• อันนยองฮาเซโย
จองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้า 1 ปี จองที่พักล่วงหน้า 3 เดือน เตรียมแผนการเดินทางไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
เที่ยว 5 วัน 4 คืน ต้องเตรียมตัวขนาดนี้เลยหรอ?
สำหรับใครที่เคยไปเกาหลีมาแล้วจะรู้ว่า บ้านนี้เมืองนี้มีไว้เพื่อคู่รัก เอาว่าใครที่ไปคนเดียวหรือไปกับเพื่อนจะต้องเคยรู้สึกตาร้อนผ่าวๆไม่ต่ำกว่าวันละสามครั้งเจ็ดครั้ง ซึ่งจริงๆส่วนตัวทริปนี้เป็นการเดินทางไปเกาหลีครั้งที่ 5 แล้ว แต่นี่จะเป็นครั้งแรกที่เราเหยียบเกาหลีแบบ "คนมีคู่"
จะฟินแค่ไหน ไม่ต้องถามใจ แค่ตามมาดู
การรอคอยเกือบ 365 วัน จบลงแล้ว ..
แค่เริ่มต้น ก็ดูเหมือนกับว่าแผนที่ถูกเตรียมไว้อย่างดีมากว่าครึ่งปี จะผิดเพี้ยนไปจากที่คิดไว้ เมื่อกัปตันแจ้งว่า
“เกิดความผิดพลาดบางประการ จำเป็นต้องเปลี่ยนเครื่องเพื่อความปลอดภัย”
นับหนึ่งอีกครั้ง สินะ
หยิบสัมภาระ, เดินออกจากเครื่อง, รอเวลา Boading Time ใหม่, เรียกขึ้นเครื่องอีกครั้ง และช้าไปอีก 2 ชม.
เอาน่า แต่ยังไงเราก็มาถึงแล้ว “เฮ้ ! โซล เจอกันอีกแล้วนะ, แต่วันนี้เราพาบางคนมาแนะนำให้รู้จักเธอ”
• ปลาหมึกผัดซอสเผ็ด ร้านฮงซึจูกุมิ
ครั้งสุดท้ายที่มาเกาหลี มีโอกาสได้มากินร้านนี้ตามคำบอกเล่าจากใครหลายๆคน เมนูหลักของที่นี่ชื่อว่าปลาหมึกผัดซอสเผ็ด (มีให้เลือกทั้งแบบเผ็ดปกติ กับเผ็ด
) หลังจากครั้งแรกที่ได้กินก็บอกกับตัวเองว่ามันคือใช่ เหมือนโกโบริข้ามน้ำข้ามทะเลมาได้เจอกับอังศุมาริน (หืมมม ..ต้องขนาดนั้น) ปลาหมึกกรอบๆ ผัดกับซอสรสจัด กินกับไข่ตุ๋น ตามด้วยการเอาข้าวกับไข่ปลาลงไปผัด (แค่คิดก็อยากจะย้อนเวลา..) ดังนั้นที่นี่จึงเป็นสถานที่ที่ถูกเขียนลงไปใน list “ร้านอาหาร/ขนมที่ห้ามพลาด!” สำหรับทริปนี้ไปโดยปริยาย
พิกัด Hongik Univ. Exit 8 ออกมาจากสถานีแล้วเดินเข้าซอยไปเรื่อยๆ พอเจอวงเวียนเล็กๆให้เลี้ยวซ้าย เดินต่อไปนิดนึง ร้านจะอยู่ทางขวา ร้านสีแดงๆ (ลองค้นใน google ดู มีคนรีวิวไว้เยอะ)
ล้างปากด้วยยาคูลท์ฟรี เป็นอันปิดท้ายมื้อแรกอย่างสวยงาม
อากาศในวันนั้นประมาณ -8 องศา มือเท้าเย็นไปหมด สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ
ถุงร้อน (Hot pack) หาซื้อได้ตามมินิมาร์ททั่วไป
จัดมาหนึ่งคู่ ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อโค้ท อ๊าา อุ่น..สบายยย
อิ่มแล้ว อุ่นแล้ว ออกเดินทางได้ ! สถานีต่อไป Sinsa Station
จะบอกให้ว่า "ใครไม่ได้มาเดิน
ถนนกาโรซูกิล (Garosu-gil) ถือว่ามาไม่ถึงโซล" นะจ้ะ
พิกัด สถานี Sinsa Exit 8
บราวน์ใส่ชุด Unicef จากร้าน Line Friends Cafe&Store บนนถนน กาโรซูกิล (Garosu-gil)
ไม่ได้ถ่ายบรรยากาศร้านมา เพราะคนเยอะมหาศาลมาก จะถ่ายรูปคู่กับหมีบราวน์ตัวใหญ่ ยังไม่มีโอกาสเลย แฮร่
• ร้านขนมเค้กสายรุ้ง DORE DORE
อีกร้านที่ถูกบันทึกลงใน list ร้านอาหาร/ขนมที่ห้ามพลาด! อย่างบรรจงและตั้งใจ
ถึงแม้ราคาจะสู๊งงงไปหน่อย (ชิ้นละ 9,000 วอน หรือ 270 บาท) แต่สำหรับเราถือว่าไม่ผิดหวัง
- หน้าตางดงาม เหมาะแก่การถ่ายรูปอัพลงไอจีอวดชาวบ้าน
- ชิ้นใหญ่ ปริมาณเยอะ เยอะขนาดที่กินสองคนยังเหลือ
- รสชาติ เอาไปเลยสามผ่าน เนื้อเค้กนุ่มละลายในลิ้น เนื้อครีมสดเนียนหอม ไม่หวานเลี่ยน
ใครมีโอกาสผ่านไปแถวนั้น ต้องลอง!
