พะโล้ สูตรของแม่
พูดถึงพะโล้ ทุกคนน่าจะเคยกินในวัยเด็ก ไม่ว่าจะเป็นคุณแม่ทำให้ทาน คุณยาย หรือแม้กระทั่งเป็นเมนูประจำของใครหลายๆคนเวลาไปร้านข้าวแกงก็ตาม เพราะว่าคนไทยเรานั้นมีชีวิตกันแบบเรียบง่าย พะโล้จึงเป็นอาหารที่เรานิยมนำมาเป็นส่วนหนึ่งของโต๊ะกับข้าวอยู่เสมอ เพราะพะโล้เป็นเมนูเด็ดที่มีกลิ่นหอมชวนกินของเครื่องเทศต่าง รสชาติก็กลมกล่อมอร่อยทานง่าย กินได้แทบทุกคนในครอบครัว วิธีทำก็ไม่ซับซ้อน แถมยังเก็บไว้ได้หลายมื้อ ยิ่งเคี่ยวน้ำบ่อยครั้งก็ยิ่งงวด โดยเฉพาะจขกท.นั้นชอบมากเมื่อเคี่ยวจนได้ไข่ดำๆ รสชาติซึมลึกลงไปถึงไข่แดงยิ่งเพิ่มความอร่อยแบบทบทวีคูน แหม แค่นึกถึงแค่นี้บางคนก็ถึงกับน้ำลายสอขึ้นมาเลยใช่ไหม
รูปนี้ผมได้ย่อสูตรและวิธีทำไว้ให้ครับ ถ้าใครใคร่ปรินท์แปะฝาบ้านเวลาทำจะได้ไม่ต้องเปิดเน็ต ผมก็ยินดีนะ แหะๆ
วันแม่ปีนี้ ผมได้ออดอ้อนพะโล้ฝีมือแม่ได้เป็นผลสำเร็จ แต่ด้วยความที่แม่ก็อายุมากแล้ว รวมทุกเมื่อแม่โชว์ฝีมือ ทุกคนในบ้านจึงมารวมทานกันเป็นปกติจนหมด ทำให้จขกท. กินไม่สะใจเอาสะเลย จึงได้ตัดสินใจลองทำพะโล้สูตรของแม่ ที่กินมาตั้งแต่เด็กจนเป็นรสชาติประจำบ้านขึ้นมาด้วยตัวเอง เพราะอยากกินจนตัวสั่นกันเลยทีเดียว
ผมไปจ่ายตลาดหลังจากที่ไม่ได้ไปมานาน โดยมีของที่ต้องซื้อหลักๆ อย่าง หมู และ อบเชยและโป๊ยกั๊ก แน่นอนว่าไม่ได้ใส่ผงพะโล้ เพราะว่า เอาจริงๆแล้ว ผงพะโล้คือ อบเชยและโป๊ยกั๊กบดเป็นผงนั้นแหละครับทุกคน ก็ มีของดีๆใช้ทำไหมต้องใช้ผงพะโล้ละเนอะ
มาดูวัตถุดิบหลักๆกันครับ
หมู 1/2 กก. (ไปตลาดช้า สามชั้นหมดสะแล้ว เลยใช้หมูที่ชอบทำเวลาตุ๋นหมูอย่างขั้วตับมาแทน แหม ก็ข็วตับทำอะไรก็อร่อยนี่นา)
เต้าหู้(ของโปรดเจ้าของกระทู้) 2-3ก้อน ตามใจชอบเลย
รากผักชี กระเทียม พริกไทย ใส่ตามใจชอบเลยครับผม^^
อบเชยสัก 2-3 ชิ้น
โป๊ยกั๊ก3-4 ดอก
น้ำตาลปี๊บ
เกลือ
น้ำมัน
และแน่นอนว่า
อย่าลืมไข่ๆๆๆๆๆๆ เอาสัก8 ฟองต่อหม้อก็ได้ครับ จะได้กินกันนานๆ

(จริงๆใช้ไข่เป็ดจะอร่อยกว่านะครับ เพราะ ไข่แดงใหญ่ แต่เอานะ ไข่ไก่ในบ้านมันเยอะ ไข่ไก่ก็ได้)
มาเริ่มทำกันเลยดีกว่าครับ กว่าจะเป็นพะโล้ ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากนะ
ก่อนอื่นเลยนะครับ ต้มไข่สิรออะไร 10นาทีก็พอนะ หรือนานก็นั้นก็ไม่เป็นไรครับ
พอแช่น้ำแย็น ก็จะปลอกออกมาได้ไข่กลมบ๊อกแบบนี้
ระหว่างนั้นอย่าลืมทอดเต้าหู้ให้กรอบๆ เลยนะ เวลาต้มมันจะอุ้มน้ำสุดๆ กัดที่น้ำแตกกระจายในปากเลย
เอาละทำเครื่องเสร็จแล้วก็มาทำตัวพะโล้กัน เริ่มจากหั่นรากผักชี กระเทียม Go!!
