รัฐบาลพรรคเพื่อแม้วดันทุรังเดินหน้าหน้าผลักดันพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนายวรชัย เหมมะ
ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย แกนนำคนเสื้อแดงเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฏรวันที่ 7 ส.ค.นี้
โดยไม่แยแสกระแสต่อต้านจากประชาชนหลายกลุ่ม พร้อมกับสะท้อนถึงความเป็นเผด็จการลุแก่อำนาจด้วย
การเตรียมประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงเพื่อสกัดกั้นกำราบการออกมาชุมนุมแสดงพลังอย่างสงบปราศจาก
อาวุธของประชาชนซึ่งยิ่งรัฐบาลลุแก่อำนาจก็ยิ่งเป็นการเติมเชื้อไฟให้เกิดวิกฤติลุกลามรุนแรงมากขึ้น
ถ้าจะว่าไปแล้วรัฐบาลพรรคเพื่อแม้วควรเอาเวลาและสติปัญหาไปบริหารประเทศแก้ปัญหาของประชาชนที่รอ
การแก้ไขจากรัฐบาลมากมาย แทนที่จะมามุ่งดันทุรังคิดแต่จะผลักดันกฏหมายนิรโทษกรรม ซึ่ง พ.ร.บ.ฉบับ
นายวรชัย ไม่ได้เกิดประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองแม้แต่น้อยและไม่ได้ช่วยสร้างควมมปรองดองอย่างที่พรรคเพื่อ
แม้วอ้าง เพราะเป้าหมายที่แท้จริงของร่างกฏหมายฉบับนี้มุ่งที่จะลบล้างโทษความผิดให้กับบรรดาแกนนำคน
เสื้อแดงรวมทั้งคนเสื้อแดงฮาร์ดคอร์ที่ร่วมปฏิบัติการก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองเมื่อปี 2553 ทั้งผู้ที่ถูกจับ
กุมฐานบุกเผาศาลากลางจังหวัดหลายจังหวัดจนพินาศ หรือพวกที่บุกโรงพยาบาลจุฬาฯและสภากาชาดไทย
ทั้งๆที่รู้อยู่ว่าสมเด็จพระสังฆราชทรงประทับรักษาอาการอาพาธ หรือผู้ที่ยิงจรวดหัวระเบิดหมายถล่มวัดพระแก้ว
รวมไปถึงบรรดาแกนนำเสื้อแดงที่ถูกดำเนินคดีฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพตามมาตรา 112 ของประมวล
กฏหมายอาญา โดยหลายคนขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ซึ่งการที่พลังมหาชนหลายฝ่ายคัดค้าน
พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเพราะเป็นการทำลายหลักนิติรัฐและหลักนิติธรรมตลอดจนเป็นการสร้างแบบอย่างอันเลวร้าย
สำหรับผู้ที่มีความผิดคดีอาญาร้ายแรงแล้วได้รับการยกเว้นโทษโดยอาศัยพวกมากลากไป
การที่ไม่กล้าพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรมและใช้วิธีการผลักดันกฏหมายนิรโทษกรรมโดยอ้าง
การสร้างควมมปรองดองบังหน้าด้านหนึ่งนอกจากเพื่อซื้อใจบรรดาแกนนำคนเสื้อแดงที่ถูกดำเนินคดีและถูก
คุมขังแล้ว ยังเพื่อปิดปากตัดตอนไม่ให้ผู้ต้องหาเสื้อแดงสารภาพความจริงในชั้นศาลและสาวไปถึงตัวจอม
บงการในเหตุการณ์ก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมือง
การตะแบงอ้างว่าออกกฏหมายเพื่อสร้างความปรองดองจึงเป็นเพียงการสร้างโกหกตบตาสาธารณชนเพราะ
ในทางตรงกันข้ามนอกจากจะไม่สร้างความปรองดองแล้ว กลับจะยิ่งสุมไฟแตกแยกในชาติให้ลุกโชนลุกลาม
บานปลายกลายเป็นกลียุค
จากแนวโน้มการตะแบงดันกฏหมายเพื่อตัวเองของรัฐบาลพรรคเพื่อแม้วที่กำลังจะพาชาติบ้านเมืองไปสู่วิกฤติ
หายนะทำให้ นายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานรัฐสภา ถึงกับออกจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องให้รัฐบาลพรรค
