รีวิว (ไม่ใช่) ครั้งแรก แต่อยากเริ่มทำรีวิว พร้อมฝึกถ่ายรูปไปด้วย ปกติหยุดอาทิตย์ จันทร์ เลยวางแผนคว้า RX-100 ออกไปหาอะไรถ่ายรูปทุกวันอาทิตย์ วันนี้ตั้งใจไปถ่ายรูปที่สนามหลวง กับแถวๆ นั้น แต่ขอแวะไปกินอาหารญี่ปุ่นก่อนนะ
พร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ บอกจุดหมายปลายทางคร่าวๆ ก่อน (สัมมากร>ท่าพระจันทร์>สนามหลวง)
1. Kyoto Japanese Restaurant (ซอยสัมมากร)
- เข้าได้สองทาง ซอยสัมมากรเลย หรือซอย Pure Place (รพ. การุญเวช--เกษมราษฎร์ เดิม)
- อย่าเดินเลยนะ นั่งมอไซค์ หรือแท๊กซี่เค้ามาก็ได้ นี่เห็นจากแผนที่คิดว่าไม่ไกล เดินจนหน้าเจียวไข่ได้เลย
- ร้านเป็นห้องเล็กๆ อยู่ในรั้วเหมือนบ้านหลังนึง มีสนามหญ้า มีต้นกล้วย มีต้นไม้ มองป้ายดีๆ เขียนว่า Kyoto อยู่ติดกับร้านที่ตกแต่งสีแดงเหมือนศาลเจ้า ตบหน้าเปลี่ยนโหงวเฮ้ง
ตัดมาร้านเป้าหมาย ดูบรรยากาศในร้านกัน
เป็นร้านเล็กๆ ข้างในไม่ได้ตกแต่งอะไรมาก รอบกระจกมีเมนูแปะทั่วเลย ไปดูเมนูกันมีไรบ้าง
วันนี้ไปกัน 2 คน สั่งแซลมอนซาชิมิ (190) ซาบะนิกิริ 4 คำ (90) ข้าวปั้นรวม (แต่ไม่เอากุ้งกับปูอัด เพราะแพ้) (120) set แซลมอนย่างเกลือ (150) ข้าวผัดดกระเทียม (35) เครื่องดื่มเป็นชาเขียวร้อน และเย็น (50)
ชามาก่อน มาให้เป็นเหยือกสำหรับชาเย็น และเป็นกาสำหรับแบบร้อนค่ะ
ตามด้วยแซลมอน เป็นแบบแช่แข็งแหละ อร่อยดี แต่ไม่ได้เวอร์วังเหมือนตามร้านหรูๆ วาซาบิเผ็ดใช้ได้
แล้วซาบะก็มา อันนี้ใช้ได้เลยนะ อร่อยกว่าตามร้านในห้างอีก ให้ผ่าน
ต่อด้วยข้าวปั้นหน้ารวม ก็ได้แซลมอนกับซาบะมาแทนกุ้งและปูอัด ก็โอเคนะ แต่แซลมอนดูไม่สดเท่าอันที่มาเป็นซาชิมิ อาจจะคนละแบบกัน
set แซลมอนย่างเกลือตามมาติดๆ มีข้าวสวย ซุปมิโสะ และสลัดในชุด สลัดใช้ได้ น้ำสลัดเหมือนรสงา ตัวปลาย่างเหลือแห้งไปนิด แต่เกลื๊อ เกลือ เค็มเข้าเนื้อ หนังกรอบ บีบมะนาวหน่อย กินกับข้าวอร่อยดี
