อุ่นไอรัก
ด้วยไออุ่นแห่งรัก หัวใจที่เคยกระด้างเย็นชา จึงอบอุ่นและนุ่มนวล
มาร์โค ลอมบาร์ดี ฉากหน้าเขาคือผู้จัดการไร่หนุ่มผู้เงียบขรึมและไม่สนใจหญิงใด จนได้ฉายานักพรต เพราะวันๆก็อยู่แต่กับต้นองุ่นและสัตว์ในไร่ หากฉากหลังเขาคือเพลย์บอยผู้กลัวความสัมพันธ์จริงจังและการผูกมัด ไม่เชื่อในเรื่องความรักและการมีความสัมพันธ์ที่จริงจังกับคนเพียงคนเดียว และมีความสุขกับการมีสัมพันธ์ทางกายกับผู้หญิงสวยเซ็กซี่ แต่วันหนึ่ง เขากลับรู้สึกพิเศษกับผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่ง ซึ่งไม่ใกล้เคียงกับผู้หญิงในสเป๊คของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
ชายหนุ่มจะทำอย่างไร เมื่อหัวใจเริ่มไม่ไปทางเดียวกันกับสมอง หัวใจที่เคยเย็นชาและแข็งกระด้าง กลับเริ่มอ่อนโยนและอบอุ่น เพียงเพราะไออุ่นแห่งรักที่เขาเริ่มรู้จัก
มาติดตามการเดินทางของความรักของเพลย์บอยหนุ่มที่ไม่เคยเชื่อในความรักหากแต่กลับตกหลุมรักเสียเองกันนะคะ
เรื่องในซีรียส์เดียวกัน บ่มไวน์ใส่รัก
http://pantip.com/topic/30777946
บทก่อนหน้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้บทที่ ๑ http://pantip.com/topic/30935459
บทที่ ๒ http://pantip.com/topic/30940219
บทที่ ๓ http://pantip.com/topic/30942490
บทที่ ๔ http://pantip.com/topic/30944733
บทที่ ๕ http://pantip.com/topic/30948641
บทที่ ๖ http://pantip.com/topic/30951508
บทที่ ๗ http://pantip.com/topic/30953842
บทที่ ๘ http://pantip.com/topic/30957026
บทที่ ๙ http://pantip.com/topic/30961011
บทที่ ๑๐ http://pantip.com/topic/30965169
บทที่ ๑๑ http://pantip.com/topic/30970248
บทที่ ๑๒ http://pantip.com/topic/30974437
บทที่ ๑๓ http://pantip.com/topic/30978913
บทที่ ๑๔ http://pantip.com/topic/30983528
บทที่ ๑๕ http://pantip.com/topic/30987494
บทที่ ๑๖ http://pantip.com/topic/30991832
บทที่ ๑๗ http://pantip.com/topic/30996787
บทที่ ๑๘ http://pantip.com/topic/31006766
บทที่ ๑๙ http://pantip.com/topic/31018988
บทที่ ๒๐ http://pantip.com/topic/31028191
บทที่ ๒๑ http://pantip.com/topic/31037680
บทที่ ๒๒ http://pantip.com/topic/31043536
บทที่ ๒๓ http://pantip.com/topic/31047877
บทที่ ๒๔ http://pantip.com/topic/31052605
บทที่ ๒๕ http://pantip.com/topic/31057672
บทที่ ๒๖ http://pantip.com/topic/31061929
บทที่ ๒๗ http://pantip.com/topic/31069807
บทที่ ๒๘ http://pantip.com/topic/31080970
บทที่ ๒๙ http://pantip.com/topic/31092151
บทที่ ๓๐ http://pantip.com/topic/31108543
บทที่ ๓๑ http://pantip.com/topic/31132833
อุ่นไอรัก บทที่ ๓๒
