สวัสดีค่ะคุณผู้ชมและแฟนๆที่รักทุกท่าน
เมื่อวานนี้แอดมินได้ถูกอัญเชิญไปชิมอาหารฝรั่งเศสสไตล์บิสโทร (บิสโทรเป็นแนวสบายๆ สั่งเป็นจานๆ ไม่ต้องรอเป็นคอร์สๆอย่างร้านอาหารฝรั่งเศสทั่วๆไป) ที่ห้องอาหาร Blue Sky โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์เซ็นทรัลพลาซ่าลาดพร้าว (ชื่อโรงแรมนี่ยาวจริงอะไรจริง)
ร้านอาหารตั้งอยู่บนชั้น 24 ของโรงแรม อันนี้แฟนๆคงทราบกันดีอยู่แล้ว
เมื่อเดินเข้ามาปุ๊บก็ต้องมานั่งคุยกับหัวหน้าเชฟก่อน (แอบคิดว่าเข้ามาปุ๊บจะได้ทานอาหารเลย 5555)
จากที่ได้นั่งคุยกับหัวหน้าเชฟชาวฝรั่งเศส คุณอีริค เบริโกด์ เล่าถึงความเป็นมาต่างๆนี้ แอดมินสรุปได้ว่า ร้านอาหาร Blue Sky นี้ เค้ายกเครื่องเมนูใหม่ค่ะ
เมนูใหม่ๆนี้ก็มีมากหน้าหลายตามากดูหรูหราน่าทานเอามากๆ และที่แอดมินดีใจมากๆเลยคือ ไม่มีกุ้งในเมนู่ใหม่ เพราะแอดมินแพ้กุ้ง แต่ก็แอบสะดุ้งเล็กน้อย เพราะมีเมนูตับห่านที่แอดมินไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่เชฟเค้าอุส่าทำออกมาให้แล้วก็ต้องลุยค่ะ
โอเคค่ะ เราไปดูกันเลยดีกว่าว่าเจ้าเมนูใหม่ที่ว่านี้มีอะไรบ้าง
มาเริ่มจากเบาๆกันก่อนนะคะ จัดหนักก่อนเดี๋ยวพักยกยาว
ตัวนี้จะเป็น ปลาซาร์ดีน มะเขือเทศ อะโวคาโดและพริกจากสเปนปรุงรส หน้าตาก็ตามภาพนี้เลยค่ะ
ตัวนี้ก็ไม่มีอะไรมากมานค่ะ ตัวปลาซาร์ดีน มะเขือเทศ อะโวคาโดและพริกจากสเปนปรุงรส จะบรรจุอยู่ในถ้วยจุ๋มจิ๋มแลดูน่ารัก
เซิร์ฟพร้อมกับขนมปังกรอบ เวลาทานก็หยิบเจ้าแผ่นชิพที่ปักอยู่บนถ้วยเข้าปากไปก่อนค่ะ แบ่งปลาซาร์ดีน มะเขือเทศ อะโวคาโดและพริกจากสเปนปรุงรสในถ้วยเป็น 2 ส่วนปาดทาลงบนขนมปังค่ะ ส่วนตัวก็ถือว่าไช้ได้นะคะ รสจะออกปลาๆหน่อย แต่ก็จะได้รสของมะเขือเทศ พริก และอโวคาโดมาดับคาวได้ในระดับหนึ่ง เข้ากันกับขนมปังกรอบได้เป็นอย่างดีเลย ตัวนี้ราคาจะอยู่ที่จานละ 380 บาท++ ค่ะ
มาต่อกันที่จานที่ 2
ตัวนี้จะเป็น ไข่ออนเซนราดซอสเห็ดและไส้กรอกสเปน ตามรูปนี้เลยนะคะ
จานนี้แอดมินปลื้มมาก เพราะมีแต่วัตถุดิบที่ตัวแอดมินเองนั้นชอบมากๆ เนื้อสัมผัสของไข่นั้นนุ่มมากค่ะ สุกกำลังดีเลย
