สวัสดีครับ เพื่อนๆห้องก้นครัว ก็เหมือนเคยนะครับ ที่ตัวเองที่มักจะเป็นขาจร ขาผี แอบดูอาหารการกินของเพื่อนๆห้องก้นครัว
และคราวนี้ก็ได้ไปกินของอร่อยๆมา จึงขอมารีวิวให้เพื่อนๆดูคร้าบบบบ
เรื่องของเรื่องก็คือไปทำธุระให้นายแถวชิดลม ซึ่งไม่อยากไปใจจะขาด เพราะเป็นทั้งวันอาทิตย์ แถมติดthe Voiceอีก
แต่ด้วยประกาศิต+นายเลี้ยงค่าข้าวให้ เพราะนอกเวลางาน ด้วยความงกและความตะกละเลยตกลงครับ แหะๆ
ไหนๆก็ไหน เลยลองมาเดินเที่ยวห้างใหม่พร้อมกับหาว่าอะไรน่ากิน
เดินดูเมนูแต่ละร้าน ก็มาจอดที่หน้าร้าน Nabezou ด้วยการล่อลวง...เอ้ย การชักชวนของคุณพี่สาวกิโมโนที่พรีเซนท์เมนูซะจนปฏิเสธไม่ได้
พอเข้าไป ทางร้านก็เสนอชุดเมนูให้เลือกครับ มีชุดเนื้อโอมิ,เนื้อวากิว,เนื้อหมูและชุดซีฟู้ด (ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นปูอลาสก้า)
และเลือกน้ำซุปว่าเป็นชาบูหรือซุปสุกี้ยากี้
ด้วยที่ว่ามีคนจะเลี้ยง เลยจัดไปครับ ชุดแพงสุด เนื้อโอมิ 200g ราคา 2,400 บาทครับ หุๆๆๆ
กินคนเดียวอีกครั้ง...
ที่นี่จะพิเศษคือมีคนคอยบริการให้แทบทุกอย่าง เลยได้มีโอกาสถ่ายรูปเยอะเป็นพิเศษ
เริ่มจากออร์เดิร์ฟ ตอนที่ไปได้เป็นข้าวห่อสาหร่าย แฮมเบิร์กกับเทมปุระปลาไข่(มั้ง)
พอกะทะมาลงก็ละเลงมันวัวและผัดหอมใหญ่
ต่อมาราดด้วยน้ำซุปสุกี้ยากี้
ผัดไปผัดมา พอใกล้สุก เนื้อก็มาเทียบพอดี
ซูมให้เห็นชัดๆ โอ้ววว เนื้อลายหินอ่อนสวยมว้ากกกกกกก
คุณพนักงานก็ช่วยลงเนื้อให้
เสิร์ฟถ้วยแรก แนมด้วยหอมใหญ่ (อยากจะเขี่ยออก เพราะไม่ชอบ แต่ด้วยความงกและเสียดายก็เลยตามเลย TwT)
จุ่มไข่ดิบเพื่อให้ครบสูตร
คำแรกที่กินเข้าไป อร่อยละลายในปากเลยครับ (ไม่รู้เพราะความบ๊างบางของเนื้อหรือเพราะลายหินอ่อนกันแน่ เหอๆ)
รู้สึกเหมือนได้ลิ้มรสแป๊บนึง ก็กลืนลงคอไปซะแหล่ว อยากจะแก้นิสัยกินเร็วของตัวเองจริงๆ OTL
ซักพักจะมีพนักงานมาเสนอเติมผักให้ และขอเพิ่มได้ครับ
ก็เป็นพวกผักหรือเครื่องเคียงสามัญประจำชาบู อย่าง ผักกาดขาว กวางตุ้ง บ็อกชอย เต้าหู้ ชิราทากิ 9ล9
ที่ไม่ค่อยได้เห็นก็คือโกโบ เป็นผักรากซักอย่างของญี่ปุ่น
ส่วนตัวเวลาไปกินพวกนี้ ผมไม่เคยเลือกหยิบผักเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
แต่เจอแบบนี้ ด้วยความงกและเสียดาย(อีกแล้ว)
จึงได้กินผักเยอะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การกินปิ้งย่าง ชาบูๆของผมเลย
แลดูสุขภาพดี...
