คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ขอตอบเท่าที่ได้พยายามศึกษา และได้ทดลองใช้การอัดแก๊สเอธิลินกับต้นยางนะครับ
...ปกติต้นยางมีการผลิตเอธิลินอยู่แล้ว แต่มีปริมาณเพียงเล็กน้อย ส่วนเอธิลินที่ต้นยางผลิตขึ้นมันเอาไปใช้ประโยชน์อะไร ผมไม่ทราบ (ถามมันๆก็ไม่ตอบ 55 แต่มันต้องมีประโยชน์ต่อมันแน่ๆ) มีการทดลองศึกษาพบว่า ถ้าเพิ่มความเข็มข้นของเอธิลินในต้นยางมากขึ้น จะทำให้ขบวนการแข็งตัวของน้ำยางนานขึ้น นั้นคือน้ำยางจะไหลนานขึ้นกว่าปรกติ ทำให้ได้ปริมาณน้ำยางมากขึ้น ก็เป็นธรรมดา ...
...ส่วนวิธีที่จะเพิ่มความเข็มข้นของเอธิลินในต้นยาง จะเอายังไงดี? เท่าที่เห็นทำๆกันก็มี 2 วิธีกว้างๆคือ
1. การทาหน้าต้นยางบริเวณที่จะกรีดด้วยสารอีทีฟอน เขาว่า..สารอีทีฟอนทำปฏิกิริยากับสารxxxx..? ผลผลิตคือเอธิลิน ซึ่งก็จะละลายเข้าในน้ำยางในต้นยางนั้นแหล่ะ
ผลก็คือความเข็มข้นของเอธิลินในต้นยางก็จะเพิ่มขึ้น เมื่อไปกรีดยางก็จะไหลนานขึ้น ได้น้ำยางมากขึ้น (อย่างนี้ผมไม่เคยทดลอง แค่อ่านๆ)
2. การอัดแก๊สเอธิลิน ให้ซืมและละลายเข้าในต้นยางโดยตรงเลย หลักการก็ง่ายๆคือ.. เอาหัวอัดแก๊สตอกเข้าไปในต้นยาง ที่ตำแหน่งที่เหมาะสม (ระวังอย่าให้เกิดการรั่วของแก๊ส)ต่อหัวอัดเข้ากับถุง/ขวดพลาสติก/ไชริง ฯลฯ หรืออะไรก็ได้ที่สามารถเก็บแก๊สเอธิลินได้(ปริมาณแก๊สที่เหมาะสมคือ 40cc) รอประมาณ 48 ชั่วโมง จึงทำการเจาะต้นยาง หรือ 24 ชั่วโมงจึงทำการกรีด ที่ต้องรอก็เพื่อให้แก๊สมันซืมเข้าต้นยางเพื่อให้ได้ความเข็มข้นที่พอเหมาะน้ำยางจะได้ไหลนานๆ
..ทำไมไม่ใช้อีทีฟอนที่เป็นน้ำฉีดไปเลยน่าจะได้ผลใกล้เคียงกัน?
ตอบ..ต้นยางมันไม่มีเส้นน้ำยาง ไม่เหมือนเส้นเลือดคน หรือกล้ามเนื้อคน เอาเข็ม หรือหลอดแท่งเข้าไปได้ แต่จะฉีดอีทีฟอนเข้าไปมันไม่เข้านะครับ น่าจะไหลออกมาข้างนอกต้นหมด
ส่วนถ้าเราเอาอีทีฟอนไปทาต้นยางก็เพื่อให้อีทีฟอนเปลี่ยนเป็นเอธิลิน ส่วนว่าเราจะกรีดหรือเจาะ
ก็น่าจะทำได้เหมือนๆที่เราอัดแก๊ส
เห็นความแตกต่างยังครับ..
