หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
โอ้วแม่เจ้า!! ทำกิมจิ 320 หัว@@ แบ่งปันวิธีทำกิมจิแบบออริจินัล โดย สะใภ้ไทยในเกาหลี กับเทศกาล คิมจัง
กระทู้สนทนา
แม่บ้านต่างแดน
อาหารเกาหลี
ชีวิตในต่างแดน
ประเทศเกาหลีใต้
ช่วงเดือน พ.ยของทุกๆปี ถือเป็นเดือนแห่งคิมจังค่ะ คิมจัง?? อืม คิมจัง เป็นชื่อเรียกของ มหกรรมการทำกิมจิแห่งชาติ ต้องถือเป็นวาระแห่งชาติ เพราะเดินไปไหนก็เจอแต่กลิ่นกิมจิ ร่องรอยการสร้างสรรค์กิมจิสามารถพบเห็นได้ทุกหย่อมหญ้า ทั้งในเมือง ดาดฟ้า ลานจอดรถ ตามต่างจังหวัด ใน รร. ตามศูนย์ราชการ ต่างนัดแนะ มาร่วมกันกิมจิกันอย่างคึกคัก คนต่างจังหวัดที่อาศัยอยู่ในเมืองก็ต่างพากันกลับบ้านเกิด เพื่อไปร่วมกิจกรรมนี้ กับญาติพี่น้อง เสมือนเป็นวันรวมญาติ ทำให้วันหยุดสุดสัปดาห์ การจราจรบนไฮเวย์ หน่าแน่นมาก ขากลับเย็นวันอาทิตย์ ลองเปิดกระจกรถ ยามรถติดบนทางด่วน ถึงขนาดได้กลิ่นกิมจิอบอวลกันเลยทีเดียว เพราะตามรถบรรทุก รถกระบะ ท้ายรถทั้งในทั้งนอกรถ ก็ขนแต่กิมจิกันทั้งนั้น แล้วทำไมต้องเป็นเดือนนี้? เพราะช่วงเวลานี้ เป็นช่วงท้ายของฤดู เก็บเกี่ยว ก่อนจะเข้าสู่ฤดูหนาว นี่คือผักล๊อตสุดท้ายก่อนจะเข้าสู่ความหนาวเย็นอันยาวนาน ซึ่งทั้งสภาพอากาศ และแรงงานคน ไม่เหมาะต่อการเจริญเติบโตของพืชผักเลย คนเกาหลีจึงจำเป็นที่ต้องตุน กิมจิเอาไว้กินตลอดฤดูจนกว่าหน้าเพาะปลูกจนวกเวียนมาบรรจบอีกครั้ง
สำหรับบ้านหมี(จขกท) ปีนี้ ทำกัน 320 หัว ทำกินกันเอง ไม่แบ่งใคร 555 เพราะเป็นครอบครัวใหญ่ สามีมีพี่น้องรวม 5 คน เลยเป็นปกติของบ้านเราที่ มักจะทำ อย่างน้อย 200-300 หัวผักกาด ต่อปี ผักทั้งหลาย ทั้งต้นหอม หอมใหญ่ กระเทียม หัวไชท้าว แม้แต่แต่พริกป่นก็ปลูกแล้วอบแห้งมาป่นเอง แปลงผักก็อยู่รอบๆบ้านนั้นแหล่ะ ที่ซื้อก็มีแค่เครื่องปรุงน้ำปลาน้ำตาล แค่นั้นเอง ผักกาดตามท้องตลาดขายกันอยู่เฉลี่ยที่หัวละ 3000 วอน (90บาท) ไหนจะค่า เครื่องปรุง ผักต่างๆ พริกป่นแห้ง อีก รวมๆก็ ตกหัวละ 200-300 บาทได้ แต่ถ้าเป็นกิมจิสำเร็จ ก็เฉลี่ยอยู่ที่ 400-600บาท พูดง่ายๆคือเซฟเป็นแสนบาทต่อปีสำหรับครอบครัวของเรา ปีนี้ แรงงานต่างด้าว ก็มีเพื่อนหมี คุณป่าน , น้องเก๋ และ น้องชาวเนปาล รวม 3 คน มาช่วยกันทำ มาให้หมีจิกหัวใช้ หมีสบ๊าย สบาย เดินถ่ายรูปอย่างเดียว เพราะหมีทำมาหลายปีแล้ว เลยอยากจะแบ่งปันประสบการณ์ให้เพื่อนๆน้องได้สัมผัสอย่างเต็มที่ ไม่ได้คิดจะอู้อะไรเลย555 เชื่อหมีนะ หมีบริสุทธิ์ใจ
