คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ต้องขอขอบคุณนะครับ ที่เข้าไปอ่านในสิ่งที่ผมอธิบายไว้ และผมก็ดีใจนะ ที่อย่างน้อยก็ทำให้สิ่งที่ผมพิมพ์ไว้ มันไม่ได้สูญเปล่า
อย่างที่คุณทราบนั่นเหละครับ ซึ่งตอนนี้ ผมมั่นใจว่า คุณน่าจะเข้าใจในเรื่องนี้ ดีมากขึ้น
คือ ปัญหาเรื่องนี้ มันจะไม่เกิดเลย ถ้าเป็นการที่เคลมโดยมีคู่กรณี หรือ มีค่าเสียหายส่วนแรก DEDUCT ที่พิมพ์บอกไว้ในกรมธรรม์อย่างชัดเจน
สมมติ เจ้าของรถ ขับไปชนท้ายรถคันข้างหน้า และในกรมธรรม์ระบุว่า มีค่าเสียหายส่วนแรก 5,000 บาท ซึ่งก็คือในส่วนของ DEDUCT แน่นอนว่า มันก็มีตัวเลขชัดเจนอยู่แล้ว ดังนั้น ปัญหาเหล่านี้มันจะไม่เกิดขึ้น
แต่ทีนี้ ปัญหาที่มันจะเกิดขึ้น มันคือ ความไม่เข้าใจ ในค่าเสียหายในส่วนที่เรียกว่า EXCESS ครับ ซึ่ง คปก เขาแก้และปรับปรุงในส่วนนี้ครับ
คือ ผมหาเอกสารไม่เจอนะ แต่ขอใช้รูปเอกสารของคุณ giguru ที่โพสไว้ในกระทู้ http://topicstock.pantip.com/ratchada/topicstock/2010/09/V9665603/V9665603.html ตั้งแต่ปี 53 โน่นละกัน

ซึ่ง ถ้าอ่านตามรูปด้านบน จะเข้าใจง่ายมากครับ ว่า ทำไม ถึงโดนเก็บ EXCESS แผลละ 1,000 บาท
จากรูปนะครับ
กรณีที่ 1 รถได้รับความเสียหายอันมิได้เกิดจากการชนหรือพลิกคว่ำ
ข้อแรก ชัดเจนครับ - ความเสียหายจากการมุ่งร้าย กลั่นแกล้ง เช่น รถถูกบุคคลอื่นทุบทำลาย ขูดขีด ขีดข่วน ให้ได้รับความเสียหาย โดยไม่สามารถระบุตัวผู้กระทำ วันเวลา สถานที่ได้ชัดเจน
ข้อสอง อันนี้น่าสนใจครับ - ความเสียหายจากการกระทบกับวัตถุ สิ่งของ ทำให้รถได้รับความเสียหายเฉพาะพื้นผิวของสีรถ โดยไม่ทำให้ส่วนหนึ่งส่วนใดของตัวรถ และหรืออุปกรณ์ของรถได้รับความเสียหายถึงขนาด บุบ แตก ร้าว
ผมสรุปง่าย ๆ คือ ถ้าร่องรอยมันไม่ชัดเจน เช่น สมมติ กระโปรงหน้า มีรอยสะเก็ดหิน เท่าหัวไม้ขีด สัก 100 จุด แล้วคุณไปเคลม จะทำสีฝากระโปรงหน้า อันนี้ โดน EXCESS ชัวร์ครับ 1,000 บาท (ผมเคยเคลมแบบนี้มาแล้ว ตอนกำลังจะขายรถไป เพราะเจ้าของรถคนใหม่ เขาจะให้เราเคลมให้ แต่เขายอมจ่าย EXCESS เอง โดยให้เราเคลมรอบคันให้)
ก็ปัญหามันอยู่ตรง ข้อสองที่บอกบอกนี่เหละ คือ มันไม่บุบ มันไม่แตก มันไม่ร้าว ก็เลยโดน แผลละ 1,000 บาท เพราะ สะเก็ดหินที่ผมบอกเนี่ย มันเป็นร่องรอยที่เกิดจากการใช้งานปกติ มันก็ต้องโดนหินจากรถคันหน้า กระเด็นมาโดนเป็นเรื่องปกติ กรณีการเคลม หินโดนฝากระโปรงที่เป็นสะเก็ด จึงเสีย EXCESS