คือไม่แข็งเป็นก้อน เยื้อมๆกำลังดี แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นน้ำเอ่อ ประมาณว่าทานเยลลี่ยังไงยังงั้นค่ะ ตอนจะทานนี่ต้องนำซอสเห็ดในถ้วยข้างๆนี้ราดลงไปก่อนนะค่ะ ราดไปให้หมดนั้นแหละค่ะ ซอสเห็ดนั้นกลมกล่อมมากๆ เนื้อออกครีมแต่ก็ไม่ได้ข้นคั๊กและก็ไม่จืดจนเกินไปค่ะ ส่วนใส้กรอกสเปนอาจจะใส่ลงไปน้อยนิดนึงค่ะ ถ้าได้อีกจะดีมากๆ เพราะใส้กรอกนี้ช่วยดังรสเค็มให้กับจานนี้เลย จานนี้จะอยู่ที่ 390 บาท++ ค่ะ
ต่อที่จานที่ 3
ลาซานญ่าตับห่านย่างราดซอสเห็ดทรัฟเฟิลดำท็อปด้วยฟองนมทรัฟเฟิล
ตัวนี้แอดมินหนักใจมาก เพราะไม่ชอบกลิ่นตับห่าน T - T หน้าตาก็แบบนี้ค่ะ
เชฟอุส่าทำมาแล้วยังไงก็ต้องสู้ตาย ทานให้หมดค่ะ ก็เป็นอย่างที่คิดไว้เลยค่ะฟัวกลาซ์จริงๆค่ะ
เรื่องรสชาตินี้ก็เอ่อ......ถ้าคนที่ชื่นชอบจริงๆก็คงบอกว่าอร่อยนะคะ แต่แอดมินไม่ชอบอย่างแรง T - T
แม้จะมีซอสเห็ดทรัฟเฟิลที่แอดมินชอบมากรบกลิ่นของตับห่านก็ตาม เอาเป็นว่าซอสเห็ดทรัฟเฟิลรสดีมากๆค่ะ
แต่ถ้าพูดถึงรสสัมผัสถือว่าโอเคอยู่ค่ะ นุ่มมากละลายบนลิ้นเลย ราคาจานนี้จะอยู่ที่ 850 บาท++
จานนี้ขอจบเร็วนิสนึงนะคะ
เข้าจานที่ 4 ปลาค็อดเสิร์ฟพร้อมผักโขมและครีมซอสไข่ปลาคาเวียร์
แค่ฟังชื่อก็หรูแล้ว มาดูหน้าตากันเลย
เป็นอีกจานที่ถือว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียวค่ะ เนื้อปลาค๊อตนี่สดมากๆค่ะ กลิ่นคาวนี่แถบไม่มีเลย ส่วนหนังปลาที่
คนส่วนใหญ่มักจะชอบลอกทิ้งนี่กรอบกำลังดีค่ะ ซอสไข่ปลาคาเวียร์เป็นตัวที่เพิ่มรสเค็มให้กับเนื้อปลาค๊อตที่ออกรสชาติจืดเค็มอ่อนๆ
โดยซอสไข่ปลาคาเวียร์จะออกรสเค็มละมุนละมุน คือไม่ถึงขั้นเค็มปี๋อะไรอย่างนั้น
จานนี้ได้ผักโขมมาเพิ่มรสสัมผัสให้เหมือนว่าได้เคี้ยวอะไรบ้าง (เพราะเนื้อปลาค๊อตนั้นนุ่มมากเหมือนไม่ได้เคี้ยวอะไรเลย)
ราคาจานนี้จะอยู่ที่ราคา 980 บาท++ ค่ะ
ของคาวจานสุดท้ายที่แอดมินภาวนาให้มาถึงเร็วๆ เพราะว๊อนท์มาก
เนื้อวัววากิวมิยาซากิ จากประเทศญี่ปุ่นราดซอสไวน์แดง เสิร์ฟพร้อมผัดผักรวมนานาชนิดจากทวีปเอเชียและมันฝรั่งอบ
หน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ ดูดีมีสกุล แค่เห็นก็ต้องกลืนน้ำลายอึกอึกอึก แอบอยากให้เชฟอธิบายเสร็จเร็วๆจะได้รีบจิ้มเข้าปาก
เป็นไปอย่างที่คาดหวังจริงๆค่ะ เนื้อวากิวนุ่มจริงๆ ตอนทานต้องนำซอสไวน์แดงราดไปก่อน แอดมินก็ราดไปหมดถ้วยนั้นแหละค่ะ
