ที่มาที่ไปของการรีวิวครั้งนี้ . . .
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้โจทย์ที่ได้รับมาก็คือ อยากให้ลองเอาเจ้าเต้าหู้อบกรอบอันนี้ มาแปรรูปเป็นอาหารให้หลากหลายชนิดดู โดยไม่มีข้อจำกัดว่าจะต้องเป็นอาหารชาติใด
เนื่องด้วย จขกท.เป็นคนทำกับข้าวอยู่แล้ว ก็เลยลองคิดว่าจะเอามาทำอะไรดี คิดไปคิดมาก็ได้อยู่ที่ 10 เมนู (แต่จริงๆแล้ว พอเอาสินค้าทดลองมาให้ทำ กลับทำได้หลากลายมากกว่า แต่เลือก 10 เมนูนี้มานำเสนอ เพราะคิดว่ามันง่าย สะดวก และไม่ยาก หากเพื่อนๆจะลองนำไปทำตาม)

หลังจากที่ได้รับโจทย์ดังกล่าวมา ก็พูดคุยกันว่า ถ้าเราทำอาหารขึ้นมาเพื่อมา SR สินค้า ก็ควรจะมีคนรับผิดชอบ . . . หรือเรียกง่ายๆว่าคนช่วยอ้วน ก็เลยคิดว่า ควรจัดเป็นงานปาร์ตี้เล็กๆในกลุ่มเพื่อน เพื่อมาชิมอาหารที่ทำแล้วช่วยคอมเม้นว่ามันเข้ากับเมนูที่ทำออกมาหรือเปล่า และอีกอย่างก็คืออัพเดทข่าวคราวชีวิตกัน ประกอบกับว่า เพื่อนเราก็เกิดในเดือนนี้เยอะ จึงตกลงกันว่า จะจัดงานปาร์ตี้ในธีมวันเกิด

เรามาเริ่มกันที่เมนูที่ 1 กันเลยครับ "แสร้งว่าซีซาร์สลัด"
จริงๆมันก็คือสลัดนั่นแหละครับ แต่มันไม่เชิงซีซาร์สลัดซะทีเดียว เพราะไม่ได้ขูดชีสใส่ ไม่มีเบคอนกรอบ
ก็เลยแสร้ง แอ๊บแบ๊วว่ามันเป็นซีซาร์สลัด นั่นเอง . . . .
วิธีทำก็ไม่ยากครับ หาซื้อผักสลัดตามเราชอบเลย  หรือง่ายกว่านั้นก็คือซื้อผักสลัดที่มันรวมเป็นถุงอยู่
นำมาจัดใส่ชาม


แล้วก็เลือกน้ำสลัดที่ตัวเองชอบ ซึ่งมติได้เลือกเป็นน้ำสลัดซีซาร์ นำมาคลุกรวมกันกับผักสลัด

โดยปกติแล้วเมื่อคลุกเคล้าเข้ากันดี ก็จะใส่กรูตอง หรือขนมปังกรอบลงไป สำหรับเมนูนี้ เราก็แทนที่ด้วยเต้าหู้อบกรอบ รสสาหร่ายแทน
หรือว่าจะเลือกรสปาปริก้าก็ได้ มันก็แซ่บๆไปอีกแบบ ใส่ลงไปคลุกแล้วก็แบ่งไว้โรยหน้าตกแต่งนิดหน่อยพองาม
พร้อมเสิร์ฟแล้วคร๊าบบบบ

เมนูที่ 2 "จิ้มจุ๊บเต้าหู้"
จิ้มจุ๊บนะครับ ถูกแล้ว ไม่ใช่จิ้มจุ่ม เมนูนี้ทำไม่ยากครับ เพราะจริงๆแล้วมันก็คือ . . . .
การเอาเต้าหู้อบกรอบ มากันคู่กันกิบดิปรสต่างๆ เหมือนอย่างเฟรนช์ฟรายจิ้มซอสมายองเนส ส่วนตัวของดิปก็ตามความชอบหรือความสะดวกในการซื้อหาเลยครับผม
ดิปที่จขกท.เลือกใช้คือ รสทูน่าสไปซี่ กับรสเบคอนและเห็ด สาเหตุที่เลือกเพราะ เพื่อนสนิททำเองแล้วอร่อยมาก (ช่างเป็นสาเหตุที่ซับซ้อนมากมาย)

