อุ่นไอรัก
ด้วยไออุ่นแห่งรัก หัวใจที่เคยกระด้างเย็นชา จึงอบอุ่นและนุ่มนวล
มาร์โค ลอมบาร์ดี ฉากหน้าเขาคือผู้จัดการไร่หนุ่มผู้เงียบขรึมและไม่สนใจหญิงใด จนได้ฉายานักพรต เพราะวันๆก็อยู่แต่กับต้นองุ่นและสัตว์ในไร่ หากฉากหลังเขาคือเพลย์บอยผู้กลัวความสัมพันธ์จริงจังและการผูกมัด ไม่เชื่อในเรื่องความรักและการมีความสัมพันธ์ที่จริงจังกับคนเพียงคนเดียว และมีความสุขกับการมีสัมพันธ์ทางกายกับผู้หญิงสวยเซ็กซี่ แต่วันหนึ่ง เขากลับรู้สึกพิเศษกับผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่ง ซึ่งไม่ใกล้เคียงกับผู้หญิงในสเป๊คของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
ชายหนุ่มจะทำอย่างไร เมื่อหัวใจเริ่มไม่ไปทางเดียวกันกับสมอง หัวใจที่เคยเย็นชาและแข็งกระด้าง กลับเริ่มอ่อนโยนและอบอุ่น เพียงเพราะไออุ่นแห่งรักที่เขาเริ่มรู้จัก
มาติดตามการเดินทางของความรักของเพลย์บอยหนุ่มที่ไม่เคยเชื่อในความรักหากแต่กลับตกหลุมรักเสียเองกันนะคะ
เรื่องในซีรียส์เดียวกัน บ่มไวน์ใส่รัก
http://pantip.com/topic/30777946
บทก่อนหน้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้บทที่ ๑ http://pantip.com/topic/30935459
บทที่ ๒ http://pantip.com/topic/30940219
บทที่ ๓ http://pantip.com/topic/30942490
บทที่ ๔ http://pantip.com/topic/30944733
บทที่ ๕ http://pantip.com/topic/30948641
บทที่ ๖ http://pantip.com/topic/30951508
บทที่ ๗ http://pantip.com/topic/30953842
บทที่ ๘ http://pantip.com/topic/30957026
บทที่ ๙ http://pantip.com/topic/30961011
บทที่ ๑๐ http://pantip.com/topic/30965169
บทที่ ๑๑ http://pantip.com/topic/30970248
บทที่ ๑๒ http://pantip.com/topic/30974437
บทที่ ๑๓ http://pantip.com/topic/30978913
บทที่ ๑๔ http://pantip.com/topic/30983528
บทที่ ๑๕ http://pantip.com/topic/30987494
บทที่ ๑๖ http://pantip.com/topic/30991832
บทที่ ๑๗ http://pantip.com/topic/30996787
บทที่ ๑๘ http://pantip.com/topic/31006766
บทที่ ๑๙ http://pantip.com/topic/31018988
บทที่ ๒๐ http://pantip.com/topic/31028191
บทที่ ๒๑ http://pantip.com/topic/31037680
บทที่ ๒๒ http://pantip.com/topic/31043536
บทที่ ๒๓ http://pantip.com/topic/31047877
บทที่ ๒๔ http://pantip.com/topic/31052605
อุ่นไอรัก บทที่ ๒๕
สองหนุ่มสาวแขกของคอร์เนลลี่ตื่นมาค่อนข้างสาย แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะตอนนี้เขาและเธอกำลังอยู่ในช่วงวันหยุดพักผ่อน และวันนี้ก็มีธุระเพียงแค่ไปส่งสามีภรรยาเจ้าของคอร์เนลลี่ที่สนามบินในตอนก่อนเที่ยง เพื่อเดินทางไปดูแลไร่ที่ดาร์ลิงดาวน์สเท่านั้น
หลังจากเสร็จธุระที่สนามบิน มาร์โคก็หันมาบอกคนบนเบาะผู้โดยสารข้างคนขับ
