อุ่นไอรัก
ด้วยไออุ่นแห่งรัก หัวใจที่เคยกระด้างเย็นชา จึงอบอุ่นและนุ่มนวล
มาร์โค ลอมบาร์ดี ฉากหน้าเขาคือผู้จัดการไร่หนุ่มผู้เงียบขรึมและไม่สนใจหญิงใด จนได้ฉายานักพรต เพราะวันๆก็อยู่แต่กับต้นองุ่นและสัตว์ในไร่ หากฉากหลังเขาคือเพลย์บอยผู้กลัวความสัมพันธ์จริงจังและการผูกมัด ไม่เชื่อในเรื่องความรักและการมีความสัมพันธ์ที่จริงจังกับคนเพียงคนเดียว และมีความสุขกับการมีสัมพันธ์ทางกายกับผู้หญิงสวยเซ็กซี่ แต่วันหนึ่ง เขากลับรู้สึกพิเศษกับผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่ง ซึ่งไม่ใกล้เคียงกับผู้หญิงในสเป๊คของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
ชายหนุ่มจะทำอย่างไร เมื่อหัวใจเริ่มไม่ไปทางเดียวกันกับสมอง หัวใจที่เคยเย็นชาและแข็งกระด้าง กลับเริ่มอ่อนโยนและอบอุ่น เพียงเพราะไออุ่นแห่งรักที่เขาเริ่มรู้จัก
มาติดตามการเดินทางของความรักของเพลย์บอยหนุ่มที่ไม่เคยเชื่อในความรักหากแต่กลับตกหลุมรักเสียเองกันนะคะ
เรื่องในซีรียส์เดียวกัน บ่มไวน์ใส่รัก
http://pantip.com/topic/30777946
บทก่อนหน้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้บทที่ ๑ http://pantip.com/topic/30935459
บทที่ ๒ http://pantip.com/topic/30940219
บทที่ ๓ http://pantip.com/topic/30942490
บทที่ ๔ http://pantip.com/topic/30944733
บทที่ ๕ http://pantip.com/topic/30948641
บทที่ ๖ http://pantip.com/topic/30951508
บทที่ ๗ http://pantip.com/topic/30953842
บทที่ ๘ http://pantip.com/topic/30957026
บทที่ ๙ http://pantip.com/topic/30961011
บทที่ ๑๐ http://pantip.com/topic/30965169
บทที่ ๑๑ http://pantip.com/topic/30970248
บทที่ ๑๒ http://pantip.com/topic/30974437
บทที่ ๑๓ http://pantip.com/topic/30978913
บทที่ ๑๔ http://pantip.com/topic/30983528
บทที่ ๑๕ http://pantip.com/topic/30987494
บทที่ ๑๖ http://pantip.com/topic/30991832
บทที่ ๑๗ http://pantip.com/topic/30996787
บทที่ ๑๘ http://pantip.com/topic/31006766
บทที่ ๑๙ http://pantip.com/topic/31018988
บทที่ ๒๐ http://pantip.com/topic/31028191
บทที่ ๒๑ http://pantip.com/topic/31037680
บทที่ ๒๒ http://pantip.com/topic/31043536
บทที่ ๒๓ http://pantip.com/topic/31047877
บทที่ ๒๔ http://pantip.com/topic/31052605
บทที่ ๒๕ http://pantip.com/topic/31057672
บทที่ ๒๖ http://pantip.com/topic/31061929
บทที่ ๒๗ http://pantip.com/topic/31069807
อุ่นไอรัก บทที่ ๒๘
มาร์โคทอดถอนใจให้กับความฝันที่เริ่มจะเข้ามาจับจองเวลายามค่ำคืนขณะหลับใหลของเขา มันไม่ใช่ฝันร้ายอย่างที่เขาประสบมาในช่วงเวลาเลวร้ายของความรู้สึก เป็นเพียงความฝันถึงเหตุการณ์ในอดีตในตอนที่เขายังเป็นวัยรุ่น กับความรักของเด็กหนุ่มในช่วงเวลานั้น เวลาที่เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความรักคืออะไร
เขาคิดว่าความรู้สึกที่เขามีต่ออิสซาเบลลา ลูกสาวคนโตของตระกูลวีโอลาไม่ใช่ความรัก เขาชอบเธอมากนั่นใช่ล่ะ ก็เธอสวยน่ารัก เรียนเก่ง ชาติตระกูลดี ใคร ๆ ก็อิจฉาเขาทั้งนั้นที่ได้ควงกับเบลลา เขาไม่รู้ว่าความรู้สึกที่เขามีต่อเธอเปลี่ยนจากความรู้สึกสนิทแนบแน่นเหมือนพี่น้องกลายเป็นความรู้สึกอย่างหนุ่มสาวตอนไหน เขารู้จักกับเธอมาตั้งแต่เด็ก เพราะบิดาของเขาและเธอเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกันมา เขาและเธอเติบโตมาพร้อม ๆ กัน เป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย เมื่อเข้าโรงเรียนก็ร่วมห้องกันมาตลอด แล้วจู่ ๆ ความรู้สึกรักอย่างเพื่อนหรือพี่น้อง ก็กลายมาเป็นรักใคร่อย่างหนุ่มสาว ซึ่งเมื่อบิดามารดารับทราบแล้วก็ไม่มีปัญหากับความสัมพันธ์ของเขาและเธอที่เปลี่ยนไป และเมื่ออารมณ์และฮอร์โมนพลุ่งพล่าน ก็ไม่ยากเลยที่เขาและเธอจะมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้ง มันเป็นเรื่องปกติที่คู่รักคู่ไหนก็ทำกันทั้งนั้น และเขาก็ติดใจกับสัมผัสของความใคร่นั้นเสียด้วย ถ้าเป็นไปได้ เขาอยากจะอยู่บนเตียงกับเธอทั้งวันทั้งคืนไม่ต้องลุกไปไหนเลยทีเดียว
แต่ความรู้สึกติดใจในเพศรสที่เขามีกับเบลลา ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาพร้อมที่จะถูกผูกติดกับเธอไปจนชั่วชีวิต เขายังเด็ก ยังมีอะไรอีกมากมายบนโลกอันกว้างใหญ่ใบนี้ที่จะให้เขาค้นหาและสนุกสนานไปกับมัน ไม่ใช่การถูกผูกติดอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่งด้วยคำว่าหมั้นหรือการแต่งงาน แม้เขาจะชอบเธอมาก ติดใจในรสสัมผัสทางกายกับเธอมาก แต่มันก็ไม่ได้มากพอที่จะให้เขาหยุดความสนุกสนานของชีวิตที่เขายังไม่มีโอกาสลิ้มลองลงที่เธอ และเมื่ออิสซาเบลลาเสนอความคิดเรื่องการหมั้นหมายเพื่อผูกมัดเขาและเธอไว้ด้วยกันในขณะที่ต้องแยกย้ายกันไปเรียนหนังสือคนละมุมโลก เขาจึงคิดว่าเป็นความคิดที่บ้าบอที่สุด ยิ่งบิดาของเขาเห็นดีเห็นงามด้วยแล้ว ยิ่งช่วยไม่ได้เลยที่เขาจะต่อต้านความคิดนั้นอย่างรุนแรง และทำในสิ่งที่เขาทำ สิ่งซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความเลวร้ายที่เกิดขึ้น และส่งผลต่อความเป็นเขา ความเป็นมาร์โค ลอมบาร์ดี มาจนถึงตอนนี้
ชายหนุ่มถอนหายใจยืดยาวอีกครั้ง เขาเคยสงสัย หากไม่เกิดเรื่องนั้นขึ้น ความสัมพันธ์ของเขาและอิสซาเบลลาจะดำเนินไปอย่างไร อาจจะเลิกลากันไปหลังจากที่คบหากันมาระยะหนึ่งอย่างคู่รักวัยรุ่นส่วนใหญ่ หรืออาจจะคบหากันยาวนานจนจบลงที่การแต่งงานอย่างอีกหลายคู่ที่แม้อาจจะเป็นส่วนน้อยแต่ก็มีให้เห็นอยู่บ้างก็ได้ และเขาคงจะไม่ได้รู้จักและรักกับไลลา..
