ทุกอย่างเป็นไปตามข่าวก่อนหน้านี้ที่ว่าหลังศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ขบวนการระบอบทักษิณจะเดินหน้าทันทีในการเร่งผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมที่อ้างการสร้างความปรองดองบังหน้า แต่มีเป้าหมายแอบแฝงที่แท้จริงเพื่อฟอกโทษความผิดทั้งหมดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเจ้าของพรรคเพื่อไทย และบรรดาแกนนำคนเสื้อแดงที่เป็นผู้ต้องหาก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมือง
นอกจากร่างกฎหมายนิรโทษกรรมที่แยกกันเสนอโดยสส.พรรคเพื่อไทย กลุ่มคนเสื้อแดง และร่างฉบับพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ รวม 4 ฉบับ ที่คาอยู่ในสภาแล้ว ก่อนหน้านี้มีการเดินเกมโดย นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเพื่อไทยที่เชื่อกันว่ารับใบสั่งมาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ให้มาหยั่งเชิงด้วยวิธีการใหม่โดยพยายามสร้างภาพเชิญตัวแทนจากทุกสีทุกกลุ่มมาหารือเพื่อหาแนวทางผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมซึ่งเป็นที่พอใจของทุกฝ่าย
แต่ดูเหมือนว่าการเดินเกมของ นายเจริญ ส่อเค้าว่าจะแท้งเสียแล้วโดยไม่ต้องพูดถึงพรรคประชาธิปัตย์ที่รู้ทันประกาศไม่ร่วมสังฆกรรมด้วย และล่าสุด นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกาศจุดยืนกลุ่มพันธมิตรฯชัดเจนว่า จะต่อต้านการนิรโทษกรรมให้กับผู้ที่ทำความผิดคดีทุจริตรวมทั้งคดีอาญาอย่างถึงที่สุด ซึ่งหากยังมีการดันทุรังใช้เล่ห์ผลักดันกฎหมายในประเด็นนี้เข้าสภา กลุ่มพันธมิตรฯจะออกมาชุมนุมต่อต้านแน่นอน
จุดยืนของกลุ่มพันธมิตรฯชัดเจนอยู่แล้วว่าคัดค้านการฟอกโทษความผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ และเหล่าแกนนำคนเสื้อแดงที่เป็นผู้ต้องหาก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองเมื่อปี 2553
ขณะที่แผนการเดินเกมของนายเจริญ ทำท่าว่าจะถึงทางตัน เครือข่ายระบอบทักษิณอีกกลุ่มหนึ่งก็ออกมาเดินเกมคู่ขนานโดยล่าสุด 21 สส.เสื้อแดงพรรคเพื่อไทยนำโดย นายวรชัย เหมะ สส.สมุทรปราการ ก็ปฏิบัติการหักดิบเข้าชื่อยื่นร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมอีกฉบับเข้าสู่สภา โดยสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับ 21 สส.เสื้อแดงที่มีทั้งหมด 7 มาตราอ้างว่าต้องการนิรโทษกรรมแก่ผู้ร่วมชุมนุมทางการเมืองทุกสีทุกกลุ่มตั้งแต่หลังการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2549 ถึงวันที่ 10 พ.ค. ปี 2554 โดยไม่ครอบคลุมถึงบรรดาผู้มีอำนาจในการตัดสินใจและสั่งการเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือบรรดาแกนนำ
อย่างไรก็ตามมีการตั้งข้อสังเกตว่าเนื้อหาในร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับ 21 สส.เสื้อแดงพรรคเพื่อไทยมีการหมกเม็ดซ่อนปมเปิดช่องให้มีการนิรโทษกรรมแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ และเหล่าแกนนำคนเสื้อแดงที่เป็นผู้ต้องหาก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองด้วยการใช้คำที่ดิ้นได้ในกฎหมายโดยเฉพาะข้อความที่ว่า “ผู้มีอำนาจในการตัดสินใจสั่งการ” ซึ่งก่อนหน้านี้ แกนนำเสื้อแดงอย่าง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ สส.พรรคเพื่อไทยก็ออกมาตีปลาหน้าไซล่วงหน้าแล้วว่า ตัวเองไม่ใช่แกนนำที่มีอำนาจตัดสินใจในการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงจนนำไปสู่เหตุการณ์เผาเมือง ซึ่งในกรณีเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ก็คงปฏิเสธเช่นเดียวกันว่าไม่ได้สั่งการกลุ่มคนเสื้อแดง ซี่งหากเป็นเช่นนี้ก็เท่ากับเข้าข่ายได้รับการนิรโทษกรรม
ต่อข้อสงสัยในเรื่องนี้ นายวรชัยก็ชี้แจงนักข่าวอย่างแบ่งรับแบ่งสู้ว่า กฎหมายต้องเขียนไว้กว้างๆ แล้วค่อยไปแปรญัตติแก้ไขในภายหลังได้
จากความเคลื่อนไหวของบรรดาเครือข่ายระบอบทักษิณทั้งหมดอาจกล่าวได้ว่าเป็นแผนแยกกันเดินร่วมกันตีโดยยุทธศาสตร์ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจากเป้าหมายเดียวกันคือทำอย่างไรก็ได้มุ่งเดินหน้าดันกฎหมายฟอกโทษความผิดให้นายใหญ่ผู้มีบารมีเหนือรัฐบาลและเจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริง
ปล.ถ้าอยากปรองดอง ทำไมไม่คุยกันครับ...แบบนี้เขาเรียกยัดเยียดให้ปรองดอง นี่หว่า...เอิ๊ก ๆ ๆ
หมกเม็ด ดัน พรบ.นิรโทษแม้ว....