“เดี๋ยวผมจะพาเที่ยวสวอนวัลเลย์”
“ตามใจของเจ้าบ้านเลยค่ะ” ไลลาตอบยิ้มๆ ตาเป็นประกาย นี่เป็นครั้งแรกที่เธอมีโอกาสมาเที่ยวทางฝั่งตะวันตก ทำให้รู้สึกตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย
“เดี๋ยวออกจากสนามบินแล้วผมจะใช้ถนนกิลด์เฟิร์ด เราจะได้เริ่มต้นที่กิลด์เฟิร์ดกันเลย”
“กิลด์เฟิร์ดมีอะไรน่าสนใจเหรอคะ”
“กิลด์เฟิร์ดเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางการค้าขายในช่วงก่อตั้งรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ตัวเมืองเพิร์ธจะเป็นศูนย์กลางการเมืองการปกครอง เมืองฟรีแมนเทิลเป็นเมืองท่า แล้วก็กิลด์เฟิร์ดเป็นตลาดแลกเปลี่ยนสินค้า คุณจะสังเกตเห็นบ้านเรือนจะเป็นลักษณะสถาปัตยกรรมแบบอาณานิคมอยู่ทั่วไป ตึกบางตึก บ้านบางหลังจะถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรม นอกจากนี้กิลด์เฟิร์ดยังเป็นประตูสู่สวอนวัลเลย์ด้วย ผมเลยจะพาคุณเที่ยวตั้งแต่ประตูเลยไง” ชายหนุ่มอธิบายยิ้มๆ และเพียงขับรถออกจากสนามบินภายในประเทศไม่กี่นาที มาร์โคก็ให้สัญญาณเลี้ยวรถออกจากทางหลวงเพื่อเลี้ยวเข้าถนนกิลด์เฟิร์ดอย่างที่บอกหญิงสาว
ถนนกิลด์เฟิร์ดเป็นถนนขนาดสองเลนที่ทอดยาวจากตัวเมืองเพิร์ธตรงสู่เมืองกิลด์เฟิร์ด ชายหนุ่มขับรถไปเรื่อยๆจนถึงสถานีรถไฟกิลด์เฟิร์ดก็เลี้ยวเข้าไปจอดยังลานจอดรถของสถานีรถไฟ และพาหญิงสาวเดินข้ามถนนไปอีกฝั่ง
ฝั่งตรงข้ามสถานีรถไฟเป็นร้านค้าที่ตั้งเรียงราย โดยส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายสินค้าที่ให้ความรู้สึกของตลาดในยุคอาณานิคม สินค้าที่ขายจะเป็นสินค้าตกแต่งบ้านแบบแอนทีค ร้านขายเสื้อผ้า และมีคาเฟ่ที่ขายอาหารเช้าและกาแฟสำหรับคนเดินทาง มาร์โคหันไปมองคนที่เดินเคียงมาเงียบๆพลางอมยิ้ม ก่อนจะจูงมือพาหญิงสาวเข้าไปนั่งที่โต๊ะหน้าร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ไลลาเงยหน้าขึ้นยิ้มให้คนที่ช่างรู้ใจเธอโดยไม่ต้องเอ่ยปาก
มาร์โคสั่งคัปปูชิโน่สองถ้วย ก่อนจะถามหญิงสาว
“เอาอะไรรองท้องก่อนไหมครับ แล้วไปกินกลางวันอีกที”
“ไม่ดีกว่าค่ะมาร์โค ยังอิ่มจากอาหารเช้าอยู่เลย” ไลลาตอบ คนได้ฟังถึงกับส่ายศีรษะ เขารู้ว่าหญิงสาวไม่ค่อยรับประทานอะไรจริงจัง แต่จะเถียงเธอก็ไม่ได้ เพราะทั้งสองเพิ่งรับประทานอาหารเช้าไปไม่นานนี่เอง จึงยอมตามใจเธอ ดื่มเพียงกาแฟคนละถ้วยก่อนที่จะเริ่มเที่ยวชมสวอนวัลเลย์อย่างที่ตกลงกันไว้
หลังจัดการกับกาแฟเรียบร้อย มาร์โคพาหญิงสาวกลับไปที่รถ จากนั้นพาเธอขับรถขึ้นไปบนถนนที่เขาบอกเธอว่า
“ถนนเวสต์สวอน เป็นถนนที่ตัดผ่านกลางสวอนวัลเลย์ สองข้างทางของถนนเส้นนี้จะเป็นไร่องุ่นและโรงงานไวน์ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ โรงงานช็อคโกแลต และโรงเบียร์ เป็นสวรรค์ของนักดื่มกินเชียวล่ะ”
