ยังมีเหตุคาใจครั้งเมื่อเอานมสดมาใช้แทนกะทิตอนทำแกงเขียวหวานคราวก่อน ไม่ได้คาใจเรื่องรสชาติ
แต่ความที่อ่านฉลากเห็นว่าปลอดโคเรสเตอรอล ก็ฟันธงว่าน่าจะใช้แทนกะทิได้เลย พอมาเล่าสู่กันฟัง
มีหลาย ๆ ท่านได้กรุณาแสดงความเห็นว่าในนมสดนั้นก็มีสารที่ไม่ปลอดไขมันอยู่เยอะ เช่นมีส่วนประกอบ
เป็นน้ำมันปาล์มหรืออื่น ๆ ที่กินแล้วก็ไม่ต่างกินแกงกะทิเท่าไหร่ ก็นับว่าเป็นการดีที่มาแชร์ประสบการณ์
เล่าสู่กันฟัง
คราวก่อนไปเคลิ้มกับฉลากบนกระป๋องว่างี้ครับ
มาคราวนี้ศึกษาละเอียดเพิ่มขึ้น เรียกว่าอ่านแทบทุกตัวอักษรบนฉลากข้างกระป๋อง เจอสาระสำคัญตามนี้ครับ
ไหน ๆ ก็ลงทุนซื้อนมสดมาแล้ว พอดีสมาชิกในบ้านรีเควสมาอยากกินข้าวซอยเนื้อ ก็เลยถือโอกาสจัดให้
แต่ว่ามันเป็นข้าวซอยฉบับกระท่อนกระแท่นเสียเหลือเกิน จนแทบไม่อยากเล่าเลย
น้ำพริกข้าวซอย 10 บาท เอามาเพิ่ม หอมแดง กระเทียม ขิงแก่ ปั่นจนละอียด
เนื้อที่ทำวันนี้ใช้วิธีซอยบาง จุดประสงค์คือต้องการย่นเวลาในการเคี่ยว
น้ำพริกถูกปั่นละเอียด สล่าต้องการความเนียนของน้ำแกง แบบว่าไม่อยากเห็นกากน้ำพริกในน้ำแกง
อีกอย่างพริกละเอียกน้ำแกงจะสีสวยครับ เอาลงผัดน้ำมันน้อยมาก เติมขมิ้นผงลงไปด้วย
ผัดหอมได้ที่เพิ่มความหอมด้วยผงข้าวซอย 1 ซอง
เอาเนื้อที่เตรียมลงผัดกับน้ำพริก เติมน้ำนิดหน่อยผัดจนเนื้อหดตัว
เปลี่ยนนถ่ายลงหม้อแกง เติมน้ำเคี่ยวให้เนื้อเปื่อยอย่างเดียว
สล่าทิ้งปริศนาไว้เรื่องผงข้าวซอย หลายท่านคงนึกว่ามันคืออะไรวุ๊ย นี่ไงครับ
ชั่วโมงกว่า ๆ เคี่ยวเนื้อจนเปื่อยเป็นที่พอใจ เติมนมลงไป 1 กระป๋อง แกงหม้อขนาดนี้ถ้าใช้
กะทิก็คงประมาณครึ่ง ก.ก.ขึ้น ปรุงหวานเค็มจากน้ำตาล น้ำปลา จนพอใจ เติมผงข้าวซอย
ไปอีกครึ่งซอง กลิ่นหอมข้ามสามบ้านแปดบ้าน
จบเรื่องน้ำข้าวซอย ทำแค่หม้อเล็ก ๆ วันหยุดคนกินข้าวน้อย ลงหม้อเตรียมเก็บ
เที่ยงกว่า ๆ หิวข้าวมาก ยิ่งมาเจอกลิ่นน้ำข้าวซอยยั่วจมูกอีก เครื่องประกอบอยู่ไหนบ้างก็ไม่รู้
วันนี้วันแมนโชว์ เพราะผู้ช่วยติดงานกระดิกตัวไม่ได้เลยครับ
