บรรดาหุ่นเชิดระดับแกนนำลิ่วล้อระบอบทักษิณทั้งหลายต่างดาหน้าออกมาประกาสศักดาอย่างเหิมเกริมโดยไม่แยแสพลังมหาชนอยู่ในสายตาโดยย้ำว่าถอยไม่เป็นและถึงอย่างไรก็ต้องเดินหน้า พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับทะลุซอยเพื่อนักโทษชายแม้วให้สำเร็จ โดยตะแบงอ้างว่าเป็นทางออกเดียวที่จะสร้างความปรองดองในชาติหลังบ้านเมืองเผชิญวิกฤติแตกแยกมาเกือบสิบปี
เหล่าแกนนำทาสรับใช้ขบวนการเพื่อแม้วทั้งหลายตั้งแต่นายกฯหุ่นเชิดยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ไล่มาจนนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ต่างออกมาสร้างภาพแสดงความตะลบตะแลงปลิ้นปล้อนตะแบงหลอกคนทั้งประเทศไปเรื่อยๆด้วยการชักแม่น้ำทั้งห้าเพื่อเดินหน้า พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแบบทะลุซอยโดยอ้างเพื่อความยุติธรรมและสร้างความปรองดอง แต่ทีตอนม็อบเสื้อแดงและกองกำลังใต้ดินภายใต้การบงการของ นักโทษชายแม้ว ใช้วิธีการถ่อยดิบเถื่อนสร้างสถานการณ์ก่อจลาจลทั่วกทม. และบุกล้มการประชุมสุดยอดผู้นำชาติอาเซียนและผู้นำชาติมหาอำนาจคู่เจรจาที่พัทยาเมื่อปี 2552 ตามด้วยการก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองในปี 2553 ซึ่งสร้างความพินาศย่อยยับแก่ชาติบ้านเมืองกลับไม่เห็นขบวนการเพื่อแม้วคิดที่จะสร้างความปรองดอง
พอมาตอนนี้ตัวเองเป็นฝ่ายรัฐบาลกลับตะแบงผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแบบสุดซอยที่มีเป้าหมายแอบแฝงที่แท้จริงเพื่อฟอกโทษความผิดทั้งหมดให้กับ นักโทษชายแม้ว ผู้เป็นนายใหญ่เพื่อจะได้กลับบ้านแบบเท่ๆโดยจับบุคคลทุกสีทุกกลุ่มเป็นตัวประกันแล้วอ้างการสร้างความปรองดองบังหน้าอำพรางเป้าหมายแอบแฝงที่แท้จริง
การออกกฏหมายลบล้างโทษความผิดทั้งหมดให้กับคนที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วให้ลงโทษจำคุก 2 ปีในคดีทุจริต และสั่งยึดทรัพย์ 46,000 ล้านบาทตกเป็นของแผ่นดินเป็นการทำลายหลักนิติรัฐและความศักดิ์สิทธิ์ของศาลสถิตย์ยุติธรรมอย่างสิ้นเชิง ซึ่งการย่ามใจออกกฏหมาย
ลบล้างโทษความผิดคดีที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ซ้ำร้ายเป็นคดีทุจริตคอร์รัปชั่นไม่มีประเทศไหนในโลกเขาทำกัน และถือเป็นการสร้างบรรทัดฐานอันเลวทรามภายใต้ระบอบทักษิณอันชั่วร้าย
ที่น่าประหลาดคือการผลักดันพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับทะลุซอยเป็นการอ้างความปรองดองบังหน้าแบบมัดมือชกข้างเดียว เพราะ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกฯ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง รวมทั้งบรรดาแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยต่างก็ประกาศจุดยืนชัดเจนไม่ขอรับอานิสงฆ์จาก พ.ร.บ.นิรโทษ โดยพร้อมที่จะต่อสู้คดีพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองตามกระบวนการยุติธรรมเพื่อสร้างบรรทัดฐานที่ถูกต้องชอบธรรม แต่ นักโทษชายแม้ว กับพวกกลับไม่กล้าพิสูจน์ตัวเองตามบวนการยุติธรรม โดยใช้วิธีซิกแซกออกกฏหมายหักดิบลบล้างโทษความผิดให้ตัวเอง
และการอ้างดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอยเพื่อสร้างความปรองดองความจริงที่เห็นๆกันอยู่ก็พิสูจน์ชัดอยู่แล้วว่าโกหกลวงโลกทั้งเพเพราะกลับยิ่งเป็นชนวนระเบิดเวลาสุมไฟแตกแยกให้ลุกโชนรุนแรงยิ่งขึ้นจนเสี่ยงที่จะนำไปสู่กลียุคมิคสัญญีในบ้านเมือง
ล่าสุดขบวนการเพื่อแม้วเหิมเกริมหนัก โดย นายจารุพงศ์ ถึงกับออกมาส่งสัญญาณว่าหาก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับทะลุซอยมีปัญหาจนเดินหน้าต่อไปไม่ได้ก็อาจออกเป็นพระราชกำหนด(พ.ร.ก. )ซึ่งคลับคล้ายคลับคลากับข่าวอื้อฉาวก่อนหน้านี้กรณีคลิปถั่งเช่าคำสนทนาระหว่าง นักโทษชายแม้ว กับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม ที่มีเนื้อหาตอนหนึ่งระบุถึงแผนการที่จะหักดิบออก พ.ร.ก.นิรโทษกรรมโดยอาศัยสภากลาโหมเป็นเครื่องมือผลักดัน
การที่ขบวนการเพื่อแม้วย่ามใจถือดีในอำนาจเหมือนประเทศตกอยู่ใต้อุ้งเท้าถือเป็นการท้าทายพลังมหาชนเจ้าของประเทศ อันเป็นลางร้ายสัญญาณนับถอยหลังของระบอบทักษิณ
