หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
123 Change!!! - เปลี่ยนสาวน้อย 101 โล เหลือ 80 โลได้ภายใน 123 วัน
กระทู้สนทนา
ลดความอ้วน
โภชนาการ
ฟิตเนส
ออกกำลังกาย
สุขภาพกาย
น้องไอติม เป็นน้องคนนึงที่เข้ามาทักผมใน fanpage 123change สอบถามเกี่ยวกับการควบคุมอาหาร ออกกำลังกายเพื่อลดความอ้วน ซึ่งผมก็ตอบเหมือนที่แนะนำทุกๆ คนไป
น้องเค้าถามจบก็เงียบหายไปจนผมลืมไปแล้ว ต่อมาสักอาทิตย์ 2 อาทิตย์ น้องเค้าก็มาอัพเดทความคืบหน้า ว่าเปลี่ยนแปลงอาหารยังไง ออกกำลังกายยังไง มีการเปลี่ยนแปลงของตัวเองยังไง และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม แล้วก็หายไปจัดการตัวเอง แล้วก็กลับมาอัพเดทความคืบหน้าอีก เป็นอย่างนี้เสมอๆ
จนวันนึง น้องเข้ามาอัพเดทว่า จากน้ำหนัก 101 กิโลกรัมในวันแรก ตอนนี้น้องไอติมสามารถลดลงมาได้เหลือ 80 กิโลกรัมแล้ว ซึ่งก็ใช้ระยะเวลา 4 เดือน คือประมาณ 123 วัน ผมเลยขออนุญาตสัมภาษณ์น้องไอติม เพื่อให้น้องไอติมได้แบ่งปันประสบการณ์สร้างแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆ ว่า 123 วัน ก็สามารถเปลี่ยนแปลงสาวน้อย 101 โลคนนี้ได้อย่างไรลงในพันทิปให้เนื่องจากน้องเค้าไม่ log in ครับ
Background ชีวิต ทำงานอะไร ชอบกิน ชอบเที่ยวอะไร ว่างๆทำอะไร
สวัสดีค่ะ ชื่อเล่นว่าไอติม ปัจจุบันเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งค่ะ ชีวิตปกติเป็นคนไม่ชอบเที่ยวเหมือนคนอื่น ๆ มีเที่ยวบ้างปีละครั้ง 2 ครั้ง
ชอบอยู่บ้านทำงานบ้าน ทำอาหาร แต่สิ่งหนึ่งที่ชอบมาก ๆ คือ เป็นคนชอบกิน (ไม่งั้นคงไม่ต้องมานั่งรีวิวแบบนี้ อิอิ) มีความสุขมากทั้งเวลาที่เป็นคนกินและเป็นคนทำ เมนูที่กินบ่อยมากคือ เมนูทอด ๆ ลูกชิ้นทอด ไก่ทอด หมูทอด อาหารบุฟเฟ่ต์ เครื่องดื่มหวาน ๆ ทุกชนิด โดยเฉพาะน้ำอัดลมและกาแฟเย็น เรากินเครื่องดื่มสองชนิดนี้แทบทุกวัน!!!!
ก่อนหน้านี้ที่อ้วน อ้วนได้อย่างไร แล้วเคยลดความอ้วนมาก่อนมั้ย ถ้าเคยครั้งก่อนๆ ทำยังไง แล้วผลลัพธ์เป็นยังไงถ้าครั้งก่อนทำแล้วไม่สำเร็จ อะไรคือตัวหยุด ที่ทำให้เราลดไม่สำเร็จ
จำได้ว่าเป็นคนที่อ้วนมาตั้งแต่เด็ก เวลาอยู่ในชั้นเรียน เราอาจจะไม่ใช่คนที่อ้วนมากที่สุดในห้อง แต่ก็อยู่ในกลุ่มตัวท็อป (เรื่องน้ำหนัก) 5555+ ก็คือเกินเกณฑ์นั่นแหละค่ะ จำได้ว่าตอน ปวส. ปี1 เคยหนักประมาณ 70 กก. แล้วก็ลดได้จนเหลือน้ำหนัก 55 กก. แรงบันดาลใจตอนนั้นคือ ชอบผู้ชายรุ่นพี่คนนึง หลอกตัวเองว่าถ้าเราผอมเค้าต้องชอบเราแน่ ๆ 5555 (ความรักของเด็กน้อย) เราใช้วิธี คุมอาหาร มีเล่นกีฬาปิงปองร่วมด้วย และอดอาหารมื้อเย็น ย้ำว่า “อด” ค่ะ ไม่กินเลย นอนหิว แค่ 2 เดือน น้ำหนักลงเร็วเวอร์วังอลังการ ลงไปถึง 15 โลเลยทีเดียว...
