อกันเลยค่ะ

ความเดิม
บทที่ ๑ https://pantip.com/topic/37540847
บทที่ ๔ https://pantip.com/topic/37820232

###

บทที่ ๕

บ้านเดี่ยวสองชั้นมีรั้วรอบขอบชิด ตั้งอยู่ในหมู่บ้านที่มีชื่อ และมีการจัดการเป็นอย่างดี

อเนชายืนอยู่ที่หน้าบ้าน ยืนมองหน้าต่างชั้นสองอยู่เนิ่นนาน ผ่านไปครึ่งชั่วโมงก็ยังไม่ขยับไปไหน

ก่อนหน้านี้เขาเห็นมันเป็นแค่บ้านหลังหนึ่ง เป็นแค่ที่อยู่ เป็นสถานที่ซึ่งเขาจะกลับมาหลังเลิกงาน และออกไปอีกครั้งในตอนเช้า หรือบางวันก็ไม่กลับเอาเสียเลย

ทว่าเวลานี้เขามองมัน นึกถึงคืนก่อน เขายังนอนอยู่ที่นี่ บนห้องชั้นสองนั่น

เขาถอนหายใจออกมาแรงๆ ก้าวหนักๆ ไปที่ประตูรั้ว เอื้อมมือจะปลดแม่กุญแจเพื่อเปิดประตู แต่ก็ชะงักไปเพราะนึกขึ้นได้ว่าเขาไม่มีกุญแจไข จากนั้นจึงค่อยนึกได้อีกว่า...ไม่จำเป็น

เขาเดินผ่านประตูรั้วเข้าไป ก้าวไปยืนในที่จอดรถ ชำเลืองมองรถยนต์สีเงินซึ่งจอดอยู่ที่นั้น

รถของพ่อ วันนี้พ่อคงไม่ได้ออกไปไหนกระมัง อันที่จริงถึงพ่อจะเกษียณแล้ว แต่ก็ยังรับเป็นที่ปรึกษาให้บริษัทสองสามแห่ง บางครั้งจึงต้องออกไปทำงานบ้าง ซึ่งพ่อก็บอกว่าดี จะได้ไม่ต้องนั่งเฉาอยู่กับบ้านเฉยๆ

เขาเงยหน้ามองไปที่ประตูบ้าน ค่อยๆ ย่างเท้าก้าวผ่านประตูเข้าไป

ในบ้านไม่มีคนอยู่... เขากวาดมองไปรอบๆ ข้าวของภายในบ้านยังคงเป็นระเบียบเรียบร้อย ฝีมือแม่สินะ แม่เจ้าระเบียบยิ่งกว่าใคร เห็นอะไรผิดที่ผิดทางเป็นต้องบ่น บ่นจนเขาต้องเอาไปเก็บเข้าที่นั่นละ

เขาเดินไปที่ห้องนั่งเล่น แหงนหน้ามองดูรูปครอบครัวที่แขวนอยู่บนผนังตรงข้ามกับชุดโต๊ะรับแขก มองอยู่สักพักจึงค่อยเลื่อนสายตาไปยังชั้นหนังสือที่ด้านข้าง

บนชั้นนั้นมีหนังสือวิชาการของพ่อ หนังสือจัดบ้านจัดสวนของแม่ นิยายกำลังภายในที่เขาชอบอ่าน และนิยายโรแมนติกของยายตัวเล็ก ยังมีหนังสือท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่เขาเพิ่งซื้อให้น้องวางสอดอยู่ในชั้นพร้อมกับที่คั่นหนังสือเล็กๆ เสียบทิ้งไว้ประมาณหน้าท้ายๆ

เขาอมยิ้มนิดหนึ่ง ยายตัวเล็กอยากไปญี่ปุ่น เขาจึงบอกให้อ่านหนังสือไปก่อน น้องบ่นอุบว่าอ่านแต่หนังสือจะไปสนุกอะไร แต่ถึงอย่างนั้นก็อ่านจนเกือบจบแล้วนี่นะ

นึกถึงตรงนี้แล้วเขาก็ถอนหายใจเบาๆ ทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้รับแขก ซุกหน้ากับฝ่ามือตนเอง พลันร่างกายก็รู้สึกหนาวขึ้นมา

ทันทีที่รู้สึกหนาว เขาก็สะดุ้ง หันซ้ายหันขวามองหาตัวแทนบริษัทไถ่วิญญาณ

หญิงสาวยืนอยู่ข้างเขา เยื้องไปทางด้านหลังนิดหนึ่ง ไม่ทราบว่าตามเขามาตั้งแต่เมื่อไร ในมือเธอหิ้วเตาถ่านที่กำลังติดไฟกรุ่นอยู่ด้วย