ความเค็มของเนื้อวากิวเข้ากับรสออกเปรี้ยวหอมหน่อยๆของซอสไวน์แดง ทานสลับกันไปกับมันฝรั่งอบที่อยู่ในถ้วยข้างๆค่ะ
หรือจะปาดมันฝรั่งไปโปะไว้บนเนื้อแล้วทานพร้อมกันก็ได้ค่ะ ส่วนผักรวมนั้นจะทานให้หมดไปก่อนก็ได้ เพราะแอดมินเป็นตัวกินเนื้อ
จานนี้เอาไปเลย 10 เต็ม 10ค่ะ จานนี้ราคาอยู่ที่ 2,800 บาท++ ค่ะ
มาถึงของหวานล้างปากกันเสียทีกับจานที่ 6
ไอศกรีมเชอร์เบทรสผลไม้ 3 ชนิดเซิร์ฟพร้อมแป้งพั๊ฟกรอบ
หน้าตาดูดีเชียว
ไอศกรีมเชอร์เบทรสผลไม้ 3 ชนิดนี้เป็นไอศกรีมโฮมเมดทั้งหมดค่ะ ในจานนี้มี 3 รส เป็นรสส้ม ลิ้นจี่ และราสป์เบอร์รีค่ะ
ทั้งสามรสนี้เป็นรสบังคับนะคะ ไม่สามารถเปลี่ยนหรือเลือกได้ เพราะแอดมินแอบไปถามว่าเปลี่ยนจากส้มเป็นเลม่อนหรือมะนาวได้รึปล่าว
(เรื่องมากอีกแล้วนะเรา 5555) เริ่มจากชิ้นแรกันก่อนเลยนะคะ หยิบแป้งพั๊ฟกรอบขึ้นมาและตักเชอร์เบทรสส้มวางลงไปเอาเข้าปากไปพร้อมๆกัน อู้ยยย ฟินค่ะ รสเปรี้ยวหวานของส้มและแป้งพั๊ฟกรอบมันเข้ากันได้ดีจริงๆ รสคาวๆในปากนี้หายไปเลยคะ ไม่รอช้าต่อที่รสลิ้นจี่ ตัวนี้จะเปรี้ยวน้อยกว่าส้มนิดนึงค่ะ หวานละมุนแบบลิ้นจี่ดี มาที่รสราสป์เบอร์รีกันดีกว่า รสนี้เปรี้ยวที่สุดเลยค่ะ เข็ดฟันมาก แต่ก็ฟินมากค่ะ ให้รางวัลจานนี้เป็นของหวานล้างปากที่ยอดเยี่ยมเลยค่ะ รสคาวปลาคาวตับห่านที่ทานมานี่หายไปในทันทีค่ะ รู้สึกดีมากๆ จานนี้ 190 บาท++ ค่ะ
จริงๆก็ยังมีอีกหลากหลายเมนูที่ร้านอาหาร Blue Sky ให้ได้ลองนะคะ แต่วันนี้ทางห้องอาหารจัดให้ตามนี้ค่ะ ยังแอบเคืองจานตับห่านอยู่ 5555+
ถ้าแฟนๆและผู้ติดตามท่านไหนอยากหาอะไรใหม่ๆทานต้องลองไปที่ Blue Sky กันได้เลยนะคะ แต่เพื่อบรรยกาศที่ดี ดูฟ้าฟนก่อนไปหน่อยนะคะ เพราะร้านนี้อย่างที่บอกไปเค้าตั้งอยู่ชั้น 24 แต่ถ้าใครอยากไปชบฟ้าแลบก็ไม่ว่ากันค่ะ ห้องอาหารเปิดทุกวันตั้งแต่เวลาหกโมงเย็นถึงตี 2 ค่ะ
แต่จะรับออร์เดอร์อาหารไปจนถึงเวลา 5 ทุ่มตรงเท่านั้น สามารถโทรไปจองโต๊ะหรือเช็คสภาพอากาศได้ที่ 02 541 1234 ต่อ 4151
ยังไงก็ขอขอบคุณท่านผู้ชม ผู้ติดตามและแฟนๆที่ตามอ่านกันนะคะ และขอขอบคุณหัวหน้าเชฟ คุณอีริค เบริโกด์ ที่อุส่าเชิญให้แอดมินไปลองทานค่ะ
[SR] ++เมนูอาหารฝรั่งเศสมาใหม่ สไตล์ French Bistro ที่ Blue Sky โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์เซ็นทรัลพลาซ่าลาดพร้าว++