เมื่อได้กลับมาคุยกันอีกครั้ง หลังจากห่างหายกันไปนานถึงสิบแปดปี ดูเหมือนสองหนุ่มสาวอดีตคู่รักวัยเยาว์จะมีเรื่องให้พูดคุยกันมากเหลือเกิน นับตั้งแต่ทั้งสองแยกย้ายกันไปเรียนต่ออยู่คนละมุมโลก เรียนจบกลับมาทำงาน ใช้ชีวิตไปคนละเส้นทาง เพราะเหตุการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้น ทำให้ทางเดินของคนทั้งสองไม่สามารถกลับมาบรรจบกันได้ แต่เมื่อมาร์โคสามารถเอาชนะความรู้สึกผิดและหวาดกลัวการเผชิญหน้า ตัดสินใจที่จะพูดจากับอิสซาเบลลาอีกครั้ง ผลของมันเกินความคาดหมาย เขารู้สึกได้ว่า ความรู้สึกผิดที่กัดกร่อนอยู่ในหัวใจเขามาช้านานถูกกำจัดออกไป เมื่อรู้ว่าอิสซาเบลลาไม่ได้คิดโทษหรือโกรธเคืองเขา ทำให้ชายหนุ่มสบายใจอย่างที่สุด น่าเสียดายที่เขาเพิ่งจะมายอมเผชิญหน้ากับความจริงในตอนนี้ เขาน่าจะมีความกล้ามากกว่านี้มาตั้งนานแล้ว ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ทำเวลาระหว่างกันหายไปถึงเกือบยี่สิบปีแบบนี้
“แล้วนี่เธอจะอยู่กินข้าวเย็นกับฉันไหม” อิสซาเบลลาถามในตอนหนึ่ง เมื่อยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูแล้วพบว่า เป็นเวลาอาหารเย็นแล้ว และนั่นเองที่ทำให้มาร์โคนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
ไลลา! ชายหนุ่มตกใจเมื่อเพิ่งจะนึกได้ว่าหญิงคนรักจะรอเขาอยู่บริเวณนี้ แต่นี่เวลาก็ผ่านไปนานหลายชั่วโมงนับแต่เขานั่งคุยอยู่กับอิสซาเบลลา และเขาก็ลืมไลลาเสียสนิท!
“ขอเวลาสักครู่นะเบลลา” ชายหนุ่มบอกหญิงสาวตรงหน้าน้ำเสียงร้อนรน หยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงออกมากดโทรออก รอสายอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะได้ยินเสียงของคนรักตอบกลับมา
“ไลลาค่ะ”
“ไลลาครับ คุณอยู่ที่ไหน ผมขอโทษ ผมเอ่อ... คุยกับเบลลาเพลินไปนิด คุณมาทานข้าวกับเราได้ไหมครับ” กรอกเสียงไปตามสาย รู้สึกผิดอยู่ไม่น้อย เขาจะบอกเธอได้อย่างไรว่าเขาลืมไปเสียสนิทว่าเธอยังรอเขาอยู่
“ไม่เป็นไรค่ะมาร์โค ฉันกลับมาที่คอร์เนลลี่แล้ว เห็นว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยดี เลยกลับมาก่อน เพราะคิดว่าคุณกับเธอคงจะมีเรื่องคุยกันมาก ขอโทษนะคะที่ไม่ได้บอก”
“คุณกลับยังไง” ถามด้วยความเป็นห่วง เธอมากับเขา แล้วจะกลับไปคนเดียวได้อย่างไร
“นั่งรถไฟค่ะมาร์โค ง่ายนิดเดียว ทานข้าวให้สนุกนะคะ”
“เสียดาย ผมอยากให้คุณมาทานข้าวกับเรา แต่เมื่อคุณอยู่คอร์เนลลี่แล้วผมก็ไม่ห่วง กินข้าวเสร็จแล้วผมจะรีบกลับนะครับ”
“ค่ะ มาร์โค แค่นี้ก่อนนะคะ”
“ครับผม รักคุณนะครับ” กล่าวก่อนจะวางสาย และหันกลับมาบอกคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า
“ไลลา คนรักฉัน เขามาด้วยแต่กลับไปก่อนแล้ว”
“อ้าว” คนได้ฟังทำน้ำเสียงเสียดาย มาร์โคยิ้มอย่างเอ็นดู
“ไลลาก็เป็นแบบนี้ เขาคงอยากให้ฉันกับเธอได้คุยกันตามลำพังกระมัง โอกาสหน้ายังมี แล้วฉันจะแนะนำให้เธอรู้จัก ไลลาเป็นคนน่ารัก เธอจะต้องชอบ” ชายหนุ่มพูดยิ้ม ๆ นัยน์ตาเป็นประกายเมื่อพูดถึงคนรัก และเพราะมัวแต่นึกถึงหญิงสาวผู้กุมหัวใจทั้งดวงของเขา จึงไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าสลดลงของคนตรงหน้า ก่อนที่หญิงสาวจะพยายามปรับสีหน้าให้กลับมาเป็นปกติ