หลังจากน้ำหนักลง ก็กลับมากินแบบเดิม นิสัยแบบเดิม น้ำหนักกระเด้งกลับมาเร็วมาก น้ำหนักขึ้นเรื่อย ๆ แบบไม่รู้ตัว จากเรียนจบ ปวส. ถึง มหาลัย ระยะเวลา 2 ปี น้ำหนักกระเด้งจาก 55 กก. จนถึง 98 - 103 กก. ตลอดเวลา 2 ปี ก็รู้และพยายามจะลดน้ำหนักอยู่ตลอด เพียงแต่ไม่เคยคิดใช้ยาลดน้ำหนัก ซึ่งที่ไม่สำเร็จเพราะเวลาลดจะตึงเครียดกับชีวิตมาก หักดิบแบบไม่มีสายกลาง พอเห็นอาหารที่เคยชอบกิน ก็ตะบะแตกตลอด พอจะลดก็บอกว่า พรุ่งนี้นะ ฉันจะลดน้ำหนักอย่างจริงจัง วันนี้ฉันจะกินเหมือนส่งท้าย อัด ๆ เข้าไปอย่างบ้าคลั่ง ทำได้ไม่ถึงเดือนก็เลิก พอเราหลุด เราก็หลุดไปยาว เป็นวงจรอุบาทว์มาโดยตลอด
ครั้งนี้คิดยังไง ทำไมถึงอยากลดความอ้วน (อีกครั้ง) อะไรคือแรงบันดาลใจตอนที่คิดตัดสินใจว่าจะลดจริงจัง
การลดน้ำหนักครั้งนี้ถามว่ามีแรงบันดาลใจอะไรในการเป็นตัวผลักดัน เอาตรง ๆ ก็ไม่มีค่ะ แต่พอเราทำไปเรื่อย ๆ แรงบันดาลใจเราจะมาเอง เมื่อเราได้รับคำชมตลอดเวลาเราลดได้ มันทำให้เราศรัทธาในตัวเอง ก่อนหน้านี้เราเคยเอาความรู้สึกว่าเราอยากลดเพราะผู้ชายคนนั้น คนนี้ อยากให้เค้าชอบเรา เราเป็นผู้หญิงที่จบเอกมโน จบโทจินตนาการค่ะ 55555 แต่ครั้งนี้เริ่มจากเราฟันคุด น้ำหนักเราลงไป 3 กก. จาก 101 ลงมา 98 กก. ก็เลยคิดว่าลดเอง 3 ขีดยังทำไม่ได้เลย เราถือโอกาสนี้บอกตัวเองว่า ไหน ๆ ก็ลดมาแล้วก็ทำต่อไปเลยแล้วกันหลังจากนั้นก็อ่าน ๆ ๆ ๆ ๆ อ่านอะไรบ้างเดี๋ยวมาว่ากันค่ะ
ศึกษาหาข้อมูลวิธีการยังไงบ้าง
หลังจากคืนนั้นตัดสินใจว่าจะลดน้ำหนักแล้ว เราก็หาข้อมูลในพันทิปค่ะ ก็ได้ไปเจอกระทู้ ๆ นึงเป็นหัวข้อประมาณว่า “คน 8 ประเภท ที่รับรองได้ว่าลดความอ้วนยังไงก็ไม่สำเร็จ”
https://pantip.com/topic/35638982
อ่านไปเสร็จปุ๊บ ก็บอกตัวเองว่า กูนี่ เข้าทุกประเภทเลยจริง ๆ 55555 แต่ชอบบทความมากอ่านตอนท้ายถึงรู้ว่าคนเขียนกระทู้ เค้ามีเพจให้ติดตามวิธีลดความอ้วน อาหารดี ๆ การออกกำลังกาย และคำพูดสร้างแรงบันดาลใจมากมาย ชื่อเพจว่า 123 Change ค่ะ
กระทู้ที่ทำให้เราได้รับความรู้อย่างเต็มเปี่ยมเลยคือกระทู้ “123 Change!!! 123 วัน เปลี่ยนหนุ่มออฟฟิศธรรมดาให้น่ากิน : D”
https://pantip.com/topic/35528915
กระทู้นี้มีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับการลดความอ้วน ใครคิดจะเริ่มลด อ่านกระทู้นี้จบเลยค่ะ หลังจากเราอ่านแล้ว เรารู้ว่าจริง ๆ แล้ววิธีลดน้ำหนักมันมีหนทางเดียวค่ะ มันไม่มีทางลัดที่จะลดอย่างยั่งยืน วิธีปฏิบัติเราหาได้ทั่ว ๆ ไป แต่ใจเราเท่านั้นที่จะทำให้หนทางนี้ไปได้ตลอดรอดฝั่ง ต่อจากนี้เป็นวิธีที่เราเริ่มลดค่ะ
(ตอนนี้ผมได้เรียบเรียงเนื้อหาจากกระทู้มาลงในเวป เพื่อให้ข้อมูลครบถ้วนไม่ขาดหาย สามารถติดตามได้ที่
https://123change.home.blog
ครับ)
ข้อมูลน้ำหนักตัว สัดส่วน ในวันที่เริ่มต้นเป็นยังไง วิธีการที่ใช้ลดความอ้วนครั้งนี้คือยังไง การออกกำลังกายและควบคุมอาหาร
สัดส่วนและอาหาร