ตอนแรกก็เต็มจาน สวยงามดีอยู่


แต่พอชิมไป 1 คำเท่านั้นแหละ . . . หยุดกันไม่อยู่เลยยย ด้วยการที่กินแล้วหยุดไม่อยู่นี้เอง จึงเป็นที่มาของ "จิ้มจุ๊บ" เพราะพอจิ้มตัวดิ๊ป เอาเข้าปากเสร็จ การดูดนิ้วเข้าปากจุ๊บๆมันก็เกิดขึ้นเองโดยอัตโนมัติ

ต่อกันด้วยเมนูที่ 3 เลยนะครับ "ยำเบญจครันช์ชี่"
อะโหวววว ชื่อเว่อวังอลังการดาวล้านดวงมาก แท้จริงแล้วก็ ยำ 5 กรอบ ฮ่าๆ ปกติเค้าทำยำ 3 กรอบกัน แต่ตอนที่ไปเลือกซื้อของ คนนู้นอยากกินอันนี้ คนนี้อยากกินอันโน้น เลือกไม่ถูกว่าจะใส่อะไรให้ครบ 3 ไปๆมาๆ เลยเอามา 5 อย่างเลย
ส่วนผสมก็มีของ กรอบ 5 อย่างครับได้แก่ แคปหมู หมูแผ่น เต้าหู้อบกรอบรสปาปริก้า เม็ดมะม่วงหิมพานต์ และปลากรอบ

ผักที่ใช้ก็มาตรฐานยำทั่วไปครับ หอมใหญ่ พริกขี้หนูซอย มะเขือเทศ ขึ้นฉ่าย มะนาว น้ำปลา น้ำตาล ปรุงรสตามชอบ และตัวที่ทำให้รสชาติกลมกล่อมมากยิ่งขึ้นก็คือ พริกเผาครับ เรื่องอัตราส่วนอันนี้ยากจะบอก มันไม่ตายตัว ทำไปชิมไป เอาตามชอบเลยครับ


ปรุงรสน้ำยำให้ได้ที่ แล้วก็ใส่ของกรอบลงไปทีหลังสุด คลุกๆแค่พอเข้ากัน อย่าคลุกนาน แล้วก็ตักใส่จานเสิร์ฟได้เลยคร๊าบ

เมนูที่ 4 "ผงโรยข้าว . . อ้าว อร่อยเฉย!"
อันที่จริงเมนูนี้ ตอนที่จขกท.คิด ก็คิดไม่ออกครับว่าจะออกมารสชาติเป็นยังไง แต่พอทำออกมาเสร็จแล้วลองให้เพื่อนชิมกัน ปรากฎว่าเค้าชอบกัน เลยเป็นที่มาของคำว่า อ้าว อร่อยเฉย!!
ส่วนประกอบหลักก็มีเต้าหู้กรอบครับ (เลือกใช้รสสาหร่าย) ปลากรอบ (เป็นการใช้วัตถุดิบที่มีอยู่จากการทำยำเบญจครั้นช์ชี่มาปรุงต่อครับ) สาหร่าย งาขาว และงาดำ สำหรับเครื่องปรุงก็มีซอสโชยุ กับ มิริน
วิธีทำก็ไม่ยาก เอาเต้าหู้กรอบ มาใส่เครื่องผสมอาหารแล้วกดปั่นครับ สำหรับใครที่ไม่มีเครื่องปั่น ก็เอามาทุบๆโขลกๆด้วยสากก็ได้ครับ
ปลากรอบก็เอามาทำแบบนี้เช่นกัน เนื้อสัมผัสไม่ต้องให้ละเอียดมาก เอาให้พอโรยข้าวแล้วมีอะไรให้เคี้ยวเล่นกรุบๆพอสนุกปากกำลังดีครับ
สาหร่ายก็นำเข้าเตาอบ สักแปบ พอมันกรอบๆแห้งๆ จะได้สะดวกในการเอามาซอย แล้วเอามาตัดเป็นเส้นๆ ใช้กรรไกรจะง่ายครับ มันกรอบแล้ว