พวกนางมาค้างกัน 1 คืน คืนแรกก็เริ่มจาก คัดผักกาด ผ่ากลาง ล้างแช่เกลือ แล้วทิ้งไว้ข้ามคืน แรงงานต่างด้าว ก็เพลิดเพลินการล้างผักกาดกันอย่างรื่นรมณ์ ท่ามกลางอากาศเย็นสบายๆ ประมาณ 2ถึง3 องศา 55555 จากนั้นก็ย้ายเข้ามาหั่นผักเตรียมทำซอส อันนี้เข้ามาทำในบ้าน อุ่นๆ ไม่ได้ทารุณอะไร ผักที่เตรียม ก็มีหัวไชท้าว หอมแดงสับ กระเทียม หอมใหญ่ ใบคัด ขิงซอย ต้นหอมเล็ก ต้นหอมญี่ปุ่น หั่นเตรียมๆไว้ จริงๆ ถ้าทำจำนวนไม่เยอะ ก็ทำวันรุ่งขึ้นก็ได้ แต่บ้านหมี เล็กๆบ้านหมีไม่ ใหญ่ๆบ้านหมีทำ ไง ถ้ามานั่งเตรียมตอนเช้าจะเสียเวลา เลยหั่นรอ
พอรุ่งเช้าเราล้างผักกาดให้สะอาด บีบเบาๆให้สะเด็ดน้ำ ต้องล้างสะอาดๆจริงๆนะ เพราะไม่งั้น ผักกาดจะเค็มมาก แล้วก็มาวางพักให้สะเด็ดน้ำ โดยจับหัวผักกาดคว่ำลง บนโต้ะเอียง หลังจากนั้นก็มาทำซอส ผักทั้งหลายที่เตรียมไว้น่ะ เอามาเทใส่กะละมัง แต่บ้านหมีใช้สระเป่าลมเด็ก55555 อ่ะ เทรวมๆๆกันไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลสำหรับทำกิมจิ น้ำตาลทรายเล็กน้อย แซอูจอช หรือกุ้งฝอยดองเกลือ พริกป่น พริกชี้ฟ้าสดปั่น สาลี่ปั่น และน้ำแป้งเปียก (แป้งข้าวเหนียว ผสมน้ำตั้งไฟอ่อนเคี่ยว) ตัวนี้เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้กิมจิเปรี้ยว หลักการเดียวกับแหนมบ้านเรา จากนั้นก็ ละเลง........... คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้ว ก็นำผักกาดที่สะเด็กน้ำแล้ว มาทาทีละใบ เน้นที่โคนด้วยนะ เพราะเป็นส่วนที่ลึก หนา และแข็ง จากนั้นก็ บรรจงเก็บใส่บรรจุภัณฑ์บ้านใครบ้านมัน ดูเหมือนง่ายใช่มั้ยคะ คือมันไม่ยาก แต่ก็กินเวลากันค่อนวัน งานหลังแข็งก็มา งานเส้นตึงก็มี บั้นเอวนี่ยึดยอกกันสุดๆ ก็เลยต้งอเป็นหน้าที่คุณสามี ที่ จะต้องบริการหลังการขายกดจุดคลายเส้นให้คุณเมียค่ะ เสร็จแล้วซอสที่เหลือ ตามประเพณีนิยม เจ้าบ้านก็จะเตรียมหมู 3 ชั้นต้มเอาไว้ ทานคู่กับกิมจิสดนี่ มันฟีจเจอริ่งกันได้อย่างลงตัว