น้ำหนักเราอยู่ที่ 101 กก. ลงไป 3 กก. จากฟันคุด เราสูง 154 ตอนนั้นรอบเอวเราอยู่ที่ 42 นิ้ว ตอนนี้รอบเอวเหลือ 36 นิ้วค่ะ จากที่ตัดสินใจในคืนนั้นเราเริ่มทำทันทีแบบไม่รอเวลา ไม่รอฤกษ์ยามอีกต่อไป เราเริ่มหาข้อมูล ปัจจัยสำคัญคืออาหาร หากจะลดความอ้วน อาหารมีผล 70-80% เลยทีเดียวเราเริ่มหาข้อมูลว่า อาหารคลีน คืออะไร การกินไขมันดี คาร์โบไฮเดรตดี และโปรตีนดี ต้องกินยังไง จากการอ่าน มันทำให้เรารู้ว่าร่างกายเราต้องอาหารที่ครบ 5 หมู่ เราตัดสินใจเปลี่ยนทุกอย่างในเช้าวันนั้นเลย เปลี่ยนข้าวขาวเป็นข้าวไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ กินไขมันดีอย่างเช่น อโวคาโด น้ำมันมะกอก น้ำมันคาร์โนล่า ถั่วเปลือกแข็งต่างๆ ในส่วนของโปรตีนเรากินเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมันเช่น อกไก่ หมูสันใน กุ้ง ปลา นมถั่วเหลืองหวานน้อย และไข่ ในช่วงแรงใจมันมา มันฮึกเหิมมาก
ครั้งนี้เราไม่อดมื้อเย็น แต่เราแค่เลือกกิน เราเลิกกินน้ำอัดลม กาแฟเย็น (ทั้งที่เมื่อก่อนติดมากกกกกกก) เรากินอาหารทั้งหมด 5 มื้อ แบ่งเป็นมือหลัก 3 มื้อ และมื้อย่อย 2 มื้อ ขั้นระหว่างมื้อหลัก ในส่วนของมื้อหลัก เราจะมีแป้งในมื้อเช้าและกลางวัน แต่ในมื้อเย็น เราจะกินเป็นโปรตีน ผัก ผลไม้แทน สำหรับในส่วนของมื้อย่อย เราจะกินพวกผลไม้หรือถั่ว เพราะจะไม่ปล่อยให้ตัวเองหิว เพราะถ้าหิวเมื่อไร ใจมันจะขาด 55555
เวลาทานอาหารกับครอบครัว เพื่อนๆ รู้สึกเป็นอุปสรรคมั้ย
เราตื่นมาทำอาหารทุกวัน วันไหนที่ต้องกินกับคนอื่น ๆ กับเพื่อน ๆ เราก็จะดูว่ามื้อ ๆ นั้นเราพกข้าวไปกินได้ไหม เช่น เราอาจจะพกข้าวไรท์เบอร์รี่ไปกินกับเพื่อนแต่ถ้ามื้อไหนเป็นบุฟเฟต์ เราก็จะพยายามเลือกกิน กินปลา กินไก่ กินผัก อยากกินอะไรก็กิน แต่คุมปริมาณไม่ใช่ยัดแบบเมื่อก่อน เรายังคงสนุกสนานกับเพื่อนได้อย่างกลมกลืน ช่วงแรก
ยอมรับว่าเพื่อนก็งง ๆ ว่าอะไรจะขนาดนั้น มีกดดันเหมือนกัน แต่เราก็อธิบายว่าเรามีเป้าหมายสุดท้ายเพื่อนก็เข้าใจและเป็นกำลังใจให้เรา หลังจากมื้อพิเศษเราก็กลับมากินคลีนของเราแบบปกติ ทำให้มันชิน มันจะชิวไปเอง
การออกกำลังกาย
ในส่วนของการออกกำลังกายช่วงแรก เราเน้นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโออย่างเดียว เราใช้วิธีการ เล่นฮูล่าฮูบ เดินเร็ว เรายังไม่กล้าวิ่งเพราะเราน้ำหนักตัวเยอะ เต้นแอโรบิค ซุ้มบ้าตาม Youtube เราออกกำลังกายแค่ 15 นาทีก็โคตรจะเหนื่อย หลังจากนั้นก็ไล่ระดับไปได้เรื่อยจนออกกำลังกายได้ 1ชม.
หลังจากออกกำลังกายได้ 2 เดือนแรก เราก็ทำความเข้าใจในเรื่องบอดี้เวท ศึกษาว่าทำไมเราต้องออกกำลังกายแบบเวท และ คาร์ดิโอไปพร้อม ๆ กัน เราเริ่มศึกษาการออกกำลังกายแบบบอดี้เวท ประกอบกับช่วงนั้นห้างใกล้บ้านมีฟิตเนสมาเปิดใหม่ เราตัดสินใจเข้าไปสมัครอย่างไม่รีรอ ยอมควักเงินแบบไม่เสียดาย คิดว่าซื้อของอย่างอื่นแบบไม่มีสาระยังซื้อได้ แต่นี่คือสุขภาพของเรา ทำไมถึงจะซื้อไม่ได้
จากการเป็นสมาชิกฟิตเนส เราได้การออกกำลังกายที่หลากหลายมากขึ้นเพราะที่ฟิสเนตมีคลาสที่ดีเยอะเลย เช่น ซุมบ้า โยคะ บอดี้ปั้ม บลา ๆๆ มันทำให้คนขี้เบื่ออย่างเราไม่ขี้เกียจ มีเพื่อน และที่สำคัญคือ เรามีสภาพแวดล้อมในการออกกำลังกาย จากการออกกำลังกายที่บ้านได้วันละ 1 ชม. ทุกวันนี้เราออกกำลังได้ 2-3 ชม. โดยเราออกกำลังกาย 5-6 วันต่อสัปดาห์ โดยเราจะเข้าคลาสที่เป็นคาร์ดิโอ 1 ชม. และเวทเทรนนิ่ง 1 ชม. ถ้าวันไหนมีธุระไม่ได้ไป ก็จะออกกำลังกายอยู่ที่บ้าน จนติดนิสัยว่าต้องออกกำลังกาย บางคนอาจะบอกว่า ออกกำลังกาย 2 - 3 ชม. มันหนักไปไหม หักโหมไปหรือเปล่า แต่ร่างกายเราจะรู้เองว่าเราไหวหรือไม่ไหวค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ใช่ว่าเพราะเราไปฟิสเนตเลยผอมลงนะคะ สำหรับเรา เราคิดเสมอว่า ขอแค่เรามีใจที่ไหนก็คือฟิตเนสค่ะ ^__^