เมื่อนึกถึงไลลา ชายหนุ่มก็หันมองเจ้าของชื่อที่กำลังนอนหลับตาพริ้มอย่างไม่ได้รับรู้ถึงความคิดอันวุ่นวายในใจของเขาเลย
“ผมรักคุณไลลา ผมจะไม่ให้คุณต้องยุ่งยากลำบากใจกับอดีตของผมเลย ผมจะทำทุกอย่างที่จะปกป้องคุณให้ห่างจากผลของความเลวร้ายที่ผมเคยทำในอดีต ผมสัญญาจะรักษาหัวใจของผมให้ดีที่สุด” พึมพำเบา ๆ กับคนที่กำลังหลับสนิท ก่อนจะค่อยๆจุมพิตหน้าผากมนแผ่วเบา และล้มตัวลงนอนเคียงและดึงร่างบางเข้ามาแนบชิด การมีหญิงสาวนอนแนบกายทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเข้มแข็งมากกว่าที่เคยเป็นมา เขารู้สึกว่าหากจะต้องต่อสู้กับฝันร้ายที่เขาเคยพ่ายแพ้ไม่เป็นท่า ความรู้สึกอบอุ่นที่ส่งมาจากร่างแบบบางที่นอนอยู่แนบชิด จะช่วยให้เขารู้สึกเข้มแข็งมากขึ้น จนอาจจะมีโอกาสเอาชนะฝันร้ายเหล่านั้นได้ โดยไม่จำเป็นต้องกลับไปหาหมออีกครั้งอย่างที่เขากริ่งเกรง
“เดี๋ยวเราจะค้างคืนคืนแรกที่จูเรียนเบย์นะครับ” มาร์โคบอกกับหญิงสาวที่กำลังเปิดแผนที่จากเวบไซต์ เพื่อมองหาสถานที่ท่องเที่ยวทางเหนือที่ชายหนุ่มบอกว่าจะพาเธอไปเยือน และพบว่าจูเรียนเบย์ ตั้งอยู่บนชายฝั่งขึ้นไปทางเหนือของเพิร์ธราวสองชั่วโมงครึ่งเท่านั้น
“เลยจากนั้นก็จะเป็นเอาท์แบค[1]แล้ว ผมเลยคิดว่าค้างที่จูเรียนเบย์ส่งท้ายความศิวิไลซ์เสียหน่อย” ชายหนุ่มพูดยิ้มๆ
“งั้นฉันจองโรงแรมเลยนะคะ กี่คืนดี”
“ไม่เป็นไรครับ ผมจัดการเรียบร้อยแล้ว” เมื่อชายหนุ่มบอกเช่นนั้น ไลลาจึงละสายตาจากหน้าจอเพื่อเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางที่วางอ้าอยู่บนเตียง
“เราจะขับรถแวะเที่ยวไปเรื่อยๆ กะให้ค่ำที่จูเรียนเบย์พอดี ช่วงเส้นทางขึ้นเหนือไปจนถึงจูเรียนเบย์นี่จะมีชายหาดและสถานที่ท่องเที่ยวให้แวะเรื่อยๆครับ แต่หลังจากนั้นไปแล้วต้องขับรถยาวกว่าจะถึงสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่ หรือเมืองแต่ละเมือง” ชายหนุ่มอธิบาย
“กันดารมากเหรอคะทางเหนือของดับเบิลยูเอ” หญิงสาวถาม เธอไม่เคยมาทางฝั่งตะวันตก และนึกไม่ออกว่าทางตอนเหนือของรัฐจะทุรกันดารได้มากแค่ไหน
“ค่อนข้างมากครับ แห้งแล้ง เมืองแต่ละเมืองอยู่ห่างกันมาก พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นเหมือง แต่ชายหาดสวยมากนะครับไลลา ชายทะเลฝั่งนี้สวยจนอาจจะทำให้คุณลืมหายใจทีเดียว เสียอย่างเดียว..” หยุดพูด ใบหน้ายิ้มพราย
“อะไรคะ”
