เจาะลึกการลดน้ำหนักจากน้ำหนัก 116 กิโลกรัม สู่ 71 กิโลกรัม เกลียดสลัดเกลียดโยเกิร์ตก็ลดได้

สวัสดีครับ อันนี้เป็นกระทู้แรกและคงเป็นกระทู้เดียวของผมนะครับ เพราะมีเพื่อนอยากให้มาแชร์ประสบการณ์การลดน้ำหนักกับชาวพันทิปให้ฟัง และอยากให้ชาวพันทิปที่อยากจะลดน้ำหนัก ทราบวิธีการที่อาจจะเหมือนบ้าง ต่างบ้าง จากท่านอื่นที่เคยโพสมา สำหรับกระทู้นี้จะประกอบไปด้วย ความเป็นมาของน้ำหนักอันแสนจะเยอะของตัวผม กุญแจที่สำคัญที่สุดในการลดความอ้วน วิธีการลดความอ้วนที่ผมทำ ข้อดีข้อเสียหลังจากลดน้ำหนักเรียบร้อยแล้วครับ

ย้อนไปสมัยวัยเด็กเลยครับ สมัยนั้นไม่ว่าจะเรียนอยู่ชั้นอะไรผมก็น้ำหนักตัวเยอะที่สุดในห้องตลอดTT แต่เนื่องจากผมสูง 184 จึงไม่ใช่ปัญหาอะไร จะมาเริ่มพีคก็ตอนที่อยู่ ม.6 ตอนนั้นน้ำหนักผมขึ้นมาอยู่ 103 kg และมาพีคสุดๆตอนอยู่ปี 2 โดยน้ำหนักของผมขึ้นไปอยู่ที่ 116 kg โอ้วแม่เจ้า!!!! ในช่วงเวลานั้น ครอบครัว และ เพื่อนๆ ก็ถามเป็นประโยคเดียวกันว่า "ลดน้ำหนักได้แล้ว/ เมื่อไหร่จะลด" ตอนนั้นผมตอบประโยคสั้นๆอันแสนจะขี้เกียจว่า "เดี๋ยวลด" จนถึงตอนปิดเทอมใหญ่ คุณพ่อของผมก็บังคับให้ผมลดความอ้วนโดยที่ผมไม่ค่อยเต็มใจนัก ซึ่ง*****วิธีนี้ไม่แนะนำอย่างยิ่ง เพราะไม่ทราบว่ามีอันตรายไหม ผลข้างเคียงอะไร และพิสูจน์มาแล้วครับว่าวิธีนี้ไม่ได้ช่วยในการลดน้ำหนักเลย***** คือเช้าวันหนึ่งอยู่ๆพ่อของผมเอายาอะไรไม่รู้มาฉีดที่ท้องผม ทราบภายหลังคือฮอร์โมน HCG ครับ สรรพคุณที่อ้างคือ ช่วยให้ระบบเผาผลาญดีขึ้น <<<***<อย่าเชื่อเด็ดขาดนะครับเพราะผมไม่เห็นมีการรับรองที่ไหนที่บอกว่าการฉีดยาตัวนี้จะช่วยได้จริง *** ผมก็เออๆออๆ และเริ่มคุมอาหาร สำหรับการกินไว้จะอธิบายในวิธีการลดนะครับ หลังจากที่เริ่มทำไปได้ประมาณ 4เดือน น้ำหนักก็เริ่มลง และ ลดลงมาจนเหลือ 93 kg จากการคุมอาหารที่แหละครับ แต่จนแล้วจนรอดผมก็กลับมากินเยอะเหมือนเดิมทำให้น้ำหนักกลับมาที่ 106 kg เห็นไหมครับ ผมบอกแล้วว่ายามันไม่ได้ช่วยอะไรหรอก
เมื่อเวลาผ่านมาจนจะเปิดเทอมปี 4 อยู่ดีๆผมก็นึกขึ้นมาว่า เอ๊ะถ้าเราลองลดความอ้วนแบบจริงจัง และผอมทันก่อนจะใส่ชุดรับปริญญาจะเป็นยังไงนะ ว่าแล้ว วันที่ 13 สค 2554 (จำได้ไม่ลืมครับ เพราะเป็นวันเปิดเทอมวันแรกที่จริงจัง และทรมานมากที่สุด) ผมก็ได้เริ่มทำสิ่งที่ตัวเองไม่คิดว่าจะทำได้และสำเร็จในระดับหนึ่ง พล่ามจนถึงตอนนี้ทุกคนคงรู้แล้วใช่ไหมครับว่า กุญแจสำคัญที่สุดของการลดความอ้วนคืออะไร ถูกต้องนะคร้าบ "แรงบันดาลใจ"นี่แหละครับที่สำคัญที่สุด