“คอร์เนลลี่อยู่ตรงไหนคะ” ไลลาถาม หากถนนเส้นนี้เป็นถนนผ่านกลางสวอนวัลเลย์ คอร์เนลลี่ก็น่าจะอยู่ไม่ไกล แต่เพราะไม่คุ้นเคยกับสถานที่ และชายหนุ่มก็พาเธอเดินทางมาอีกด้าน คนละด้านกับที่ราฟาเอลพากลับไปจากสนามบินเมื่อวานนี้ ทำให้หญิงสาวหลงทิศทาง จนไม่รู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน มาร์โคอดยิ้มด้วยความเอ็นดูไม่ได้เมื่อได้ยินคำถามจากหญิงสาว หากแต่ไม่ตอบว่าอะไร จนกระทั่งมองเห็นป้ายที่ติดอยู่ข้างทางจึงชี้ให้หญิงสาวดู
บนป้ายข้างทางที่มีหลายๆป้ายซ้อนกันอยู่ ป้ายอันหนึ่งเขียนว่า Cornelli Estate หลังชื่อมีลูกศรพร้อมตัวเลข 300m กำกับอยู่ ทำให้ทราบว่า เลี้ยวออกจากถนนเส้นนี้ไปตามลูกศรในป้ายเป็นระยะทาง 300 คือที่ตั้งของคอร์เนลลี่เอสเตท
“จริงๆคอร์เนลลี่อยู่ต้นๆถนนเลย” ชายหนุ่มบอก
“แต่เดี๋ยวผมจะพาคุณไปกินกลางวันที่โรงเบียร์ เขามีร้านอาหารเยอรมันที่มีไส้กรอกอร่อยทีเดียว คุณต้องชอบแน่ ว่าแต่คุณอยากจะเข้าไปชิมไวน์หรือเปล่า มันเป็นกิจกรรมที่คนที่มาเที่ยวสวอนวัลเลย์เขาทำกัน”
“แหม ไหนๆก็มาในฐานะนักท่องเที่ยวแล้ว ก็ขอทำอย่างนักท่องเที่ยวอื่นๆบ้างสิคะ” หญิงสาวพูดอย่างอารมณ์ดี มาร์โคจึงพาเธอขับรถเลี้ยวเข้าไปในไวเนอรี่แห่งแรกที่ผ่าน เพื่อกิจกรรมชิมไวน์อย่างที่หญิงสาวร้องขอ
ไวเนอรี่แห่งแรกที่ทั้งสองแวะเข้าไปมีนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งแต่ก็ไม่เบียดเสียดมากนัก มาร์โคพาไลลาไปยืนรอรับบริการจากพนักงานหน้าเคาน์เตอร์ และเมื่อพนักงานมาให้บริการกับทั้งสอง ชายหนุ่มและหญิงสาวก็ชิมไวน์สารพัดที่มีในไวเนอรี่แห่งนั้น และซื้อไวน์แดงและขาวอย่างละสองขวดสำหรับอาหารเย็นที่บ้านของบิดามารดาของชายหนุ่มคืนนี้
จากไวเนอรี่แห่งแรก มาร์โคพาหญิงสาวเข้าออกไวเนอรี่อีกหลายแห่งจนมาถึงโรงเบียร์ที่เขาพูดถึง และเมื่อดูเวลาแล้วพบว่าเป็นเวลาบ่ายโมงนิดๆ ชายหนุ่มจึงชวนคนที่ทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวแวะรับประทานอาหารกลางวัน ก่อนที่จะเริ่มกิจกรรมอย่างนักท่องเที่ยวต่อไป
โรงเบียร์แห่งนี้เป็นหนึ่งในโรงเบียร์หลายแห่งที่ตั้งอยู่ในสวอนวัลเลย์ ซึ่งมาร์โคในฐานะเจ้าถิ่นบอกว่าเป็นโรงเบียร์ที่ควรจะได้ต้อนรับพวกเขามากที่สุด เพราะมีร้านอาหารเยอรมันที่ขายไส้กรอกเยอรมันรสดีเหมาะกับการแกล้มเบียร์สดๆ
“ให้เจ้าบ้านสั่งนะคะ” ไลลาบอกเมื่อทั้งสองนั่งลงที่โต๊ะเรียบร้อย มาร์โคยิ้มรับอย่างยินดี ชายหนุ่มสั่งจานไส้กรอกรวมซึ่งมีไส้กรอกทั้งหมดหกชนิดเสิร์ฟมาพร้อมกับมันบดสูตรเฉพาะของที่ร้านและมัสตาร์ดเยอรมัน เบียร์ที่ดีที่สุดของโรงเบียร์อีกสามชนิด ซึ่งเป็นเซทสำหรับรับประทานสองคนพอดี ไลลารับประทานอย่างเอร็ดอร่อยซึ่งทำให้เจ้าถิ่นถึงกับยิ้มอย่างพอใจ
“บอกแล้วว่าคุณจะต้องชอบ”