“ถ้าอย่างนั้นก็รีบกินอะไรกันเถอะ เธอจะได้รีบกลับ” อิสซาเบลลาบอกเสียงเบา พลางยกมือทำสัญญาณเรียกบริกรที่ยืนอยู่บริเวณนั้น และมาร์โคก็เห็นด้วยในทันที เพราะรู้สึกไม่สบายใจที่ปล่อยให้ไลลากลับไปคนเดียวโดยที่เขายังนั่งรับประทานอาหารเย็นอยู่กับอิสซาเบลลา แม้หญิงสาวจะบอกว่าไม่เป็นอะไรก็ตาม
หลังวางสายจากคนรัก ไลลาวางโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะหัวเตียง เอนตัวลงนอนและหลับตาลงอย่างอ่อนล้า มาร์โคใช้เวลาถึงเกือบสามชั่วโมงจึงได้โทรมาหาเธอ ทั้ง ๆ ที่ก่อนจะไปพบกับอิสซาเบลลา เขาก็รู้อยู่แล้วว่าเธอจะรออยู่ใกล้ ๆ แต่เมื่อเขาได้พบและปรับความเข้าใจกับหญิงสาวคนนั้น เขาก็ลืมเธอเสียสนิท แม้เขาจะไม่ได้บอกว่าเขาลืมว่ามีเธอไปด้วยอีกคน แต่ไลลาไม่สามารถหาเหตุผลอะไรมาอธิบายการกระทำที่มาร์โคไม่ติดต่อหาเธอเลยจนกระทั่งตอนนี้ นอกเสียจากว่าเขาลืมว่ายังมีเธอรออยู่ไม่ไกล และเมื่อคิดถึงว่าเขาลืมเธอได้ในทันทีที่ได้พบและพูดคุยกับอดีตคนรักในวัยเด็ก มันก็ทำให้หญิงสาวรู้สึกปวดหนึบ ๆ ในอก และไม่รู้จะจัดการกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นอย่างไรดี
หลังจากที่แอบมองดูจนแน่ใจว่ามาร์โคสามารถพูดคุยกับอิสซาเบลลาได้โดยไม่เกิดปัญหาใด ๆ ไลลาก็ไปนั่งรอยังคอฟฟีชอปที่อยู่ภายในโรงแรม เพราะคิดว่าเพื่อนเก่าที่ไม่ได้พบกันมานานอาจจะมีเรื่องราวมากมายให้พูดคุยกัน หญิงสาวนั่งรออยู่เป็นชั่วโมงแต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อใด ๆ จากมาร์โค จนในที่สุด ไลลากลับขึ้นไปยังห้องอาหารอันเป็นที่นัดพบของชายคนรักกับอดีตคนรักของเขาอีกครั้ง และพบว่าทั้งสองคนยังคงนั่งคุยกันด้วยท่าทางออกรสออกชาติ ไลลาเกือบจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาชายหนุ่มอยู่แล้ว แต่แล้วก็หยุดตัวเองไว้ เพราะเธอก็อยากจะรู้อยู่เหมือนกันว่า เมื่อไรมาร์โคจะนึกได้ว่ายังมีเธอรออยู่ และตอนนี้ก็ได้รู้สมใจ กว่าเขาจะนึกได้ก็เวลาผ่านเลยมาเกือบสามชั่วโมงนี่อย่างไรล่ะ
เมื่อเห็นว่ามาร์โคดูท่าทางสบายดีและไม่ได้มีทีท่าว่าการพูดคุยระหว่างเขาและอดีตคนรักจะจบลงง่าย ๆ ไลลาจึงเดินออกจากโรงแรมเพื่อไปขึ้นรถไฟกลับคอร์เนลลี่ โดยไม่ได้บอกชายหนุ่มก่อน และแอบหวังอยู่ลึก ๆ ว่าเขาจะโทรกลับมาหาบ้าง แต่แล้วก็ต้องผิดหวัง เพราะจนเธอกลับมาจนถึงคอร์เนลลี่ แจ้งกับบาร์บาร่าแม่บ้านว่าเย็นนี้เธอไม่รับอาหารเย็นเพราะอิ่มมาแล้ว และขอตัวเข้าห้อง โดยอธิบายกับคุณแม่บ้านเพียงสั้น ๆ ว่ามาร์โคยังอยู่คุยกับอิสซาเบลลาต่อ จนเธออาบน้ำอาบท่าเรียบร้อย เขาก็ยังไม่ติดต่อกลับมา นี่หากไม่ได้เวลาอาหารเย็น เขาก็คงจะยังไม่นึกถึงเธอกระมัง และเมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หญิงสาวก็ไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้อีกต่อไป
