เมื่อบุคคลากรด้านสาธารณสุขลุกขึ้นมาลดความอ้วน(ตอนจบ)

ในการลดน้ำหนัก เราควรตั้งเป้าหมาย ภายในระยะเวลาที่ชัดเจน เราตั้งเป้า 2 เดือน คือเป็นเวลาที่เหมาะสมถ้านานไปร่างกายจะเกิดความเครียด เมื่อเตรียมพร้อม ไม่ว่าการบันทึกค่าต่างๆ ถ่ายรูปก่อนทั้งด้านหน้าด้านข้างไว้เปรียบเทียบ อาหารที่รับประทานส่วนมากจะจัดหามาทำเองเป็นส่วนใหญ่โดยมีรายละเอียดดังนี้ แหล่งโปรตีนจะใช้ปลานิล ปลาดุก เป็นหลักซึ่งหาได้ง่ายราคาไม่แพง ข้าวจะใช้ข้าวกล้อง ข้าวไรเบอรรี่ ผักสดที่หาได้ตามพื้นบ้านและตลาด
มาดูกันว่าในวันนึงทานอย่างไร เช้าใช้ข้าวหุง(ข้าวกล้อง)ประมาณ 1-2 ทัพพี กับข้าวทำจากปลาไม่ว่าจะต้ม แกง ห่อหมก นึ่ง อบ ย่าง กินพร้อมผักสดหรือผักลวก มื้อนึงต้องทานปลาขนาด 1 กิโล(ปลานิลตัวนึง) มื้อเที่ยงก็เช่นเดียวกับมื้อเช้า มื้อเย็นจะทานแค่กับข้าวพร้อมผักสดหรือผักลวก หลังอาหารแต่ละมื้อทานวิตามินรวมเกลือแร่(เพื่อเสริมส่วนที่อาจจะขาดไป เน้นยี่ห้อที่มีชื่อเสียง มีการรับรอง อย.) ผลไม้ที่ทานจะใช้ฝรั่ง งดขนมหวาน ผลไม้หวานทุกชนิด  ทานเวลาระหว่างมื้ออาหารนิดหน่อย เช้าๆเดินออกกำลังบ้างนิดหน่อย เช้าบางวันเพิ่มนมถั่วเหลืองแบบจืด โดยทานอาหารเช้าหลังตื่นนอนตอน 7.30 น มื้อเที่ยง 12.00 มื้อเย็น ประมาณ 17.30 เข้านอนตอน4 ทุ่มนิดๆ ทานแบบนี้ได้ครบ 2 อาทิตย์ เริ่มสังเกตสัดส่วนเริ่มดีขึ้นน้ำหนักเริ่มลดลง ผมสรุปเมื่อครบ 2 เดือนเต็ม ปริมาณ% มวลไขมันลดงมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น น้ำหนักที่ลดลง 8 กิโลกรัม จากน้ำหนัก 85 เมื่อก่อนตั้งใจลดน้ำหนัก จากที่เล่ามาจะพบว่าการลดน้ำหนักสามารถทำเองได้ขอให้มีวินัย ตั้งใจ มีเป้าหมายเพื่อสุขภาพของตนเอง นอกจากน้ำหนักที่ลดลง สัดส่วนที่ดีขึ้น เอวหายไปประมาณ 3 นิ้ว หน้าตาสดชื่น คนอื่นทักว่าผอม

ผิวหนังไม่เหี่ยวย่น ผลลัพธ์พิสูจน์ด้วยค่าผลตรวจเลือดดังรูป หวังว่าคนที่คิดอยากลดความอ้วนลดน้ำหนักคงพอเป็นแนวทางให้ได้ เพราะการควบคุมอาหารมันได้ผลดีกว่าไปใช้วิธีการออกกำลังกาย ไปเข้าฟิตเนส ไม่ต้องใช้เวลานาน ความอดทนมาก ไม่อดไม่หิว ที่สำคัญไม่เสียเงินโดยใช่เหตุให้กับเครื่องออกกำลังกายที่ซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่