“ไส้กรอกเขาอร่อยจริงๆค่ะ มันบดก็อร่อย รสชาติกลมกล่อม หอม มัน” หญิงสาวชื่นชมอาหารไม่ขาดปาก รสนิยมในการรับประทานอาหารของมาร์โคเป็นที่ถูกใจของเธอจริงๆ ทุกครั้งไม่ว่าเขาจะพาเธอไปรับประทานอาหารที่ไหน ไลลาเป็นต้องรับประทานอย่างเอร็ดอร่อยไปเสียทุกคราว แม้แต่เวลาที่เขาลงมือทำอาหารเอง เธอก็รู้สึกว่ารสมือเขาช่างถูกปากเธอเหลือเกิน
“มาร์โคคะ เดี๋ยวหลังจากนี้ฉันขับรถให้นะคะ คุณจะได้ดื่มได้” หญิงสาวเสนอ เธออยากให้มาร์โคสนุกกับการดื่มกินเหมือนๆกับเธอ และหากว่าเขาจะต้องกังวลกับการขับรถจึงไม่สามารถดื่มได้อย่างที่ใจต้องการ เธอก็อยากจะช่วยขับรถให้เขา ตอบแทนที่เขาพาเธอมารับประทานอาหารอร่อยๆและดื่มเครื่องดื่มรสชาติดี
“ไม่รบกวนคุณเหรอครับไลลา” ชายหนุ่มถามอย่างไม่แน่ใจ เขาอยากดื่มนั่นใช่ล่ะ แต่คงไม่ดีแน่หากจะขอให้ไลลาขับรถเพื่อที่เขาจะได้ดื่มได้อย่างที่ต้องการ
“ไม่เลยค่ะมาร์โค ฉันชิมไวน์มาเยอะแล้ว ตอนนี้เป็นตาคุณดื่มบ้างสิคะ” หญิงสาวพูดอย่างจริงใจ มาร์โคยื่นมือกุมมือบางพลางกล่าวขอบคุณเสียงนุ่ม
“ขอบคุณครับไลลา”
หลังจากเสร็จจากอาหารกลางวัน มาร์โคนั่งดื่มเบียร์ต่ออีกพักใหญ่ ในขณะที่ไลลาขอน้ำเปล่าเพื่อจะได้ขับรถให้ชายหนุ่มได้ จนเวลาเริ่มบ่ายคล้อย สองหนุ่มสาวก็เห็นตรงกันว่าควรจะเริ่มไปสถานที่ใหม่กันเสียที
“หลังจากนี้เป็นสถานที่ที่ปราศจากแอลกอฮอล์นะครับ” มาร์โคบอกยิ้มๆ ก่อนจะบอกทางให้คนที่ทำหน้าที่คนขับ
“เลยจากตรงนี้ไปหน่อย ด้านขวามือ จะเป็นโรงงานช็อคโกแลต” ชายหนุ่มบอก และเพียงขับรถไปราวห้าร้อยเมตร ไลลาก็มองเห็นป้ายเขียนว่า โรงงานช็อคโกแลตมาการ์เร็ตริเวอร์ ซึ่งอยู่ทางด้านขวามือ หญิงสาวจึงเปิดสัญญาณไฟเพื่อเลี้ยวข้ามไปอีกฝั่งของถนน
เมื่อจอดรถที่ลานจอดรถหน้าร้านได้ มาร์โคก็คว้ามือคนขับรถพาเดินเข้าไปในร้าน ซึ่งได้รับการต้อนรับจากชามอ่างใบใหญ่บรรจุช็อคโกแล็ตให้ชิมฟรีสามใบอันประกอบไปด้วยดาร์คช็อคโกแลต มิลค์ช็อคโกแลต และไวท์ช็อคแลต ซึ่งเมื่อทดลองชิมแล้วคนห่วงอ้วนอย่างไลลายังต้องยอมแพ้ให้กับรสชาติอร่อยล้ำของช็อคโกแลตในชามอ่าง ต้องขอชิมอีกเป็นรอบที่สอง ก่อนที่จะเดินไปดูช็อคโกแลตในชั้นที่วางขายและเลือกซื้อช็อคโกแลตแบบสอดไส้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ข้างในไปฝากบิดามารดาของชายหนุ่ม
“โรงงานแห่งแรกอยู่ที่มาร์กาเร็ต ริเวอร์ ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเพิร์ธ นี่เป็นโรงงานสาขา แต่ช็อคโกแลตก็เป็นสูตรเดียวกัน” ชายหนุ่มบอก ก่อนจะกล่าวต่อ
“โดยส่วนใหญ่คนที่มาเที่ยวเพิร์ธก็จะไปมาร์กาเร็ต ริเวอร์กัน ซึ่งผมเห็นว่ามันคล้ายๆกับสวอนวัลเลย์ มีอะไรๆทั้งหมดเหมือนกับที่นี่ ก็เลยตั้งใจจะพาคุณขึ้นเหนือ ไปดูทะเลทรายดีกว่า”
“ทะเลทรายเหรอคะ” ไลลาทำน้ำเสียงประหลาดใจจนมาร์โคต้องหัวเราะ
“ทะเลทรายด้วย ทะเลด้วย ผมไม่พาคุณเข้าไปที่กันดารขนาดนั้นหรอกน่า”