เอาแต่ราก ใบเก็บไว้ใส่แกงจืดได้
กระเทียม เอาใบมีดทุบเลย ปลอกเปลือกง่ายดี
เอาสองอย่างนี้ใส่ครกเลยครับ
ใส่พริกไทยดำสัก1หยิบมือพอ ให้พะโล้เราหอมๆ ดับกลิ่นคาวหมูด้วย
ตำให้แหลกเลยครับ
ระหว่างนั้นก็พักไว้ก่อนครับ จขกท. เมื่อยมือ(ฮ่า) มาเตรียมหมูกัน ลวกขั้วตับให้พอสุกรอบๆพอ เพื่ออะไรทราบไหมครับ 1. ลดกลิ่นคาว และสอง ให้หั่นได้ง่ายๆครับ
ลวกเสร็จก็นำมาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ หั่นหนาหน่อยนะครับ เวลาตุ๋นจะหดลงเล็กน้อย
เอาละของพร้อม เมื่อเราพร้อมก็จะพร้อมไปด้วยกัน(ไม่ใช่ละเห้ย) ขอโทษครับนอกเรื่องไปนิด
ตังกระทะใส่น้ำมัน ไฟกลางครับ ใส่สามเกลอที่โขลกละเอียดลงไป ผัดให้หอมแล้วใส่น้ำตาลปี๊บครับ
ตอนใส่น้ำตาลปรับไฟอ่อนครับ ค่อยๆเคี่ยวจะกว่าจะออกน้ำตาลแดง ในช่วงนี้คนไม่เคยทำให้แอบใส่น้ำเปล่าลงไปเล็กน้อย ช่วยให้ไม่ไหม้กลางทางเสียก่อนะครับ อ๋อ อย่าทำหวานมากนะครับ
**แม่สอนว่า ข้อที่1 หวานน้อยเติมได้ หวานมากแก้ยาก**
ต่อจากนั้นใส่หมูที่หั่นไว่ลงไปผัดให้คลุกเคล้ากันอย่าทั่วถึง แล้วเทลงหม้อครับ

(แค่นี้ก็อร่อยแล้วครับ แอบชิมนี๊ดเดียว โดนดุเลย )
ใส่น้ำให้พอดีๆครับ ต้มจนเดือด จะมีพวกไขมัน และฟองออกมาเต็มไปหมด ตักออกมาให้หมดเลยครับ
หลังจาดนั้นก็ใส่ไข่และเต้าหู้ตามลงไป ปรุงรสชาติเพิ่มด้วยเกลือ น้ำตาล และน้ำปลาครับ อย่าลืมใส่อบเชยและโป๊ยกั๊กละ
**แม่สอนว่า ข้อที่2 รสพธดล้ต้องเหมือนเพลงที่เล่นประชันกัน จะหวานโดด หรือ เค็มนำไม่ได้ ต้องเท่าๆกัน ขัดกันเบาๆ จึงจะออกมาอร่อย**
ต่อจากนั้นก็ปิดฝาตุ๊นยาวๆสัก30-45นาที ชอบรสอ่อนก็สามารถตัดทานได้เลยครับ จะตักขึ้นมาให้ดูก่อน

(น่ากินแ้วใช่ไหม แต่สำหรับผม ต้องไข่ดำกว่านี้ครับถึงจะอร่อยแบบต้นตำหรับบ้านจขกท.)