และผมเคยถามประกันแบบกวน ๆ นะ ซึ่งผมก็รู้คำตอบเหละ ผมถามว่า แล้วถ้า ผมขับรถไป แล้วหินก้อนเท่าลูกบอลกลิ้งตกจากเขามาโดนฝากระโปรง บุบเละไปทั้งบานเลย เสีย EXCESS มั้ย
ประกันตอบว่า กรณีหินก้อนเท่าลูกบอลกลิ้งตกจากเขาแล้ว ทับฝากระโปรงได้รับความเสียหายสิ้นเชิง กรณีนี้ ไม่เสีย EXCESS แต่เราต้องสามารถแจ้งถึง วัน เวลา สถานที่ ได้ชัดเจนด้วย
เออ ตลกเนอะ
ขับไปโดนกิ่งไม้ครูด เป็นรอยขีดข่วน โดน EXCESS มั้ย ตอบว่า โดนครับ เพราะมันไม่เข้าข่าย บุบ แตก ร้าว
ผมขอยกตัวอย่าง คำถาม คำตอบ จากผู้เอาประกันที่ไปถามไว้ ในเว็บของ คปภ


พูดง่าย ๆ ถ้าไม่อยากเสีย EXCESS จงจำไว้ 3 คำ คือ ชิ้นส่วนนั้นต้อง บุบ แตก ร้าว และยังต้องแจ้งถึง ที่มาของร่องรอย สถานที่ วัน เวลา ให้ชัดเจนด้วย
อย่างที่คุณทราบนั่นเหละครับ ซึ่งตอนนี้ ผมมั่นใจว่า คุณน่าจะเข้าใจในเรื่องนี้ ดีมากขึ้น
คือ ปัญหาเรื่องนี้ มันจะไม่เกิดเลย ถ้าเป็นการที่เคลมโดยมีคู่กรณี หรือ มีค่าเสียหายส่วนแรก DEDUCT ที่พิมพ์บอกไว้ในกรมธรรม์อย่างชัดเจน
สมมติ เจ้าของรถ ขับไปชนท้ายรถคันข้างหน้า และในกรมธรรม์ระบุว่า มีค่าเสียหายส่วนแรก 5,000 บาท ซึ่งก็คือในส่วนของ DEDUCT แน่นอนว่า มันก็มีตัวเลขชัดเจนอยู่แล้ว ดังนั้น ปัญหาเหล่านี้มันจะไม่เกิดขึ้น
แต่ทีนี้ ปัญหาที่มันจะเกิดขึ้น มันคือ ความไม่เข้าใจ ในค่าเสียหายในส่วนที่เรียกว่า EXCESS ครับ ซึ่ง คปก เขาแก้และปรับปรุงในส่วนนี้ครับ
คือ ผมหาเอกสารไม่เจอนะ แต่ขอใช้รูปเอกสารของคุณ giguru ที่โพสไว้ในกระทู้ http://topicstock.pantip.com/ratchada/topicstock/2010/09/V9665603/V9665603.html ตั้งแต่ปี 53 โน่นละกัน

ซึ่ง ถ้าอ่านตามรูปด้านบน จะเข้าใจง่ายมากครับ ว่า ทำไม ถึงโดนเก็บ EXCESS แผลละ 1,000 บาท
จากรูปนะครับ
กรณีที่ 1 รถได้รับความเสียหายอันมิได้เกิดจากการชนหรือพลิกคว่ำ
ข้อแรก ชัดเจนครับ - ความเสียหายจากการมุ่งร้าย กลั่นแกล้ง เช่น รถถูกบุคคลอื่นทุบทำลาย ขูดขีด ขีดข่วน ให้ได้รับความเสียหาย โดยไม่สามารถระบุตัวผู้กระทำ วันเวลา สถานที่ได้ชัดเจน
ข้อสอง อันนี้น่าสนใจครับ - ความเสียหายจากการกระทบกับวัตถุ สิ่งของ ทำให้รถได้รับความเสียหายเฉพาะพื้นผิวของสีรถ โดยไม่ทำให้ส่วนหนึ่งส่วนใดของตัวรถ และหรืออุปกรณ์ของรถได้รับความเสียหายถึงขนาด บุบ แตก ร้าว