“ฉันคิดว่าทะเลทรายจะอยู่แต่ในตรงกลางประเทศ ไม่คิดว่าจะมีทะเลทรายใกล้ๆเพิร์ธด้วย”
“ครับ ขึ้นเหนือไปประมาณสามชั่วโมง สวย ประหลาด และมหัศจรรย์ดี” ชายหนุ่มพูดเหมือนโฆษณาจนไลลาอดยิ้มไม่ได้
หลังจากโรงงานช็อคโกแลตก็มาถึงจุดหมายสุดท้ายของการท่องเที่ยววันนี้ ซึ่งมาร์โคเก็บไว้เป็นไฮไลท์ของวันสำหรับหญิงสาวเลยทีเดียว
“ขับรถไปราวสามร้อยเมตร จะเห็นทางเข้าด้านซ้ายมือ เลี้ยวเข้าไปเลยนะครับ” มาร์โคบอกคนขับรถ ซึ่งหญิงสาวก็ทำตามอย่างว่าง่าย และต้องเบิกตาโตด้วยความตื่นเต้นเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มพาเธอเข้าไปที่ใด
อุ่นไอรัก บทที่ ๒๕
มาร์โค ลอมบาร์ดี ฉากหน้าเขาคือผู้จัดการไร่หนุ่มผู้เงียบขรึมและไม่สนใจหญิงใด จนได้ฉายานักพรต เพราะวันๆก็อยู่แต่กับต้นองุ่นและสัตว์ในไร่ หากฉากหลังเขาคือเพลย์บอยผู้กลัวความสัมพันธ์จริงจังและการผูกมัด ไม่เชื่อในเรื่องความรักและการมีความสัมพันธ์ที่จริงจังกับคนเพียงคนเดียว และมีความสุขกับการมีสัมพันธ์ทางกายกับผู้หญิงสวยเซ็กซี่ แต่วันหนึ่ง เขากลับรู้สึกพิเศษกับผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่ง ซึ่งไม่ใกล้เคียงกับผู้หญิงในสเป๊คของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
ชายหนุ่มจะทำอย่างไร เมื่อหัวใจเริ่มไม่ไปทางเดียวกันกับสมอง หัวใจที่เคยเย็นชาและแข็งกระด้าง กลับเริ่มอ่อนโยนและอบอุ่น เพียงเพราะไออุ่นแห่งรักที่เขาเริ่มรู้จัก
มาติดตามการเดินทางของความรักของเพลย์บอยหนุ่มที่ไม่เคยเชื่อในความรักหากแต่กลับตกหลุมรักเสียเองกันนะคะ
เรื่องในซีรียส์เดียวกัน บ่มไวน์ใส่รัก http://pantip.com/topic/30777946
บทก่อนหน้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สองหนุ่มสาวแขกของคอร์เนลลี่ตื่นมาค่อนข้างสาย แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะตอนนี้เขาและเธอกำลังอยู่ในช่วงวันหยุดพักผ่อน และวันนี้ก็มีธุระเพียงแค่ไปส่งสามีภรรยาเจ้าของคอร์เนลลี่ที่สนามบินในตอนก่อนเที่ยง เพื่อเดินทางไปดูแลไร่ที่ดาร์ลิงดาวน์สเท่านั้น
หลังจากเสร็จธุระที่สนามบิน มาร์โคก็หันมาบอกคนบนเบาะผู้โดยสารข้างคนขับ
“เดี๋ยวผมจะพาเที่ยวสวอนวัลเลย์”
“ตามใจของเจ้าบ้านเลยค่ะ” ไลลาตอบยิ้มๆ ตาเป็นประกาย นี่เป็นครั้งแรกที่เธอมีโอกาสมาเที่ยวทางฝั่งตะวันตก ทำให้รู้สึกตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย
“เดี๋ยวออกจากสนามบินแล้วผมจะใช้ถนนกิลด์เฟิร์ด เราจะได้เริ่มต้นที่กิลด์เฟิร์ดกันเลย”
“กิลด์เฟิร์ดมีอะไรน่าสนใจเหรอคะ”