• ร้านซอฟไอศกรีมสายไหม REMICONE
หลังจากเดินออกจาก DORE DORE ไม่ถึง 5นาที ก็มาโผล่หน้าร้านไอติมสายไหมสามแฝด
เอาจริงๆ ณ ตอนนั้นอิ่มจนจะพุ่ง ปลาหมึกผัดซอสเผ็ดกับเค้กสายรุ้งยังไม่ย่อยเลย
แต่ แต่ แต่จะปล่อยผ่านก็ไม่ได้ ปลดซิปกางเกงออก สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วไปกันเล้ย!
ครั้งแรกที่ตั้งใจมาไม่ได้คาดหวังอะไรมาก ไม่น่าต่างกับไอติมโคน Mc, KFC บ้านเรา
แต่พอได้กินคำแรก ผิดคาด แบบเฮ้ยย.. อร่อย
(ขออภัยที่หยาบคาย แต่ฟีลลิ่งมันเบอร์นั้น)
เนื้อไอติมเนียน รสชาติไม่หวานเลี่ยน ออกจืดๆด้วยซ้ำ วิธีกินต้องตักไอติมแล้วฉีกสายไหมวางข้างบน กินด้วยกัน สายไหมรสชาติเปรี้ยวๆ มีเม็ดน้ำตาลเสียงดังเป๊าะแป๊ะในปาก เหยยยย คือดี คืออร่อย คือชอบ คือกดเลิฟ ที่เราจัดมาคือ Thunder Bomb เมนูSignature ราคา 6,100 วอน ประมาณ 180 บาท ปริมาณไม่เยอะ แต่ชั่วโมงนั้นก็พอดิบพอดี ไม่เหลือ ไม่ขาด
• ร้านไก่จิมดัค YEOLBONG
หากคุณคิดว่าไอติมและขนมเค้ก จะทำอะไรคนอย่างเราได้ คุณคิดผิด!
เพราะสถานที่ต่อไปที่เราใช้เป็นที่หลบหนาว ไม่ใช่ร้านเสื้อผ้า ร้านรองเท้า หรือ Line Friends Cafe&Store แต่เป็นร้าน..อาหาร
สารภาพตรงๆคือยังอิ่มอยู่ อึดอัดพุงมาก แต่ใน List ที่ตั้งใจไว้มันยังเหลืออีกร้านนึงนี่นา ถ้ากลับที่พักตอนนี้ก็กลัวจะไม่สบายใจนอนไม่หลับ
งั้นเราเข้าไปกินไก่ต้มซีอิ๊วหลบหนาวไปพรางๆแล้วกันโน๊ะ (เกลียดตัวเอง ณ เวลานั้น ฮ่า)
• LED Rose Garden at DDP
หลังจากภารกิจกินแหลกจบลง เราก็มุ่งหน้าไป DDP (Dongdaemun Design Plaza) ต่อ
ความน่าสนใจของ DDP นอกจากรูปแบบสถาปัตยกรรมที่สวยล้ำแล้ว ในช่วงค่ำๆเค้ามีการจัดแสดงทุ่งดอกกุหลาบ LED ด้วย
อากาศเย็นๆ เดินดูไฟ LED ถ่ายรูปคู่มุ้งมิ้ง โอ้ยย อิจฉาชีวิตตัวเอง ณ เวลานั้นที่สุด
• สมูทตี้ ออร์แกนิก Beesket
ปิดท้ายวันแรกด้วยน้ำผลไม้สมูทตี้แบบเฮลท์ตี้ๆ กับร้านน้ำ Beesket สาขา DDP
โดยรวมร้านตกแต่งน่ารัก วิธีการคือต้องเลือกผลไม้ที่ชอบ 3 ชนิดจากบาร์ผลไม้หน้าเคาท์เตอร์แล้วส่งให้พนักงานคิดเงิน
หลังจากนั้นก็รอรับน้ำผลไม้ที่เราสั่งไว้ จะได้มาพร้อมกับใบสรุปปริมาณวิตมินจากผลไม้ที่เราเลือก เก๋ดีนะ
จบวันแรกอย่างสวยงาน พรุ่งนี้จะมีเรื่องตื่นเต้นอะไรรอเราอยู่นะ
[CR] โซล • เกาหลี • ฤดูหนาว • ไม่เหงา • แต่หนาวมาก
• อันนยองฮาเซโย
จองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้า 1 ปี จองที่พักล่วงหน้า 3 เดือน เตรียมแผนการเดินทางไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
เที่ยว 5 วัน 4 คืน ต้องเตรียมตัวขนาดนี้เลยหรอ?