“ฉลามชุมไปหน่อย” ตอบแล้วก็ต้องหัวเราะอย่างถูกใจเมื่อเห็นหน้าแสดงอารมณ์สยดสยองของหญิงสาว
“อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิครับไลลา ฉลามก็อยู่ส่วนฉลาม เราไม่ไปยุ่งกับมัน มันก็ไม่มายุ่งกับเรา อาจจะแวะมาใกล้ชายหาดที่คนว่ายน้ำอยู่บ้าง แต่ก็ไม่บ่อยหรอกครับ”
“แล้วเราจะโชคร้ายได้รับการทักทายจากฉลามหรือเปล่าล่ะคะ” หญิงสาวถาม เริ่มไม่แน่ใจว่าการไปเที่ยวชายทะเลทางเหนือของรัฐจะเป็นความคิดที่ดี
“ส่วนใหญ่คนที่ถูกฉลามทำร้ายคืออยู่ในน้ำลึกครับไลลา ถ้าอยู่ใกล้ฝั่ง หากไม่ดวงซวยจริง ๆ ก็ไม่เจอฉลามหรอกครับ” ชายหนุ่มพูดยิ้ม ๆ ท่าทางไม่ได้เดือดร้อนว่าจะไปพบเจอกับฉลามอย่างที่หญิงสาวกำลังรู้สึกอยู่
เมื่อเห็นสีหน้าหญิงสาวยังไม่คลายใจ มาร์โคจึงเดินตรงไปทรุดตัวลงนั่งบนเตียงข้าง ๆ หญิงสาว สองมือใหญ่จับไหล่หญิงสาวให้หันมาเผชิญหน้ากับเขา หน่วยตาคมจ้องเข้าไปในดวงตาสีฟ้าสด ถามเสียงนุ่ม
“คิดจริง ๆ เหรอว่าผมจะพาคุณไปเที่ยวในที่ที่อาจจะมีอันตรายกับคุณ หืม” ตั้งใจว่าจะพูดเพียงแค่นั้น แต่เมื่อใบหน้าเรียวอยู่ตรงหน้า ริมฝีปากบางก็อยู่ใกล้แค่นี้ ทำให้อดไม่ได้ที่จะโน้มใบหน้าเข้าหา ยิ่งเมื่อเจ้าของริมฝีปากตอบสนองสัมผัสแผ่วเบาของเขา ยิ่งทำให้การถอนริมฝีปากออกเป็นเรื่องยาก จึงแลกสัมผัสดูดดื่มกับริมฝีปากบางอย่างยาวนาน จนพออกพอใจนู่นล่ะ จึงยอมถอนริมฝีปากออกอย่างเสียดาย
“ถ้าไม่หยุดสงสัยจะไม่ได้ไปเที่ยว” ชายหนุ่มพูดยิ้ม ๆ นัยน์ตาฉ่ำหวานเต็มไปด้วยเพลิงปรารถนา ไลลาหน้าร้อนวูบ หลบสายตาแรงกล้าตรงหน้าอย่างเขินอาย
“ไปกันเถอะค่ะ ฉันจัดกระเป๋าเสร็จแล้ว” พูดเสียงเบาขณะยังคงก้มหน้างุด เพราะไม่กล้าสบตากับประกายตาคมของเขาเลยจริง ๆ
มาร์โคเลือกใช้เส้นทางเลียบชายฝั่งโดยแวะรับประทานอาหารเช้าที่ ‘ฮิลลารีส์ โบท ฮาร์เบอร์’ ซึ่งเป็นท่าเทียบเรือยอร์ช มีสมาคมเรือยอร์ช อุทยานสัตว์น้ำ ชายหาดที่กว้างใหญ่มองเห็นผืนทรายขาวสะอาดทอดยาวสุดลูกหูลูกตา และร้านอาหารให้บริการมากมาย ทั้งสองเลือกรับประทานอาหารเช้าที่ร้านอาหารอิตาเลียนบริเวณท่าเรือ ก่อนที่จะเดินทางต่อไปทางเหนือ โดยมีจุดหมายอยู่ที่แลนเซลิน
แลนเซลินเป็นเมืองชายหาดเล็ก ๆ ตั้งอยู่ทางเหนือของเพิร์ธโดยใช้เวลาขับรถราวหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ชายหนุ่มใช้ถนนอินเดียนโอเชียนไดรฟ์ซึ่งทอดยาวไปตามชายฝั่งมหาสมุทรอินเดียสมชื่อ ก่อนที่จะเลี้ยวเข้าทางแยกอันนำไปสู่เมืองแลนเซลิน