ปล..ผมชอบอัดแก๊ส แล้วเจาะ เพราะมันเหมาะกับต้นยางและเวลาที่ผมมี ข้อสำคัณหัวอัดแก๊สต้องดี ไม่รั่วง่าย เพราะแก๊สจะรั่วออกทิ้งหมด เสียเวลา เสียอารมณ์ เสียเงิน
...ปกติต้นยางมีการผลิตเอธิลินอยู่แล้ว แต่มีปริมาณเพียงเล็กน้อย ส่วนเอธิลินที่ต้นยางผลิตขึ้นมันเอาไปใช้ประโยชน์อะไร ผมไม่ทราบ (ถามมันๆก็ไม่ตอบ 55 แต่มันต้องมีประโยชน์ต่อมันแน่ๆ) มีการทดลองศึกษาพบว่า ถ้าเพิ่มความเข็มข้นของเอธิลินในต้นยางมากขึ้น จะทำให้ขบวนการแข็งตัวของน้ำยางนานขึ้น นั้นคือน้ำยางจะไหลนานขึ้นกว่าปรกติ ทำให้ได้ปริมาณน้ำยางมากขึ้น ก็เป็นธรรมดา ...
...ส่วนวิธีที่จะเพิ่มความเข็มข้นของเอธิลินในต้นยาง จะเอายังไงดี? เท่าที่เห็นทำๆกันก็มี 2 วิธีกว้างๆคือ
1. การทาหน้าต้นยางบริเวณที่จะกรีดด้วยสารอีทีฟอน เขาว่า..สารอีทีฟอนทำปฏิกิริยากับสารxxxx..? ผลผลิตคือเอธิลิน ซึ่งก็จะละลายเข้าในน้ำยางในต้นยางนั้นแหล่ะ
ผลก็คือความเข็มข้นของเอธิลินในต้นยางก็จะเพิ่มขึ้น เมื่อไปกรีดยางก็จะไหลนานขึ้น ได้น้ำยางมากขึ้น (อย่างนี้ผมไม่เคยทดลอง แค่อ่านๆ)
2. การอัดแก๊สเอธิลิน ให้ซืมและละลายเข้าในต้นยางโดยตรงเลย หลักการก็ง่ายๆคือ.. เอาหัวอัดแก๊สตอกเข้าไปในต้นยาง ที่ตำแหน่งที่เหมาะสม (ระวังอย่าให้เกิดการรั่วของแก๊ส)ต่อหัวอัดเข้ากับถุง/ขวดพลาสติก/ไชริง ฯลฯ หรืออะไรก็ได้ที่สามารถเก็บแก๊สเอธิลินได้(ปริมาณแก๊สที่เหมาะสมคือ 40cc) รอประมาณ 48 ชั่วโมง จึงทำการเจาะต้นยาง หรือ 24 ชั่วโมงจึงทำการกรีด ที่ต้องรอก็เพื่อให้แก๊สมันซืมเข้าต้นยางเพื่อให้ได้ความเข็มข้นที่พอเหมาะน้ำยางจะได้ไหลนานๆ
..ทำไมไม่ใช้อีทีฟอนที่เป็นน้ำฉีดไปเลยน่าจะได้ผลใกล้เคียงกัน?
ตอบ..ต้นยางมันไม่มีเส้นน้ำยาง ไม่เหมือนเส้นเลือดคน หรือกล้ามเนื้อคน เอาเข็ม หรือหลอดแท่งเข้าไปได้ แต่จะฉีดอีทีฟอนเข้าไปมันไม่เข้านะครับ น่าจะไหลออกมาข้างนอกต้นหมด
ส่วนถ้าเราเอาอีทีฟอนไปทาต้นยางก็เพื่อให้อีทีฟอนเปลี่ยนเป็นเอธิลิน ส่วนว่าเราจะกรีดหรือเจาะ
ก็น่าจะทำได้เหมือนๆที่เราอัดแก๊ส
เห็นความแตกต่างยังครับ..
ปล..ผมชอบอัดแก๊ส แล้วเจาะ เพราะมันเหมาะกับต้นยางและเวลาที่ผมมี ข้อสำคัณหัวอัดแก๊สต้องดี ไม่รั่วง่าย เพราะแก๊สจะรั่วออกทิ้งหมด เสียเวลา เสียอารมณ์ เสียเงิน
แสดงความคิดเห็น
การใช้สารอีทีฟอนทาต้นยางพารา กับ การใช้ แก๊ซเอธีลีน อัดเข้าต้นยางต่างกันอย่างไรครับ
ทำไม ในเมื่อมันเป็น เอมไซม์เอธีลีน เหมือนกัน ทำไมแทนที่จะต้องไปเจาะแล้วอัดแก๊ส
ทำไมไม่ใช้อีทีฟอนที่เป็นน้ำฉีดไปเลยน่าจะได้ผลใกล้เคียงกัน
มันมีความต่างกันตรงไหนครับ