สำหรับใครที่เคยไปเกาหลีมาแล้วจะรู้ว่า บ้านนี้เมืองนี้มีไว้เพื่อคู่รัก เอาว่าใครที่ไปคนเดียวหรือไปกับเพื่อนจะต้องเคยรู้สึกตาร้อนผ่าวๆไม่ต่ำกว่าวันละสามครั้งเจ็ดครั้ง ซึ่งจริงๆส่วนตัวทริปนี้เป็นการเดินทางไปเกาหลีครั้งที่ 5 แล้ว แต่นี่จะเป็นครั้งแรกที่เราเหยียบเกาหลีแบบ "คนมีคู่"
จะฟินแค่ไหน ไม่ต้องถามใจ แค่ตามมาดู
การรอคอยเกือบ 365 วัน จบลงแล้ว ..
แค่เริ่มต้น ก็ดูเหมือนกับว่าแผนที่ถูกเตรียมไว้อย่างดีมากว่าครึ่งปี จะผิดเพี้ยนไปจากที่คิดไว้ เมื่อกัปตันแจ้งว่า
“เกิดความผิดพลาดบางประการ จำเป็นต้องเปลี่ยนเครื่องเพื่อความปลอดภัย”
นับหนึ่งอีกครั้ง สินะ
หยิบสัมภาระ, เดินออกจากเครื่อง, รอเวลา Boading Time ใหม่, เรียกขึ้นเครื่องอีกครั้ง และช้าไปอีก 2 ชม.
เอาน่า แต่ยังไงเราก็มาถึงแล้ว “เฮ้ ! โซล เจอกันอีกแล้วนะ, แต่วันนี้เราพาบางคนมาแนะนำให้รู้จักเธอ”
• ปลาหมึกผัดซอสเผ็ด ร้านฮงซึจูกุมิ
ครั้งสุดท้ายที่มาเกาหลี มีโอกาสได้มากินร้านนี้ตามคำบอกเล่าจากใครหลายๆคน เมนูหลักของที่นี่ชื่อว่าปลาหมึกผัดซอสเผ็ด (มีให้เลือกทั้งแบบเผ็ดปกติ กับเผ็ด
พิกัด Hongik Univ. Exit 8 ออกมาจากสถานีแล้วเดินเข้าซอยไปเรื่อยๆ พอเจอวงเวียนเล็กๆให้เลี้ยวซ้าย เดินต่อไปนิดนึง ร้านจะอยู่ทางขวา ร้านสีแดงๆ (ลองค้นใน google ดู มีคนรีวิวไว้เยอะ)
ล้างปากด้วยยาคูลท์ฟรี เป็นอันปิดท้ายมื้อแรกอย่างสวยงาม
อากาศในวันนั้นประมาณ -8 องศา มือเท้าเย็นไปหมด สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ ถุงร้อน (Hot pack) หาซื้อได้ตามมินิมาร์ททั่วไป
จัดมาหนึ่งคู่ ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อโค้ท อ๊าา อุ่น..สบายยย
อิ่มแล้ว อุ่นแล้ว ออกเดินทางได้ ! สถานีต่อไป Sinsa Station
จะบอกให้ว่า "ใครไม่ได้มาเดินถนนกาโรซูกิล (Garosu-gil) ถือว่ามาไม่ถึงโซล" นะจ้ะ
พิกัด สถานี Sinsa Exit 8
บราวน์ใส่ชุด Unicef จากร้าน Line Friends Cafe&Store บนนถนน กาโรซูกิล (Garosu-gil)
ไม่ได้ถ่ายบรรยากาศร้านมา เพราะคนเยอะมหาศาลมาก จะถ่ายรูปคู่กับหมีบราวน์ตัวใหญ่ ยังไม่มีโอกาสเลย แฮร่
• ร้านขนมเค้กสายรุ้ง DORE DORE
อีกร้านที่ถูกบันทึกลงใน list ร้านอาหาร/ขนมที่ห้ามพลาด! อย่างบรรจงและตั้งใจ
ถึงแม้ราคาจะสู๊งงงไปหน่อย (ชิ้นละ 9,000 วอน หรือ 270 บาท) แต่สำหรับเราถือว่าไม่ผิดหวัง
- หน้าตางดงาม เหมาะแก่การถ่ายรูปอัพลงไอจีอวดชาวบ้าน
- ชิ้นใหญ่ ปริมาณเยอะ เยอะขนาดที่กินสองคนยังเหลือ
- รสชาติ เอาไปเลยสามผ่าน เนื้อเค้กนุ่มละลายในลิ้น เนื้อครีมสดเนียนหอม ไม่หวานเลี่ยน
ใครมีโอกาสผ่านไปแถวนั้น ต้องลอง!