ปิดด้วยข้าวผัดกระเทียม ที่ข้าวดูแฉะไปหน่อย แต่รสชาติเข้มข้นอยู่ ถ้าข้าวแห้งกว่านี้อีกนิดจะดีมาก
สรุปว่า 2 คน กินไป 635 บาท โดยรวมคิดว่าโอเค เหมาะกับราคา อยู่ใกล้ (ที่ทำงานอยู่ตรงราม 118) ใครไม่อยากเข้าห้าง รถติด แล้วอยู่แถวนี้ ก็น่าลองแวะมาค่ะ คราวหน้าจะแวะไปลองเมนูอื่นดูบ้าง ดี ไม่ดียังไงจะมาเล่าให้ฟังนะ
จบ part สัมมากร next stop คือสนามหลวง ตอนนั้นประมาณบ่ายสอง แดดกำลังพีคเลย ก็เลยขี้เกียจกะว่าจะกลับและ แต่! อีกใจนึง ไหนๆ แต่งตัว ออกจากบ้านมาแล้ว เอาเหอะ ไปให้สุด เลยโบกแท๊กซี่ไปเลย ร้อนไม่ไหวแล้ว ฮ่าๆ
บอกพี่คนขับไปลงท่าพระจันทร์ก่อน กะไปหาร้านนั่งรอแดดหมดก่อน แล้วค่อยออกไปถ่ายรูปกัน
มาถึงที่ เสียไปเกือบ 200 ลงตรงท่าพระจันทร์ แล้วเดินๆๆๆ ไปเรื่อย มารู้ตัวอีกทีอยู่ที่ ท่ามหาราชซะแล้ว (ตอนแรกก่อนไปดูรีวิวอยู่ แต่ไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหน เลยคิดว่าไกลอะ ไม่ไปละกัน 55) ตอนแรกเห็นทางเข้าน่าสนใจ มีจักรยานเรียงเป็นแนว เลยตกลงกัน ป้ะ เข้าไปดู ไปหลบแดดซะ หน่อย
2. ท่ามหาราช (Tha Maharaj)
ตกแต่งด้วยจักรยาน
มีหมาดำแอบสร้าง landmark
ตรงทางเข้ามีร้าน Stickhouse ขายไอติม คนจีนเยอะแน่นเต็มร้านเลย ร้อนๆ แบบนี้ขายดีมาก
มุ่งไปหาร้านนั่งก่อน เดินมาเรื่อยๆ เจอร้าน Trust me I’m a Baker เห็นที่ว่างด้วย เลยเข้าไปสั่งน้ำ ขนมมากินรอเวลา
สั่งมาการอง 6 ชิ้น (150) ชาไทย (65) Strawberry Fresh ก็สตอเบอร์รี่โซดานั่นแหละ (75) โดนไปอีก 290
ก่อน comment เรื่องรสชาด ให้ไปดูรูปก่อน เดากันว่าอร่อยมั้ย?
มาการองสีจัดจ้าน เหมาะกับการถ่ายรูปชิคๆ ลง IG ลงอะไรก็ว่าไป
เครื่องดื่มมาในเหยือกขนาดเล็ก ประดับกิ่งอะไรซักอย่าง
ถ่ายรูปสวยๆ เสร็จ ถึงเวลาชิม โดยตกลงกันว่าคนละครึ่ง ทุกรสนะ 3...2..1...เริ่มได้!!
เริ่มจาก chocolate เบสิคสุดๆ............หวาน อืม...ก็รสช๊อกหน่อยๆ
ดูดน้ำล้างปาก ต่อด้วยชาเชียว...........หวานอีก......ชาเขียวไปไหน?