ไลลาเผลอหลับไปทั้งน้ำตาก่อนที่จะถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยสัมผัสรุกรานบริเวณใบหน้าและซอกคอ หญิงสาวลุกพรวดอย่างตกใจก่อนที่จะถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อพบว่าเจ้าของสัมผัสนั้นคือคนรักที่เพิ่งกลับเข้ามา
“กี่โมงแล้วคะ” ถามน้ำเสียงงัวเงีย มาร์โคยิ้มกว้างอย่างเอ็นดูท่าทางง่วงงุนของคนตรงหน้า
“สี่ทุ่ม ผมกลับมาได้สักพักแล้ว เห็นคุณหลับอยู่เลยไปอาบน้ำก่อน ตอนนี้พร้อมเข้านอน” ว่าพร้อมหลิ่วตาให้ จากนั้นคว้าร่างบางเข้ามากอดและโน้มใบหน้าเข้าหา หากแต่ถูกคนในอ้อมแขนขืนตัวไว้
“คุยกันก่อนสิคะ”
“จูบก่อนค่อยคุย” ว่าเสร็จก็แนบริมฝีปากอุ่นลงไปบนริมฝีปากบาง บดจูบจนพอใจ จึงเงยหน้าขึ้นยิ้มพลางเล่าอย่างอารมณ์ดี
“มันเป็นความรู้สึกที่ดีมาก ๆ เลยไลลา ความรู้สึกเบาสบาย ๆ ไม่มีความรู้สึกผิดหน่วงอยู่ในหัวใจ ต้องขอบคุณคุณ เพราะหากไม่มีคุณ ผมคงไม่กล้าเผชิญหน้ากับเบลลา ผมคงจะยังคงอยู่กับความรู้สึกผิดและหวาดกลัวอย่างที่เป็นมาตลอดเวลาหลายปี ผมคงไม่ได้รู้ว่าการเผชิญหน้ากับเบลลามันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด ขอบคุณนะครับไลลา” ว่าพลางกระชับอ้อมกอดดึงคนตัวบางเข้ามาแนบชิดมากยิ่งขึ้น พลางจุมพิตลงไปบนกลุ่มผมหอมกรุ่น ฝ่ามือเรียวยาวลูบไล้ต้นแขนกลมกลึงไปมาเบา ๆ
“คุณ... รู้สึกอย่างไรบ้างคะตอนนี้” แม้จะน้อยใจเขาอย่างไร หญิงสาวก็อดถามอย่างเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดี
“ดี... รู้สึกดีมาก ๆ มันเหมือนผมได้ปลดปล่อยความรู้สึกผิดที่ผมแบกมาตลอดออกไป ผมสบายใจ และสามารถนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้โดยไม่รู้สึกเจ็บปวดเหมือนเมื่อก่อน ส่วนกับเบลลา มันเหมือนผมทำอะไรบางอย่างหายไปแล้วได้กลับคืนมา เรามีอะไรให้พูดคุยกันมากเหลือเกิน เสียดายที่คุณไม่ได้อยู่กินข้าวเย็นกับเรา ผมอยากให้คุณรู้จักเขา เพื่อนสนิทที่สุดของผมตั้งแต่เด็กจนเกิดเรื่องนั่นล่ะ”
“คุณบอกเธอเรื่องของเราด้วยเหรอคะ” ถามด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ อดยินดีวูบขึ้นมาไม่ได้ อย่างน้อยชายหนุ่มก็ไม่ปิดบังความสัมพันธ์ของเขาและเธอต่ออิสซาเบลลา
“บอกสิ เบลลายังเสียดายที่ไม่ได้เจอคุณ แต่ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวก็คงได้เจอกัน ต่อไปเราอาจจะมีเบลลาเป็นแขกบ่อย ๆ คุณคงไม่ว่าอะไรใช่ไหม”
“ฉันจะว่าอะไรล่ะคะ เธอเป็นเพื่อนคุณนี่นา” ว่าเสียงเบา หญิงสาวไม่แน่ใจจริง ๆ ว่าเธอจะว่าอะไรไหม หากจะมีอิสซาเบลลาเป็นแขกบ่อย ๆ อย่างที่ชายหนุ่มว่า แต่หากมาร์โคชัดเจนกับความสัมพันธ์และไม่ปิดบังกับอิสซาเบลลาแบบนี้ ก็คงไม่มีอะไรให้เธอต้องกังวลกระมัง