• ร้านซอฟไอศกรีมสายไหม REMICONE
หลังจากเดินออกจาก DORE DORE ไม่ถึง 5นาที ก็มาโผล่หน้าร้านไอติมสายไหมสามแฝด
เอาจริงๆ ณ ตอนนั้นอิ่มจนจะพุ่ง ปลาหมึกผัดซอสเผ็ดกับเค้กสายรุ้งยังไม่ย่อยเลย
แต่ แต่ แต่จะปล่อยผ่านก็ไม่ได้ ปลดซิปกางเกงออก สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วไปกันเล้ย!
ครั้งแรกที่ตั้งใจมาไม่ได้คาดหวังอะไรมาก ไม่น่าต่างกับไอติมโคน Mc, KFC บ้านเรา
แต่พอได้กินคำแรก ผิดคาด แบบเฮ้ยย.. อร่อย
เนื้อไอติมเนียน รสชาติไม่หวานเลี่ยน ออกจืดๆด้วยซ้ำ วิธีกินต้องตักไอติมแล้วฉีกสายไหมวางข้างบน กินด้วยกัน สายไหมรสชาติเปรี้ยวๆ มีเม็ดน้ำตาลเสียงดังเป๊าะแป๊ะในปาก เหยยยย คือดี คืออร่อย คือชอบ คือกดเลิฟ ที่เราจัดมาคือ Thunder Bomb เมนูSignature ราคา 6,100 วอน ประมาณ 180 บาท ปริมาณไม่เยอะ แต่ชั่วโมงนั้นก็พอดิบพอดี ไม่เหลือ ไม่ขาด
• ร้านไก่จิมดัค YEOLBONG
หากคุณคิดว่าไอติมและขนมเค้ก จะทำอะไรคนอย่างเราได้ คุณคิดผิด!
เพราะสถานที่ต่อไปที่เราใช้เป็นที่หลบหนาว ไม่ใช่ร้านเสื้อผ้า ร้านรองเท้า หรือ Line Friends Cafe&Store แต่เป็นร้าน..อาหาร
สารภาพตรงๆคือยังอิ่มอยู่ อึดอัดพุงมาก แต่ใน List ที่ตั้งใจไว้มันยังเหลืออีกร้านนึงนี่นา ถ้ากลับที่พักตอนนี้ก็กลัวจะไม่สบายใจนอนไม่หลับ
งั้นเราเข้าไปกินไก่ต้มซีอิ๊วหลบหนาวไปพรางๆแล้วกันโน๊ะ (เกลียดตัวเอง ณ เวลานั้น ฮ่า)
• LED Rose Garden at DDP
หลังจากภารกิจกินแหลกจบลง เราก็มุ่งหน้าไป DDP (Dongdaemun Design Plaza) ต่อ
ความน่าสนใจของ DDP นอกจากรูปแบบสถาปัตยกรรมที่สวยล้ำแล้ว ในช่วงค่ำๆเค้ามีการจัดแสดงทุ่งดอกกุหลาบ LED ด้วย
อากาศเย็นๆ เดินดูไฟ LED ถ่ายรูปคู่มุ้งมิ้ง โอ้ยย อิจฉาชีวิตตัวเอง ณ เวลานั้นที่สุด
• สมูทตี้ ออร์แกนิก Beesket
ปิดท้ายวันแรกด้วยน้ำผลไม้สมูทตี้แบบเฮลท์ตี้ๆ กับร้านน้ำ Beesket สาขา DDP
โดยรวมร้านตกแต่งน่ารัก วิธีการคือต้องเลือกผลไม้ที่ชอบ 3 ชนิดจากบาร์ผลไม้หน้าเคาท์เตอร์แล้วส่งให้พนักงานคิดเงิน
หลังจากนั้นก็รอรับน้ำผลไม้ที่เราสั่งไว้ จะได้มาพร้อมกับใบสรุปปริมาณวิตมินจากผลไม้ที่เราเลือก เก๋ดีนะ
จบวันแรกอย่างสวยงาน พรุ่งนี้จะมีเรื่องตื่นเต้นอะไรรอเราอยู่นะ