เอาล่ะครับ มาดูรูปตอนผมอ้วนกัน ปกติผมไม่ค่อยชอบถ่ายรูปครับ เวลาถ่ายจะชอบทำหน้าไม่เต็ม555+





และที่พีคสุดๆคือ ตอนปิดเทอมนี่แหละครับ





เอาล่ะครับ ดูอดีตเด็กบ้าไปแล้ว มาดูการลดน้ำหนักบ้างนะครับ

วิธีการลดของผม ก็เป็นวิธีที่สามัญสุดๆและทุกคนรู้ๆกันครับคือ การนับแคลลอรี่จากการกินและการออกกำลังกาย ผมจะขอแบ่งเป็นหมวด อาหารที่กิน และ การออกกำลังกายนะ

สำหรับการกินก่อนอื่นต้องบอกเลย ว่าผมโคตะระชอบของทอดมากๆครับ พวกมันฝรั่งทอด ไก่ทอด ไส้กรอก เบค่อน (แม่เจ้า พิมพ์ไปน้ำลายไหลไป) น้ำอัดลม และ ไม่ค่อยชอบกินผัก กินแต่ผักแกงจืด กะผัดผักบ้าง ยิ่งไปกว่านั้น พวกอาหารที่แคลลอรี่ต่ำๆ เช่น โยเกิร์ต นี่ผมดันโคตรเกลียดเลย ทำให้ตอนแรกคิดว่าตัวเองลดไม่ได้แน่ครับ แต่สุดท้ายก็พบว่าเห้ย เราไม่จำเป็นต้องกินแต่ของที่เราเกลียดนี่หว่า

เอาล่ะครับโม้มาเยอะแล้วมาเข้าเรื่องกันดีกว่า ผมมีหลักการง่ายๆ(แต่ทำได้ยากในช่วงแรกๆ)ก่อนจะลงสู่เมนูที่ผมกินสามารถสรุปได้ดังนี้ครับ
0. หลักการนี้เป็นพื้นฐานเลยครับคือ อยากแหลกไรก็แหลกแต่ต้องนับแคลลอรี่ครับ ปล พวกของทอด ของหวาน น้ำอัดลมที่เขาให้งดๆที่จริงกินได้ครับ แต่ของพวกนี้มีแคลลอรี่สูงทำให้ปริมาณแคลลอรี่ที่ควรได้รับต่อวันมีโอกาสเกินครับ หลังจากข้อนี่เป็นต้นไปเป็นสิ่งที่ผมทำครับ
1. ลดแป้ง พวก ข้าว ขนมปัง และน้ำตาลครับ ย้ำนะครับ ลด ไม่ใช่ งด เพราะคาร์โบไฮเดรตเป็นแหล่งพลังงานของเราครับ เช่นลดปริมาณข้าว ไปประมาณ 70 เปอเซนของที่เคยกินครับ
2. น้ำมันในการประกอบอาหารให้ไม่ใส่เลย หรือ ใส่นิดเดียวพอครับ อย่างมากครึ่งช้อนชาพอ เพราะยังไงเนื้อสัตว์ที่กินก็จะมีไขมันปนมาอยู่แล้วครับ พวก ไส้กรอก แซนวิชไส้กรอกชีส พวกนี้ งดเด็ดขาดนะครับ เพราะไส้กรอกประกอบไปด้วยแป้งกับมันล้วนๆเลยครับ กินก็ไม่อิ่มแคลลอรี่ก็สูงไม่คุ้มครับ
3.รับประทานกับข้าวให้เยอะขึ้นเยอะๆเลยครับ เปลืองหน่อยแต่คุ้มค่าครับ
4.ว่าด้วยขนม น้ำอัดลมและของทอด ครับ อันนี้ขออธิบายนิดนึงนะ คือ ตอนผมลดผมก็แอบกินขนมบ้างนะครับ แต่!!!!!! ขนมที่ผมกินผมจะพลิกดูข้อมูลทางโภชนาการด้านหลังของซองเสมอครับส่วนกินอะไรจะอธิบายไว้ในเมนูนะครับ น้ำอัดลม ผมก็กินบ้างครับนานๆที แต่จะเลือกที่ไม่มีน้ำตาลครับ ส่วนของทอด ลบไปจากสมองเลยครับ เห็นที่ไหนให้เชิดใส่เลย ปล พวกฮันนี่โทส ไอติม ของหวานต่างๆ รู้นะครับต้องทำยังไง ขอแสดงความเสียใจกับสาวๆด้วยครับ
5. ไม่จะกินอะไรให้พยายามนับแคลลอรี่ไปด้วยนะครับ โดย 1 วันควรกินประมาณ1000-1500แคลลอรี่ครับ เพื่อความปลอดภัยของร่างกาย วิธีการคือ ถ้าเป็นอาหารตามสั่งให้กะๆเอาครับ หรือ ค้นจากgoogleได้ และเวลาสั่งกำชับแม่ครัวหน่อยนะครับว่าน้ำมันน้อยๆ ข้าวน้อยๆ แต่ถ้าเป็นสินค้าให้ดูที่ข้อมูลโภชนาการครับ <<<ตรงนี้สำคัญมากๆครับ ไม่ว่าจะผอมหรืออ้วน ก็ต้องดูเสมอครับ
6.สามารถกินบุฟเฟ่ได้นะครับ แต่ทานพวกปลา อาหารทะเลพอนะครับ และทานให้ "พออิ่ม"
7. ทุกครั้งที่รู้สึกท้อแท้ หรืออยากกินของที่ตัวเองชอบ ให้นึกถึงเป้าหมายที่เราตั้งไว้ครับ ผมใช้วิธี 1 เดือนชั่งน้ำหนักทีครับ และถ้าลดได้ตามเป้าก็จะแอบกินของที่ชอบ 1 มื้อให้รางวัลตัวเองครับ ช่วงแรกๆของการลด ประมาณ 15 วันแรกนี่ นรกแตกครับ ผมเจอมากับตัว แต่ถ้าผ่านไปได้ คุณจะทรมานน้อยลงครับ รับรอง