**คำแม่สอนข้อสุดท้าย ทำพะโล้วันไหน อย่ากินวันนั้น**
หมายถึงว่าพะโล้จะอร่อยสุดหลังผ่านไปอีกวันครับ เคล๊ดลับในการตุ๋นให้น้ำเข้าเนื้อไข่คือ ตั้งไฟจะน้ำเดือด ห่อด้วยหนังสือพิมพ์ทั้งหมดและห่อผ้าขนหนูเก่าทับ จะได้หม้อเก็บความร้อนแบบDIYครับ (สูตรผมเอง)
เอาละมาดูรุ่งเช้ากัน
ดำๆแบบนี้แหละอร่อยนัก การรันตีโดยแม่ผมเอง

ทุกคนก็ลองมาทำพะโล้สูตรของแม่(ผม)กันดูนะครับ รับรอง อร่อยถูกใจ^^
พะโล้ของแม่ รสชาติในวัยเยาว์
พูดถึงพะโล้ ทุกคนน่าจะเคยกินในวัยเด็ก ไม่ว่าจะเป็นคุณแม่ทำให้ทาน คุณยาย หรือแม้กระทั่งเป็นเมนูประจำของใครหลายๆคนเวลาไปร้านข้าวแกงก็ตาม เพราะว่าคนไทยเรานั้นมีชีวิตกันแบบเรียบง่าย พะโล้จึงเป็นอาหารที่เรานิยมนำมาเป็นส่วนหนึ่งของโต๊ะกับข้าวอยู่เสมอ เพราะพะโล้เป็นเมนูเด็ดที่มีกลิ่นหอมชวนกินของเครื่องเทศต่าง รสชาติก็กลมกล่อมอร่อยทานง่าย กินได้แทบทุกคนในครอบครัว วิธีทำก็ไม่ซับซ้อน แถมยังเก็บไว้ได้หลายมื้อ ยิ่งเคี่ยวน้ำบ่อยครั้งก็ยิ่งงวด โดยเฉพาะจขกท.นั้นชอบมากเมื่อเคี่ยวจนได้ไข่ดำๆ รสชาติซึมลึกลงไปถึงไข่แดงยิ่งเพิ่มความอร่อยแบบทบทวีคูน แหม แค่นึกถึงแค่นี้บางคนก็ถึงกับน้ำลายสอขึ้นมาเลยใช่ไหม
รูปนี้ผมได้ย่อสูตรและวิธีทำไว้ให้ครับ ถ้าใครใคร่ปรินท์แปะฝาบ้านเวลาทำจะได้ไม่ต้องเปิดเน็ต ผมก็ยินดีนะ แหะๆ
วันแม่ปีนี้ ผมได้ออดอ้อนพะโล้ฝีมือแม่ได้เป็นผลสำเร็จ แต่ด้วยความที่แม่ก็อายุมากแล้ว รวมทุกเมื่อแม่โชว์ฝีมือ ทุกคนในบ้านจึงมารวมทานกันเป็นปกติจนหมด ทำให้จขกท. กินไม่สะใจเอาสะเลย จึงได้ตัดสินใจลองทำพะโล้สูตรของแม่ ที่กินมาตั้งแต่เด็กจนเป็นรสชาติประจำบ้านขึ้นมาด้วยตัวเอง เพราะอยากกินจนตัวสั่นกันเลยทีเดียว
ผมไปจ่ายตลาดหลังจากที่ไม่ได้ไปมานาน โดยมีของที่ต้องซื้อหลักๆ อย่าง หมู และ อบเชยและโป๊ยกั๊ก แน่นอนว่าไม่ได้ใส่ผงพะโล้ เพราะว่า เอาจริงๆแล้ว ผงพะโล้คือ อบเชยและโป๊ยกั๊กบดเป็นผงนั้นแหละครับทุกคน ก็ มีของดีๆใช้ทำไหมต้องใช้ผงพะโล้ละเนอะ
มาดูวัตถุดิบหลักๆกันครับ
หมู 1/2 กก. (ไปตลาดช้า สามชั้นหมดสะแล้ว เลยใช้หมูที่ชอบทำเวลาตุ๋นหมูอย่างขั้วตับมาแทน แหม ก็ข็วตับทำอะไรก็อร่อยนี่นา)
เต้าหู้(ของโปรดเจ้าของกระทู้) 2-3ก้อน ตามใจชอบเลย
รากผักชี กระเทียม พริกไทย ใส่ตามใจชอบเลยครับผม^^
อบเชยสัก 2-3 ชิ้น
โป๊ยกั๊ก3-4 ดอก
น้ำตาลปี๊บ
เกลือ
น้ำมัน
และแน่นอนว่า
อย่าลืมไข่ๆๆๆๆๆๆ เอาสัก8 ฟองต่อหม้อก็ได้ครับ จะได้กินกันนานๆ
(จริงๆใช้ไข่เป็ดจะอร่อยกว่านะครับ เพราะ ไข่แดงใหญ่ แต่เอานะ ไข่ไก่ในบ้านมันเยอะ ไข่ไก่ก็ได้)
มาเริ่มทำกันเลยดีกว่าครับ กว่าจะเป็นพะโล้ ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากนะ
ก่อนอื่นเลยนะครับ ต้มไข่สิรออะไร 10นาทีก็พอนะ หรือนานก็นั้นก็ไม่เป็นไรครับ
พอแช่น้ำแย็น ก็จะปลอกออกมาได้ไข่กลมบ๊อกแบบนี้
ระหว่างนั้นอย่าลืมทอดเต้าหู้ให้กรอบๆ เลยนะ เวลาต้มมันจะอุ้มน้ำสุดๆ กัดที่น้ำแตกกระจายในปากเลย
เอาละทำเครื่องเสร็จแล้วก็มาทำตัวพะโล้กัน เริ่มจากหั่นรากผักชี กระเทียม Go!!