กิมจิที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทิ้งไว้ข้างนอกก่อนสักคืนนะ ก่อนจะเข้าตู้เย็น ให้เวลากิมจิมันเปรี้ยวหน่อย ถ้าทำที่ไทยก็คงไว เพราะอากาศร้อน ถ้าเก็บเข้าตู้เย็นแล้ว ความเย็นจะทำให้รสเปรี้ยวเพิ่มแค่ทีละน้อย แต่ถ้าเก็บข้ามปีก็จะเปรี้ยวมาก อาจจะมากเกินไป ฉะนั้นที่เกาหลี เค้าจะมีตู้เย็นสำหรับกิมจิโดยเฉพาะ ซึ่งอุณหภูมิจะรักษา รสชาติและคุณภาพของกิมจิได้เยี่ยมยอด มีหลายไซส์หลายแบบ แบบคล้ายๆตู้ไอติมบ้านเราก็เริ่มที่ หมื่นกว่าบาท แต่รุ่นใหม่ๆ ก็ ราคาตั้งแต่ 4-5หมื่น จนไปถึง แสนกว่าบาทค่ะ
สำหรับบ้านหมีก็แบ่งกันไป 6 บ้าน คือ บ้านพี่น้องสามี รวม 5 บ้าน และ บ้านแม่ย่าเองนั่นแหล่ะ แต่ก็อย่างว่า ด้วยความที่มันเยอะจริงๆ บ้านแม่ย่าเลยต้องอาศัยตู้เย็นแบบโบราณ ที่สืบทอดกันมา เนื่องจากสมัยก่อน ก่อนที่นวัตกรรม เครื่องเย็นจะถูกค้นพบ คนเกาหลี ก็เลยต้องพึ่งพาภูมิปัญญาชาวบ้าน โดย ชุดหลุมฝังโอ่งไว้ใต้ดิน ด้วยสภาพอากาศที่หนาวเย็น และหิมะลงประปราย ประกอบกับอุณหภูมิใต้ดิน ทำให้กิมจิ มีรสชาติอร่อยเลิศ เลอค่า ( ในรูปเอามาจากเนตนะคะ เพราะบ้านหมีขุดไว้หลายปีแล้ว เลยไม่มีภาพมาให้ดู หมีไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์)
ก็ผ่านพ้นไปด้วยดีนะคะสำหรับปีนี้ เสร็จไวเป็นพิเศษ เพราะพลังเพื่อนๆทั้งหลาย ตอนจะแยกย้าย หมีถามว่า อยากกินไรจะเลี้ยง พวกนางบอก อยากกินน้ำมันมวย กับยาคลายเส้นค่ะ แหมๆ กินง๊าย ง่าย แต่ปีหน้าพวกนางก็จะมาอีกนะ เพื่อนหมี ถึกทุกคนค่ะ
ติดตามเรื่องราวของเกาหลี เล่าสู่กันฟัง ปากสะใภ้ไทยในเกาหลีเอง แบบมีสาระและไม่มีสาระ ขำๆฮาๆมันส์ กันต่อได้ที่ เพจ
"สะใภ้เกาหมี"
ได้ในเฟสบุคนะคะ หมี นะคะ หมี แล้วพบกันใหม่ตอนต่อไปค่ะ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
[อาหารเจ] ทำต้มมะระผักกาดดอง (โค่วกวยเกี่ยมฉ่าย) กินกับข้าวร้อนๆ อร่อยไปเลย
ต้มมะระผักกาดดอง ที่บ้านเราเรียกโค่วกวยเกี่ยมฉ่าย มะระ คือโค่วกวย, ผักกาดดอง คือเกี่ยมฉ่าย รสชาติจะออกเผ็ดอมเปรี้ยว และมีรสขมของมะระ วันนี้ที่บ้านกินเจวันแรก ก็เลยทำโค่วกวยเกี่ยมฉ่ายไว้กินในช่วงกินเจ
ย้ำคิดย้ำฝัน
ใช่ผักกาดหอมไหมคะ ควรใช้ซาแลนกี่ % เริ่มคลี่ออกมาช่วงไหนบ้างคะ
bobojang
7 สูตรอาหารเจเมนูต้ม ซดคล่องคอแคลอรีต่ำ อิ่มสบายหัวใจสีขาว
เมนูต้ม อีกหนึ่งไอเดียทำอาหารเจแบบไม่จำเจ สลับสับเปลี่ยนกับเมนูเส้นบ้าง เมนูของทอดบ้าง กินเพียว ๆ หรือกินพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ ก็ได้ อิ่มสบายไร้พุง และยังได้บุญอีกด้วย เทศกาลกินเจมาถึงแล้ว
EnjoyTheNow
ก๋วยเตี๋ยวหมูกับจิงจูฮวยฉ่าย