“เราคุยกันเรื่องนี้ทีหลังได้ไหม ตอนนี้ผมไม่อยากคุยแล้ว” คนไม่อยากคุยแต่อยากทำอย่างอื่นยิ้มอย่างพอใจ เมื่อคนในอ้อมแขนไม่ขัดขืนอย่างในตอนแรก หากตอบสนองสัมผัสของเขาจนชายหนุ่มแทบจะลืมเลือนทุกเรื่องราวที่คุยกัน มีเพียงสัมผัสอ่อนหวานจากคนรักเท่านั้นที่อยู่ในความคำนึงของเขาในตอนนี้ และต่อไปอีกนานตลอดค่ำคืน
อุ่นไอรัก บทที่ ๓๒
มาร์โค ลอมบาร์ดี ฉากหน้าเขาคือผู้จัดการไร่หนุ่มผู้เงียบขรึมและไม่สนใจหญิงใด จนได้ฉายานักพรต เพราะวันๆก็อยู่แต่กับต้นองุ่นและสัตว์ในไร่ หากฉากหลังเขาคือเพลย์บอยผู้กลัวความสัมพันธ์จริงจังและการผูกมัด ไม่เชื่อในเรื่องความรักและการมีความสัมพันธ์ที่จริงจังกับคนเพียงคนเดียว และมีความสุขกับการมีสัมพันธ์ทางกายกับผู้หญิงสวยเซ็กซี่ แต่วันหนึ่ง เขากลับรู้สึกพิเศษกับผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่ง ซึ่งไม่ใกล้เคียงกับผู้หญิงในสเป๊คของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
ชายหนุ่มจะทำอย่างไร เมื่อหัวใจเริ่มไม่ไปทางเดียวกันกับสมอง หัวใจที่เคยเย็นชาและแข็งกระด้าง กลับเริ่มอ่อนโยนและอบอุ่น เพียงเพราะไออุ่นแห่งรักที่เขาเริ่มรู้จัก
มาติดตามการเดินทางของความรักของเพลย์บอยหนุ่มที่ไม่เคยเชื่อในความรักหากแต่กลับตกหลุมรักเสียเองกันนะคะ
เรื่องในซีรียส์เดียวกัน บ่มไวน์ใส่รัก http://pantip.com/topic/30777946
บทก่อนหน้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เมื่อได้กลับมาคุยกันอีกครั้ง หลังจากห่างหายกันไปนานถึงสิบแปดปี ดูเหมือนสองหนุ่มสาวอดีตคู่รักวัยเยาว์จะมีเรื่องให้พูดคุยกันมากเหลือเกิน นับตั้งแต่ทั้งสองแยกย้ายกันไปเรียนต่ออยู่คนละมุมโลก เรียนจบกลับมาทำงาน ใช้ชีวิตไปคนละเส้นทาง เพราะเหตุการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้น ทำให้ทางเดินของคนทั้งสองไม่สามารถกลับมาบรรจบกันได้ แต่เมื่อมาร์โคสามารถเอาชนะความรู้สึกผิดและหวาดกลัวการเผชิญหน้า ตัดสินใจที่จะพูดจากับอิสซาเบลลาอีกครั้ง ผลของมันเกินความคาดหมาย เขารู้สึกได้ว่า ความรู้สึกผิดที่กัดกร่อนอยู่ในหัวใจเขามาช้านานถูกกำจัดออกไป เมื่อรู้ว่าอิสซาเบลลาไม่ได้คิดโทษหรือโกรธเคืองเขา ทำให้ชายหนุ่มสบายใจอย่างที่สุด น่าเสียดายที่เขาเพิ่งจะมายอมเผชิญหน้ากับความจริงในตอนนี้ เขาน่าจะมีความกล้ามากกว่านี้มาตั้งนานแล้ว ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ทำเวลาระหว่างกันหายไปถึงเกือบยี่สิบปีแบบนี้
“แล้วนี่เธอจะอยู่กินข้าวเย็นกับฉันไหม” อิสซาเบลลาถามในตอนหนึ่ง เมื่อยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูแล้วพบว่า เป็นเวลาอาหารเย็นแล้ว และนั่นเองที่ทำให้มาร์โคนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
ไลลา! ชายหนุ่มตกใจเมื่อเพิ่งจะนึกได้ว่าหญิงคนรักจะรอเขาอยู่บริเวณนี้ แต่นี่เวลาก็ผ่านไปนานหลายชั่วโมงนับแต่เขานั่งคุยอยู่กับอิสซาเบลลา และเขาก็ลืมไลลาเสียสนิท!