ที่มา:
http://www.naewna.com/creative/74216
ปล.นายว่างัย ขรี้ข้าก็คงต้องว่าตาม....เอิ๊ก ๆ ๆ
เพื่อแม้วย่ามใจทัาพลังมหาชน คิดหักดิบ พรก.ทะลุซอย
เหล่าแกนนำทาสรับใช้ขบวนการเพื่อแม้วทั้งหลายตั้งแต่นายกฯหุ่นเชิดยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ไล่มาจนนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ต่างออกมาสร้างภาพแสดงความตะลบตะแลงปลิ้นปล้อนตะแบงหลอกคนทั้งประเทศไปเรื่อยๆด้วยการชักแม่น้ำทั้งห้าเพื่อเดินหน้า พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแบบทะลุซอยโดยอ้างเพื่อความยุติธรรมและสร้างความปรองดอง แต่ทีตอนม็อบเสื้อแดงและกองกำลังใต้ดินภายใต้การบงการของ นักโทษชายแม้ว ใช้วิธีการถ่อยดิบเถื่อนสร้างสถานการณ์ก่อจลาจลทั่วกทม. และบุกล้มการประชุมสุดยอดผู้นำชาติอาเซียนและผู้นำชาติมหาอำนาจคู่เจรจาที่พัทยาเมื่อปี 2552 ตามด้วยการก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองในปี 2553 ซึ่งสร้างความพินาศย่อยยับแก่ชาติบ้านเมืองกลับไม่เห็นขบวนการเพื่อแม้วคิดที่จะสร้างความปรองดอง
พอมาตอนนี้ตัวเองเป็นฝ่ายรัฐบาลกลับตะแบงผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแบบสุดซอยที่มีเป้าหมายแอบแฝงที่แท้จริงเพื่อฟอกโทษความผิดทั้งหมดให้กับ นักโทษชายแม้ว ผู้เป็นนายใหญ่เพื่อจะได้กลับบ้านแบบเท่ๆโดยจับบุคคลทุกสีทุกกลุ่มเป็นตัวประกันแล้วอ้างการสร้างความปรองดองบังหน้าอำพรางเป้าหมายแอบแฝงที่แท้จริง
การออกกฏหมายลบล้างโทษความผิดทั้งหมดให้กับคนที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วให้ลงโทษจำคุก 2 ปีในคดีทุจริต และสั่งยึดทรัพย์ 46,000 ล้านบาทตกเป็นของแผ่นดินเป็นการทำลายหลักนิติรัฐและความศักดิ์สิทธิ์ของศาลสถิตย์ยุติธรรมอย่างสิ้นเชิง ซึ่งการย่ามใจออกกฏหมาย
ลบล้างโทษความผิดคดีที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ซ้ำร้ายเป็นคดีทุจริตคอร์รัปชั่นไม่มีประเทศไหนในโลกเขาทำกัน และถือเป็นการสร้างบรรทัดฐานอันเลวทรามภายใต้ระบอบทักษิณอันชั่วร้าย
ที่น่าประหลาดคือการผลักดันพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับทะลุซอยเป็นการอ้างความปรองดองบังหน้าแบบมัดมือชกข้างเดียว เพราะ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกฯ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง รวมทั้งบรรดาแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยต่างก็ประกาศจุดยืนชัดเจนไม่ขอรับอานิสงฆ์จาก พ.ร.บ.นิรโทษ โดยพร้อมที่จะต่อสู้คดีพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองตามกระบวนการยุติธรรมเพื่อสร้างบรรทัดฐานที่ถูกต้องชอบธรรม แต่ นักโทษชายแม้ว กับพวกกลับไม่กล้าพิสูจน์ตัวเองตามบวนการยุติธรรม โดยใช้วิธีซิกแซกออกกฏหมายหักดิบลบล้างโทษความผิดให้ตัวเอง
และการอ้างดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอยเพื่อสร้างความปรองดองความจริงที่เห็นๆกันอยู่ก็พิสูจน์ชัดอยู่แล้วว่าโกหกลวงโลกทั้งเพเพราะกลับยิ่งเป็นชนวนระเบิดเวลาสุมไฟแตกแยกให้ลุกโชนรุนแรงยิ่งขึ้นจนเสี่ยงที่จะนำไปสู่กลียุคมิคสัญญีในบ้านเมือง
ล่าสุดขบวนการเพื่อแม้วเหิมเกริมหนัก โดย นายจารุพงศ์ ถึงกับออกมาส่งสัญญาณว่าหาก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับทะลุซอยมีปัญหาจนเดินหน้าต่อไปไม่ได้ก็อาจออกเป็นพระราชกำหนด(พ.ร.ก. )ซึ่งคลับคล้ายคลับคลากับข่าวอื้อฉาวก่อนหน้านี้กรณีคลิปถั่งเช่าคำสนทนาระหว่าง นักโทษชายแม้ว กับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม ที่มีเนื้อหาตอนหนึ่งระบุถึงแผนการที่จะหักดิบออก พ.ร.ก.นิรโทษกรรมโดยอาศัยสภากลาโหมเป็นเครื่องมือผลักดัน
การที่ขบวนการเพื่อแม้วย่ามใจถือดีในอำนาจเหมือนประเทศตกอยู่ใต้อุ้งเท้าถือเป็นการท้าทายพลังมหาชนเจ้าของประเทศ อันเป็นลางร้ายสัญญาณนับถอยหลังของระบอบทักษิณ
ที่มา:http://www.naewna.com/creative/74216
ปล.นายว่างัย ขรี้ข้าก็คงต้องว่าตาม....เอิ๊ก ๆ ๆ