ภาพตรงหน้าหลังจากที่ชายหนุ่มนำรถไปจอดยังลานจอดรถที่ทางเมืองทำไว้บริการแก่ผู้มาเยือน เป็นภาพชายหาดกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ทรายขาวราวกับแป้ง จรดกับผืนน้ำสีครามเจิดจ้า ยิ่งแดดออกจัดจ้ายิ่งทำให้น้ำทะเลสีครามสดใสน่าลงไปแหวกว่าย หากมาร์โคกลับจูงมือคนตัวบางเดินตรงไปยังคาเฟ่ที่ตั้งอยู่ริมหาด
“กินกาแฟกันก่อน” ชายหนุ่มว่า ซึ่งไลลาก็ไม่คิดที่จะปฏิเสธ เพราะกาแฟกับหญิงสาวเป็นของคู่กันที่ไม่สามารถจะจับแยกจากกันได้ จนกระทั่งเสร็จเรียบร้อยจากกาแฟ ชายหนุ่มก็พาหญิงสาวขับรถไปอีกฝั่งของเมือง
อุ่นไอรัก บทที่ ๒๘
มาร์โค ลอมบาร์ดี ฉากหน้าเขาคือผู้จัดการไร่หนุ่มผู้เงียบขรึมและไม่สนใจหญิงใด จนได้ฉายานักพรต เพราะวันๆก็อยู่แต่กับต้นองุ่นและสัตว์ในไร่ หากฉากหลังเขาคือเพลย์บอยผู้กลัวความสัมพันธ์จริงจังและการผูกมัด ไม่เชื่อในเรื่องความรักและการมีความสัมพันธ์ที่จริงจังกับคนเพียงคนเดียว และมีความสุขกับการมีสัมพันธ์ทางกายกับผู้หญิงสวยเซ็กซี่ แต่วันหนึ่ง เขากลับรู้สึกพิเศษกับผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่ง ซึ่งไม่ใกล้เคียงกับผู้หญิงในสเป๊คของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
ชายหนุ่มจะทำอย่างไร เมื่อหัวใจเริ่มไม่ไปทางเดียวกันกับสมอง หัวใจที่เคยเย็นชาและแข็งกระด้าง กลับเริ่มอ่อนโยนและอบอุ่น เพียงเพราะไออุ่นแห่งรักที่เขาเริ่มรู้จัก
มาติดตามการเดินทางของความรักของเพลย์บอยหนุ่มที่ไม่เคยเชื่อในความรักหากแต่กลับตกหลุมรักเสียเองกันนะคะ
เรื่องในซีรียส์เดียวกัน บ่มไวน์ใส่รัก http://pantip.com/topic/30777946
บทก่อนหน้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มาร์โคทอดถอนใจให้กับความฝันที่เริ่มจะเข้ามาจับจองเวลายามค่ำคืนขณะหลับใหลของเขา มันไม่ใช่ฝันร้ายอย่างที่เขาประสบมาในช่วงเวลาเลวร้ายของความรู้สึก เป็นเพียงความฝันถึงเหตุการณ์ในอดีตในตอนที่เขายังเป็นวัยรุ่น กับความรักของเด็กหนุ่มในช่วงเวลานั้น เวลาที่เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความรักคืออะไร
เขาคิดว่าความรู้สึกที่เขามีต่ออิสซาเบลลา ลูกสาวคนโตของตระกูลวีโอลาไม่ใช่ความรัก เขาชอบเธอมากนั่นใช่ล่ะ ก็เธอสวยน่ารัก เรียนเก่ง ชาติตระกูลดี ใคร ๆ ก็อิจฉาเขาทั้งนั้นที่ได้ควงกับเบลลา เขาไม่รู้ว่าความรู้สึกที่เขามีต่อเธอเปลี่ยนจากความรู้สึกสนิทแนบแน่นเหมือนพี่น้องกลายเป็นความรู้สึกอย่างหนุ่มสาวตอนไหน เขารู้จักกับเธอมาตั้งแต่เด็ก เพราะบิดาของเขาและเธอเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกันมา เขาและเธอเติบโตมาพร้อม ๆ กัน เป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย เมื่อเข้าโรงเรียนก็ร่วมห้องกันมาตลอด แล้วจู่ ๆ ความรู้สึกรักอย่างเพื่อนหรือพี่น้อง ก็กลายมาเป็นรักใคร่อย่างหนุ่มสาว ซึ่งเมื่อบิดามารดารับทราบแล้วก็ไม่มีปัญหากับความสัมพันธ์ของเขาและเธอที่เปลี่ยนไป และเมื่ออารมณ์และฮอร์โมนพลุ่งพล่าน ก็ไม่ยากเลยที่เขาและเธอจะมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้ง มันเป็นเรื่องปกติที่คู่รักคู่ไหนก็ทำกันทั้งนั้น และเขาก็ติดใจกับสัมผัสของความใคร่นั้นเสียด้วย ถ้าเป็นไปได้ เขาอยากจะอยู่บนเตียงกับเธอทั้งวันทั้งคืนไม่ต้องลุกไปไหนเลยทีเดียว
แต่ความรู้สึกติดใจในเพศรสที่เขามีกับเบลลา ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาพร้อมที่จะถูกผูกติดกับเธอไปจนชั่วชีวิต เขายังเด็ก ยังมีอะไรอีกมากมายบนโลกอันกว้างใหญ่ใบนี้ที่จะให้เขาค้นหาและสนุกสนานไปกับมัน ไม่ใช่การถูกผูกติดอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่งด้วยคำว่าหมั้นหรือการแต่งงาน แม้เขาจะชอบเธอมาก ติดใจในรสสัมผัสทางกายกับเธอมาก แต่มันก็ไม่ได้มากพอที่จะให้เขาหยุดความสนุกสนานของชีวิตที่เขายังไม่มีโอกาสลิ้มลองลงที่เธอ และเมื่ออิสซาเบลลาเสนอความคิดเรื่องการหมั้นหมายเพื่อผูกมัดเขาและเธอไว้ด้วยกันในขณะที่ต้องแยกย้ายกันไปเรียนหนังสือคนละมุมโลก เขาจึงคิดว่าเป็นความคิดที่บ้าบอที่สุด ยิ่งบิดาของเขาเห็นดีเห็นงามด้วยแล้ว ยิ่งช่วยไม่ได้เลยที่เขาจะต่อต้านความคิดนั้นอย่างรุนแรง และทำในสิ่งที่เขาทำ สิ่งซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความเลวร้ายที่เกิดขึ้น และส่งผลต่อความเป็นเขา ความเป็นมาร์โค ลอมบาร์ดี มาจนถึงตอนนี้
ชายหนุ่มถอนหายใจยืดยาวอีกครั้ง เขาเคยสงสัย หากไม่เกิดเรื่องนั้นขึ้น ความสัมพันธ์ของเขาและอิสซาเบลลาจะดำเนินไปอย่างไร อาจจะเลิกลากันไปหลังจากที่คบหากันมาระยะหนึ่งอย่างคู่รักวัยรุ่นส่วนใหญ่ หรืออาจจะคบหากันยาวนานจนจบลงที่การแต่งงานอย่างอีกหลายคู่ที่แม้อาจจะเป็นส่วนน้อยแต่ก็มีให้เห็นอยู่บ้างก็ได้ และเขาคงจะไม่ได้รู้จักและรักกับไลลา..