ระหว่างทางที่ลดความอ้วนครั้งนี้ เคยท้อมั้ย อยากหยุดเหมือนครั้งก่อนๆ บ้างมั้ย ถ้าเคย คิดยังไงถึงผ่านจุดนั้นมาได้ คิดว่าอะไรคือกำลังใจ หรือความคิดที่สำคัญที่เรายังทำอยู่ถึง 123 วัน
การเริ่มลดน้ำหนักครั้งนี้ เราเริ่มลดน้ำหนัก วันที่ 3 ตุลาคม 2559 จนถึงวันนี้ ปลายเดือนกุมภาพันธ์ ประมาณ 4 เดือนกว่า ๆ ระหว่างทางท้อเหมือนกันค่ะ มันมีช่วงที่น้ำหนักไม่ลงเลย ไม่ขยับ สวิงขึ้น ๆ ลง ๆ บางช่วงก็นิ่งทั้งที่เราก็ไม่ได้เกเร บางช่วงก็เกิดจากเรากินอะไรที่นอกลู่นอกทาง แต่คราวนี้ไม่เหมือนคราวก่อนที่เราเคยเล่าไป ที่เราเคยหลุดแล้วไหลไปยาวจนล้มเลิก ครั้งนี้พอเราหลุด เราก็กลับมาคุมอาหาร กินคลีน แบบที่เรากิน และยังคงออกกำลังกายเหมือนเดิม ไม่เร่งรีบค่อยเป็นค่อยไป ทำให้มีความสุขไม่เครียด ทุกครั้งที่กินไม่ดี ก็จะคุยกับตัวเอง และถามว่า จะกลับไปน้ำหนักเป็นร้อยโลอีกหรอ ไม่เหนื่อยหรือไง กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ทุ่มเทขนาดไหน พอได้คุยกับตัวเอง ก็กลับมายังวิถีคลีนของเรา เราคิดเสมอว่าวันนี้น้ำหนักไม่ลด สัดส่วนไม่ลงไม่เป็นไร ทำต่อไปให้เป็นนิสัย กว่าจะอ้วนมาได้ขนาดเป็นสาวน้อยร้อยกิโล ก็ไม่ใช่ใช้เวลาแค่เดือนสองเดือน จะให้มันผอมในช่วงพริบตาคงจะเป็นไปไม่ได้ ท่องไว้เสมอว่า ลดความอ้วนไม่มีทางลัด
กำลังใจที่สำคัญคือ ความศรัทธาในตัวเอง
ถึงวันนี้เราอาจจะไม่ถึงเป้าหมายที่เราตั้งใจไว้ ยังไม่ใช่คนที่ผอมเพรียว หุ่นดี แต่วันนี้เราก็ภูมิใจในตัวเอง รักตัวเองมากขึ้น และอยากกอดตัวเองในทุก ๆ วัน
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
มิว MEYOU เผยสาเหตุซูบผอม น้ำหนักลดไป 10 กก. ป่วยเป็นเกาต์ ต้องปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต
ทำเอาหลายคนถึงกับทักทันที หลังเห็น มิว MEYOU หรือ มิว ชิษณุชา ตันติเมธ ผอมลงมากอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเจ้าตัวได้เผยว่า ได้ป่วยเป็นโรคเกาต์ และน้ำหนักลดลงประมาณ 10 กิโลกรัมล่าสุด มิว ไ
สมาชิกหมายเลข 8457357
โรคอ้วน ภัยเงียบใกล้ตัวที่คุณควรรู้และวิธีจัดการอย่างยั่งยืน
โรคอ้วนไม่ใช่แค่เรื่องของน้ำหนักตัว แต่เป็นภาวะทางการแพทย์ที่สามารถนำไปสู่ปัญหาสุขภาพร้ายแรงอื่นๆ การทำความเข้าใจสาเหตุ การวินิจฉัย และแนวทางการจัดการโรคอ้วนอย่างถูกวิธีจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้คนไข้ส
โรงพยาบาลธนบุรี
ออกกำลังกายระหว่างวิ่งกับเดิน แบบไหนจะเบิร์นได้มากกว่ากันครับ
ตอนนี้ผมอายุ 45 ปี... ตั้งแต่เด็ก ๆ ถึงวัยรุ่นหุ่นปกติ ค่อนข้างผอมด้วยซ้ำ พออายุ 30 ขึ้นก็เริ่มอ้วนเรื่อย ๆ เอาแต่กิน ๆ นอน ๆ ไม่เคยออกกำลังกายเลย จนมาถึงอายุ 40 ไปชั่งน้ำหนัก 101 กก. ตกใจมากเพราะไม่เ
สมาชิกหมายเลข 2396481
ใครมีประสบการณ์อ้วนแล้วสามีขอหย่า
ขอเข้าเรื่องเลยนะคะถ้าใครมีประสบการณ์ขอคำแนะนำหน่อยคะ พอดีเราเป็นคุณแม่ลูก2 หลังคลอดมาก็พยายามลด นน. พยายามที่จะดูแลตัวเอง ท้องสองหลังคลอดเราหนัก89พอลูกอายุ6เดือน เราก็ดูแลตัวเองด้วยการทำfi เลยลงมาได้
สมาชิกหมายเลข 9061599
พยายามลดความอ้วน แต่น้ำหนักนิ่งไม่ไปไหนเลยทำไงดีครับ??