ผมสรุปง่าย ๆ คือ ถ้าร่องรอยมันไม่ชัดเจน เช่น สมมติ กระโปรงหน้า มีรอยสะเก็ดหิน เท่าหัวไม้ขีด สัก 100 จุด แล้วคุณไปเคลม จะทำสีฝากระโปรงหน้า อันนี้ โดน EXCESS ชัวร์ครับ 1,000 บาท (ผมเคยเคลมแบบนี้มาแล้ว ตอนกำลังจะขายรถไป เพราะเจ้าของรถคนใหม่ เขาจะให้เราเคลมให้ แต่เขายอมจ่าย EXCESS เอง โดยให้เราเคลมรอบคันให้)
ก็ปัญหามันอยู่ตรง ข้อสองที่บอกบอกนี่เหละ คือ มันไม่บุบ มันไม่แตก มันไม่ร้าว ก็เลยโดน แผลละ 1,000 บาท เพราะ สะเก็ดหินที่ผมบอกเนี่ย มันเป็นร่องรอยที่เกิดจากการใช้งานปกติ มันก็ต้องโดนหินจากรถคันหน้า กระเด็นมาโดนเป็นเรื่องปกติ กรณีการเคลม หินโดนฝากระโปรงที่เป็นสะเก็ด จึงเสีย EXCESS
และผมเคยถามประกันแบบกวน ๆ นะ ซึ่งผมก็รู้คำตอบเหละ ผมถามว่า แล้วถ้า ผมขับรถไป แล้วหินก้อนเท่าลูกบอลกลิ้งตกจากเขามาโดนฝากระโปรง บุบเละไปทั้งบานเลย เสีย EXCESS มั้ย
ประกันตอบว่า กรณีหินก้อนเท่าลูกบอลกลิ้งตกจากเขาแล้ว ทับฝากระโปรงได้รับความเสียหายสิ้นเชิง กรณีนี้ ไม่เสีย EXCESS แต่เราต้องสามารถแจ้งถึง วัน เวลา สถานที่ ได้ชัดเจนด้วย
เออ ตลกเนอะ
ขับไปโดนกิ่งไม้ครูด เป็นรอยขีดข่วน โดน EXCESS มั้ย ตอบว่า โดนครับ เพราะมันไม่เข้าข่าย บุบ แตก ร้าว
ผมขอยกตัวอย่าง คำถาม คำตอบ จากผู้เอาประกันที่ไปถามไว้ ในเว็บของ คปภ


พูดง่าย ๆ ถ้าไม่อยากเสีย EXCESS จงจำไว้ 3 คำ คือ ชิ้นส่วนนั้นต้อง บุบ แตก ร้าว และยังต้องแจ้งถึง ที่มาของร่องรอย สถานที่ วัน เวลา ให้ชัดเจนด้วย
แสดงความคิดเห็น
คำแปลไทยของคำว่า---ค่า Debuct และค่า Excess
จากกระทู้นี้
https://pantip.com/topic/36618367
ทำประกันชั้น 1 กับบ.วิริยะ ทำไมต้องจ่ายค่าความเสียหายส่วนแรก ทั้งๆ ที่กธ.ไม่ได้ระบุเอาไว้
และที่คุณ Mr.Vtec ได้อธิบายค่า DEDUC่T กับ EXCESS
ไว้ในกระทู้นี้ ที่ความเห็น 2
https://pantip.com/topic/36575022
(ต้องขอขอบคุณ คุณ Mr.Vtec เป็นอย่างสูง เพราะผมก็ยังไม่เข้าใจคำ 2 คำนี้ อย่างชัดเจน
พอคุณ Mr.Vtec อธิบายอย่างละเอียด พร้อมยกตัวอย่างประกอบ
ทำให้เข้าใจอย่างชัดเจนมาก)
ดังนั้น หากผมจะพยายาม คิดคำแปลภาษาไทยของคำว่าค่า Debuct โดยแปลคำว่า
ค่า Debuct = ค่าร่วมรับผิดชอบความผิดโดยสมัครใจ ในกรณีเป็นฝ่ายผิด
ค่า Excess = ค่าเสียหายส่วนแรกที่ต้องจ่ายหากไม่มีคู่กรณี หรือระบุคู่กรณีไม่ได้
คำแปลที่คิดมานี้ พอจะสื่อความหมายที่ถูกต้องของค่า Debuct และค่า Excess ได้ไหมครับ
ขอบคุณทุกท่านล่วงหน้าที่ช่วยตอบครับ