ตะแบงแตกหักสุมไฟกลียุค เดิมพันหายนะชาติเพื่อทักษิณ

กระทู้สนทนา
รัฐบาลหุ่นเชิดภายใต้การบงการของนักโทษชายแม้วเดินหน้าเต็มตัวรวบรัดหักดิบเพื่อผลักดันร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับทะลุซอยอย่างเหิมเกริมย่ามใจโดยไม่สนใจต่อกระแสต่อต้านหรือสำนึกว่าจะเป็นชนวนทำให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟจากกระแสต่อต้านของพลังมหาชนทั่วประเทศที่ออกมาคัดค้านขั้นแตกหักต่อร่าง พ.ร.บ.ที่อ้างการสร้างความปรองดองบังหน้าแต่อำพรางเป้าหมายแอบแฝงที่แท้จริงมุ่งที่จะลบล้างโทษความผิดทั้งหมดให้กับนักโทษชายแม้วและทำให้นักโทษชายแม้วได้ทรัพย์สิน 46,000 ล้านบาทที่ถูกศาลมีคำพิพากษาให้ยึดตกเป็นของแผ่นดินคืนไม่รวมดอกเบี้ยอีกกว่า 4,000 ล้านบาท รวมทั้งลบล้างโทษความผิดให้เหล่าแกนนำคนเสื้อแดงที่เป็นผู้ต้องหาก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองเมื่อปี 2553 นอกจากนี้ยังซ่อมปมลบล้างโทษความผิดแบบครอบจักรวาลรวมไปถึงคดีทั้งหมดที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) และคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)พิจารณาตั้งแต่ก่อนการรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 จนกระทั่งปัจจุบันอันจะส่งผลให้คดีทุจริตประพฤติมิชอบที่นายกฯหุ่นเชิดยิ่งลักษ์ ชินวัตร ถูกตรวจสอบโดยป.ป.ช.ได้รับการลบล้างไปด้วยโดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าว

ล่าสุด นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ รองประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ของพรรคเพื่อไทยซึ่งอยู่เบื้องหลังการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ฉบับทะลุซอย ยอมรับว่าได้นำร่างแก้ไขบินไปให้ นักโทษชายแม้ว พิจารณาที่ฮ่องกงหลายครั้งจน นักโทษชายแม้ว ไฟเขียวให้เดินหน้าเต็มที่

พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับทะลุซอยกลายเป็นชนวนระเบิดเวลาลูกใหญ่ทำให้เกิดกระแสต่อต้านจากพลังมหาชนอย่างกว้างขวางโดยมีการประชุมตัวแทนเครือข่ายพลังมหาชนทั่วประเทศที่หอประชุมเล็ก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยมี นายสมเกียรติ์ พงษ์ไพบูลย์ อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและ นายสุริยะใส กตะศิลา แกนนำกลุ่มการเมืองสีเขียว ในฐานะผู้ประสานงานเครือข่ายพลังมวลชนกลุ่มต่างๆเป็นแกนนำ ทั้งนี้มีตัวแทนประชาชนร่วมแสดงพลังครั้งนี้จนล้นห้องประชุม

จากผลการหารือของตัวแทนพลังมหาชนจากทั่วประเทศครั้งนี้มีข้อสรุปเกี่ยวกับท่าทีการเคลื่อนไหวว่า จะมีการชุมนุมใหญ่ทันทีหากร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับทะลุซอยเพื่อนักโทษชายแม้ว ผ่านความเห็นชอบโดยสภาผู้แทนราษฏรในวาระที่ 3 หรือในกรณีที่ศาลโลกตัดสินให้ไทยพ่ายแพ้สูญเสียดินแดนในอธิปไตยต่อกัมพูชาซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 11 พ.ย.นี้

ขณะที่พลังมหาชนทั่วประเทศรอเคลื่อนไหวใหญ่ขั้นแตกหักเครือข่ายนักศึกษาปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ยังคงปักหลักชุมนุมอยู่ที่แยกอุรุพงษ์ซี่งล่าสุดมีพลังประชาชนจากหลากหลายสาขาอาชีพเข้าร่วมการชุมนุมมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนอกจากกลุ่มนักเรียนอาชีวะและนักเรียนจากหลายสถาบันการศึกษาแล้ว ยังรวมถึงกลุ่มแพทย์และนักศึกษาแพทย์จากโรงพยายาลรามาธิบดี โรงพยาบาลจุฬาฯ และโรงพยาบาลเอกชนอีกหลายแห่งเข้าร่วมการชุมนุมเพื่อคัดค้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรมเพื่อนักโทษหนีคุกด้วย