"ผม...หนาว" เขาบอกเป็นเชิงขอความช่วยเหลือ ตัวแทนสามสี่เจ็ดก็ก้มลงวางเตาถ่านลงบนพื้นข้างเท้าของเขา จากนั้นจึงยืดกายขึ้นพร้อมกับกอดอก

"พัฒนาขึ้นนี่" เธอเอ่ยเหมือนเป็นคำชม วิญญาณหนุ่มจึงหัวเราะกลบเกลื่อน พลางอังมือกับเตาถ่านั้น

อึดใจต่อมา เสียงประตูรั้วก็พลันดังขึ้น อเนชายืดกายชะโงกหน้าออกไปดูทางหน้าต่าง เห็นครอบครัวเขากลับมากันแล้ว มีรถใครไม่ทราบขับมาส่ง

ทุกคนมีสีหน้าเศร้าซึม พ่อเดินประคองแม่เข้ามาในบ้าน ยายตัวเล็กก็เดินก้มหน้าตามมา

พอเข้ามาในบ้านแล้ว แม่ก็หยุดนิดหนึ่ง ยกมือเช็ดน้ำตาที่ซึมออกมาเบาๆ ก่อนจะหันไปบอกกับพ่อและน้องสาว

"หิวกันรึเปล่า เดี๋ยวจะไปหาอะไรมาให้กินนะ" แล้วแม่ก็เดินช้าๆ เข้าครัวไป

"หนู...ขึ้นไปบนห้องก่อนนะคะ" น้องสาวของเขาว่า แล้ววิ่งก้มหน้าขึ้นบันไดไปเช่นกัน

พ่อของเขายืนอยู่ที่ตรงนั้น มองตามหลังน้องไปสักพัก จึงค่อยก้าวเข้ามาในห้องนั่งเล่น เหม่อมองรูปครอบครัวอย่างที่เขาทำเมื่อครู่ ไม่นานนัก เขาก็เห็นน้ำตาพ่อค่อยๆ ไหลออกมา...

เห็นเช่นนั้นแล้วความหนาวก็เริ่มจับกายเขาอีก เขารีบหันกลับไปอังมือกับเตาถ่าน แต่จนแล้วจนรอดความหนาวก็ยังไม่คลาย เขาจึงหันไปทางตัวแทนสามสี่เจ็ดเพื่อขอความช่วยเหลือ

หญิงสาวไม่พูดไม่จา ยกเตาถ่านขึ้นเทลงมาที่เท้าเขา ทันใดนั้นถ่านติดไฟร้อนแดงพลันขยายใหญ่จนแทบจะสุมมิดหัวเข่า ทว่ายายนั่นยังไม่สาแก่ใจ เธอคว้าพัดสานขนาดยักษ์ออกมาพัดใส่ถ่านเหล่านั้นจนไฟลุก แทบจะย่างเขาทั้งเป็น...ไม่ใช่สิ ย่างเขาทั้งวิญญาณ

เขาตระหนกจนหายเศร้า ไม่นานนักไฟก็มอดลง เขาจึงถอนหายใจยาว มองไปที่บิดาอีกครั้ง พ่อยังคงเหม่อมองรูปครอบครัวอยู่ เขาไม่อยากเสี่ยงกลายเป็นน้ำแข็งอีกจึงละจากมา ก้าวขึ้นบันไดไปยังห้องน้องสาว

ยายตัวเล็กนั่งอยู่ที่เตียง ในมือมีตุ๊กตาหมีมอมแมมที่เขาซื้อให้เมื่อนานมาแล้ว เขาเห็นน้องมองตุ๊กตาหมีนั้นอยู่นานสองนานจนคิดว่าจะออกจากห้องไปดูแม่บ้าง แต่แล้วเขาก็เห็นหมัดเล็กๆ เงื้อขึ้น แล้วชกตุบไปที่หน้าตุ๊กตาจนบี้

จากนั้นหมัดที่สองที่สามก็ตามมา น้องของเขาชกตุ๊กตารัวๆ จนเหนื่อยแล้วจึงค่อยตวาดใส่มัน

"ไอ้พี่บ้า!" เขาสะดุ้งขึ้นทันที "ไหนสัญญาว่าจะพาเค้าไปเที่ยวญี่ปุ่นไง รีบตายก่อนทำไมวะ"