จิงจูฮวยฉ่ายหรือเจ็งจูฮวยฉ่าย จริงๆแล้วบ้านผมเรียกว่าเก็งจูฮวยฉ่าย อาจจะไม่ถูกตามหลักภาษาแต้จิ๋วนักแต่ก็เรียกและเข้าใจกันได้ดี อาจจะเป็นวัฒนธรรมของครอบครัว จิงจูฮวยฉ่ายเป็นยาเย็น มีกลิ่นหอมอ่อนๆหรือรุ
กรรไกรดอกไม้
ข้าวต้ม ปลายฝนต้นหนาว
ข้าวต้มปลายฝนตันหนาว วันจันทร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2568 ช่วง ปลายฝนต้นหนาว หากเกิด ลานีญา จะเร่งทำให้เกิดฝนตกมากกว่าปกติหลายพื้นที่ กระตุ้นเสี่ยงน้ำท่วม น้ำหลาก ในพื้นที่สูงโดยเฉพาะท
สมาชิกหมายเลข 2148931
ทำผัดซีอิ้วเส้นหมี่หมูหมัก แบบเร่งด่วน
ทำผัดซีอิ้วเส้นหมี่หมูหมัก แบบเร่งด่วน รีบทำก่อนฝนตกหนัก วันเสาร์ที่แล้ว ที่บ้านเราฝนตกหนักมาก จะออกจากบ้านไปหาข้าวทานข้างนอกก็ลำบาก เพราะที่อ่อนนุช ประเวศ ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ห้างซีคอนสแควร์ และ
ย้ำคิดย้ำฝัน
สุกี้โรล
รุ่นน้องทำ สุกี้โรลมาขาย กล่องละ 60 บาท ก็คือหมูเด้งนุ่ม ๆ คลุกวุ้นเส้น แล้วห่อด้วยผักกาดขาว มีหอมเจียว กับ น้ำจิ้มสูตรเด็ก ไม่เผ็ด หอมเต้าหู้ยี้ เค็ม ๆ มัน ๆ เหมือนกินสุกี้แห้งห่อผัก กล่องนึ
deauny
มาทำกิมจิ กันดีกว่า สูตรหาเอาจากห้องก้นครัวนี้
เริ่มจากวัตถุดิบวันนี้ นำผักกาดล้างน้ำให้สะอาด เราใช้หั่นเลย บางสูตรใช้ทั้งหัวเวลากินค่อยหั่น เคล้าเกลือพักไว้ให้ออกน้ำ จะเห็นผักยุบตัว ค่อยล้างน้ำให้สะอาดให้หมดความเค็ม แป้งข้าวเหนียวผสมน้ำตั้
ลายจีน
ข้าวผัดปลาสลิดทอดกรอบ
วันนี้นำเสนอเมนูง่ายๆทานได้ทั้งครอบครัวครับ ข้าวผัดปลาสลิดทอดกรอบ มาเตรียมวัตถุดิบกันครับ ปลาสลิด ข้าวสวย ไข่ไก่ ผักคะน้า หอมแดง กระเทียม พริกขี้หนู มะนาว วัตถุดิบพร้อมก็เริ่มขั้นตอนแรกครับ ทอดปลาสล
สมาชิกหมายเลข 3931079
หมี่แห้งหมูย่าง
เส้นหมี่คลุกกระเทียมเจียวหอม ๆ เหยาะซีอิ๊วหวาน มีถั่วป่นตักมาข้าง ๆ ผักในก๋วยเตี๋ยวคือคะน้าลวกกรอบ ๆ โรยขึ้นฉ่าย ตั้งฉ่าย และผักชีฝรั่ง มีหมูหมักด้วย แต่หมูย่างหอมมากมาย และนุ่มมาก ชามละ 50 บาทฮะ
Topyutt
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
แม่บ้านต่างแดน
อาหารเกาหลี
ชีวิตในต่างแดน
ประเทศเกาหลีใต้
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 39
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
โอ้วแม่เจ้า!! ทำกิมจิ 320 หัว@@ แบ่งปันวิธีทำกิมจิแบบออริจินัล โดย สะใภ้ไทยในเกาหลี กับเทศกาล คิมจัง