“ขอเวลาสักครู่นะเบลลา” ชายหนุ่มบอกหญิงสาวตรงหน้าน้ำเสียงร้อนรน หยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงออกมากดโทรออก รอสายอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะได้ยินเสียงของคนรักตอบกลับมา
“ไลลาค่ะ”
“ไลลาครับ คุณอยู่ที่ไหน ผมขอโทษ ผมเอ่อ... คุยกับเบลลาเพลินไปนิด คุณมาทานข้าวกับเราได้ไหมครับ” กรอกเสียงไปตามสาย รู้สึกผิดอยู่ไม่น้อย เขาจะบอกเธอได้อย่างไรว่าเขาลืมไปเสียสนิทว่าเธอยังรอเขาอยู่
“ไม่เป็นไรค่ะมาร์โค ฉันกลับมาที่คอร์เนลลี่แล้ว เห็นว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยดี เลยกลับมาก่อน เพราะคิดว่าคุณกับเธอคงจะมีเรื่องคุยกันมาก ขอโทษนะคะที่ไม่ได้บอก”
“คุณกลับยังไง” ถามด้วยความเป็นห่วง เธอมากับเขา แล้วจะกลับไปคนเดียวได้อย่างไร
“นั่งรถไฟค่ะมาร์โค ง่ายนิดเดียว ทานข้าวให้สนุกนะคะ”
“เสียดาย ผมอยากให้คุณมาทานข้าวกับเรา แต่เมื่อคุณอยู่คอร์เนลลี่แล้วผมก็ไม่ห่วง กินข้าวเสร็จแล้วผมจะรีบกลับนะครับ”
“ค่ะ มาร์โค แค่นี้ก่อนนะคะ”
“ครับผม รักคุณนะครับ” กล่าวก่อนจะวางสาย และหันกลับมาบอกคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า
“ไลลา คนรักฉัน เขามาด้วยแต่กลับไปก่อนแล้ว”
“อ้าว” คนได้ฟังทำน้ำเสียงเสียดาย มาร์โคยิ้มอย่างเอ็นดู
“ไลลาก็เป็นแบบนี้ เขาคงอยากให้ฉันกับเธอได้คุยกันตามลำพังกระมัง โอกาสหน้ายังมี แล้วฉันจะแนะนำให้เธอรู้จัก ไลลาเป็นคนน่ารัก เธอจะต้องชอบ” ชายหนุ่มพูดยิ้ม ๆ นัยน์ตาเป็นประกายเมื่อพูดถึงคนรัก และเพราะมัวแต่นึกถึงหญิงสาวผู้กุมหัวใจทั้งดวงของเขา จึงไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าสลดลงของคนตรงหน้า ก่อนที่หญิงสาวจะพยายามปรับสีหน้าให้กลับมาเป็นปกติ
“ถ้าอย่างนั้นก็รีบกินอะไรกันเถอะ เธอจะได้รีบกลับ” อิสซาเบลลาบอกเสียงเบา พลางยกมือทำสัญญาณเรียกบริกรที่ยืนอยู่บริเวณนั้น และมาร์โคก็เห็นด้วยในทันที เพราะรู้สึกไม่สบายใจที่ปล่อยให้ไลลากลับไปคนเดียวโดยที่เขายังนั่งรับประทานอาหารเย็นอยู่กับอิสซาเบลลา แม้หญิงสาวจะบอกว่าไม่เป็นอะไรก็ตาม
หลังวางสายจากคนรัก ไลลาวางโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะหัวเตียง เอนตัวลงนอนและหลับตาลงอย่างอ่อนล้า มาร์โคใช้เวลาถึงเกือบสามชั่วโมงจึงได้โทรมาหาเธอ ทั้ง ๆ ที่ก่อนจะไปพบกับอิสซาเบลลา เขาก็รู้อยู่แล้วว่าเธอจะรออยู่ใกล้ ๆ แต่เมื่อเขาได้พบและปรับความเข้าใจกับหญิงสาวคนนั้น เขาก็ลืมเธอเสียสนิท แม้เขาจะไม่ได้บอกว่าเขาลืมว่ามีเธอไปด้วยอีกคน แต่ไลลาไม่สามารถหาเหตุผลอะไรมาอธิบายการกระทำที่มาร์โคไม่ติดต่อหาเธอเลยจนกระทั่งตอนนี้ นอกเสียจากว่าเขาลืมว่ายังมีเธอรออยู่ไม่ไกล และเมื่อคิดถึงว่าเขาลืมเธอได้ในทันทีที่ได้พบและพูดคุยกับอดีตคนรักในวัยเด็ก มันก็ทำให้หญิงสาวรู้สึกปวดหนึบ ๆ ในอก และไม่รู้จะจัดการกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นอย่างไรดี