“กิลด์เฟิร์ดเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางการค้าขายในช่วงก่อตั้งรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ตัวเมืองเพิร์ธจะเป็นศูนย์กลางการเมืองการปกครอง เมืองฟรีแมนเทิลเป็นเมืองท่า แล้วก็กิลด์เฟิร์ดเป็นตลาดแลกเปลี่ยนสินค้า คุณจะสังเกตเห็นบ้านเรือนจะเป็นลักษณะสถาปัตยกรรมแบบอาณานิคมอยู่ทั่วไป ตึกบางตึก บ้านบางหลังจะถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรม นอกจากนี้กิลด์เฟิร์ดยังเป็นประตูสู่สวอนวัลเลย์ด้วย ผมเลยจะพาคุณเที่ยวตั้งแต่ประตูเลยไง” ชายหนุ่มอธิบายยิ้มๆ และเพียงขับรถออกจากสนามบินภายในประเทศไม่กี่นาที มาร์โคก็ให้สัญญาณเลี้ยวรถออกจากทางหลวงเพื่อเลี้ยวเข้าถนนกิลด์เฟิร์ดอย่างที่บอกหญิงสาว
ถนนกิลด์เฟิร์ดเป็นถนนขนาดสองเลนที่ทอดยาวจากตัวเมืองเพิร์ธตรงสู่เมืองกิลด์เฟิร์ด ชายหนุ่มขับรถไปเรื่อยๆจนถึงสถานีรถไฟกิลด์เฟิร์ดก็เลี้ยวเข้าไปจอดยังลานจอดรถของสถานีรถไฟ และพาหญิงสาวเดินข้ามถนนไปอีกฝั่ง
ฝั่งตรงข้ามสถานีรถไฟเป็นร้านค้าที่ตั้งเรียงราย โดยส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายสินค้าที่ให้ความรู้สึกของตลาดในยุคอาณานิคม สินค้าที่ขายจะเป็นสินค้าตกแต่งบ้านแบบแอนทีค ร้านขายเสื้อผ้า และมีคาเฟ่ที่ขายอาหารเช้าและกาแฟสำหรับคนเดินทาง มาร์โคหันไปมองคนที่เดินเคียงมาเงียบๆพลางอมยิ้ม ก่อนจะจูงมือพาหญิงสาวเข้าไปนั่งที่โต๊ะหน้าร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ไลลาเงยหน้าขึ้นยิ้มให้คนที่ช่างรู้ใจเธอโดยไม่ต้องเอ่ยปาก
มาร์โคสั่งคัปปูชิโน่สองถ้วย ก่อนจะถามหญิงสาว
“เอาอะไรรองท้องก่อนไหมครับ แล้วไปกินกลางวันอีกที”
“ไม่ดีกว่าค่ะมาร์โค ยังอิ่มจากอาหารเช้าอยู่เลย” ไลลาตอบ คนได้ฟังถึงกับส่ายศีรษะ เขารู้ว่าหญิงสาวไม่ค่อยรับประทานอะไรจริงจัง แต่จะเถียงเธอก็ไม่ได้ เพราะทั้งสองเพิ่งรับประทานอาหารเช้าไปไม่นานนี่เอง จึงยอมตามใจเธอ ดื่มเพียงกาแฟคนละถ้วยก่อนที่จะเริ่มเที่ยวชมสวอนวัลเลย์อย่างที่ตกลงกันไว้
หลังจัดการกับกาแฟเรียบร้อย มาร์โคพาหญิงสาวกลับไปที่รถ จากนั้นพาเธอขับรถขึ้นไปบนถนนที่เขาบอกเธอว่า
“ถนนเวสต์สวอน เป็นถนนที่ตัดผ่านกลางสวอนวัลเลย์ สองข้างทางของถนนเส้นนี้จะเป็นไร่องุ่นและโรงงานไวน์ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ โรงงานช็อคโกแลต และโรงเบียร์ เป็นสวรรค์ของนักดื่มกินเชียวล่ะ”
“คอร์เนลลี่อยู่ตรงไหนคะ” ไลลาถาม หากถนนเส้นนี้เป็นถนนผ่านกลางสวอนวัลเลย์ คอร์เนลลี่ก็น่าจะอยู่ไม่ไกล แต่เพราะไม่คุ้นเคยกับสถานที่ และชายหนุ่มก็พาเธอเดินทางมาอีกด้าน คนละด้านกับที่ราฟาเอลพากลับไปจากสนามบินเมื่อวานนี้ ทำให้หญิงสาวหลงทิศทาง จนไม่รู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน มาร์โคอดยิ้มด้วยความเอ็นดูไม่ได้เมื่อได้ยินคำถามจากหญิงสาว หากแต่ไม่ตอบว่าอะไร จนกระทั่งมองเห็นป้ายที่ติดอยู่ข้างทางจึงชี้ให้หญิงสาวดู