เส้นข้าวซอย ลวกในน้ำร้อนจนนิ่ม เอาออกมาคลุกกับน้ำมันพืชกันไม่ให้ติดเป็นก้อน เป็นพวง
เส้นข้าวซอยสล่าปู่จะใช้เส้นแบบนี้ครับ เป็นความนิยมในระดับท้องถิ่นเลยก็ว่าได้ อาจแตกต่างกับ
พี่น้องจังหวัดอื่นบ้างที่บางที่ก็ใช้เส้นหมีไข่เส้นนิ่ม ๆ แบน ๆ มาลวกใช้เป็นเส้นข้าวซอย
หิวมากครับรีบจัดให้ตัวเองชามเล็ก ๆ ปกติสล่าเลี่ยงเนื้อได้ก็จะเลี่ยงนะครับ มันเหมือนร่างกายไม่
ยอมรับกับกลิ่น เป็นมา 4-5 ปีแล้ว กินได้แต่อย่ามาก เป็นความอร่อยแบบฝืน ๆ ละครับ
ที่ว่ากระท่อนกระแท่นตอนแรก ถ้าท่านเคยกินข้าวซอยจะเห็นว่ามีขาดไรบางสิ่งบางอย่าง ไม่ลืมครับ
มันจัดไม่ทันจริง ๆ เพราะทำคนเดียวครับ
หลังจากคลุกแล้วครับ
ข้าวซอยน้ำเนื้อนี้ว่ากันว่าอร่อยกว่าน้ำไก่หรือน้ำหมู แต่ค่อนข้างจะหากินยาก แม่ค้าไม่นิยมทำ คงเป็นเพราะ
คนส่วนใหญ่จะไม่นิยมกินเนื้อวัว อีกอย่างราคาเนื้อวัวสดในตลาดปัจจุบันก็ค่อนข้างสูง ทำให้ต้นทุนในการทำ
สูงตามไปด้วยตอนขายก็ต้องขายแพงไปตามต้นทุน
สล่ามีข้าวซอยน้ำเนื้อวัวที่เพิ่งซื้อมาเลี้ยงแขก เขาทำได้น่ากินมาก ชุดนี้ 45 บาทครับ
สวัสดีครับ
"ข้าวซอยเนื้อ" จัดไปสำหรับวันหยุด
แต่ความที่อ่านฉลากเห็นว่าปลอดโคเรสเตอรอล ก็ฟันธงว่าน่าจะใช้แทนกะทิได้เลย พอมาเล่าสู่กันฟัง
มีหลาย ๆ ท่านได้กรุณาแสดงความเห็นว่าในนมสดนั้นก็มีสารที่ไม่ปลอดไขมันอยู่เยอะ เช่นมีส่วนประกอบ
เป็นน้ำมันปาล์มหรืออื่น ๆ ที่กินแล้วก็ไม่ต่างกินแกงกะทิเท่าไหร่ ก็นับว่าเป็นการดีที่มาแชร์ประสบการณ์
เล่าสู่กันฟัง
คราวก่อนไปเคลิ้มกับฉลากบนกระป๋องว่างี้ครับ
มาคราวนี้ศึกษาละเอียดเพิ่มขึ้น เรียกว่าอ่านแทบทุกตัวอักษรบนฉลากข้างกระป๋อง เจอสาระสำคัญตามนี้ครับ
ไหน ๆ ก็ลงทุนซื้อนมสดมาแล้ว พอดีสมาชิกในบ้านรีเควสมาอยากกินข้าวซอยเนื้อ ก็เลยถือโอกาสจัดให้
แต่ว่ามันเป็นข้าวซอยฉบับกระท่อนกระแท่นเสียเหลือเกิน จนแทบไม่อยากเล่าเลย
น้ำพริกข้าวซอย 10 บาท เอามาเพิ่ม หอมแดง กระเทียม ขิงแก่ ปั่นจนละอียด
เนื้อที่ทำวันนี้ใช้วิธีซอยบาง จุดประสงค์คือต้องการย่นเวลาในการเคี่ยว
น้ำพริกถูกปั่นละเอียด สล่าต้องการความเนียนของน้ำแกง แบบว่าไม่อยากเห็นกากน้ำพริกในน้ำแกง