เอาแต่ราก ใบเก็บไว้ใส่แกงจืดได้
กระเทียม เอาใบมีดทุบเลย ปลอกเปลือกง่ายดี
เอาสองอย่างนี้ใส่ครกเลยครับ
ใส่พริกไทยดำสัก1หยิบมือพอ ให้พะโล้เราหอมๆ ดับกลิ่นคาวหมูด้วย
ตำให้แหลกเลยครับ
ระหว่างนั้นก็พักไว้ก่อนครับ จขกท. เมื่อยมือ(ฮ่า) มาเตรียมหมูกัน ลวกขั้วตับให้พอสุกรอบๆพอ เพื่ออะไรทราบไหมครับ 1. ลดกลิ่นคาว และสอง ให้หั่นได้ง่ายๆครับ
ลวกเสร็จก็นำมาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ หั่นหนาหน่อยนะครับ เวลาตุ๋นจะหดลงเล็กน้อย
เอาละของพร้อม เมื่อเราพร้อมก็จะพร้อมไปด้วยกัน(ไม่ใช่ละเห้ย) ขอโทษครับนอกเรื่องไปนิด
ตังกระทะใส่น้ำมัน ไฟกลางครับ ใส่สามเกลอที่โขลกละเอียดลงไป ผัดให้หอมแล้วใส่น้ำตาลปี๊บครับ
ตอนใส่น้ำตาลปรับไฟอ่อนครับ ค่อยๆเคี่ยวจะกว่าจะออกน้ำตาลแดง ในช่วงนี้คนไม่เคยทำให้แอบใส่น้ำเปล่าลงไปเล็กน้อย ช่วยให้ไม่ไหม้กลางทางเสียก่อนะครับ อ๋อ อย่าทำหวานมากนะครับ
**แม่สอนว่า ข้อที่1 หวานน้อยเติมได้ หวานมากแก้ยาก**
ต่อจากนั้นใส่หมูที่หั่นไว่ลงไปผัดให้คลุกเคล้ากันอย่าทั่วถึง แล้วเทลงหม้อครับ
(แค่นี้ก็อร่อยแล้วครับ แอบชิมนี๊ดเดียว โดนดุเลย )
ใส่น้ำให้พอดีๆครับ ต้มจนเดือด จะมีพวกไขมัน และฟองออกมาเต็มไปหมด ตักออกมาให้หมดเลยครับ
หลังจาดนั้นก็ใส่ไข่และเต้าหู้ตามลงไป ปรุงรสชาติเพิ่มด้วยเกลือ น้ำตาล และน้ำปลาครับ อย่าลืมใส่อบเชยและโป๊ยกั๊กละ
**แม่สอนว่า ข้อที่2 รสพธดล้ต้องเหมือนเพลงที่เล่นประชันกัน จะหวานโดด หรือ เค็มนำไม่ได้ ต้องเท่าๆกัน ขัดกันเบาๆ จึงจะออกมาอร่อย**
ต่อจากนั้นก็ปิดฝาตุ๊นยาวๆสัก30-45นาที ชอบรสอ่อนก็สามารถตัดทานได้เลยครับ จะตักขึ้นมาให้ดูก่อน
(น่ากินแ้วใช่ไหม แต่สำหรับผม ต้องไข่ดำกว่านี้ครับถึงจะอร่อยแบบต้นตำหรับบ้านจขกท.)
**คำแม่สอนข้อสุดท้าย ทำพะโล้วันไหน อย่ากินวันนั้น**
หมายถึงว่าพะโล้จะอร่อยสุดหลังผ่านไปอีกวันครับ เคล๊ดลับในการตุ๋นให้น้ำเข้าเนื้อไข่คือ ตั้งไฟจะน้ำเดือด ห่อด้วยหนังสือพิมพ์ทั้งหมดและห่อผ้าขนหนูเก่าทับ จะได้หม้อเก็บความร้อนแบบDIYครับ (สูตรผมเอง)
เอาละมาดูรุ่งเช้ากัน
ดำๆแบบนี้แหละอร่อยนัก การรันตีโดยแม่ผมเอง
ทุกคนก็ลองมาทำพะโล้สูตรของแม่(ผม)กันดูนะครับ รับรอง อร่อยถูกใจ^^