เพื่อแม้วเห็นแก่ความสงบสุขของประเทศด้วยการถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมออกไป เพราะนอกจากไม่ช่วย
สร้างความปรอดง กลับจะสิ่งสุมไฟวิกฤติแตกแยกให้รุนแรงมากขึ้น พร้อมกับเสนอทางออกว่าบุคคลที่ได้รับผล
กระทบทางคดีหรือถูกจับกุมคุมขังควรพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรม โดยขอให้ศาลเร่งตัดสินคดี
เพื่อคืนความยุติธรรมแก่ทุกฝ่ายโดยเร็ว
เพราะฉะนั้นนี่ขนาดอดีตประธานรัฐสภาเตือนแล้วหากรัฐบาลพรรคเพื่อแม้วยังดันทุรังตะแบงผลักดันกฏหมาย
นิรโทษกรรมก็ต้องรับผิดชอบผลที่จะตามมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากถึงขั้นเกิดการเสียเลือดเนื้อขึ้นในบ้านเมือง
ทีมข่าวการเมือง
http://www.naewna.com/creative/62310
"แนวหน้า" บอก "รัฐบาลเพื่อแม้ว" แต่สาวเหลือน้อย ขอบอกว่า "แนวหน้า" ก็เป็น "สื่อเพื่อมาร์ค"
เพราะนอกจาก มี บ.ก. เป็นส.ส.ปชป. แล้ว ทุกคอลัมน์ใน "แนวหน้า" ก็ไม่เคยวิจารณ์ "มาร์ค"
หรือ ประชาธิปัตย์ เลย แต่ วิจารณ์ แม้ว แซว ปู เสียดสี ถากถาง ทุกคอลัมน์ ทุกวัน เออ...
การเป็นสื่อ ก็ควรจะมองแบบรอบด้านนะ ไม่ใช่ว่า นายทุนเกลียด ใคร ตูก็ต้องด่าด้วย เกลียดด้วย
นักวิชาการ ที่เขียน ในแนวหน้า ก็ เป็นนักวิชากการ "เชลียร์" มาร์ค ไม่เขียนแบบนี้ เขาคงไม่ลงให้
วันนี้ลอง อ่าน วิเคราะห์ ของ "แนวหน้า" ก็ไม่ต่างจากวันอื่นๆ
วันนี้ "ผ่าความจริง" ..แนวหน้า..กันหน่อย
รัฐบาลเพื่อแม้วต้องรับผิดชอบ ตะแบงดันนิรโทษฯสุมไฟกลียุค ...ผ่าประเด็นร้อน ...แนวหน้าออนไลน์
ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย แกนนำคนเสื้อแดงเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฏรวันที่ 7 ส.ค.นี้
โดยไม่แยแสกระแสต่อต้านจากประชาชนหลายกลุ่ม พร้อมกับสะท้อนถึงความเป็นเผด็จการลุแก่อำนาจด้วย
การเตรียมประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงเพื่อสกัดกั้นกำราบการออกมาชุมนุมแสดงพลังอย่างสงบปราศจาก
อาวุธของประชาชนซึ่งยิ่งรัฐบาลลุแก่อำนาจก็ยิ่งเป็นการเติมเชื้อไฟให้เกิดวิกฤติลุกลามรุนแรงมากขึ้น
ถ้าจะว่าไปแล้วรัฐบาลพรรคเพื่อแม้วควรเอาเวลาและสติปัญหาไปบริหารประเทศแก้ปัญหาของประชาชนที่รอ
การแก้ไขจากรัฐบาลมากมาย แทนที่จะมามุ่งดันทุรังคิดแต่จะผลักดันกฏหมายนิรโทษกรรม ซึ่ง พ.ร.บ.ฉบับ
นายวรชัย ไม่ได้เกิดประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองแม้แต่น้อยและไม่ได้ช่วยสร้างควมมปรองดองอย่างที่พรรคเพื่อ
แม้วอ้าง เพราะเป้าหมายที่แท้จริงของร่างกฏหมายฉบับนี้มุ่งที่จะลบล้างโทษความผิดให้กับบรรดาแกนนำคน
เสื้อแดงรวมทั้งคนเสื้อแดงฮาร์ดคอร์ที่ร่วมปฏิบัติการก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองเมื่อปี 2553 ทั้งผู้ที่ถูกจับ
กุมฐานบุกเผาศาลากลางจังหวัดหลายจังหวัดจนพินาศ หรือพวกที่บุกโรงพยาบาลจุฬาฯและสภากาชาดไทย
ทั้งๆที่รู้อยู่ว่าสมเด็จพระสังฆราชทรงประทับรักษาอาการอาพาธ หรือผู้ที่ยิงจรวดหัวระเบิดหมายถล่มวัดพระแก้ว