ต่อด้วยพิสตาชิโอ...........หวานหนัก.............พิสตาชิโอคืออะไร ไม่รู้จัก
ดูดน้ำล้างปากอีกครั้ง ต่อด้วย red velvet...........หวาน แต่แซมด้วยครีมขาวๆ รสออกเค็มๆ ยังไงไม่รู้ แต่ก็ดีกว่าหวานอย่างเดียว
ต่อด้วย Ferrero...........หวานรอบที่ล้านแปด.........มีกลิ่น Ferrero จางๆ อย่าหายใจแรง เดี๋ยวหาย
ปิดด้วยชาไทย ที่ไม่ได้คาดหวังอะไรแล้ว.............จะอะไรล่ะคะ หวานปรี๊ดๆ ความเป็นชาอย่าถามถึง
มาการองยังขนาดนี้ ชาไทยที่เป็นเครื่องดื่มก็ไม่รอด หวานจนอยากสาดเกลือใส่ ส่วนสตอเบอร์รี่โซดาก็รสปกติทั่วไป ซ่าๆ หวานๆ ค่ะ
นั่งอยู่ซักพัก คนเริ่มอึดอัด เพราะร้านเล็กด้วย ก็เลยออกไป เดินหามุมถ่ายรูปกัน
มีตากล้องมากมาย ทั้งมือโปร มือสมัครเล่น มือไม่เล่น มือไอแพด ไอโฟน go pro มาหมด
ริมน้ำ แดดกำลังแรงได้ที่ แต่จิตวิญญาณหนุ่มสาวชาวไทย ชาวอื่นๆ ก็บ่ยั่น เดินถ่ายรูปกันอย่างแข็งขัน
มีที่จอดจักรยานเป็นจุดๆ คนขี่จักรยานมาเยอะ
ตรงทางเข้ามีมุมให้นั่งชมวิว แล้วก็เป็นจุดขายตั๋วเรือด้วย
ผ้าใบข้างบนนี่ พอเรียงกันแบบนี้ ดูแล้วเหมือนเรืองแสงเลย สวยดี
ลานน้ำพุหน้าทางเข้า มี S&P ร้านใหญ่ๆ
บริเวณด้านในโดยรวม เป็นจุดนัดพบของหลายกลุ่ม ทั้งนักปั่น นักวาดรูป นักถ่ายรูป
มีชั้นสองที่ไม่ได้ขึ้นไปเพราะร้อนมาก คาดว่าแดดร่ม ลมตก นั่งชิล ถ่ายรูปด้านบนจะสวยมาก
มีร้านเป็นซุ้มๆ แต่เปิดไม่กี่ร้าน
ร้าน GRAM ขายพวก steak อาหารฝรั่ง ราคาสูงอยู่ แต่คนเข้าเรื่อยๆ
ล๊อคหลังสุด มีร้านเจ๊นีเผือกหิมะ (เห็นว่าเจ้าของเดียวกับตรงศาลเจ้าพ่อเสือ) มีพี่สาวสองคนนั่งกินเผือกอยู่
ร้านนมชมพู ตั้งอยู่หน้าร้าน BAKER ที่ไปแวะพักมา
ตรงล๊อคกลางๆ มีห้องนึงเหมือนสร้างไม่เสร็จ หรือไม่รู้จงใจ? เป็นห้องโล่งทะลุสองฝั่ง มีกราฟฟิตี้ มีที่นั่งไม้ไผ่ (เค้าเรียก แคร่ รึเปล่า?) สีสันจัดจ้านให้นั่งพัก
ห้าโมง เกือบหกโมง เมฆครึ้มเริ่มมา ออกไปริมน้ำอีกครั้ง ถ่ายรูปซะหน่อย
รบกวนช่วยตัดต่อภาพนี้ให้หน่อยสิ....เสาบังมาก
เสร็จจากตรงท่ามหาราช ทีแรกว่าจะนั่งเรือข้ามไปหาไรกินแถววัดระฆัง แต่ดูแล้วไม่น่าทัน ท้องฟ้าวิปริตมาก เลยเดินมาเรื่อยๆ นึกขึ้นได้เคยอ่านรีวิวครัวคุณกุ้งที่อยู่ตรงราชนาวีสโมสร เลยเปิดแมพเดินหา...จนมาเจอกับกำแพง และแมพขึ้นมา You've arrived!