กินๆไปก็เริ่มอิ่ม(ผัก...) พยายามจนเหลือเท่านี้
กินจานหลักจบแล้ว ก็ต่อด้วยมื้อเล็กๆปิดท้าย มีโอฉะสึเกะกับอุด้ง
ผมเลือกเป็นโอฉะสึเกะ หรือข้าวราดน้ำชามีเนื้อสับอยู่ข้างบน
(จริงๆ ก่อนกินควรคนๆนิดนึง เพราะผมกินเลย เจอวาซาบิอ่อนๆเข้าเต็มปากเต็มคำ
)
ปิดท้ายด้วยของหวาน มีให้เลือกสามอย่าง ไอติม3รส,โมจิ,กับถั่วแดงซักอย่าง
ค่าเสียหาย ถ้าจ่ายเองคงไม่กล้า...
สรุปคร่าวๆนะครับ
ชอบ
-เนื้อลายหินอ่อน สวยม้วกกกก อร่อยลิ้นแทบละลายในปาก
-บริการดีตามสไตล์ร้านหะรูหะรา
ไม่ชอบ
-แพงมว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ผมเคยกินสเต็กโอมิในงานแฟร์ของอิเซตัน เนื้อประมาณ 200g ตกอยู่ที่พันนิดๆ
ด้วยราคาสองพันกว่าบาทยังไม่รวมVatนี่ ผมว่ามันแพงไปหน่อย เพราะแทบเทียบกับบุฟฯโรงแรมหรูๆเลย
แต่ถ้าคิดซะว่าเป็นค่าความหะรูหะราและการบริการก็คงพอรับได้
ขอปิดท้ายด้วยวิวสวยๆจากในร้านครับผม และถ้ามีโอกาสได้กินของอร่อยๆก็จะมาแบ่งปันอีกนะคร้าบบบบ
[CR] อยู่อย่างเหงาๆกินอย่างหงอยๆ แต่อร๊อยอร่อย 'NabeZou Premium' central Embassy
และคราวนี้ก็ได้ไปกินของอร่อยๆมา จึงขอมารีวิวให้เพื่อนๆดูคร้าบบบบ
เรื่องของเรื่องก็คือไปทำธุระให้นายแถวชิดลม ซึ่งไม่อยากไปใจจะขาด เพราะเป็นทั้งวันอาทิตย์ แถมติดthe Voiceอีก
แต่ด้วยประกาศิต+นายเลี้ยงค่าข้าวให้ เพราะนอกเวลางาน ด้วยความงกและความตะกละเลยตกลงครับ แหะๆ
ไหนๆก็ไหน เลยลองมาเดินเที่ยวห้างใหม่พร้อมกับหาว่าอะไรน่ากิน
เดินดูเมนูแต่ละร้าน ก็มาจอดที่หน้าร้าน Nabezou ด้วยการล่อลวง...เอ้ย การชักชวนของคุณพี่สาวกิโมโนที่พรีเซนท์เมนูซะจนปฏิเสธไม่ได้
พอเข้าไป ทางร้านก็เสนอชุดเมนูให้เลือกครับ มีชุดเนื้อโอมิ,เนื้อวากิว,เนื้อหมูและชุดซีฟู้ด (ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นปูอลาสก้า)
และเลือกน้ำซุปว่าเป็นชาบูหรือซุปสุกี้ยากี้
ด้วยที่ว่ามีคนจะเลี้ยง เลยจัดไปครับ ชุดแพงสุด เนื้อโอมิ 200g ราคา 2,400 บาทครับ หุๆๆๆ
กินคนเดียวอีกครั้ง...
