อวัยวะวัว หมดเสียที วันนี้อัพเป็น "แกงบอน"

กระทู้สนทนา
อวัยวะวัว หมดเสียที วันนี้อัพเป็น "แกงบอน"  และต้มยำพริกดำ ซึ่งสืบเนื่องมาจากกระทู้นี้ครับ ลงเผื่อไว้สำหรับ
ท่านที่เข้ามาใหม่  เป็นทู้ที่โพสต์ไปเมื่อวาน  http://pantip.com/topic/31214999

แกงบอนเป็นกับข้าวพื้นบ้านของเมืองเหนือ ในวิถีชนบทยังพอหากินได้ และกินทีไรก็ไม่เบื่อเสียด้วย  นิยมแกงใส่
แคบหมู  หนังหรือเอ็นส่วนคากิ  ถ้าเป็นวัว ก็หนังวัวแห้ง  แต่ที่สล่าปู่ทำวันนี้แกงใส่ข้อตีนวัวต้มเปื่อย  ซึ่งตรงส่วน
นั้นจะมีเอ็นกรุบกรอบเยอะมาก  

ลองติดตามดูวิธีทำแกงบอนแบบพื้นบ้านเมืองเหนือ สไตล์สล่าปู่ ซึ่งก็ไม่ยากเย็นอะไรมากนัก  แต่กินกับข้าวนึ่งทีไร
อิ่มพุงกางทุกที



บอนอ่อน สด ๆ จากร่องน้ำข้างบ้าน  ลอกเปลือกหรือเยื่อหุ้มก้านออกแล้ว



ล้างสะอาด ใส่ซึ้งนึ่งให้สุก



เตรียมน้ำพริกสำหรับแกง







บอนนึ่งสุกจนเละ  เอาไปผ่านน้ำเย็นอีกครั้ง



ใส่ลงไปในกระทะ  พร้อมน้ำพริก



พระเอกงานนี้



เติมน้ำในกระทะ  คนพริกให้ละลาย  ใส่ตีนวัวหั่นชิ้นเล็ก ลงไป คนให้เข้ากัน



คนเคี่ยวให้แกงเข้าเนื้อเข้าน้ำ  พร้อมทั้งคนเพื่อให้ทั้งก้านและใบบอนเละ



คนต่อไปจนน้ำแห้งงวด  ใส่ใบมะกรูดฉีกหยาบ เอากลิ่น



ถึงตอนนี้หลายท่านคงนึกในใจว่า กินแล้วไม่คันปากพองเลยเหรอ  ตอบว่าไม่คันครับ

1. จากการที่เรานึ่งแล้วนำไปล้างน้ำ  น่าจะช่วยไปได้ระดับหนึ่ง

2. ปรุงรสครั้งสุดท้ายด้วยน้ำมะขามเปียก  ความเปรี้ยวของมะขาม  รับรองหายคันสนิท
ยกเว้นคนที่ถึงแม้จะไม่กินบอน ก็มักจะคันหรือที่เรียกปากบอน  นั่นเป็นนิสัยครับ 555



ปรุงรสให้ได้เปรี้ยวนำเค็ม  ตักออกมาพักไว้  แล้วตั้งกระทะใส่น้ำมันเจียวกระเทียม (มากหน่อย)
ให้เหลือง  แล้วเอาแกงที่พักไว้ลงผัดอีกครั้ง



แกงบอน นิยมโรยหน้าด้วยกระเทียมเจียวหรือหอมเจียว  พริกขี้หนูแห้งทอด  แคบหมูทุบ
เป็นชิ้นเล็ก ๆ  วันนี้ไม่มีแคบหมู  แต่มีกากหมูเจียวใหม่ ๆ อร่อยไปอีกแบบ







จบแกงบอน  เดี๋ยวจะมียำอวัยวะวัวพริกดำแถมให้ครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่