สำหรับบ้านหมี(จขกท) ปีนี้ ทำกัน 320 หัว ทำกินกันเอง ไม่แบ่งใคร 555 เพราะเป็นครอบครัวใหญ่ สามีมีพี่น้องรวม 5 คน เลยเป็นปกติของบ้านเราที่ มักจะทำ อย่างน้อย 200-300 หัวผักกาด ต่อปี ผักทั้งหลาย ทั้งต้นหอม หอมใหญ่ กระเทียม หัวไชท้าว แม้แต่แต่พริกป่นก็ปลูกแล้วอบแห้งมาป่นเอง แปลงผักก็อยู่รอบๆบ้านนั้นแหล่ะ ที่ซื้อก็มีแค่เครื่องปรุงน้ำปลาน้ำตาล แค่นั้นเอง ผักกาดตามท้องตลาดขายกันอยู่เฉลี่ยที่หัวละ 3000 วอน (90บาท) ไหนจะค่า เครื่องปรุง ผักต่างๆ พริกป่นแห้ง อีก รวมๆก็ ตกหัวละ 200-300 บาทได้ แต่ถ้าเป็นกิมจิสำเร็จ ก็เฉลี่ยอยู่ที่ 400-600บาท พูดง่ายๆคือเซฟเป็นแสนบาทต่อปีสำหรับครอบครัวของเรา ปีนี้ แรงงานต่างด้าว ก็มีเพื่อนหมี คุณป่าน , น้องเก๋ และ น้องชาวเนปาล รวม 3 คน มาช่วยกันทำ มาให้หมีจิกหัวใช้ หมีสบ๊าย สบาย เดินถ่ายรูปอย่างเดียว เพราะหมีทำมาหลายปีแล้ว เลยอยากจะแบ่งปันประสบการณ์ให้เพื่อนๆน้องได้สัมผัสอย่างเต็มที่ ไม่ได้คิดจะอู้อะไรเลย555 เชื่อหมีนะ หมีบริสุทธิ์ใจ
พวกนางมาค้างกัน 1 คืน คืนแรกก็เริ่มจาก คัดผักกาด ผ่ากลาง ล้างแช่เกลือ แล้วทิ้งไว้ข้ามคืน แรงงานต่างด้าว ก็เพลิดเพลินการล้างผักกาดกันอย่างรื่นรมณ์ ท่ามกลางอากาศเย็นสบายๆ ประมาณ 2ถึง3 องศา 55555 จากนั้นก็ย้ายเข้ามาหั่นผักเตรียมทำซอส อันนี้เข้ามาทำในบ้าน อุ่นๆ ไม่ได้ทารุณอะไร ผักที่เตรียม ก็มีหัวไชท้าว หอมแดงสับ กระเทียม หอมใหญ่ ใบคัด ขิงซอย ต้นหอมเล็ก ต้นหอมญี่ปุ่น หั่นเตรียมๆไว้ จริงๆ ถ้าทำจำนวนไม่เยอะ ก็ทำวันรุ่งขึ้นก็ได้ แต่บ้านหมี เล็กๆบ้านหมีไม่ ใหญ่ๆบ้านหมีทำ ไง ถ้ามานั่งเตรียมตอนเช้าจะเสียเวลา เลยหั่นรอ
พอรุ่งเช้าเราล้างผักกาดให้สะอาด บีบเบาๆให้สะเด็ดน้ำ ต้องล้างสะอาดๆจริงๆนะ เพราะไม่งั้น ผักกาดจะเค็มมาก แล้วก็มาวางพักให้สะเด็ดน้ำ โดยจับหัวผักกาดคว่ำลง บนโต้ะเอียง หลังจากนั้นก็มาทำซอส ผักทั้งหลายที่เตรียมไว้น่ะ เอามาเทใส่กะละมัง แต่บ้านหมีใช้สระเป่าลมเด็ก55555 อ่ะ เทรวมๆๆกันไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลสำหรับทำกิมจิ น้ำตาลทรายเล็กน้อย แซอูจอช หรือกุ้งฝอยดองเกลือ พริกป่น พริกชี้ฟ้าสดปั่น สาลี่ปั่น และน้ำแป้งเปียก (แป้งข้าวเหนียว ผสมน้ำตั้งไฟอ่อนเคี่ยว) ตัวนี้เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้กิมจิเปรี้ยว หลักการเดียวกับแหนมบ้านเรา จากนั้นก็ ละเลง........... คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้ว ก็นำผักกาดที่สะเด็กน้ำแล้ว มาทาทีละใบ เน้นที่โคนด้วยนะ เพราะเป็นส่วนที่ลึก หนา และแข็ง จากนั้นก็ บรรจงเก็บใส่บรรจุภัณฑ์บ้านใครบ้านมัน ดูเหมือนง่ายใช่มั้ยคะ คือมันไม่ยาก แต่ก็กินเวลากันค่อนวัน งานหลังแข็งก็มา งานเส้นตึงก็มี บั้นเอวนี่ยึดยอกกันสุดๆ ก็เลยต้งอเป็นหน้าที่คุณสามี ที่ จะต้องบริการหลังการขายกดจุดคลายเส้นให้คุณเมียค่ะ เสร็จแล้วซอสที่เหลือ ตามประเพณีนิยม เจ้าบ้านก็จะเตรียมหมู 3 ชั้นต้มเอาไว้ ทานคู่กับกิมจิสดนี่ มันฟีจเจอริ่งกันได้อย่างลงตัว
กิมจิที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทิ้งไว้ข้างนอกก่อนสักคืนนะ ก่อนจะเข้าตู้เย็น ให้เวลากิมจิมันเปรี้ยวหน่อย ถ้าทำที่ไทยก็คงไว เพราะอากาศร้อน ถ้าเก็บเข้าตู้เย็นแล้ว ความเย็นจะทำให้รสเปรี้ยวเพิ่มแค่ทีละน้อย แต่ถ้าเก็บข้ามปีก็จะเปรี้ยวมาก อาจจะมากเกินไป ฉะนั้นที่เกาหลี เค้าจะมีตู้เย็นสำหรับกิมจิโดยเฉพาะ ซึ่งอุณหภูมิจะรักษา รสชาติและคุณภาพของกิมจิได้เยี่ยมยอด มีหลายไซส์หลายแบบ แบบคล้ายๆตู้ไอติมบ้านเราก็เริ่มที่ หมื่นกว่าบาท แต่รุ่นใหม่ๆ ก็ ราคาตั้งแต่ 4-5หมื่น จนไปถึง แสนกว่าบาทค่ะ
สำหรับบ้านหมีก็แบ่งกันไป 6 บ้าน คือ บ้านพี่น้องสามี รวม 5 บ้าน และ บ้านแม่ย่าเองนั่นแหล่ะ แต่ก็อย่างว่า ด้วยความที่มันเยอะจริงๆ บ้านแม่ย่าเลยต้องอาศัยตู้เย็นแบบโบราณ ที่สืบทอดกันมา เนื่องจากสมัยก่อน ก่อนที่นวัตกรรม เครื่องเย็นจะถูกค้นพบ คนเกาหลี ก็เลยต้องพึ่งพาภูมิปัญญาชาวบ้าน โดย ชุดหลุมฝังโอ่งไว้ใต้ดิน ด้วยสภาพอากาศที่หนาวเย็น และหิมะลงประปราย ประกอบกับอุณหภูมิใต้ดิน ทำให้กิมจิ มีรสชาติอร่อยเลิศ เลอค่า ( ในรูปเอามาจากเนตนะคะ เพราะบ้านหมีขุดไว้หลายปีแล้ว เลยไม่มีภาพมาให้ดู หมีไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์)
ก็ผ่านพ้นไปด้วยดีนะคะสำหรับปีนี้ เสร็จไวเป็นพิเศษ เพราะพลังเพื่อนๆทั้งหลาย ตอนจะแยกย้าย หมีถามว่า อยากกินไรจะเลี้ยง พวกนางบอก อยากกินน้ำมันมวย กับยาคลายเส้นค่ะ แหมๆ กินง๊าย ง่าย แต่ปีหน้าพวกนางก็จะมาอีกนะ เพื่อนหมี ถึกทุกคนค่ะ
ติดตามเรื่องราวของเกาหลี เล่าสู่กันฟัง ปากสะใภ้ไทยในเกาหลีเอง แบบมีสาระและไม่มีสาระ ขำๆฮาๆมันส์ กันต่อได้ที่ เพจ "สะใภ้เกาหมี" ได้ในเฟสบุคนะคะ หมี นะคะ หมี แล้วพบกันใหม่ตอนต่อไปค่ะ