เลยย้อนกลับไปหาพี่ navy ที่ยืนอยู่ตรงทางเข้าสโมสร พี่บอกเข้าไปข้างในเลย อยู่ติดน้ำ
--------------- เดี๋ยวมาต่ออีกนิดนึง มันจะเกิน 10K ตัวอักษร---------------------------
[CR] [โคอาล่า พาเที่ยว] One Day Trip อาหารญี่ปุ่นสัมมากร ท่ามหาราช ครัวคุณกุ้ง และสนามหลวง *รูปเยอะ*
พร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ บอกจุดหมายปลายทางคร่าวๆ ก่อน (สัมมากร>ท่าพระจันทร์>สนามหลวง)
1. Kyoto Japanese Restaurant (ซอยสัมมากร)
- เข้าได้สองทาง ซอยสัมมากรเลย หรือซอย Pure Place (รพ. การุญเวช--เกษมราษฎร์ เดิม)
- อย่าเดินเลยนะ นั่งมอไซค์ หรือแท๊กซี่เค้ามาก็ได้ นี่เห็นจากแผนที่คิดว่าไม่ไกล เดินจนหน้าเจียวไข่ได้เลย
- ร้านเป็นห้องเล็กๆ อยู่ในรั้วเหมือนบ้านหลังนึง มีสนามหญ้า มีต้นกล้วย มีต้นไม้ มองป้ายดีๆ เขียนว่า Kyoto อยู่ติดกับร้านที่ตกแต่งสีแดงเหมือนศาลเจ้า ตบหน้าเปลี่ยนโหงวเฮ้ง
ตัดมาร้านเป้าหมาย ดูบรรยากาศในร้านกัน
เป็นร้านเล็กๆ ข้างในไม่ได้ตกแต่งอะไรมาก รอบกระจกมีเมนูแปะทั่วเลย ไปดูเมนูกันมีไรบ้าง
วันนี้ไปกัน 2 คน สั่งแซลมอนซาชิมิ (190) ซาบะนิกิริ 4 คำ (90) ข้าวปั้นรวม (แต่ไม่เอากุ้งกับปูอัด เพราะแพ้) (120) set แซลมอนย่างเกลือ (150) ข้าวผัดดกระเทียม (35) เครื่องดื่มเป็นชาเขียวร้อน และเย็น (50)
ชามาก่อน มาให้เป็นเหยือกสำหรับชาเย็น และเป็นกาสำหรับแบบร้อนค่ะ
ตามด้วยแซลมอน เป็นแบบแช่แข็งแหละ อร่อยดี แต่ไม่ได้เวอร์วังเหมือนตามร้านหรูๆ วาซาบิเผ็ดใช้ได้
แล้วซาบะก็มา อันนี้ใช้ได้เลยนะ อร่อยกว่าตามร้านในห้างอีก ให้ผ่าน
ต่อด้วยข้าวปั้นหน้ารวม ก็ได้แซลมอนกับซาบะมาแทนกุ้งและปูอัด ก็โอเคนะ แต่แซลมอนดูไม่สดเท่าอันที่มาเป็นซาชิมิ อาจจะคนละแบบกัน
set แซลมอนย่างเกลือตามมาติดๆ มีข้าวสวย ซุปมิโสะ และสลัดในชุด สลัดใช้ได้ น้ำสลัดเหมือนรสงา ตัวปลาย่างเหลือแห้งไปนิด แต่เกลื๊อ เกลือ เค็มเข้าเนื้อ หนังกรอบ บีบมะนาวหน่อย กินกับข้าวอร่อยดี