คือผมเป็นคนผอมแข็งแรงมาก่อนครับ แต่ผมอ้วนจากที่กินจุกจิก พอผมกลับมาลด ตอนแรกก็ลดดีอยู่ครับ ผมสูง178 หนัก123 แต่ผมออกกำลังกาย คาร์ดิโอ และควบคุมอาหารด้วยการกิน2มื้อ มื้อเช้ากับเที่ยง ผมทำมา22วันแล้วครั
สมาชิกหมายเลข 8486599
ไก่ทอด 4 ชิ้น = FAT 70g จริงหรือ?
ก็ไม่น่าแปลกทำไมไขมันสะสมกับน้ำหนักจะสูงขนาดนี้ ถ้าในเมื่ออาหารโปรดเราคือไก่ทอด 🫣 โปรผู้พันธุ์ ไก่ทอด 4 ชิ้นจาก 180 เหลือ 119 บาท ได้มาซึ่ง FAT 70g แล้วโค้วต้าอยู่มี่ 67g คือมื้อเดียวก็เกินแล้วครับ
Lively Boy
มีใครแนะนำการลดน้ำตาลกับลดน้ำหนักควบคู่กันไปได้มั้งค่ะ
ตอนนี้มื้อเช้าทาน glucerna SR 200ml , เที่ยงทานอาหารทั่วไป ข้าวไม่เกิน 100g , เย็นกินโปรตีนจากพืช 3 ช้อน 30g , เดินออกกำลังกาย 1 ชั่วโมงตอนเย็น ทำมา 5 วันแล้ว แต่น้ำหนักลงแค่ 2 ขีด จาก 95.6 kg มาที่ 9
คุณแม่ร่างหมี
วันๆนึงคุณกินไปกี่แคลอรี่ ลองคิดเล่นๆ
จขกท กินจุบกินจิบ วันๆนึงน่าจะ 2000-2500 อาศัยออกกำลังกาย 5 วัน พัก 2 วันเอา ที่ออกกำลังกายไม่ได้จะผอมอะไรหรอกนะคะ แต่เพื่อไม่ให้อ้วนไปกว่าที่เป็นอยู่ค่า 555
สมาชิกหมายเลข 8548454
เมื่ออายุหลักสี่ เป็นเพียงตัวเลข อ้วนได้.. ย้วยได้... ก็ผอมลง เฟิร์ม หุ่นดีขึ้นได้
ต้องแจ้งก่อนนะคะ ว่าปุ้ยนำเรื่องของพี่คนหนึ่งมาเขียน เนื่องจากเห็นหลายๆคนยังลดความอ้วนกัน แบบผิดๆอยู่ จึงอยากนำเรื่องราวดีๆมาแบ่งปัน เพื่อเป็นแนวทางให้ทุกคน มีสุขภาพและรูปร่างที่ดีค่ะ พี่สาวคนนี้ อ
Love Is A Verb
อายุมากขึ้น ลดน้ำหนักยากมากก ทำไงดี
ตามหัวข้อเลยค่ะ …..}} เรามาสังเกตว่าปีนี้ เราลดน้ำหนักยากกกกกขึ้นมากกกกกก ทั้งๆที่กินน้อยลงจากเดิม มากเช่นกัน ทำหลายวิธีแล้ว ไม่ว่าจะเป็น 🌟 IF 16/8 , 23/1 น้ำหนักลงช่วงวันแรก แต่ หลังจากนั้นก
Louk Journey
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ลดความอ้วน
โภชนาการ
ฟิตเนส
ออกกำลังกาย
สุขภาพกาย
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 836
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
123 Change!!! - เปลี่ยนสาวน้อย 101 โล เหลือ 80 โลได้ภายใน 123 วัน
น้องเค้าถามจบก็เงียบหายไปจนผมลืมไปแล้ว ต่อมาสักอาทิตย์ 2 อาทิตย์ น้องเค้าก็มาอัพเดทความคืบหน้า ว่าเปลี่ยนแปลงอาหารยังไง ออกกำลังกายยังไง มีการเปลี่ยนแปลงของตัวเองยังไง และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม แล้วก็หายไปจัดการตัวเอง แล้วก็กลับมาอัพเดทความคืบหน้าอีก เป็นอย่างนี้เสมอๆ
จนวันนึง น้องเข้ามาอัพเดทว่า จากน้ำหนัก 101 กิโลกรัมในวันแรก ตอนนี้น้องไอติมสามารถลดลงมาได้เหลือ 80 กิโลกรัมแล้ว ซึ่งก็ใช้ระยะเวลา 4 เดือน คือประมาณ 123 วัน ผมเลยขออนุญาตสัมภาษณ์น้องไอติม เพื่อให้น้องไอติมได้แบ่งปันประสบการณ์สร้างแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆ ว่า 123 วัน ก็สามารถเปลี่ยนแปลงสาวน้อย 101 โลคนนี้ได้อย่างไรลงในพันทิปให้เนื่องจากน้องเค้าไม่ log in ครับ
Background ชีวิต ทำงานอะไร ชอบกิน ชอบเที่ยวอะไร ว่างๆทำอะไร
สวัสดีค่ะ ชื่อเล่นว่าไอติม ปัจจุบันเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งค่ะ ชีวิตปกติเป็นคนไม่ชอบเที่ยวเหมือนคนอื่น ๆ มีเที่ยวบ้างปีละครั้ง 2 ครั้ง
ชอบอยู่บ้านทำงานบ้าน ทำอาหาร แต่สิ่งหนึ่งที่ชอบมาก ๆ คือ เป็นคนชอบกิน (ไม่งั้นคงไม่ต้องมานั่งรีวิวแบบนี้ อิอิ) มีความสุขมากทั้งเวลาที่เป็นคนกินและเป็นคนทำ เมนูที่กินบ่อยมากคือ เมนูทอด ๆ ลูกชิ้นทอด ไก่ทอด หมูทอด อาหารบุฟเฟ่ต์ เครื่องดื่มหวาน ๆ ทุกชนิด โดยเฉพาะน้ำอัดลมและกาแฟเย็น เรากินเครื่องดื่มสองชนิดนี้แทบทุกวัน!!!!
