คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ผมเป็นคนชอบกินนม และโยเกิร์ตทุกวัน ลองกินมาแล้วหลายเวลา เพื่อหาเวลากินที่ดีที่สุด แต่สุดท้ายหาข้อยุติได้จากเหตุผลของร่างกาย
กล่าวคือ หากกินก่อนนอน เราจะกลายเป็นโรคกรดไหลย้อน เพราะตามหลักแล้ว เราไม่ควรกินอะไรก่อนนอน 3 ชั่วโมง เราควรจะให้อาหารย่อยให้หมดกระเพาะก่อนที่จะล้มตัวลงนอน .. ในระหว่างนั้น เราต้องไม่กินอะไรอีก ดังนั้น กินก่อนนอน จึงตัดทิ้งไปได้เลย
กินหลังมื้อเที่ยงแต่เว้นระยะเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง เพื่อให้อาหารเข้าไปสู่ในลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ก่อน แล้วจึงค่อยส่งเจ้าแลคโตบาซิลลัสไปช่วยย่อย เพราะถ้ากินต่อจากมื้ออาหารเลย มันจะโดนน้ำย่อยกัดจนล้มตายไป จาก 10 ล้านตัว เหลือแค่แสนตัว ไม่คุ้มกับเงิน 15 บาทที่เสียไป
นั่นน่าจะเป็นหลักการที่ดี แต่เมื่อมาคิดอีกที การเว้นช่วง 3 ชั่วโมงหลังมื้อเที่ยง จะเป็นการรบกวนระบบย่อยมากเกินไป แทนที่จะให้มันพักหลังจากมื้อเที่ยงอันหนักหน่วงไปแล้ว ยังต้องปลุกมันขึ้นมาจัดการกับน้องโยเกิร์ต 1 ถ้วยของเราอีก ไม่ใช่แค่เพียงระบบย่อยที่ต้องลุกขึ้นมาทำงาน ยังต้องปลุกตับให้มาจัดการกับสารอาหารที่ได้จากโยเกิร์ตเพียงแค่ถ้วยเดียว เหมือนได้ไม่คุ้มเสีย เหมือนเสียพลังงานแบตเตอรี่สตาร์ทรถเพื่อวิ่งไปซื้อกล้วยแขก 20 บาท ที่หน้าปากซอยแล้วขับกลับ หมดเงินค่าน้ำมันรวมค่าสึกหรอเกินกว่ามูลค่าของกล้วยแขก
สรุปคือ กินต่อจากมื้อมื้ออาหาร (มื้อใดก็ได้ โดยไม่ต้องเว้นช่วง) น่าจะเป็นทางสายกลางที่ดีที่สุด
โดยส่วนตัว ผมจะกินนมมื้อเช้า กินโยเกิร์ตหลังมื้อเที่ยง(โดยไม่เว้นช่วง) กินผลไม้หลังมื้อเย็น ต่อจากนั้นรอ 3 ชั่วโมงค่อยเข้านอนครับ
กล่าวคือ หากกินก่อนนอน เราจะกลายเป็นโรคกรดไหลย้อน เพราะตามหลักแล้ว เราไม่ควรกินอะไรก่อนนอน 3 ชั่วโมง เราควรจะให้อาหารย่อยให้หมดกระเพาะก่อนที่จะล้มตัวลงนอน .. ในระหว่างนั้น เราต้องไม่กินอะไรอีก ดังนั้น กินก่อนนอน จึงตัดทิ้งไปได้เลย
กินหลังมื้อเที่ยงแต่เว้นระยะเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง เพื่อให้อาหารเข้าไปสู่ในลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ก่อน แล้วจึงค่อยส่งเจ้าแลคโตบาซิลลัสไปช่วยย่อย เพราะถ้ากินต่อจากมื้ออาหารเลย มันจะโดนน้ำย่อยกัดจนล้มตายไป จาก 10 ล้านตัว เหลือแค่แสนตัว ไม่คุ้มกับเงิน 15 บาทที่เสียไป
นั่นน่าจะเป็นหลักการที่ดี แต่เมื่อมาคิดอีกที การเว้นช่วง 3 ชั่วโมงหลังมื้อเที่ยง จะเป็นการรบกวนระบบย่อยมากเกินไป แทนที่จะให้มันพักหลังจากมื้อเที่ยงอันหนักหน่วงไปแล้ว ยังต้องปลุกมันขึ้นมาจัดการกับน้องโยเกิร์ต 1 ถ้วยของเราอีก ไม่ใช่แค่เพียงระบบย่อยที่ต้องลุกขึ้นมาทำงาน ยังต้องปลุกตับให้มาจัดการกับสารอาหารที่ได้จากโยเกิร์ตเพียงแค่ถ้วยเดียว เหมือนได้ไม่คุ้มเสีย เหมือนเสียพลังงานแบตเตอรี่สตาร์ทรถเพื่อวิ่งไปซื้อกล้วยแขก 20 บาท ที่หน้าปากซอยแล้วขับกลับ หมดเงินค่าน้ำมันรวมค่าสึกหรอเกินกว่ามูลค่าของกล้วยแขก
สรุปคือ กินต่อจากมื้อมื้ออาหาร (มื้อใดก็ได้ โดยไม่ต้องเว้นช่วง) น่าจะเป็นทางสายกลางที่ดีที่สุด
โดยส่วนตัว ผมจะกินนมมื้อเช้า กินโยเกิร์ตหลังมื้อเที่ยง(โดยไม่เว้นช่วง) กินผลไม้หลังมื้อเย็น ต่อจากนั้นรอ 3 ชั่วโมงค่อยเข้านอนครับ
แสดงความคิดเห็น
อายุ 36 กินนม+โยเกิร์ตทุกวัน ตอนตื่นนอน 6 โมงเช้า ทุกๆวัน จะเป็นอะไรไหมคะ
แล้วระหว่างทานก่อนนอน กับ ตื่นนอน แบบไหนดีกว่ากันคะ ?
ขอบคุณผู้รู้มากเลยนะคะ