หลังจากที่แอบมองดูจนแน่ใจว่ามาร์โคสามารถพูดคุยกับอิสซาเบลลาได้โดยไม่เกิดปัญหาใด ๆ ไลลาก็ไปนั่งรอยังคอฟฟีชอปที่อยู่ภายในโรงแรม เพราะคิดว่าเพื่อนเก่าที่ไม่ได้พบกันมานานอาจจะมีเรื่องราวมากมายให้พูดคุยกัน หญิงสาวนั่งรออยู่เป็นชั่วโมงแต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อใด ๆ จากมาร์โค จนในที่สุด ไลลากลับขึ้นไปยังห้องอาหารอันเป็นที่นัดพบของชายคนรักกับอดีตคนรักของเขาอีกครั้ง และพบว่าทั้งสองคนยังคงนั่งคุยกันด้วยท่าทางออกรสออกชาติ ไลลาเกือบจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาชายหนุ่มอยู่แล้ว แต่แล้วก็หยุดตัวเองไว้ เพราะเธอก็อยากจะรู้อยู่เหมือนกันว่า เมื่อไรมาร์โคจะนึกได้ว่ายังมีเธอรออยู่ และตอนนี้ก็ได้รู้สมใจ กว่าเขาจะนึกได้ก็เวลาผ่านเลยมาเกือบสามชั่วโมงนี่อย่างไรล่ะ
เมื่อเห็นว่ามาร์โคดูท่าทางสบายดีและไม่ได้มีทีท่าว่าการพูดคุยระหว่างเขาและอดีตคนรักจะจบลงง่าย ๆ ไลลาจึงเดินออกจากโรงแรมเพื่อไปขึ้นรถไฟกลับคอร์เนลลี่ โดยไม่ได้บอกชายหนุ่มก่อน และแอบหวังอยู่ลึก ๆ ว่าเขาจะโทรกลับมาหาบ้าง แต่แล้วก็ต้องผิดหวัง เพราะจนเธอกลับมาจนถึงคอร์เนลลี่ แจ้งกับบาร์บาร่าแม่บ้านว่าเย็นนี้เธอไม่รับอาหารเย็นเพราะอิ่มมาแล้ว และขอตัวเข้าห้อง โดยอธิบายกับคุณแม่บ้านเพียงสั้น ๆ ว่ามาร์โคยังอยู่คุยกับอิสซาเบลลาต่อ จนเธออาบน้ำอาบท่าเรียบร้อย เขาก็ยังไม่ติดต่อกลับมา นี่หากไม่ได้เวลาอาหารเย็น เขาก็คงจะยังไม่นึกถึงเธอกระมัง และเมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หญิงสาวก็ไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้อีกต่อไป
ไลลาเผลอหลับไปทั้งน้ำตาก่อนที่จะถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยสัมผัสรุกรานบริเวณใบหน้าและซอกคอ หญิงสาวลุกพรวดอย่างตกใจก่อนที่จะถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อพบว่าเจ้าของสัมผัสนั้นคือคนรักที่เพิ่งกลับเข้ามา
“กี่โมงแล้วคะ” ถามน้ำเสียงงัวเงีย มาร์โคยิ้มกว้างอย่างเอ็นดูท่าทางง่วงงุนของคนตรงหน้า