เมื่อวานนี้แอดมินได้ถูกอัญเชิญไปชิมอาหารฝรั่งเศสสไตล์บิสโทร (บิสโทรเป็นแนวสบายๆ สั่งเป็นจานๆ ไม่ต้องรอเป็นคอร์สๆอย่างร้านอาหารฝรั่งเศสทั่วๆไป) ที่ห้องอาหาร Blue Sky โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์เซ็นทรัลพลาซ่าลาดพร้าว (ชื่อโรงแรมนี่ยาวจริงอะไรจริง)
ร้านอาหารตั้งอยู่บนชั้น 24 ของโรงแรม อันนี้แฟนๆคงทราบกันดีอยู่แล้ว
เมื่อเดินเข้ามาปุ๊บก็ต้องมานั่งคุยกับหัวหน้าเชฟก่อน (แอบคิดว่าเข้ามาปุ๊บจะได้ทานอาหารเลย 5555)
จากที่ได้นั่งคุยกับหัวหน้าเชฟชาวฝรั่งเศส คุณอีริค เบริโกด์ เล่าถึงความเป็นมาต่างๆนี้ แอดมินสรุปได้ว่า ร้านอาหาร Blue Sky นี้ เค้ายกเครื่องเมนูใหม่ค่ะ
เมนูใหม่ๆนี้ก็มีมากหน้าหลายตามากดูหรูหราน่าทานเอามากๆ และที่แอดมินดีใจมากๆเลยคือ ไม่มีกุ้งในเมนู่ใหม่ เพราะแอดมินแพ้กุ้ง แต่ก็แอบสะดุ้งเล็กน้อย เพราะมีเมนูตับห่านที่แอดมินไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่เชฟเค้าอุส่าทำออกมาให้แล้วก็ต้องลุยค่ะ
โอเคค่ะ เราไปดูกันเลยดีกว่าว่าเจ้าเมนูใหม่ที่ว่านี้มีอะไรบ้าง
มาเริ่มจากเบาๆกันก่อนนะคะ จัดหนักก่อนเดี๋ยวพักยกยาว
ตัวนี้จะเป็น ปลาซาร์ดีน มะเขือเทศ อะโวคาโดและพริกจากสเปนปรุงรส หน้าตาก็ตามภาพนี้เลยค่ะ
ตัวนี้ก็ไม่มีอะไรมากมานค่ะ ตัวปลาซาร์ดีน มะเขือเทศ อะโวคาโดและพริกจากสเปนปรุงรส จะบรรจุอยู่ในถ้วยจุ๋มจิ๋มแลดูน่ารัก
เซิร์ฟพร้อมกับขนมปังกรอบ เวลาทานก็หยิบเจ้าแผ่นชิพที่ปักอยู่บนถ้วยเข้าปากไปก่อนค่ะ แบ่งปลาซาร์ดีน มะเขือเทศ อะโวคาโดและพริกจากสเปนปรุงรสในถ้วยเป็น 2 ส่วนปาดทาลงบนขนมปังค่ะ ส่วนตัวก็ถือว่าไช้ได้นะคะ รสจะออกปลาๆหน่อย แต่ก็จะได้รสของมะเขือเทศ พริก และอโวคาโดมาดับคาวได้ในระดับหนึ่ง เข้ากันกับขนมปังกรอบได้เป็นอย่างดีเลย ตัวนี้ราคาจะอยู่ที่จานละ 380 บาท++ ค่ะ
มาต่อกันที่จานที่ 2
ตัวนี้จะเป็น ไข่ออนเซนราดซอสเห็ดและไส้กรอกสเปน ตามรูปนี้เลยนะคะ
จานนี้แอดมินปลื้มมาก เพราะมีแต่วัตถุดิบที่ตัวแอดมินเองนั้นชอบมากๆ เนื้อสัมผัสของไข่นั้นนุ่มมากค่ะ สุกกำลังดีเลย