แม้แต่องค์กรระดับชาติอย่างเครือข่ายต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่นภาคเอกชนถึงกับทนไม่ไหวออกมาแสดงจุดยืนคัดค้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับทะลุซอยอย่างเป็นทางการเนื่องจากเห็นว่าเป็นการทำลายหลักนิติรัฐและหลักนิติธรรมและส่งเสริมให้มีการทุจริตด้วยการลบล้างโทษความผิดและคืนทรัพย์สินให้กับนักการเมืองที่ทุจริตทั้งๆที่ศาลมีคำพิพากษาลงโทษแล้ว และยังเป็นการขัดต่ออนุสัญญาต่อต้านการคอร์รัปชั่นสากลที่ไทยร่วมลงนามด้วย

ที่สำคัญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ออกมาส่งสัญญาณอย่างมีนะยะว่า  ทหารไม่ได้ทำผิดจึงไม่ขอรับการนิรโทษกรรม  โดยพร้อมที่จะสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมในเหตุการณ์กระชับพื้นที่สลายม็อบเสื้อแดงเมื่อปี 2553

ด้านพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ  แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ประกาศเป่านกหวีดให้ประชาชนแต่งชุดดำออกมาร่วมแสดงพลังคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับทะลุซอยทันทีหลังจากที่ นายสามารถ แก้วมีชัย ประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับทะลุซอย ภายใต้การบงการของ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ น้องเขยของนักโทษชายแม้ว เร่งส่งร่าง พ.ร.บ.ที่ผ่านการแปรญัตติในคณะกรรมาธิการฯแล้วไปยัง นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฏร ซึ่งเป็นแกนนำพรรคเพื่อไทย โดย นายสมศักดิ์  รีบรับลูกนำเข้าวาระการพิจารณาในวาระ 2 วันที่ 31 ต.ค. และลงมติวาระ 3 ในวันที่ 2 พ.ย.นี้อย่างเร่งด่วน

จากผลสำรวจของสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญในการสุ่มตัวอย่างสอบถามประชาชนในกทม.และจังหวัดหัวเมืองใหญ่ในหัวข้อ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมกับความเสี่ยงต่อเสถียรภาพของรัฐบาลปรากฏว่า ประชาชนถึงร้อยละ 76.8  เชื่อว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเสี่ยงต่อเสถียรภาพรัฐบาล โดยมีเพียงร้อยละ 23.2 ที่คิดว่าไม่เสี่ยง

ที่สำคัญประชาชนถึงร้อยละ 85.4 คิดว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเป็นเรื่องของผลประโยชน์มากกว่าความชอบธรรม ขณะที่มีเพียงร้อยละ 14.6 ที่คิดว่าเป็นเรื่องของความชอบธรรมมากกว่า ส่วนคำถามต่อวัตถุประสงค์หลักของ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 84.7 เชื่อว่าเพื่อเอื้อประโยชน์แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯขณะที่เพียงร้อยละ 15.3 เชื่อว่าเป็นการเอื้อประโยชน์แก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

ที่น่าห่วงก็คือประชาชนร้อยละ 72.8 คิดว่านักการเมืองขาดคุณธรรม จริยธรรมในการบริหารประเทศและไม่รู้จักพอจึงเป็นต้นเหตุทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้ง ขณะที่ร้อยละ 27.2 คิดว่านักการเมืองมีจริยธรรมคุณธรรมและรู้จักพออยู่แล้ว ส่วนปัญหาขัดแย้งเป็นเรื่องธรรมดา ยิ่งไปกว่านั้นปาะชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 59.7 ยังไม่เชื่อมั่นว่ารัฐบาลชุดนี้จะต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของประเทศ โดยมองว่าการเมืองไทยใต้ระบอบประชาธิปไตยในปัจจุบันเป็นเรื่องของอำนาจและผลประโยชน์มากกว่า

ทั้งๆที่ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับทะลุซอยถูกกระแสต่อต้านอย่างหนักจากพลังมหาชนหลายกลุ่ม แต่รัฐบาลหุ่นเชิดโดยการบงการของนักโทษชายแม้วยังคงตะแบงเดินหน้าเร่งรีบหักดิบผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับทะลุซอยโดยไม่สนใจกระแสคัดค้านการออกกฏหมายซึ่งเป็นการทำลายหลักนิติรัฐและหลักนิติธรรมเท่ากับจุดชนวนโหมไฟกลียุคเพียงเพื่อสนองตัณหาของคนเพียงคนเดียวโดยมีหายนะของชาติบ้านเมืองเป็นเดิมพัน

ที่มา:http://www.naewna.com/creative/75461

ปล.ต้องกำจัดให้พวกมัน หมดไปจากแผ่นดินไทยครับ...เอิ๊ก ๆ ๆ


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่