บนป้ายข้างทางที่มีหลายๆป้ายซ้อนกันอยู่ ป้ายอันหนึ่งเขียนว่า Cornelli Estate หลังชื่อมีลูกศรพร้อมตัวเลข 300m กำกับอยู่ ทำให้ทราบว่า เลี้ยวออกจากถนนเส้นนี้ไปตามลูกศรในป้ายเป็นระยะทาง 300 คือที่ตั้งของคอร์เนลลี่เอสเตท
“จริงๆคอร์เนลลี่อยู่ต้นๆถนนเลย” ชายหนุ่มบอก
“แต่เดี๋ยวผมจะพาคุณไปกินกลางวันที่โรงเบียร์ เขามีร้านอาหารเยอรมันที่มีไส้กรอกอร่อยทีเดียว คุณต้องชอบแน่ ว่าแต่คุณอยากจะเข้าไปชิมไวน์หรือเปล่า มันเป็นกิจกรรมที่คนที่มาเที่ยวสวอนวัลเลย์เขาทำกัน”
“แหม ไหนๆก็มาในฐานะนักท่องเที่ยวแล้ว ก็ขอทำอย่างนักท่องเที่ยวอื่นๆบ้างสิคะ” หญิงสาวพูดอย่างอารมณ์ดี มาร์โคจึงพาเธอขับรถเลี้ยวเข้าไปในไวเนอรี่แห่งแรกที่ผ่าน เพื่อกิจกรรมชิมไวน์อย่างที่หญิงสาวร้องขอ
ไวเนอรี่แห่งแรกที่ทั้งสองแวะเข้าไปมีนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งแต่ก็ไม่เบียดเสียดมากนัก มาร์โคพาไลลาไปยืนรอรับบริการจากพนักงานหน้าเคาน์เตอร์ และเมื่อพนักงานมาให้บริการกับทั้งสอง ชายหนุ่มและหญิงสาวก็ชิมไวน์สารพัดที่มีในไวเนอรี่แห่งนั้น และซื้อไวน์แดงและขาวอย่างละสองขวดสำหรับอาหารเย็นที่บ้านของบิดามารดาของชายหนุ่มคืนนี้
จากไวเนอรี่แห่งแรก มาร์โคพาหญิงสาวเข้าออกไวเนอรี่อีกหลายแห่งจนมาถึงโรงเบียร์ที่เขาพูดถึง และเมื่อดูเวลาแล้วพบว่าเป็นเวลาบ่ายโมงนิดๆ ชายหนุ่มจึงชวนคนที่ทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวแวะรับประทานอาหารกลางวัน ก่อนที่จะเริ่มกิจกรรมอย่างนักท่องเที่ยวต่อไป
โรงเบียร์แห่งนี้เป็นหนึ่งในโรงเบียร์หลายแห่งที่ตั้งอยู่ในสวอนวัลเลย์ ซึ่งมาร์โคในฐานะเจ้าถิ่นบอกว่าเป็นโรงเบียร์ที่ควรจะได้ต้อนรับพวกเขามากที่สุด เพราะมีร้านอาหารเยอรมันที่ขายไส้กรอกเยอรมันรสดีเหมาะกับการแกล้มเบียร์สดๆ
“ให้เจ้าบ้านสั่งนะคะ” ไลลาบอกเมื่อทั้งสองนั่งลงที่โต๊ะเรียบร้อย มาร์โคยิ้มรับอย่างยินดี ชายหนุ่มสั่งจานไส้กรอกรวมซึ่งมีไส้กรอกทั้งหมดหกชนิดเสิร์ฟมาพร้อมกับมันบดสูตรเฉพาะของที่ร้านและมัสตาร์ดเยอรมัน เบียร์ที่ดีที่สุดของโรงเบียร์อีกสามชนิด ซึ่งเป็นเซทสำหรับรับประทานสองคนพอดี ไลลารับประทานอย่างเอร็ดอร่อยซึ่งทำให้เจ้าถิ่นถึงกับยิ้มอย่างพอใจ
“บอกแล้วว่าคุณจะต้องชอบ”
“ไส้กรอกเขาอร่อยจริงๆค่ะ มันบดก็อร่อย รสชาติกลมกล่อม หอม มัน” หญิงสาวชื่นชมอาหารไม่ขาดปาก รสนิยมในการรับประทานอาหารของมาร์โคเป็นที่ถูกใจของเธอจริงๆ ทุกครั้งไม่ว่าเขาจะพาเธอไปรับประทานอาหารที่ไหน ไลลาเป็นต้องรับประทานอย่างเอร็ดอร่อยไปเสียทุกคราว แม้แต่เวลาที่เขาลงมือทำอาหารเอง เธอก็รู้สึกว่ารสมือเขาช่างถูกปากเธอเหลือเกิน
“มาร์โคคะ เดี๋ยวหลังจากนี้ฉันขับรถให้นะคะ คุณจะได้ดื่มได้” หญิงสาวเสนอ เธออยากให้มาร์โคสนุกกับการดื่มกินเหมือนๆกับเธอ และหากว่าเขาจะต้องกังวลกับการขับรถจึงไม่สามารถดื่มได้อย่างที่ใจต้องการ เธอก็อยากจะช่วยขับรถให้เขา ตอบแทนที่เขาพาเธอมารับประทานอาหารอร่อยๆและดื่มเครื่องดื่มรสชาติดี