ก่อนหน้านี้ที่อ้วน อ้วนได้อย่างไร แล้วเคยลดความอ้วนมาก่อนมั้ย ถ้าเคยครั้งก่อนๆ ทำยังไง แล้วผลลัพธ์เป็นยังไงถ้าครั้งก่อนทำแล้วไม่สำเร็จ อะไรคือตัวหยุด ที่ทำให้เราลดไม่สำเร็จ
จำได้ว่าเป็นคนที่อ้วนมาตั้งแต่เด็ก เวลาอยู่ในชั้นเรียน เราอาจจะไม่ใช่คนที่อ้วนมากที่สุดในห้อง แต่ก็อยู่ในกลุ่มตัวท็อป (เรื่องน้ำหนัก) 5555+ ก็คือเกินเกณฑ์นั่นแหละค่ะ จำได้ว่าตอน ปวส. ปี1 เคยหนักประมาณ 70 กก. แล้วก็ลดได้จนเหลือน้ำหนัก 55 กก. แรงบันดาลใจตอนนั้นคือ ชอบผู้ชายรุ่นพี่คนนึง หลอกตัวเองว่าถ้าเราผอมเค้าต้องชอบเราแน่ ๆ 5555 (ความรักของเด็กน้อย) เราใช้วิธี คุมอาหาร มีเล่นกีฬาปิงปองร่วมด้วย และอดอาหารมื้อเย็น ย้ำว่า “อด” ค่ะ ไม่กินเลย นอนหิว แค่ 2 เดือน น้ำหนักลงเร็วเวอร์วังอลังการ ลงไปถึง 15 โลเลยทีเดียว...
หลังจากน้ำหนักลง ก็กลับมากินแบบเดิม นิสัยแบบเดิม น้ำหนักกระเด้งกลับมาเร็วมาก น้ำหนักขึ้นเรื่อย ๆ แบบไม่รู้ตัว จากเรียนจบ ปวส. ถึง มหาลัย ระยะเวลา 2 ปี น้ำหนักกระเด้งจาก 55 กก. จนถึง 98 - 103 กก. ตลอดเวลา 2 ปี ก็รู้และพยายามจะลดน้ำหนักอยู่ตลอด เพียงแต่ไม่เคยคิดใช้ยาลดน้ำหนัก ซึ่งที่ไม่สำเร็จเพราะเวลาลดจะตึงเครียดกับชีวิตมาก หักดิบแบบไม่มีสายกลาง พอเห็นอาหารที่เคยชอบกิน ก็ตะบะแตกตลอด พอจะลดก็บอกว่า พรุ่งนี้นะ ฉันจะลดน้ำหนักอย่างจริงจัง วันนี้ฉันจะกินเหมือนส่งท้าย อัด ๆ เข้าไปอย่างบ้าคลั่ง ทำได้ไม่ถึงเดือนก็เลิก พอเราหลุด เราก็หลุดไปยาว เป็นวงจรอุบาทว์มาโดยตลอด
ครั้งนี้คิดยังไง ทำไมถึงอยากลดความอ้วน (อีกครั้ง) อะไรคือแรงบันดาลใจตอนที่คิดตัดสินใจว่าจะลดจริงจัง
การลดน้ำหนักครั้งนี้ถามว่ามีแรงบันดาลใจอะไรในการเป็นตัวผลักดัน เอาตรง ๆ ก็ไม่มีค่ะ แต่พอเราทำไปเรื่อย ๆ แรงบันดาลใจเราจะมาเอง เมื่อเราได้รับคำชมตลอดเวลาเราลดได้ มันทำให้เราศรัทธาในตัวเอง ก่อนหน้านี้เราเคยเอาความรู้สึกว่าเราอยากลดเพราะผู้ชายคนนั้น คนนี้ อยากให้เค้าชอบเรา เราเป็นผู้หญิงที่จบเอกมโน จบโทจินตนาการค่ะ 55555 แต่ครั้งนี้เริ่มจากเราฟันคุด น้ำหนักเราลงไป 3 กก. จาก 101 ลงมา 98 กก. ก็เลยคิดว่าลดเอง 3 ขีดยังทำไม่ได้เลย เราถือโอกาสนี้บอกตัวเองว่า ไหน ๆ ก็ลดมาแล้วก็ทำต่อไปเลยแล้วกันหลังจากนั้นก็อ่าน ๆ ๆ ๆ ๆ อ่านอะไรบ้างเดี๋ยวมาว่ากันค่ะ
ศึกษาหาข้อมูลวิธีการยังไงบ้าง
หลังจากคืนนั้นตัดสินใจว่าจะลดน้ำหนักแล้ว เราก็หาข้อมูลในพันทิปค่ะ ก็ได้ไปเจอกระทู้ ๆ นึงเป็นหัวข้อประมาณว่า “คน 8 ประเภท ที่รับรองได้ว่าลดความอ้วนยังไงก็ไม่สำเร็จ” https://pantip.com/topic/35638982
อ่านไปเสร็จปุ๊บ ก็บอกตัวเองว่า กูนี่ เข้าทุกประเภทเลยจริง ๆ 55555 แต่ชอบบทความมากอ่านตอนท้ายถึงรู้ว่าคนเขียนกระทู้ เค้ามีเพจให้ติดตามวิธีลดความอ้วน อาหารดี ๆ การออกกำลังกาย และคำพูดสร้างแรงบันดาลใจมากมาย ชื่อเพจว่า 123 Change ค่ะ
กระทู้ที่ทำให้เราได้รับความรู้อย่างเต็มเปี่ยมเลยคือกระทู้ “123 Change!!! 123 วัน เปลี่ยนหนุ่มออฟฟิศธรรมดาให้น่ากิน : D”
https://pantip.com/topic/35528915