คือไม่แข็งเป็นก้อน เยื้อมๆกำลังดี แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นน้ำเอ่อ ประมาณว่าทานเยลลี่ยังไงยังงั้นค่ะ ตอนจะทานนี่ต้องนำซอสเห็ดในถ้วยข้างๆนี้ราดลงไปก่อนนะค่ะ ราดไปให้หมดนั้นแหละค่ะ ซอสเห็ดนั้นกลมกล่อมมากๆ เนื้อออกครีมแต่ก็ไม่ได้ข้นคั๊กและก็ไม่จืดจนเกินไปค่ะ ส่วนใส้กรอกสเปนอาจจะใส่ลงไปน้อยนิดนึงค่ะ ถ้าได้อีกจะดีมากๆ เพราะใส้กรอกนี้ช่วยดังรสเค็มให้กับจานนี้เลย จานนี้จะอยู่ที่ 390 บาท++ ค่ะ
ต่อที่จานที่ 3
ลาซานญ่าตับห่านย่างราดซอสเห็ดทรัฟเฟิลดำท็อปด้วยฟองนมทรัฟเฟิล
ตัวนี้แอดมินหนักใจมาก เพราะไม่ชอบกลิ่นตับห่าน T - T หน้าตาก็แบบนี้ค่ะ
เชฟอุส่าทำมาแล้วยังไงก็ต้องสู้ตาย ทานให้หมดค่ะ ก็เป็นอย่างที่คิดไว้เลยค่ะฟัวกลาซ์จริงๆค่ะ
เรื่องรสชาตินี้ก็เอ่อ......ถ้าคนที่ชื่นชอบจริงๆก็คงบอกว่าอร่อยนะคะ แต่แอดมินไม่ชอบอย่างแรง T - T
แม้จะมีซอสเห็ดทรัฟเฟิลที่แอดมินชอบมากรบกลิ่นของตับห่านก็ตาม เอาเป็นว่าซอสเห็ดทรัฟเฟิลรสดีมากๆค่ะ
แต่ถ้าพูดถึงรสสัมผัสถือว่าโอเคอยู่ค่ะ นุ่มมากละลายบนลิ้นเลย ราคาจานนี้จะอยู่ที่ 850 บาท++
จานนี้ขอจบเร็วนิสนึงนะคะ
เข้าจานที่ 4 ปลาค็อดเสิร์ฟพร้อมผักโขมและครีมซอสไข่ปลาคาเวียร์
แค่ฟังชื่อก็หรูแล้ว มาดูหน้าตากันเลย
เป็นอีกจานที่ถือว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียวค่ะ เนื้อปลาค๊อตนี่สดมากๆค่ะ กลิ่นคาวนี่แถบไม่มีเลย ส่วนหนังปลาที่
คนส่วนใหญ่มักจะชอบลอกทิ้งนี่กรอบกำลังดีค่ะ ซอสไข่ปลาคาเวียร์เป็นตัวที่เพิ่มรสเค็มให้กับเนื้อปลาค๊อตที่ออกรสชาติจืดเค็มอ่อนๆ
โดยซอสไข่ปลาคาเวียร์จะออกรสเค็มละมุนละมุน คือไม่ถึงขั้นเค็มปี๋อะไรอย่างนั้น
จานนี้ได้ผักโขมมาเพิ่มรสสัมผัสให้เหมือนว่าได้เคี้ยวอะไรบ้าง (เพราะเนื้อปลาค๊อตนั้นนุ่มมากเหมือนไม่ได้เคี้ยวอะไรเลย)
ราคาจานนี้จะอยู่ที่ราคา 980 บาท++ ค่ะ
ของคาวจานสุดท้ายที่แอดมินภาวนาให้มาถึงเร็วๆ เพราะว๊อนท์มาก
เนื้อวัววากิวมิยาซากิ จากประเทศญี่ปุ่นราดซอสไวน์แดง เสิร์ฟพร้อมผัดผักรวมนานาชนิดจากทวีปเอเชียและมันฝรั่งอบ
หน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ ดูดีมีสกุล แค่เห็นก็ต้องกลืนน้ำลายอึกอึกอึก แอบอยากให้เชฟอธิบายเสร็จเร็วๆจะได้รีบจิ้มเข้าปาก
เป็นไปอย่างที่คาดหวังจริงๆค่ะ เนื้อวากิวนุ่มจริงๆ ตอนทานต้องนำซอสไวน์แดงราดไปก่อน แอดมินก็ราดไปหมดถ้วยนั้นแหละค่ะ