ที่นี่จะพิเศษคือมีคนคอยบริการให้แทบทุกอย่าง เลยได้มีโอกาสถ่ายรูปเยอะเป็นพิเศษ
เริ่มจากออร์เดิร์ฟ ตอนที่ไปได้เป็นข้าวห่อสาหร่าย แฮมเบิร์กกับเทมปุระปลาไข่(มั้ง)
พอกะทะมาลงก็ละเลงมันวัวและผัดหอมใหญ่
ต่อมาราดด้วยน้ำซุปสุกี้ยากี้
ผัดไปผัดมา พอใกล้สุก เนื้อก็มาเทียบพอดี
ซูมให้เห็นชัดๆ โอ้ววว เนื้อลายหินอ่อนสวยมว้ากกกกกกก
คุณพนักงานก็ช่วยลงเนื้อให้
เสิร์ฟถ้วยแรก แนมด้วยหอมใหญ่ (อยากจะเขี่ยออก เพราะไม่ชอบ แต่ด้วยความงกและเสียดายก็เลยตามเลย TwT)
จุ่มไข่ดิบเพื่อให้ครบสูตร
คำแรกที่กินเข้าไป อร่อยละลายในปากเลยครับ (ไม่รู้เพราะความบ๊างบางของเนื้อหรือเพราะลายหินอ่อนกันแน่ เหอๆ)
รู้สึกเหมือนได้ลิ้มรสแป๊บนึง ก็กลืนลงคอไปซะแหล่ว อยากจะแก้นิสัยกินเร็วของตัวเองจริงๆ OTL
ซักพักจะมีพนักงานมาเสนอเติมผักให้ และขอเพิ่มได้ครับ
ก็เป็นพวกผักหรือเครื่องเคียงสามัญประจำชาบู อย่าง ผักกาดขาว กวางตุ้ง บ็อกชอย เต้าหู้ ชิราทากิ 9ล9
ที่ไม่ค่อยได้เห็นก็คือโกโบ เป็นผักรากซักอย่างของญี่ปุ่น
ส่วนตัวเวลาไปกินพวกนี้ ผมไม่เคยเลือกหยิบผักเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
แต่เจอแบบนี้ ด้วยความงกและเสียดาย(อีกแล้ว)
จึงได้กินผักเยอะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การกินปิ้งย่าง ชาบูๆของผมเลย
แลดูสุขภาพดี...
กินๆไปก็เริ่มอิ่ม(ผัก...) พยายามจนเหลือเท่านี้
กินจานหลักจบแล้ว ก็ต่อด้วยมื้อเล็กๆปิดท้าย มีโอฉะสึเกะกับอุด้ง
ผมเลือกเป็นโอฉะสึเกะ หรือข้าวราดน้ำชามีเนื้อสับอยู่ข้างบน
(จริงๆ ก่อนกินควรคนๆนิดนึง เพราะผมกินเลย เจอวาซาบิอ่อนๆเข้าเต็มปากเต็มคำ
ปิดท้ายด้วยของหวาน มีให้เลือกสามอย่าง ไอติม3รส,โมจิ,กับถั่วแดงซักอย่าง
ค่าเสียหาย ถ้าจ่ายเองคงไม่กล้า...
สรุปคร่าวๆนะครับ
ชอบ
-เนื้อลายหินอ่อน สวยม้วกกกก อร่อยลิ้นแทบละลายในปาก
-บริการดีตามสไตล์ร้านหะรูหะรา
ไม่ชอบ
-แพงมว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ผมเคยกินสเต็กโอมิในงานแฟร์ของอิเซตัน เนื้อประมาณ 200g ตกอยู่ที่พันนิดๆ
ด้วยราคาสองพันกว่าบาทยังไม่รวมVatนี่ ผมว่ามันแพงไปหน่อย เพราะแทบเทียบกับบุฟฯโรงแรมหรูๆเลย
แต่ถ้าคิดซะว่าเป็นค่าความหะรูหะราและการบริการก็คงพอรับได้
ขอปิดท้ายด้วยวิวสวยๆจากในร้านครับผม และถ้ามีโอกาสได้กินของอร่อยๆก็จะมาแบ่งปันอีกนะคร้าบบบบ