ปิดด้วยข้าวผัดกระเทียม ที่ข้าวดูแฉะไปหน่อย แต่รสชาติเข้มข้นอยู่ ถ้าข้าวแห้งกว่านี้อีกนิดจะดีมาก
สรุปว่า 2 คน กินไป 635 บาท โดยรวมคิดว่าโอเค เหมาะกับราคา อยู่ใกล้ (ที่ทำงานอยู่ตรงราม 118) ใครไม่อยากเข้าห้าง รถติด แล้วอยู่แถวนี้ ก็น่าลองแวะมาค่ะ คราวหน้าจะแวะไปลองเมนูอื่นดูบ้าง ดี ไม่ดียังไงจะมาเล่าให้ฟังนะ
จบ part สัมมากร next stop คือสนามหลวง ตอนนั้นประมาณบ่ายสอง แดดกำลังพีคเลย ก็เลยขี้เกียจกะว่าจะกลับและ แต่! อีกใจนึง ไหนๆ แต่งตัว ออกจากบ้านมาแล้ว เอาเหอะ ไปให้สุด เลยโบกแท๊กซี่ไปเลย ร้อนไม่ไหวแล้ว ฮ่าๆ
บอกพี่คนขับไปลงท่าพระจันทร์ก่อน กะไปหาร้านนั่งรอแดดหมดก่อน แล้วค่อยออกไปถ่ายรูปกัน
มาถึงที่ เสียไปเกือบ 200 ลงตรงท่าพระจันทร์ แล้วเดินๆๆๆ ไปเรื่อย มารู้ตัวอีกทีอยู่ที่ ท่ามหาราชซะแล้ว (ตอนแรกก่อนไปดูรีวิวอยู่ แต่ไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหน เลยคิดว่าไกลอะ ไม่ไปละกัน 55) ตอนแรกเห็นทางเข้าน่าสนใจ มีจักรยานเรียงเป็นแนว เลยตกลงกัน ป้ะ เข้าไปดู ไปหลบแดดซะ หน่อย
2. ท่ามหาราช (Tha Maharaj)
ตกแต่งด้วยจักรยาน
มีหมาดำแอบสร้าง landmark
ตรงทางเข้ามีร้าน Stickhouse ขายไอติม คนจีนเยอะแน่นเต็มร้านเลย ร้อนๆ แบบนี้ขายดีมาก
มุ่งไปหาร้านนั่งก่อน เดินมาเรื่อยๆ เจอร้าน Trust me I’m a Baker เห็นที่ว่างด้วย เลยเข้าไปสั่งน้ำ ขนมมากินรอเวลา
สั่งมาการอง 6 ชิ้น (150) ชาไทย (65) Strawberry Fresh ก็สตอเบอร์รี่โซดานั่นแหละ (75) โดนไปอีก 290
ก่อน comment เรื่องรสชาด ให้ไปดูรูปก่อน เดากันว่าอร่อยมั้ย?
มาการองสีจัดจ้าน เหมาะกับการถ่ายรูปชิคๆ ลง IG ลงอะไรก็ว่าไป
เครื่องดื่มมาในเหยือกขนาดเล็ก ประดับกิ่งอะไรซักอย่าง
ถ่ายรูปสวยๆ เสร็จ ถึงเวลาชิม โดยตกลงกันว่าคนละครึ่ง ทุกรสนะ 3...2..1...เริ่มได้!!
เริ่มจาก chocolate เบสิคสุดๆ............หวาน อืม...ก็รสช๊อกหน่อยๆ
ดูดน้ำล้างปาก ต่อด้วยชาเชียว...........หวานอีก......ชาเขียวไปไหน?