“สี่ทุ่ม ผมกลับมาได้สักพักแล้ว เห็นคุณหลับอยู่เลยไปอาบน้ำก่อน ตอนนี้พร้อมเข้านอน” ว่าพร้อมหลิ่วตาให้ จากนั้นคว้าร่างบางเข้ามากอดและโน้มใบหน้าเข้าหา หากแต่ถูกคนในอ้อมแขนขืนตัวไว้
“คุยกันก่อนสิคะ”
“จูบก่อนค่อยคุย” ว่าเสร็จก็แนบริมฝีปากอุ่นลงไปบนริมฝีปากบาง บดจูบจนพอใจ จึงเงยหน้าขึ้นยิ้มพลางเล่าอย่างอารมณ์ดี
“มันเป็นความรู้สึกที่ดีมาก ๆ เลยไลลา ความรู้สึกเบาสบาย ๆ ไม่มีความรู้สึกผิดหน่วงอยู่ในหัวใจ ต้องขอบคุณคุณ เพราะหากไม่มีคุณ ผมคงไม่กล้าเผชิญหน้ากับเบลลา ผมคงจะยังคงอยู่กับความรู้สึกผิดและหวาดกลัวอย่างที่เป็นมาตลอดเวลาหลายปี ผมคงไม่ได้รู้ว่าการเผชิญหน้ากับเบลลามันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด ขอบคุณนะครับไลลา” ว่าพลางกระชับอ้อมกอดดึงคนตัวบางเข้ามาแนบชิดมากยิ่งขึ้น พลางจุมพิตลงไปบนกลุ่มผมหอมกรุ่น ฝ่ามือเรียวยาวลูบไล้ต้นแขนกลมกลึงไปมาเบา ๆ
“คุณ... รู้สึกอย่างไรบ้างคะตอนนี้” แม้จะน้อยใจเขาอย่างไร หญิงสาวก็อดถามอย่างเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดี
“ดี... รู้สึกดีมาก ๆ มันเหมือนผมได้ปลดปล่อยความรู้สึกผิดที่ผมแบกมาตลอดออกไป ผมสบายใจ และสามารถนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้โดยไม่รู้สึกเจ็บปวดเหมือนเมื่อก่อน ส่วนกับเบลลา มันเหมือนผมทำอะไรบางอย่างหายไปแล้วได้กลับคืนมา เรามีอะไรให้พูดคุยกันมากเหลือเกิน เสียดายที่คุณไม่ได้อยู่กินข้าวเย็นกับเรา ผมอยากให้คุณรู้จักเขา เพื่อนสนิทที่สุดของผมตั้งแต่เด็กจนเกิดเรื่องนั่นล่ะ”
“คุณบอกเธอเรื่องของเราด้วยเหรอคะ” ถามด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ อดยินดีวูบขึ้นมาไม่ได้ อย่างน้อยชายหนุ่มก็ไม่ปิดบังความสัมพันธ์ของเขาและเธอต่ออิสซาเบลลา
“บอกสิ เบลลายังเสียดายที่ไม่ได้เจอคุณ แต่ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวก็คงได้เจอกัน ต่อไปเราอาจจะมีเบลลาเป็นแขกบ่อย ๆ คุณคงไม่ว่าอะไรใช่ไหม”
“ฉันจะว่าอะไรล่ะคะ เธอเป็นเพื่อนคุณนี่นา” ว่าเสียงเบา หญิงสาวไม่แน่ใจจริง ๆ ว่าเธอจะว่าอะไรไหม หากจะมีอิสซาเบลลาเป็นแขกบ่อย ๆ อย่างที่ชายหนุ่มว่า แต่หากมาร์โคชัดเจนกับความสัมพันธ์และไม่ปิดบังกับอิสซาเบลลาแบบนี้ ก็คงไม่มีอะไรให้เธอต้องกังวลกระมัง
“เราคุยกันเรื่องนี้ทีหลังได้ไหม ตอนนี้ผมไม่อยากคุยแล้ว” คนไม่อยากคุยแต่อยากทำอย่างอื่นยิ้มอย่างพอใจ เมื่อคนในอ้อมแขนไม่ขัดขืนอย่างในตอนแรก หากตอบสนองสัมผัสของเขาจนชายหนุ่มแทบจะลืมเลือนทุกเรื่องราวที่คุยกัน มีเพียงสัมผัสอ่อนหวานจากคนรักเท่านั้นที่อยู่ในความคำนึงของเขาในตอนนี้ และต่อไปอีกนานตลอดค่ำคืน