อเนชาก้มหน้าลงนิดหนึ่ง จำได้ว่าตนสัญญาไว้อย่างนั้น ยังไม่ทันได้ทำตามสัญญาก็กลับมาตายเสียก่อน

"ใช่สิ ตัวเองคิดจะเบี้ยวเค้าใช่ไหมล่ะ" น้องยังคงตัดพ้อกับตุ๊กตาหมี "ไม่อยากพาเค้าไปก็บอกมาตรงๆ สิ ไม่เห็นต้องตายเลย" เธอว่าแล้วก็ทำหน้าเบ้ ในที่สุดก็ซุกหน้ากับตุ๊กตาหมี ร้องไห้โฮออกมา

เขาก้าวเข้าไปใกล้น้อง ยื่นมือลูบศีรษะน้องเบาๆ แต่ก็ไม่รู้สึกสัมผัสอะไร น้องเองก็คงไม่อาจรับสัมผัสนั้นได้เช่นกัน เขาจึงถอยออกมานิดหนึ่ง

"อยากจะคุยกับน้องก็ได้นะ" เสียงหญิงสาวดังขึ้นที่ด้านหลัง เขาจึงหันกลับไปมองด้วยความแปลกใจ

"ทำได้หรือ" เขาถามย้ำให้แน่ใจ ตัวแทนสามสี่เจ็ดก็พยักหน้ารับรอง จากนั้นก็คว้าค้อนขนาดเหมาะมือออกมา

"เฮ้ย!" เขาร้องห้ามแต่ไม่ทันเสียแล้ว ยายนั่นยกค้อนทุบปุกไปที่กลางศีรษะของยายตัวเล็ก

อึดใจต่อมาน้องสาวของเขาก็หาวขึ้นสองสามครั้ง แล้วจึงล้มตัวลง หลับไปบนเตียงนั่นเอง

"มีอะไรก็รีบคุย ฉันจะไปรอข้างนอก" ตัวแทนสามสี่เจ็ดบอก แล้วจึงก้าวออกจากห้องไป

เขาหันกลับมาที่ยายตัวเล็ก เห็นน้องค่อยๆ งัวเงียตื่นขึ้น อารามตกใจ เขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ได้แต่ยืนหันรีหันขวางอยู่กลางห้องนั้น

"พี่เน กลับมาแล้วเหรอ" น้องถามออกมา

เขายังงุนงงไม่ทราบจะตอบว่าอย่างไรจึงผงกศีรษะรับไปส่งๆ ยายตัวเล็กก็กระโดดลงจากเตียงมายืนจ้องหน้าเขา

"ไม่ได้เมามานี่"

"เมา" เขาทวนคำเป็นเชิงถาม

"ใช่ ก็ตัวเองขอแม่ไปสังสรรค์กับเพื่อนนี่ แม่ยังบอกว่า ถ้าตัวเองกลับมาตอนเช้าก็ให้เค้าชงกาแฟดำไว้ให้ด้วย"

จริงสิ เขาจำได้แล้ว เมื่อคืนเขาไปสังสรรค์กับเพื่อนจริงๆ

"ตัวเองไม่ได้เมา แบบนี้เมื่อคืนเค้าก็แค่ฝันร้ายน่ะสิ"

"หือ ฝันร้าย"

"ใช่ เค้าฝันว่าตัวเองตาย ลุงใหญ่ยังมารับเค้ากับพ่อแม่ไปยืนยันศพตัวเองที่โรงพยาบาลเลย"

อเนชาก้มหน้า มือของเขากำเข้าหากัน ...น้องไม่ได้ฝัน มันเป็นความจริง พอตื่นขึ้นมา ยายตัวเล็กก็ต้องเผชิญหน้ากับความจริงอีก

"ตัวเองเป็นอะไรน่ะ" ได้ยินน้องสาวถามขึ้น

"ปะ...เปล่า" เขาปฏิเสธ "เอ่อ...แล้วแกฝันว่ายังไงต่อ"

"ก็ฝันว่าลุงใหญ่ขับรถกลับมาส่งที่บ้าน"

"ไม่ใช่ หมายถึง แกไม่รู้หรือ ว่าพี่ตายยังไง"

"ไม่รู้หรอก เค้าไม่ได้ไปนั่งฟังตำรวจคุยกับพ่อนี่ ในฝันมันเหมือนจริงมาก เค้าว่าเค้าช็อคอยู่"