นอกจากร่างกฎหมายนิรโทษกรรมที่แยกกันเสนอโดยสส.พรรคเพื่อไทย กลุ่มคนเสื้อแดง และร่างฉบับพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ รวม 4 ฉบับ ที่คาอยู่ในสภาแล้ว ก่อนหน้านี้มีการเดินเกมโดย นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเพื่อไทยที่เชื่อกันว่ารับใบสั่งมาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ให้มาหยั่งเชิงด้วยวิธีการใหม่โดยพยายามสร้างภาพเชิญตัวแทนจากทุกสีทุกกลุ่มมาหารือเพื่อหาแนวทางผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมซึ่งเป็นที่พอใจของทุกฝ่าย
แต่ดูเหมือนว่าการเดินเกมของ นายเจริญ ส่อเค้าว่าจะแท้งเสียแล้วโดยไม่ต้องพูดถึงพรรคประชาธิปัตย์ที่รู้ทันประกาศไม่ร่วมสังฆกรรมด้วย และล่าสุด นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกาศจุดยืนกลุ่มพันธมิตรฯชัดเจนว่า จะต่อต้านการนิรโทษกรรมให้กับผู้ที่ทำความผิดคดีทุจริตรวมทั้งคดีอาญาอย่างถึงที่สุด ซึ่งหากยังมีการดันทุรังใช้เล่ห์ผลักดันกฎหมายในประเด็นนี้เข้าสภา กลุ่มพันธมิตรฯจะออกมาชุมนุมต่อต้านแน่นอน
จุดยืนของกลุ่มพันธมิตรฯชัดเจนอยู่แล้วว่าคัดค้านการฟอกโทษความผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ และเหล่าแกนนำคนเสื้อแดงที่เป็นผู้ต้องหาก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองเมื่อปี 2553
ขณะที่แผนการเดินเกมของนายเจริญ ทำท่าว่าจะถึงทางตัน เครือข่ายระบอบทักษิณอีกกลุ่มหนึ่งก็ออกมาเดินเกมคู่ขนานโดยล่าสุด 21 สส.เสื้อแดงพรรคเพื่อไทยนำโดย นายวรชัย เหมะ สส.สมุทรปราการ ก็ปฏิบัติการหักดิบเข้าชื่อยื่นร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมอีกฉบับเข้าสู่สภา โดยสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับ 21 สส.เสื้อแดงที่มีทั้งหมด 7 มาตราอ้างว่าต้องการนิรโทษกรรมแก่ผู้ร่วมชุมนุมทางการเมืองทุกสีทุกกลุ่มตั้งแต่หลังการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2549 ถึงวันที่ 10 พ.ค. ปี 2554 โดยไม่ครอบคลุมถึงบรรดาผู้มีอำนาจในการตัดสินใจและสั่งการเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือบรรดาแกนนำ
อย่างไรก็ตามมีการตั้งข้อสังเกตว่าเนื้อหาในร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับ 21 สส.เสื้อแดงพรรคเพื่อไทยมีการหมกเม็ดซ่อนปมเปิดช่องให้มีการนิรโทษกรรมแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ และเหล่าแกนนำคนเสื้อแดงที่เป็นผู้ต้องหาก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองด้วยการใช้คำที่ดิ้นได้ในกฎหมายโดยเฉพาะข้อความที่ว่า “ผู้มีอำนาจในการตัดสินใจสั่งการ” ซึ่งก่อนหน้านี้ แกนนำเสื้อแดงอย่าง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ สส.พรรคเพื่อไทยก็ออกมาตีปลาหน้าไซล่วงหน้าแล้วว่า ตัวเองไม่ใช่แกนนำที่มีอำนาจตัดสินใจในการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงจนนำไปสู่เหตุการณ์เผาเมือง ซึ่งในกรณีเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ก็คงปฏิเสธเช่นเดียวกันว่าไม่ได้สั่งการกลุ่มคนเสื้อแดง ซี่งหากเป็นเช่นนี้ก็เท่ากับเข้าข่ายได้รับการนิรโทษกรรม
ต่อข้อสงสัยในเรื่องนี้ นายวรชัยก็ชี้แจงนักข่าวอย่างแบ่งรับแบ่งสู้ว่า กฎหมายต้องเขียนไว้กว้างๆ แล้วค่อยไปแปรญัตติแก้ไขในภายหลังได้
จากความเคลื่อนไหวของบรรดาเครือข่ายระบอบทักษิณทั้งหมดอาจกล่าวได้ว่าเป็นแผนแยกกันเดินร่วมกันตีโดยยุทธศาสตร์ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจากเป้าหมายเดียวกันคือทำอย่างไรก็ได้มุ่งเดินหน้าดันกฎหมายฟอกโทษความผิดให้นายใหญ่ผู้มีบารมีเหนือรัฐบาลและเจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริง
ปล.ถ้าอยากปรองดอง ทำไมไม่คุยกันครับ...แบบนี้เขาเรียกยัดเยียดให้ปรองดอง นี่หว่า...เอิ๊ก ๆ ๆ