รวมไปถึงบรรดาแกนนำเสื้อแดงที่ถูกดำเนินคดีฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพตามมาตรา 112 ของประมวล
กฏหมายอาญา โดยหลายคนขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ซึ่งการที่พลังมหาชนหลายฝ่ายคัดค้าน
พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเพราะเป็นการทำลายหลักนิติรัฐและหลักนิติธรรมตลอดจนเป็นการสร้างแบบอย่างอันเลวร้าย
สำหรับผู้ที่มีความผิดคดีอาญาร้ายแรงแล้วได้รับการยกเว้นโทษโดยอาศัยพวกมากลากไป
การที่ไม่กล้าพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรมและใช้วิธีการผลักดันกฏหมายนิรโทษกรรมโดยอ้าง
การสร้างควมมปรองดองบังหน้าด้านหนึ่งนอกจากเพื่อซื้อใจบรรดาแกนนำคนเสื้อแดงที่ถูกดำเนินคดีและถูก
คุมขังแล้ว ยังเพื่อปิดปากตัดตอนไม่ให้ผู้ต้องหาเสื้อแดงสารภาพความจริงในชั้นศาลและสาวไปถึงตัวจอม
บงการในเหตุการณ์ก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมือง
การตะแบงอ้างว่าออกกฏหมายเพื่อสร้างความปรองดองจึงเป็นเพียงการสร้างโกหกตบตาสาธารณชนเพราะ
ในทางตรงกันข้ามนอกจากจะไม่สร้างความปรองดองแล้ว กลับจะยิ่งสุมไฟแตกแยกในชาติให้ลุกโชนลุกลาม
บานปลายกลายเป็นกลียุค
จากแนวโน้มการตะแบงดันกฏหมายเพื่อตัวเองของรัฐบาลพรรคเพื่อแม้วที่กำลังจะพาชาติบ้านเมืองไปสู่วิกฤติ
หายนะทำให้ นายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานรัฐสภา ถึงกับออกจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องให้รัฐบาลพรรค
เพื่อแม้วเห็นแก่ความสงบสุขของประเทศด้วยการถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมออกไป เพราะนอกจากไม่ช่วย
สร้างความปรอดง กลับจะสิ่งสุมไฟวิกฤติแตกแยกให้รุนแรงมากขึ้น พร้อมกับเสนอทางออกว่าบุคคลที่ได้รับผล
กระทบทางคดีหรือถูกจับกุมคุมขังควรพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรม โดยขอให้ศาลเร่งตัดสินคดี
เพื่อคืนความยุติธรรมแก่ทุกฝ่ายโดยเร็ว
เพราะฉะนั้นนี่ขนาดอดีตประธานรัฐสภาเตือนแล้วหากรัฐบาลพรรคเพื่อแม้วยังดันทุรังตะแบงผลักดันกฏหมาย
นิรโทษกรรมก็ต้องรับผิดชอบผลที่จะตามมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากถึงขั้นเกิดการเสียเลือดเนื้อขึ้นในบ้านเมือง
ทีมข่าวการเมือง
http://www.naewna.com/creative/62310
"แนวหน้า" บอก "รัฐบาลเพื่อแม้ว" แต่สาวเหลือน้อย ขอบอกว่า "แนวหน้า" ก็เป็น "สื่อเพื่อมาร์ค"
เพราะนอกจาก มี บ.ก. เป็นส.ส.ปชป. แล้ว ทุกคอลัมน์ใน "แนวหน้า" ก็ไม่เคยวิจารณ์ "มาร์ค"
หรือ ประชาธิปัตย์ เลย แต่ วิจารณ์ แม้ว แซว ปู เสียดสี ถากถาง ทุกคอลัมน์ ทุกวัน เออ...
การเป็นสื่อ ก็ควรจะมองแบบรอบด้านนะ ไม่ใช่ว่า นายทุนเกลียด ใคร ตูก็ต้องด่าด้วย เกลียดด้วย
นักวิชาการ ที่เขียน ในแนวหน้า ก็ เป็นนักวิชากการ "เชลียร์" มาร์ค ไม่เขียนแบบนี้ เขาคงไม่ลงให้
วันนี้ลอง อ่าน วิเคราะห์ ของ "แนวหน้า" ก็ไม่ต่างจากวันอื่นๆ
วันนี้ "ผ่าความจริง" ..แนวหน้า..กันหน่อย