เมื่อนึกถึงไลลา ชายหนุ่มก็หันมองเจ้าของชื่อที่กำลังนอนหลับตาพริ้มอย่างไม่ได้รับรู้ถึงความคิดอันวุ่นวายในใจของเขาเลย
“ผมรักคุณไลลา ผมจะไม่ให้คุณต้องยุ่งยากลำบากใจกับอดีตของผมเลย ผมจะทำทุกอย่างที่จะปกป้องคุณให้ห่างจากผลของความเลวร้ายที่ผมเคยทำในอดีต ผมสัญญาจะรักษาหัวใจของผมให้ดีที่สุด” พึมพำเบา ๆ กับคนที่กำลังหลับสนิท ก่อนจะค่อยๆจุมพิตหน้าผากมนแผ่วเบา และล้มตัวลงนอนเคียงและดึงร่างบางเข้ามาแนบชิด การมีหญิงสาวนอนแนบกายทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเข้มแข็งมากกว่าที่เคยเป็นมา เขารู้สึกว่าหากจะต้องต่อสู้กับฝันร้ายที่เขาเคยพ่ายแพ้ไม่เป็นท่า ความรู้สึกอบอุ่นที่ส่งมาจากร่างแบบบางที่นอนอยู่แนบชิด จะช่วยให้เขารู้สึกเข้มแข็งมากขึ้น จนอาจจะมีโอกาสเอาชนะฝันร้ายเหล่านั้นได้ โดยไม่จำเป็นต้องกลับไปหาหมออีกครั้งอย่างที่เขากริ่งเกรง
“เดี๋ยวเราจะค้างคืนคืนแรกที่จูเรียนเบย์นะครับ” มาร์โคบอกกับหญิงสาวที่กำลังเปิดแผนที่จากเวบไซต์ เพื่อมองหาสถานที่ท่องเที่ยวทางเหนือที่ชายหนุ่มบอกว่าจะพาเธอไปเยือน และพบว่าจูเรียนเบย์ ตั้งอยู่บนชายฝั่งขึ้นไปทางเหนือของเพิร์ธราวสองชั่วโมงครึ่งเท่านั้น
“เลยจากนั้นก็จะเป็นเอาท์แบค[1]แล้ว ผมเลยคิดว่าค้างที่จูเรียนเบย์ส่งท้ายความศิวิไลซ์เสียหน่อย” ชายหนุ่มพูดยิ้มๆ
“งั้นฉันจองโรงแรมเลยนะคะ กี่คืนดี”
“ไม่เป็นไรครับ ผมจัดการเรียบร้อยแล้ว” เมื่อชายหนุ่มบอกเช่นนั้น ไลลาจึงละสายตาจากหน้าจอเพื่อเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางที่วางอ้าอยู่บนเตียง
“เราจะขับรถแวะเที่ยวไปเรื่อยๆ กะให้ค่ำที่จูเรียนเบย์พอดี ช่วงเส้นทางขึ้นเหนือไปจนถึงจูเรียนเบย์นี่จะมีชายหาดและสถานที่ท่องเที่ยวให้แวะเรื่อยๆครับ แต่หลังจากนั้นไปแล้วต้องขับรถยาวกว่าจะถึงสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่ หรือเมืองแต่ละเมือง” ชายหนุ่มอธิบาย
“กันดารมากเหรอคะทางเหนือของดับเบิลยูเอ” หญิงสาวถาม เธอไม่เคยมาทางฝั่งตะวันตก และนึกไม่ออกว่าทางตอนเหนือของรัฐจะทุรกันดารได้มากแค่ไหน
“ค่อนข้างมากครับ แห้งแล้ง เมืองแต่ละเมืองอยู่ห่างกันมาก พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นเหมือง แต่ชายหาดสวยมากนะครับไลลา ชายทะเลฝั่งนี้สวยจนอาจจะทำให้คุณลืมหายใจทีเดียว เสียอย่างเดียว..” หยุดพูด ใบหน้ายิ้มพราย
“อะไรคะ”
“ฉลามชุมไปหน่อย” ตอบแล้วก็ต้องหัวเราะอย่างถูกใจเมื่อเห็นหน้าแสดงอารมณ์สยดสยองของหญิงสาว
“อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิครับไลลา ฉลามก็อยู่ส่วนฉลาม เราไม่ไปยุ่งกับมัน มันก็ไม่มายุ่งกับเรา อาจจะแวะมาใกล้ชายหาดที่คนว่ายน้ำอยู่บ้าง แต่ก็ไม่บ่อยหรอกครับ”