มากันที่เมนูที่ผมกินนะ (ผมกินข้าวแค่ 2 ช้อนโต๊ะต่อมื้อ ซึ่งไม่แนะนำนะครับ ควรจะทานให้เยอะกว่านี้)

1. เมนูไข่ๆ ได้แก่ ไข่ต้ม 2 ฟอง ไข่ตุ๋น ไข่น้ำ เป็นต้นครับ
2. เมนูต้มๆ ได้แก่ แกงจืดผักกาดขาว น้ำซุปกับเนื้อปลาล้วก (ใส่แค่2 อย่างเท่านั้น ไม่มีกระเทียมเจียวเนื่องจากมีน้ำมันเยอะครับ)
3. เมนูผัด(ไม่ใส่น้ำมัน) ได้แก่ ผัดผักบลอคคอลี่กุ้งครับ ผัดเห็ดออริจิ ดอกะหล่ำผัดหมูครับ
4. เมนูย่างๆ ได้แก่ ปลาดอรี่ย่าง ปลาแซลม่อนย่างเทอริยากิทาบางๆครับ
5. ผลไม้ ได้แก่ กล้วยน้ำว้า แอปเปิ้ล แคนตาลูป ชมพู่ ครับ
ทั้งนี้ทั้งนั้นอาหารที่ผมทานมีสโคปประมาณนี้ครับแต่กินสลับไปสลับมาเช้ากลางวันเย็นเอาครับ
6. ขนมที่ผมทาน ก็กินปลาเส้นครับ แต่นานๆทีกิน กับหมูแผ่นครับเพราะแคลลอรี่ต่ำ ย้ำ! ดูข้อมูลทางโภชนาก่อนเลือก*** สำหรับพวกมันฝรั่งทอดให้เอาลงโรงไปเลยครับ
7.เครื่องดื่ม พระราชาเลยคือ น้ำเปล่าครับ ส่วนถ้าเป็นพวกเครื่องดื่มช็อดโกแลตมอล ผมจะไม่ใส่น้ำตาลครับ เพราะภายในได้ใส่น้ำตาลลงไปแล้ว และไม่มากเกินไป แต่รสชาติอาจเหมือนน้ำล้างบาทานิดนึงนะครับ555 สำหรับใครที่ทานกาแฟ ที่ฝืนได้ก็พยายามอย่าใส่น้ำตาลนะ
ปล เรื่องเมนูอาหารผมแชร์ในส่วนที่ผมทานอย่างไม่ปิดบังแล้วครับ แต่หากใครไม่ชอบ หรือ ว่าอาหารมีน้อยเกินไปสามารถค้นหาจากกระทู้เก่าๆเกี่ยวกับการลดความอ้วนได้ครับ
8.สำหรับมื้อเสริม เวลาหิวๆระหว่างมื้อผมก็อัด นมพร่องมันเนยไป หรือบางทีก็มีเครื่องดื่มวุ้นครับ

มากันที่ปัญหาที่เจอบ้อยบ่อย (มีประสบการณ์แค่นี้เองครับ สังคมน้อย 555 //น้ำตาซึม)