อีกอย่างพริกละเอียกน้ำแกงจะสีสวยครับ เอาลงผัดน้ำมันน้อยมาก เติมขมิ้นผงลงไปด้วย
ผัดหอมได้ที่เพิ่มความหอมด้วยผงข้าวซอย 1 ซอง
เอาเนื้อที่เตรียมลงผัดกับน้ำพริก เติมน้ำนิดหน่อยผัดจนเนื้อหดตัว
เปลี่ยนนถ่ายลงหม้อแกง เติมน้ำเคี่ยวให้เนื้อเปื่อยอย่างเดียว
สล่าทิ้งปริศนาไว้เรื่องผงข้าวซอย หลายท่านคงนึกว่ามันคืออะไรวุ๊ย นี่ไงครับ
ชั่วโมงกว่า ๆ เคี่ยวเนื้อจนเปื่อยเป็นที่พอใจ เติมนมลงไป 1 กระป๋อง แกงหม้อขนาดนี้ถ้าใช้
กะทิก็คงประมาณครึ่ง ก.ก.ขึ้น ปรุงหวานเค็มจากน้ำตาล น้ำปลา จนพอใจ เติมผงข้าวซอย
ไปอีกครึ่งซอง กลิ่นหอมข้ามสามบ้านแปดบ้าน
จบเรื่องน้ำข้าวซอย ทำแค่หม้อเล็ก ๆ วันหยุดคนกินข้าวน้อย ลงหม้อเตรียมเก็บ
เที่ยงกว่า ๆ หิวข้าวมาก ยิ่งมาเจอกลิ่นน้ำข้าวซอยยั่วจมูกอีก เครื่องประกอบอยู่ไหนบ้างก็ไม่รู้
วันนี้วันแมนโชว์ เพราะผู้ช่วยติดงานกระดิกตัวไม่ได้เลยครับ
เส้นข้าวซอย ลวกในน้ำร้อนจนนิ่ม เอาออกมาคลุกกับน้ำมันพืชกันไม่ให้ติดเป็นก้อน เป็นพวง
เส้นข้าวซอยสล่าปู่จะใช้เส้นแบบนี้ครับ เป็นความนิยมในระดับท้องถิ่นเลยก็ว่าได้ อาจแตกต่างกับ
พี่น้องจังหวัดอื่นบ้างที่บางที่ก็ใช้เส้นหมีไข่เส้นนิ่ม ๆ แบน ๆ มาลวกใช้เป็นเส้นข้าวซอย
หิวมากครับรีบจัดให้ตัวเองชามเล็ก ๆ ปกติสล่าเลี่ยงเนื้อได้ก็จะเลี่ยงนะครับ มันเหมือนร่างกายไม่
ยอมรับกับกลิ่น เป็นมา 4-5 ปีแล้ว กินได้แต่อย่ามาก เป็นความอร่อยแบบฝืน ๆ ละครับ
ที่ว่ากระท่อนกระแท่นตอนแรก ถ้าท่านเคยกินข้าวซอยจะเห็นว่ามีขาดไรบางสิ่งบางอย่าง ไม่ลืมครับ
มันจัดไม่ทันจริง ๆ เพราะทำคนเดียวครับ
หลังจากคลุกแล้วครับ
ข้าวซอยน้ำเนื้อนี้ว่ากันว่าอร่อยกว่าน้ำไก่หรือน้ำหมู แต่ค่อนข้างจะหากินยาก แม่ค้าไม่นิยมทำ คงเป็นเพราะ
คนส่วนใหญ่จะไม่นิยมกินเนื้อวัว อีกอย่างราคาเนื้อวัวสดในตลาดปัจจุบันก็ค่อนข้างสูง ทำให้ต้นทุนในการทำ
สูงตามไปด้วยตอนขายก็ต้องขายแพงไปตามต้นทุน
สล่ามีข้าวซอยน้ำเนื้อวัวที่เพิ่งซื้อมาเลี้ยงแขก เขาทำได้น่ากินมาก ชุดนี้ 45 บาทครับ
สวัสดีครับ