“ไม่รบกวนคุณเหรอครับไลลา” ชายหนุ่มถามอย่างไม่แน่ใจ เขาอยากดื่มนั่นใช่ล่ะ แต่คงไม่ดีแน่หากจะขอให้ไลลาขับรถเพื่อที่เขาจะได้ดื่มได้อย่างที่ต้องการ
“ไม่เลยค่ะมาร์โค ฉันชิมไวน์มาเยอะแล้ว ตอนนี้เป็นตาคุณดื่มบ้างสิคะ” หญิงสาวพูดอย่างจริงใจ มาร์โคยื่นมือกุมมือบางพลางกล่าวขอบคุณเสียงนุ่ม
“ขอบคุณครับไลลา”
หลังจากเสร็จจากอาหารกลางวัน มาร์โคนั่งดื่มเบียร์ต่ออีกพักใหญ่ ในขณะที่ไลลาขอน้ำเปล่าเพื่อจะได้ขับรถให้ชายหนุ่มได้ จนเวลาเริ่มบ่ายคล้อย สองหนุ่มสาวก็เห็นตรงกันว่าควรจะเริ่มไปสถานที่ใหม่กันเสียที
“หลังจากนี้เป็นสถานที่ที่ปราศจากแอลกอฮอล์นะครับ” มาร์โคบอกยิ้มๆ ก่อนจะบอกทางให้คนที่ทำหน้าที่คนขับ
“เลยจากตรงนี้ไปหน่อย ด้านขวามือ จะเป็นโรงงานช็อคโกแลต” ชายหนุ่มบอก และเพียงขับรถไปราวห้าร้อยเมตร ไลลาก็มองเห็นป้ายเขียนว่า โรงงานช็อคโกแลตมาการ์เร็ตริเวอร์ ซึ่งอยู่ทางด้านขวามือ หญิงสาวจึงเปิดสัญญาณไฟเพื่อเลี้ยวข้ามไปอีกฝั่งของถนน
เมื่อจอดรถที่ลานจอดรถหน้าร้านได้ มาร์โคก็คว้ามือคนขับรถพาเดินเข้าไปในร้าน ซึ่งได้รับการต้อนรับจากชามอ่างใบใหญ่บรรจุช็อคโกแล็ตให้ชิมฟรีสามใบอันประกอบไปด้วยดาร์คช็อคโกแลต มิลค์ช็อคโกแลต และไวท์ช็อคแลต ซึ่งเมื่อทดลองชิมแล้วคนห่วงอ้วนอย่างไลลายังต้องยอมแพ้ให้กับรสชาติอร่อยล้ำของช็อคโกแลตในชามอ่าง ต้องขอชิมอีกเป็นรอบที่สอง ก่อนที่จะเดินไปดูช็อคโกแลตในชั้นที่วางขายและเลือกซื้อช็อคโกแลตแบบสอดไส้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ข้างในไปฝากบิดามารดาของชายหนุ่ม
“โรงงานแห่งแรกอยู่ที่มาร์กาเร็ต ริเวอร์ ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเพิร์ธ นี่เป็นโรงงานสาขา แต่ช็อคโกแลตก็เป็นสูตรเดียวกัน” ชายหนุ่มบอก ก่อนจะกล่าวต่อ
“โดยส่วนใหญ่คนที่มาเที่ยวเพิร์ธก็จะไปมาร์กาเร็ต ริเวอร์กัน ซึ่งผมเห็นว่ามันคล้ายๆกับสวอนวัลเลย์ มีอะไรๆทั้งหมดเหมือนกับที่นี่ ก็เลยตั้งใจจะพาคุณขึ้นเหนือ ไปดูทะเลทรายดีกว่า”
“ทะเลทรายเหรอคะ” ไลลาทำน้ำเสียงประหลาดใจจนมาร์โคต้องหัวเราะ
“ทะเลทรายด้วย ทะเลด้วย ผมไม่พาคุณเข้าไปที่กันดารขนาดนั้นหรอกน่า”
“ฉันคิดว่าทะเลทรายจะอยู่แต่ในตรงกลางประเทศ ไม่คิดว่าจะมีทะเลทรายใกล้ๆเพิร์ธด้วย”
“ครับ ขึ้นเหนือไปประมาณสามชั่วโมง สวย ประหลาด และมหัศจรรย์ดี” ชายหนุ่มพูดเหมือนโฆษณาจนไลลาอดยิ้มไม่ได้
หลังจากโรงงานช็อคโกแลตก็มาถึงจุดหมายสุดท้ายของการท่องเที่ยววันนี้ ซึ่งมาร์โคเก็บไว้เป็นไฮไลท์ของวันสำหรับหญิงสาวเลยทีเดียว
“ขับรถไปราวสามร้อยเมตร จะเห็นทางเข้าด้านซ้ายมือ เลี้ยวเข้าไปเลยนะครับ” มาร์โคบอกคนขับรถ ซึ่งหญิงสาวก็ทำตามอย่างว่าง่าย และต้องเบิกตาโตด้วยความตื่นเต้นเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มพาเธอเข้าไปที่ใด