ความเค็มของเนื้อวากิวเข้ากับรสออกเปรี้ยวหอมหน่อยๆของซอสไวน์แดง ทานสลับกันไปกับมันฝรั่งอบที่อยู่ในถ้วยข้างๆค่ะ
หรือจะปาดมันฝรั่งไปโปะไว้บนเนื้อแล้วทานพร้อมกันก็ได้ค่ะ ส่วนผักรวมนั้นจะทานให้หมดไปก่อนก็ได้ เพราะแอดมินเป็นตัวกินเนื้อ
จานนี้เอาไปเลย 10 เต็ม 10ค่ะ จานนี้ราคาอยู่ที่ 2,800 บาท++ ค่ะ
มาถึงของหวานล้างปากกันเสียทีกับจานที่ 6
ไอศกรีมเชอร์เบทรสผลไม้ 3 ชนิดเซิร์ฟพร้อมแป้งพั๊ฟกรอบ
หน้าตาดูดีเชียว
ไอศกรีมเชอร์เบทรสผลไม้ 3 ชนิดนี้เป็นไอศกรีมโฮมเมดทั้งหมดค่ะ ในจานนี้มี 3 รส เป็นรสส้ม ลิ้นจี่ และราสป์เบอร์รีค่ะ
ทั้งสามรสนี้เป็นรสบังคับนะคะ ไม่สามารถเปลี่ยนหรือเลือกได้ เพราะแอดมินแอบไปถามว่าเปลี่ยนจากส้มเป็นเลม่อนหรือมะนาวได้รึปล่าว
(เรื่องมากอีกแล้วนะเรา 5555) เริ่มจากชิ้นแรกันก่อนเลยนะคะ หยิบแป้งพั๊ฟกรอบขึ้นมาและตักเชอร์เบทรสส้มวางลงไปเอาเข้าปากไปพร้อมๆกัน อู้ยยย ฟินค่ะ รสเปรี้ยวหวานของส้มและแป้งพั๊ฟกรอบมันเข้ากันได้ดีจริงๆ รสคาวๆในปากนี้หายไปเลยคะ ไม่รอช้าต่อที่รสลิ้นจี่ ตัวนี้จะเปรี้ยวน้อยกว่าส้มนิดนึงค่ะ หวานละมุนแบบลิ้นจี่ดี มาที่รสราสป์เบอร์รีกันดีกว่า รสนี้เปรี้ยวที่สุดเลยค่ะ เข็ดฟันมาก แต่ก็ฟินมากค่ะ ให้รางวัลจานนี้เป็นของหวานล้างปากที่ยอดเยี่ยมเลยค่ะ รสคาวปลาคาวตับห่านที่ทานมานี่หายไปในทันทีค่ะ รู้สึกดีมากๆ จานนี้ 190 บาท++ ค่ะ
จริงๆก็ยังมีอีกหลากหลายเมนูที่ร้านอาหาร Blue Sky ให้ได้ลองนะคะ แต่วันนี้ทางห้องอาหารจัดให้ตามนี้ค่ะ ยังแอบเคืองจานตับห่านอยู่ 5555+
ถ้าแฟนๆและผู้ติดตามท่านไหนอยากหาอะไรใหม่ๆทานต้องลองไปที่ Blue Sky กันได้เลยนะคะ แต่เพื่อบรรยกาศที่ดี ดูฟ้าฟนก่อนไปหน่อยนะคะ เพราะร้านนี้อย่างที่บอกไปเค้าตั้งอยู่ชั้น 24 แต่ถ้าใครอยากไปชบฟ้าแลบก็ไม่ว่ากันค่ะ ห้องอาหารเปิดทุกวันตั้งแต่เวลาหกโมงเย็นถึงตี 2 ค่ะ
แต่จะรับออร์เดอร์อาหารไปจนถึงเวลา 5 ทุ่มตรงเท่านั้น สามารถโทรไปจองโต๊ะหรือเช็คสภาพอากาศได้ที่ 02 541 1234 ต่อ 4151
ยังไงก็ขอขอบคุณท่านผู้ชม ผู้ติดตามและแฟนๆที่ตามอ่านกันนะคะ และขอขอบคุณหัวหน้าเชฟ คุณอีริค เบริโกด์ ที่อุส่าเชิญให้แอดมินไปลองทานค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น