กระทู้นี้มีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับการลดความอ้วน ใครคิดจะเริ่มลด อ่านกระทู้นี้จบเลยค่ะ หลังจากเราอ่านแล้ว เรารู้ว่าจริง ๆ แล้ววิธีลดน้ำหนักมันมีหนทางเดียวค่ะ มันไม่มีทางลัดที่จะลดอย่างยั่งยืน วิธีปฏิบัติเราหาได้ทั่ว ๆ ไป แต่ใจเราเท่านั้นที่จะทำให้หนทางนี้ไปได้ตลอดรอดฝั่ง ต่อจากนี้เป็นวิธีที่เราเริ่มลดค่ะ
(ตอนนี้ผมได้เรียบเรียงเนื้อหาจากกระทู้มาลงในเวป เพื่อให้ข้อมูลครบถ้วนไม่ขาดหาย สามารถติดตามได้ที่ https://123change.home.blog ครับ)
ข้อมูลน้ำหนักตัว สัดส่วน ในวันที่เริ่มต้นเป็นยังไง วิธีการที่ใช้ลดความอ้วนครั้งนี้คือยังไง การออกกำลังกายและควบคุมอาหาร
สัดส่วนและอาหาร
น้ำหนักเราอยู่ที่ 101 กก. ลงไป 3 กก. จากฟันคุด เราสูง 154 ตอนนั้นรอบเอวเราอยู่ที่ 42 นิ้ว ตอนนี้รอบเอวเหลือ 36 นิ้วค่ะ จากที่ตัดสินใจในคืนนั้นเราเริ่มทำทันทีแบบไม่รอเวลา ไม่รอฤกษ์ยามอีกต่อไป เราเริ่มหาข้อมูล ปัจจัยสำคัญคืออาหาร หากจะลดความอ้วน อาหารมีผล 70-80% เลยทีเดียวเราเริ่มหาข้อมูลว่า อาหารคลีน คืออะไร การกินไขมันดี คาร์โบไฮเดรตดี และโปรตีนดี ต้องกินยังไง จากการอ่าน มันทำให้เรารู้ว่าร่างกายเราต้องอาหารที่ครบ 5 หมู่ เราตัดสินใจเปลี่ยนทุกอย่างในเช้าวันนั้นเลย เปลี่ยนข้าวขาวเป็นข้าวไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ กินไขมันดีอย่างเช่น อโวคาโด น้ำมันมะกอก น้ำมันคาร์โนล่า ถั่วเปลือกแข็งต่างๆ ในส่วนของโปรตีนเรากินเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมันเช่น อกไก่ หมูสันใน กุ้ง ปลา นมถั่วเหลืองหวานน้อย และไข่ ในช่วงแรงใจมันมา มันฮึกเหิมมาก
ครั้งนี้เราไม่อดมื้อเย็น แต่เราแค่เลือกกิน เราเลิกกินน้ำอัดลม กาแฟเย็น (ทั้งที่เมื่อก่อนติดมากกกกกกก) เรากินอาหารทั้งหมด 5 มื้อ แบ่งเป็นมือหลัก 3 มื้อ และมื้อย่อย 2 มื้อ ขั้นระหว่างมื้อหลัก ในส่วนของมื้อหลัก เราจะมีแป้งในมื้อเช้าและกลางวัน แต่ในมื้อเย็น เราจะกินเป็นโปรตีน ผัก ผลไม้แทน สำหรับในส่วนของมื้อย่อย เราจะกินพวกผลไม้หรือถั่ว เพราะจะไม่ปล่อยให้ตัวเองหิว เพราะถ้าหิวเมื่อไร ใจมันจะขาด 55555
เวลาทานอาหารกับครอบครัว เพื่อนๆ รู้สึกเป็นอุปสรรคมั้ย
เราตื่นมาทำอาหารทุกวัน วันไหนที่ต้องกินกับคนอื่น ๆ กับเพื่อน ๆ เราก็จะดูว่ามื้อ ๆ นั้นเราพกข้าวไปกินได้ไหม เช่น เราอาจจะพกข้าวไรท์เบอร์รี่ไปกินกับเพื่อนแต่ถ้ามื้อไหนเป็นบุฟเฟต์ เราก็จะพยายามเลือกกิน กินปลา กินไก่ กินผัก อยากกินอะไรก็กิน แต่คุมปริมาณไม่ใช่ยัดแบบเมื่อก่อน เรายังคงสนุกสนานกับเพื่อนได้อย่างกลมกลืน ช่วงแรก
ยอมรับว่าเพื่อนก็งง ๆ ว่าอะไรจะขนาดนั้น มีกดดันเหมือนกัน แต่เราก็อธิบายว่าเรามีเป้าหมายสุดท้ายเพื่อนก็เข้าใจและเป็นกำลังใจให้เรา หลังจากมื้อพิเศษเราก็กลับมากินคลีนของเราแบบปกติ ทำให้มันชิน มันจะชิวไปเอง
การออกกำลังกาย
ในส่วนของการออกกำลังกายช่วงแรก เราเน้นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโออย่างเดียว เราใช้วิธีการ เล่นฮูล่าฮูบ เดินเร็ว เรายังไม่กล้าวิ่งเพราะเราน้ำหนักตัวเยอะ เต้นแอโรบิค ซุ้มบ้าตาม Youtube เราออกกำลังกายแค่ 15 นาทีก็โคตรจะเหนื่อย หลังจากนั้นก็ไล่ระดับไปได้เรื่อยจนออกกำลังกายได้ 1ชม.