ต่อด้วยพิสตาชิโอ...........หวานหนัก.............พิสตาชิโอคืออะไร ไม่รู้จัก
ดูดน้ำล้างปากอีกครั้ง ต่อด้วย red velvet...........หวาน แต่แซมด้วยครีมขาวๆ รสออกเค็มๆ ยังไงไม่รู้ แต่ก็ดีกว่าหวานอย่างเดียว
ต่อด้วย Ferrero...........หวานรอบที่ล้านแปด.........มีกลิ่น Ferrero จางๆ อย่าหายใจแรง เดี๋ยวหาย
ปิดด้วยชาไทย ที่ไม่ได้คาดหวังอะไรแล้ว.............จะอะไรล่ะคะ หวานปรี๊ดๆ ความเป็นชาอย่าถามถึง
มาการองยังขนาดนี้ ชาไทยที่เป็นเครื่องดื่มก็ไม่รอด หวานจนอยากสาดเกลือใส่ ส่วนสตอเบอร์รี่โซดาก็รสปกติทั่วไป ซ่าๆ หวานๆ ค่ะ
นั่งอยู่ซักพัก คนเริ่มอึดอัด เพราะร้านเล็กด้วย ก็เลยออกไป เดินหามุมถ่ายรูปกัน
มีตากล้องมากมาย ทั้งมือโปร มือสมัครเล่น มือไม่เล่น มือไอแพด ไอโฟน go pro มาหมด
ริมน้ำ แดดกำลังแรงได้ที่ แต่จิตวิญญาณหนุ่มสาวชาวไทย ชาวอื่นๆ ก็บ่ยั่น เดินถ่ายรูปกันอย่างแข็งขัน
มีที่จอดจักรยานเป็นจุดๆ คนขี่จักรยานมาเยอะ
ตรงทางเข้ามีมุมให้นั่งชมวิว แล้วก็เป็นจุดขายตั๋วเรือด้วย
ผ้าใบข้างบนนี่ พอเรียงกันแบบนี้ ดูแล้วเหมือนเรืองแสงเลย สวยดี
ลานน้ำพุหน้าทางเข้า มี S&P ร้านใหญ่ๆ
บริเวณด้านในโดยรวม เป็นจุดนัดพบของหลายกลุ่ม ทั้งนักปั่น นักวาดรูป นักถ่ายรูป
มีชั้นสองที่ไม่ได้ขึ้นไปเพราะร้อนมาก คาดว่าแดดร่ม ลมตก นั่งชิล ถ่ายรูปด้านบนจะสวยมาก
มีร้านเป็นซุ้มๆ แต่เปิดไม่กี่ร้าน
ร้าน GRAM ขายพวก steak อาหารฝรั่ง ราคาสูงอยู่ แต่คนเข้าเรื่อยๆ
ล๊อคหลังสุด มีร้านเจ๊นีเผือกหิมะ (เห็นว่าเจ้าของเดียวกับตรงศาลเจ้าพ่อเสือ) มีพี่สาวสองคนนั่งกินเผือกอยู่
ร้านนมชมพู ตั้งอยู่หน้าร้าน BAKER ที่ไปแวะพักมา
ตรงล๊อคกลางๆ มีห้องนึงเหมือนสร้างไม่เสร็จ หรือไม่รู้จงใจ? เป็นห้องโล่งทะลุสองฝั่ง มีกราฟฟิตี้ มีที่นั่งไม้ไผ่ (เค้าเรียก แคร่ รึเปล่า?) สีสันจัดจ้านให้นั่งพัก
ห้าโมง เกือบหกโมง เมฆครึ้มเริ่มมา ออกไปริมน้ำอีกครั้ง ถ่ายรูปซะหน่อย
รบกวนช่วยตัดต่อภาพนี้ให้หน่อยสิ....เสาบังมาก
เสร็จจากตรงท่ามหาราช ทีแรกว่าจะนั่งเรือข้ามไปหาไรกินแถววัดระฆัง แต่ดูแล้วไม่น่าทัน ท้องฟ้าวิปริตมาก เลยเดินมาเรื่อยๆ นึกขึ้นได้เคยอ่านรีวิวครัวคุณกุ้งที่อยู่ตรงราชนาวีสโมสร เลยเปิดแมพเดินหา...จนมาเจอกับกำแพง และแมพขึ้นมา You've arrived!
เลยย้อนกลับไปหาพี่ navy ที่ยืนอยู่ตรงทางเข้าสโมสร พี่บอกเข้าไปข้างในเลย อยู่ติดน้ำ
--------------- เดี๋ยวมาต่ออีกนิดนึง มันจะเกิน 10K ตัวอักษร---------------------------