เขาพอจะนึกภาพออก หากอยู่ๆ เขาได้ข่าวว่ายายตัวเล็กตาย ก็คงจะรู้สึกไม่ต่างกัน

"แต่เค้าได้ยินเหมือนว่าจะเป็นอุบัติเหตุ มีคู่กรณีด้วยนะ"

"คู่กรณี...ใครน่ะ"

"ไม่รู้หรอก บอกแล้วว่ากำลังช็อคอยู่"

อเนชาได้ยินแล้วก็นิ่งคิดไปครู่ใหญ่ ยายตัวเล็กคงเห็นเขาเงียบไปนาน จึงถามขึ้นบ้าง

"แล้วพี่เนจะจริงจังอะไรกับความฝันเค้านักหนาน่ะ"

"เอ้อ เปล่า" เขาปฏิเสธกลบเกลื่อนอีก แล้วจึงยื่นมือไปลูบศีรษะน้องสาวเบาๆ จนน้องทำหน้าแปลกใจ

"พี่คงต้องไปแล้ว" เบากระซิบบอกเสียเบา "ฝากดูพ่อกับแม่ด้วยนะ"

"พี่เนจะไปไหน" น้องสาวถาม เขาจึงส่ายหน้าช้าๆ

"ยังไม่รู้เหมือนกัน" เขาไม่ได้โกหก เขาเองก็ยังไม่รู้ว่าตนเองจะเป็นอย่างไร จะฟื้นคืนชีพได้หรือไม่ หรืออาจจะถูกตัวฉุดลากพาลงนรกไปเสียก่อนก็ไม่ทราบได้

"จริงสิ พี่มีเรื่องอยากให้ช่วยหน่อย"

ยายตัวเล็กเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

"พอแกตื่น...เอ้อ...พอพี่ไปแล้ว ฝากบอกพ่อกับแม่ด้วย ให้เอาสมุดบัญชีพี่ไปถอนเงินมาให้คนที่บ้านนี้ด้วยนะ" เขาบอกพลางล้วงมือไปหยิบกระดาษแผ่นเล็กๆ ซึ่งจดที่อยู่ของเด็กผู้หญิงที่เอามีดจี้เขาขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกง ไม่รู้ว่ากระดาษแผ่นนี้ไปอยู่ในกระเป๋าเขาได้อย่างไร และไม่ทราบตนเองรู้ได้อย่างไรว่ามีกระดาษแผ่นนี้

น้องสาวเขารับกระดาษไปอ่านดู แล้วจึงเงยหน้าขึ้นถามอีก "เอาเงินไปให้เขาทำไมน่ะ พี่ดูแปลกๆ นะ"

"แม่เขาป่วยน่ะ พี่อยากช่วย" เขาตอบไปตามตรง แต่น้องก็ยังไม่วายย่นคิ้วอย่างสงสัย ก้มมองที่อยู่บนกระดาษ สลับกับมองหน้าเขาอีกสองสามครั้ง

เห็นอย่างนั้นแล้วอเนชาก็ยื่นมือลูบศีรษะน้องอีก ดึงน้องเข้ามากอดหลวมๆ

"พี่รักแกนะ" เขาบอก "อย่าลืมดูแลพ่อกับแม่แทนพี่ด้วยล่ะ" ว่าแล้วสภาพรอบกายเขาก็เลือนจางกลายเป็นสีขาว ก่อนความรู้สึกทั้งหลายจะหายไปวูบหนึ่ง

---

อเนชาหันกลับไปมองน้องสาวที่เริ่มพลิกตัวตื่น ขณะเดียวกันตัวแทนสามสี่เจ็ดก็เดินกลับเข้ามาในห้อง

"จะเอายังไงต่อ" เธอถามขึ้นเบาๆ

วิญญาณหนุ่มยังไม่ละสายตาจากร่างน้องที่ค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งบนเตียง ท่าทางยังงุนงงอยู่ ก่อนจะหันไปเห็นตุ๊กตาหมีหน้ายู่ยี่ แล้วเหมือนความทรงจำจะถาโถมเข้าใส่น้อง ยายตัวเล็กก้มหน้าสะอื้นอีกแล้ว

เขาเห็นเช่นนั้นก็อดงอแขนกอดตนเองไว้ไม่ได้ เขาพยายามข่มอารมณ์ไม่ให้ร่างกายเปลี่ยนเป็นน้ำแข็งไปอีก

"ผมว่าเราคงต้องไปดูศพของผมก่อน" เขาบอก แล้วจึงหันหลังก้าวออกจากห้องน้องสาวโดยไม่หันกลับไปอีก

###
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่