หลังจากออกกำลังกายได้ 2 เดือนแรก เราก็ทำความเข้าใจในเรื่องบอดี้เวท ศึกษาว่าทำไมเราต้องออกกำลังกายแบบเวท และ คาร์ดิโอไปพร้อม ๆ กัน เราเริ่มศึกษาการออกกำลังกายแบบบอดี้เวท ประกอบกับช่วงนั้นห้างใกล้บ้านมีฟิตเนสมาเปิดใหม่ เราตัดสินใจเข้าไปสมัครอย่างไม่รีรอ ยอมควักเงินแบบไม่เสียดาย คิดว่าซื้อของอย่างอื่นแบบไม่มีสาระยังซื้อได้ แต่นี่คือสุขภาพของเรา ทำไมถึงจะซื้อไม่ได้
จากการเป็นสมาชิกฟิตเนส เราได้การออกกำลังกายที่หลากหลายมากขึ้นเพราะที่ฟิสเนตมีคลาสที่ดีเยอะเลย เช่น ซุมบ้า โยคะ บอดี้ปั้ม บลา ๆๆ มันทำให้คนขี้เบื่ออย่างเราไม่ขี้เกียจ มีเพื่อน และที่สำคัญคือ เรามีสภาพแวดล้อมในการออกกำลังกาย จากการออกกำลังกายที่บ้านได้วันละ 1 ชม. ทุกวันนี้เราออกกำลังได้ 2-3 ชม. โดยเราออกกำลังกาย 5-6 วันต่อสัปดาห์ โดยเราจะเข้าคลาสที่เป็นคาร์ดิโอ 1 ชม. และเวทเทรนนิ่ง 1 ชม. ถ้าวันไหนมีธุระไม่ได้ไป ก็จะออกกำลังกายอยู่ที่บ้าน จนติดนิสัยว่าต้องออกกำลังกาย บางคนอาจะบอกว่า ออกกำลังกาย 2 - 3 ชม. มันหนักไปไหม หักโหมไปหรือเปล่า แต่ร่างกายเราจะรู้เองว่าเราไหวหรือไม่ไหวค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ใช่ว่าเพราะเราไปฟิสเนตเลยผอมลงนะคะ สำหรับเรา เราคิดเสมอว่า ขอแค่เรามีใจที่ไหนก็คือฟิตเนสค่ะ ^__^
ระหว่างทางที่ลดความอ้วนครั้งนี้ เคยท้อมั้ย อยากหยุดเหมือนครั้งก่อนๆ บ้างมั้ย ถ้าเคย คิดยังไงถึงผ่านจุดนั้นมาได้ คิดว่าอะไรคือกำลังใจ หรือความคิดที่สำคัญที่เรายังทำอยู่ถึง 123 วัน
การเริ่มลดน้ำหนักครั้งนี้ เราเริ่มลดน้ำหนัก วันที่ 3 ตุลาคม 2559 จนถึงวันนี้ ปลายเดือนกุมภาพันธ์ ประมาณ 4 เดือนกว่า ๆ ระหว่างทางท้อเหมือนกันค่ะ มันมีช่วงที่น้ำหนักไม่ลงเลย ไม่ขยับ สวิงขึ้น ๆ ลง ๆ บางช่วงก็นิ่งทั้งที่เราก็ไม่ได้เกเร บางช่วงก็เกิดจากเรากินอะไรที่นอกลู่นอกทาง แต่คราวนี้ไม่เหมือนคราวก่อนที่เราเคยเล่าไป ที่เราเคยหลุดแล้วไหลไปยาวจนล้มเลิก ครั้งนี้พอเราหลุด เราก็กลับมาคุมอาหาร กินคลีน แบบที่เรากิน และยังคงออกกำลังกายเหมือนเดิม ไม่เร่งรีบค่อยเป็นค่อยไป ทำให้มีความสุขไม่เครียด ทุกครั้งที่กินไม่ดี ก็จะคุยกับตัวเอง และถามว่า จะกลับไปน้ำหนักเป็นร้อยโลอีกหรอ ไม่เหนื่อยหรือไง กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ทุ่มเทขนาดไหน พอได้คุยกับตัวเอง ก็กลับมายังวิถีคลีนของเรา เราคิดเสมอว่าวันนี้น้ำหนักไม่ลด สัดส่วนไม่ลงไม่เป็นไร ทำต่อไปให้เป็นนิสัย กว่าจะอ้วนมาได้ขนาดเป็นสาวน้อยร้อยกิโล ก็ไม่ใช่ใช้เวลาแค่เดือนสองเดือน จะให้มันผอมในช่วงพริบตาคงจะเป็นไปไม่ได้ ท่องไว้เสมอว่า ลดความอ้วนไม่มีทางลัด
กำลังใจที่สำคัญคือ ความศรัทธาในตัวเอง
ถึงวันนี้เราอาจจะไม่ถึงเป้าหมายที่เราตั้งใจไว้ ยังไม่ใช่คนที่ผอมเพรียว หุ่นดี แต่วันนี้เราก็ภูมิใจในตัวเอง รักตัวเองมากขึ้น และอยากกอดตัวเองในทุก ๆ วัน