“แล้วเราจะโชคร้ายได้รับการทักทายจากฉลามหรือเปล่าล่ะคะ” หญิงสาวถาม เริ่มไม่แน่ใจว่าการไปเที่ยวชายทะเลทางเหนือของรัฐจะเป็นความคิดที่ดี
“ส่วนใหญ่คนที่ถูกฉลามทำร้ายคืออยู่ในน้ำลึกครับไลลา ถ้าอยู่ใกล้ฝั่ง หากไม่ดวงซวยจริง ๆ ก็ไม่เจอฉลามหรอกครับ” ชายหนุ่มพูดยิ้ม ๆ ท่าทางไม่ได้เดือดร้อนว่าจะไปพบเจอกับฉลามอย่างที่หญิงสาวกำลังรู้สึกอยู่
เมื่อเห็นสีหน้าหญิงสาวยังไม่คลายใจ มาร์โคจึงเดินตรงไปทรุดตัวลงนั่งบนเตียงข้าง ๆ หญิงสาว สองมือใหญ่จับไหล่หญิงสาวให้หันมาเผชิญหน้ากับเขา หน่วยตาคมจ้องเข้าไปในดวงตาสีฟ้าสด ถามเสียงนุ่ม
“คิดจริง ๆ เหรอว่าผมจะพาคุณไปเที่ยวในที่ที่อาจจะมีอันตรายกับคุณ หืม” ตั้งใจว่าจะพูดเพียงแค่นั้น แต่เมื่อใบหน้าเรียวอยู่ตรงหน้า ริมฝีปากบางก็อยู่ใกล้แค่นี้ ทำให้อดไม่ได้ที่จะโน้มใบหน้าเข้าหา ยิ่งเมื่อเจ้าของริมฝีปากตอบสนองสัมผัสแผ่วเบาของเขา ยิ่งทำให้การถอนริมฝีปากออกเป็นเรื่องยาก จึงแลกสัมผัสดูดดื่มกับริมฝีปากบางอย่างยาวนาน จนพออกพอใจนู่นล่ะ จึงยอมถอนริมฝีปากออกอย่างเสียดาย
“ถ้าไม่หยุดสงสัยจะไม่ได้ไปเที่ยว” ชายหนุ่มพูดยิ้ม ๆ นัยน์ตาฉ่ำหวานเต็มไปด้วยเพลิงปรารถนา ไลลาหน้าร้อนวูบ หลบสายตาแรงกล้าตรงหน้าอย่างเขินอาย
“ไปกันเถอะค่ะ ฉันจัดกระเป๋าเสร็จแล้ว” พูดเสียงเบาขณะยังคงก้มหน้างุด เพราะไม่กล้าสบตากับประกายตาคมของเขาเลยจริง ๆ
มาร์โคเลือกใช้เส้นทางเลียบชายฝั่งโดยแวะรับประทานอาหารเช้าที่ ‘ฮิลลารีส์ โบท ฮาร์เบอร์’ ซึ่งเป็นท่าเทียบเรือยอร์ช มีสมาคมเรือยอร์ช อุทยานสัตว์น้ำ ชายหาดที่กว้างใหญ่มองเห็นผืนทรายขาวสะอาดทอดยาวสุดลูกหูลูกตา และร้านอาหารให้บริการมากมาย ทั้งสองเลือกรับประทานอาหารเช้าที่ร้านอาหารอิตาเลียนบริเวณท่าเรือ ก่อนที่จะเดินทางต่อไปทางเหนือ โดยมีจุดหมายอยู่ที่แลนเซลิน
แลนเซลินเป็นเมืองชายหาดเล็ก ๆ ตั้งอยู่ทางเหนือของเพิร์ธโดยใช้เวลาขับรถราวหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ชายหนุ่มใช้ถนนอินเดียนโอเชียนไดรฟ์ซึ่งทอดยาวไปตามชายฝั่งมหาสมุทรอินเดียสมชื่อ ก่อนที่จะเลี้ยวเข้าทางแยกอันนำไปสู่เมืองแลนเซลิน
ภาพตรงหน้าหลังจากที่ชายหนุ่มนำรถไปจอดยังลานจอดรถที่ทางเมืองทำไว้บริการแก่ผู้มาเยือน เป็นภาพชายหาดกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ทรายขาวราวกับแป้ง จรดกับผืนน้ำสีครามเจิดจ้า ยิ่งแดดออกจัดจ้ายิ่งทำให้น้ำทะเลสีครามสดใสน่าลงไปแหวกว่าย หากมาร์โคกลับจูงมือคนตัวบางเดินตรงไปยังคาเฟ่ที่ตั้งอยู่ริมหาด
“กินกาแฟกันก่อน” ชายหนุ่มว่า ซึ่งไลลาก็ไม่คิดที่จะปฏิเสธ เพราะกาแฟกับหญิงสาวเป็นของคู่กันที่ไม่สามารถจะจับแยกจากกันได้ จนกระทั่งเสร็จเรียบร้อยจากกาแฟ ชายหนุ่มก็พาหญิงสาวขับรถไปอีกฝั่งของเมือง