ส่วนงาขาว งาดำ ก็นำมาคั่วให้หอมครับ
ส่วนผสมหลักทุกอย่างที่ได้จะหน้าตาแบบนี้ วางพักไว้ก่อนครับ
หันมาทำน้ำปรุง โดยใส่โชยุ สักประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ อย่าเพิ่งใส่เยอะครับ เพราะเรามีความเค็มจากเต้าหู้และปลากรอบอยู่แล้ว ผสมกับมิรินสัก 1 ช้อนโต๊ะเช่นกัน ใส่กระทะ ไม่ต้องให้เดือดมาก แค่ให้มันอุ่นๆไล่แอลกอฮอล์จากมิรินออกไป เอาขึ้นจากไฟ และส่วนผสมของแห้งก่อนหน้านี้ ก็ใส่รวมกันในชามขนาดใบใหญ่หน่อยครับ
นำส่วนผสมของเหลว ผสมก็ส่วนผสมของแห้ง คลุกเคล้าให้ทุกอย่างเข้ากัน แล้วนำทุกอย่างใส่ถาด เกลี่ยให้บางๆเรียบๆ นำเข้าอบที่ไฟเบาๆ เพื่อให้ทุกอย่างแห้ง อย่าใช้ไฟแรงครับ เดี๋ยวมันจะไหม้ เพราะมันมีความหวานจากมิรินอยู่
สำหรับท่านที่ไม่มีเตาอบก็ไม่เป็นปัญหาครับ นำใส่ไมโครเวฟ เลือกไฟเบาๆ แล้วหมั่นนำออกมาคลุกๆคนๆ เพื่อไล่ความชื้นออกไป ให้แห้งๆ จะได้เก็บรักษาได้นานๆครับ

เมนูที่ 5 "ซุปมิโซะ . .โอะ! นิ่มซะแล้วววว"
ซุปมิโซะที่ทำกันก็ล้วนแต่ใช้เต้าหู้นิ่มใช่ไหมครับ แต่วันนี้เราใช้เต้าหู้กรอบแทน โดยเราจะเอามาทำให้มันนิ่มครับ ตกใจร้อง โอะ กันเลยใช่ไหมครับ
นั่นแหละครับ ที่มาของชื่อเมนูที่ว่า โอะ! นิ่มซะแล้ววววววว
ส่วนประกอบก็ไม่มีอะไรยากเลยครับ หอมหัวใหญ่ แครอท สาหร่าย เต้าหู้กรอบ เครื่องปรุงก็มีแค่หัวมิโซะ ที่หาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไป

ขั้นตอนการทำ ก่อนอื่นก็นำน้ำสะอาด ใส่หม้อ ตั้งไฟให้เดือด แล้วใส่เต้าหู้อบกรอบลงไป เลือกใช้รสสาหร่ายครับ เพราะคิดว่ามันน่าจะลงตัวมากกว่า ถ้าเป็นปาปริก้า มันจะมีรสเผ็ดแทรกมา  

..... คือเหมือน Tie in ลัคกี้เฟรมกับนกนางนวลเลยอ่า -...-
เมื่อเต้าหู้มันนิ่มแล้ว เอาแครอทกับหอมหัวใหญ่ที่หั่นเป็นเต๋าเล็กๆใส่ไปครับ ใส่แครอทลงไปก่อน แล้วตามด้วยหอมหัวใหญ่ครับ (เพราะแครอทสุกยากกว่าหอมหัวใหญ่นิดนึง) หลังจากนั้นหรี่ไฟลง อย่าให้เดือด นำหัวมิโซะใส่ถ้วยเล็กๆแยกไว้ครับ แล้วแบ่งน้ำจากในหม้อ มาละลายหัวมิโซะในถ้วยเล็กคนจนให้เข้ากันดี แล้วปิดเตาครับ หลังจากนั้นเทลงไปรวมกันในหม้อใหญ่ คนให้เข้ากัน แล้วจึงใส่สาหร่าย ปิดฝา (ที่ไม่ใส่มิโซะลงไปในหม้อใหญ่ เพราะมิโซะหนืดและข้น อาจทะให้ไม่ละลายเข้ากันดี อาจจับตัวเป็นก้อน และที่ให้ใช้ไฟเบา และปิดเตาเลย ก็เพราะถ้าใช้ไฟแรง จุลินทรีย์ตัวดีในมิโซะอาจจะตายได้ครับ

ทีนี้ เมื่อเรามีผงโรยข้าวแล้ว มีซุปมิโซะแล้ว เราก็นำ 2 เมนูนี้มา Combination ประกอบร่างกัน ให้เป็นมื้อที่มีความเป็นญี่ปุ่นๆผสมอยู่เล็กๆ
เอาข้าวญี่ปุ่นมาหุงแล้วก็โรยหน้าด้วยผงโรยข้าว ข้างๆก็จัดวางด้วยซุปมิโซะ หน้าตาก็จะออกมาน่ารับประทานประมาณนี้ครับ
คาวาอี้ ทาเบะไต๊มั่กๆเลยยยยย



ตอนนี้ผ่านไป 5 เมนูแล้ว ขออนุญาตพักเบรคไปทานข้าวกับทำธุระก่อนนะครับ แล้วเดี๋ยวจะรีบมาต่อให้ครบ 10 อย่าง


ปล. 1 ใน 5 เมนูที่เหลือ มีนำมาทำเป็นของหวานด้วยนะครับ ติดตามชมกันได้เลยย