1. เพื่อน ครอบครัว เจ้านาย บลาๆ ชวนไปเลี้ยง อันนี้ไปเถอะครับ แต่ให้ใช้วิธีเลือกกินเอาครับ ให้ทานแต่ของที่ไม่อ้วนนะครับ ท่องไว้ครับ เราต้องอดทนเพื่อผลลัพธ์ที่สดใส
2. ไม่มีคนทำกับข้าวให้ ไม่มีเวลาทำเอง กินข้างนอกก็ไม่ถูกใจ เช่น ร้านอาหารตามสั่งใส่น้ำมันเยอะ ข้าวเยอะเกินไป แวะเข้าร้านสะดวกซื้อก็ได้ครับเลือก พวกอกไก่ปรุงสำเร็จ ไข่ต้ม นม ไข่ตุ๋น เป็นต้นครับ

มาถึงการออกกำลังกายบ้างครับ
สำหรับการออกกำลังไม่มีอะไรมากครับ ผมใช้วิธีเข้าฟิตเนสที่มหาลัยเอาครับ (เป็นคนงกครับ ชอบของฟรี ไม่อยากเสียตัง555) โดย จะเข้าอาทิตย์ละ 3 วันบ้าง 4 วันบ้าง แล้วแต่ครับ เป็นเวลา 1 เดือนเต็ม (ผมใช้เวลาลด 4 เดือนนะครับ หลังจากตั้งใจจะลดอีกรอบ) เมื่อก้าวเข้าไปในฟิตเนสก็ เริ่มเล่นเวทก่อนครับ ยกมันมั่วๆ เป็นเวลา 20 นาที (เหมือนไม่ช่วยในการลดน้ำหนัก ต้องขอคำแนะนำจากคนอื่นแล้วครับ TT) หลังจากนั้นผมก็มาวิ่ง Elliptical ครับ วันแรกๆนี่วิ่ง 2 นาทีก็หน้ามืดละครับ แต่ต้องฝืนๆไปให้ได้ 10นาที หลังจากนั้นก็มาวิ่งบนลู่วิ่งครับ บอกเลยครับว่า วันแรกผมหายใจไม่ทันเลย เหนื่อยมากถึงมากที่สุด และวิ่งได้แค่ 15นาที เพราะนอกจากเหนื่อยแล้ว ยังกลัวเข่าพังด้วยครับ เทคนิคที่ช่วยให้เหนื่อยน้อยลงคือ ระหว่างออกกำลังผมฟังเพลงไปด้วย ร้องเพลงฮัมตามและใส่อินเนอร์ไปด้วยนะครับ จะได้ลืมความเหนื่อย 555. พอผ่านไป 2 อาทิตย์ ผมเริ่มวิ่งได้เยอะขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถวิ่ง Elliptical ได้ 30 นาที วิ่งบนลู่ในระดับที่เร็วขึ้นติดต่อกันได้ 40นาทีแบบไม่ค่อยเหนื่อยครับ มหัศจรรย์สุดๆ
ปล ผมทำได้เดือนเดียวครับ หลังจากนั้นความขี้เกียจเข้าสิง เลยหันมาคุมอาหารนับแคลลอรี่อย่างเดียวครับ

เนื่องผมไม่ทราบลงรูปทั้งหมดได้ในกระทู้นี้ เดี๋ยวมาต่อกันนะครับ คอมเม้นต่อไปจะเกี่ยวกับ หลังจากที่ทำได้ 4 เดือนผมตายแล้วหรือยัง555 ข้อดีข้อเสียหลังลดความอ้วนแล้ว และ รูปที่เป็นเป้าหมายสำคัญของการลดน้ำหนักครั้งนี้นะครับ

*****แก้ไขเพิ่มเติมครับ***** เนื่องจากมีคนเตือนว่า อาจมีผู้ไม่หวังดี นำรูปของผมไปโฆษณาผลิตภัณฑ์ ขอบอกตรงนี้เลยนะครับ ผมไม่อนุญาตให้ผู้ไม่สงค์ดี นำรูปผมไปโฆษณาเชิงพาณิชย์เป็นอันขาด หาดละเมิดผมจะเอาเรื่องถึงที่สุดครับ เพราะนอกจากท่านจละเมิดสิขสิทธิ์ผมแล้ว ยังทำร้ายคนอื่นจากการนำยาลดความอ้วนมาหลอกขาย. สุดท้ายนี้ผมขอฝากชาวพันทิปช่วยสอดส่องหน่อยนะครับว่ามีใครนำรูปผมไปใช้เพื่อทำร้ายคนอื่นทางอ้อมหรือปล่าว ขอบคุณครับ