อารยะขัดขืนก่อนแตกหัก รุกฆาตปิดเกมไล่รัฐบาลหุ่นเชิด? ผ่าประเด็นร้อน ... แนวหน้าออนไลน์

กระทู้สนทนา
พลังมหาประชาชนทุกสาขาอาชีพจากทั่วสารทิศหล่อหลอมไหลรวมเป็นหนึ่งเดียว
มุ่งสู่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินอย่างมืดฟ้ามัวดินมากเป็นประวัติการณ์
จนล้นเวทีราชดำเนิน เสียงนกหวีดดังกึกก้องไปทั่วสารทิศเป็นสัญญาณว่ามวล
มหาประชาชนทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วสำหรับรัฐทรราชย์ที่ลุแก่อำนาจ ขณะที่ประชาชน
ในหลายจังหวัดทั่วประเทศนับวันจะออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม
ช่วยคนโกงที่ยังไม่ตายไปจากสภาอย่างแท้จริง

ปฏิกิริยาประชาชนอาจไปไกลกว่าพ.ร.บ.นิรโทษกรรมด้วยซ้ำซึ่งโดยส่วนลึกอาจเป็น
สัญญาณขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี

แม้รัฐบาลจะถอยไม่เป็นขบวนด้วยการถอนร่าง พ.ร.บ.ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการนิรโทษกรรม
ที่ค้างอยู่ในวาระการประชุมสภาผู้แทนฯทั้ง  6 ฉบับ แต่ประชาชนก็ยังไม่ไว้วางใจสะท้อน
ให้เห็นถึงความล้มละลายในความน่าเชื่อถของรัฐบาลชุดนี้เพราะส่อเจตนาชั่วร้ายมาตั้งแต่
แรก เพียงแต่ซื้อเวลายอมถอยเพื่อรุกเพราะประเมินพลังประชาชนผิดพลาด และที่ผ่านมา
รัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณมีพฤติกรรมเจ้าเล่ห์โกหกหลอกลวงกะล่อนปลิ้นปล้อนมาตลอด

ทั้งนี้ พ.ร.บ.นิรโทษฉบับช่วยคนโกงที่เป็นตัวปัญหาเพียงแค่สลบไปยังไม่ตายไปจาก
สารระบบแม้วุฒิสภาจะมีมติคว่ำร่าง แต่จากนั้นรอ 180 วันรัฐบาลสามารถใช้พวกมาก
หยิบยกขึ้นมาลงมติยืนยันร่างประกาศใช้เป็นกฏหมายได้ทันที นอกจากนี้แกนนำ
พรรคเพื่อไทยอย่าง นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคเพื่อไทย หรือ
แม้แต่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ รักษาการประธานกลุ่มคนเสื้อแดง ออกมาเผยไต๋ว่ารัฐบาลมี
แผนอาศัยมติคณะรัฐมนตรีผลักดันพ.ร.บ.นิรโทษโดยออกเป็นพระราชกำหนด หรือกรณี
จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ส.สงพรรคเพื่อไทย หลุดปากว่าแม้จะถอนร่างออกมาก็เตรียม
ร่างฉบับใหม่อีก 2 ร่างเสนอกลับเข้าไปใหม่หลังสถานการณ์คลี่คลายซึ่งสะท้อนถึงความ
ปลิ้นปล้อนและไม่น่าไว้วางใจของรัฐบาลหุ่นเชิด

การออกมาแสดงพลังของมหาประชาชนยิ่งใหญ่เป็นประวัติศาสตร์ครั้งนี้สะท้อนความรู้สึก
ของมวลมหาประชาชนที่ส่งสัญญาณต้องการไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่เป็นหุ่นเชิดระบอบ
ทักษิณซึ่งกำลังกลืนกินยึดประเทศเป็นสมบัติของตระกูลชินและนับวันจะย่ามใจลุแก่อำนาจ
ทำอะไรตามใจชอบโดยไม่เห็นหัวประชาชน ไม่ต่างจากเผด็จการรัฐสภาในคราบประชาธิปไตย
โกงบ้านกินเมืองอย่างมโหฬาร ผลาญเงินแผ่นดินก่อหนี้มากมายมหาศาลเป็นประวัติศาสตร์
ที่คนรุ่นหลังต้องแบกรับภาระไปอีกนานกว่า 50 ปีและการใช้เงินแผ่นดินอย่างมือเติบของ
รัฐบาลโดยไม่คำนึงถึงความหายนะที่จะตามมากำลังจะพาประเทศไปสู่ความวิบัติล่มจม
อีกทั้งกว่า 2 ปีที่เข้ามาบริหารประเทศล้มเหลวในทุกด้าน โดยมุ่งแต่ทำทุกอย่างเพื่อ
นักโทษชายแม้ว สุมไฟแตกแยกในชาติบ้านเมือให้ลุกโชนรุนแรงยิ่งขึ้น ทำลายระบบราชการ
ทำลายบรรทัดฐานความซื่อสัตย์สุจริตตามหลักธรรมาภิบาล สถาปนารัฐตำรวจเป็นเครื่องมือ
ทางการเมือง ทำลายระบบยุติธรรมและองค์กรอิสระต่างๆที่ทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุล

ศาลประชาชนที่ถนนราชดำเนินเมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมามีคำพิพากษาเดินหน้าสู้กับระบบทรราชย์
ที่เป็นความชั่วร้ายของแผ่นดิน โดยแกนนำการชุมนุมคือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์
ได้ยกระดับการเคลื่อนไหวแนวทางการต่อสู้แบบอารยะขัดยืนด้วยการลาออกจากส.สพร้อมกับ
ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์อีก 8 คนประกอบด้วย นายถาวร เสนเนียม นายวิทยา แก้วภราดัย นายสาทิตย์
วงศ์หนองเตย  นายณัฐฐพล ปิ่นสุวรรณ นายอิสระ สมชัย นายชุมพล จุลใส นายพุทธิพงศ์ ปุณณกันต์
และ นายเอกณัฐ พร้อมพันธุ์ เพื่อเข้าร่วมต่อสู้กับมวลมหาประชาชนอย่างเต็มตัว

นอกจากนี้ยังยกระดับการเคลื่อนไหวให้ประชาชนนัดหยุดงานทั่วประเทศระหว่างวันที่ 13-15 พ.ย.นี้
บริษัทร้านค้าชะลอจ่ายภาษีให้รัฐ เจอนายกฯที่ไหนให้เป่านกหวีดไล่

นายสุเทพ ย้ำว่าจะยกระดับการเคลื่อนไหวเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆและต้องการปิดเกมให้เร็วที่สุด
ภายในสิ้นเดือนนี้ จึงขอให้ประชาชนทั่วประเทศเข้าร่วมการคเลื่อนไหว และจะต่อสู้ชนิดถ้า
ไม่ชนะไม่เลิก ขณะที่สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ 44 แห่งเตรียมทะยอยนัดหยุดงานทั่วประเทศ

และไม่แต่เพียงพลังมหาประชาชนที่เวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แต่ยังมีม็อบกองทัพประชาชน
โค่นล้มระบอบทักษิณ(กปท.)ที่เวทีผ่านฟ้า และม็อบเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย
(คปท.)ที่สะพานมัฆวาฬโดยมีอดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำโดย
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ดับเครื่องชนขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิด

ทางด้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์ภายใต้การบงการของ นักโทษชายแม้ว พยายามเดิมเกมประคับประคอง
สถานการณ์โดยด้านหนึ่งถอยสุดซอย แต่อีกด้านหนึ่งก็พยายามแก้เกมรุกกลับสู้กับพลังมหาประชาชน
ด้วยการไฟเขียวให้ม็อบเสื้อแดงนำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ รักษาการประธานคนเสื้อแดง และ
นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ ตั้งเวทีเสื้อแดงชนกับพลังมหาประชาชนขณะเดียวกันก็โฆษณาชวนเชื่อปกป้อง
รัฐบาลขณะที่ทุกหน่วยราชการโดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทยสั่งการไปยังทุกจังหวัดให้ขึ้นป้ายสนับสนุน
รัฐบาลและหนุนการนิรโทษกรรม

นอกจากนี้แกนนำคนเสื้อแดงอย่าง นายธิดา ถาวรเศรษฐ์ อดีตประธานคนเสื้อแดง หรือ นายอริสมันต์
พงษ์เรืองเรือง ยังขึ้นปราศรัยโจมตีและดูถูกเหยียดหยามอธิการบดีทั่วประเทศและพลังมหาประชาชน
อย่างรุนแรงซึ่งถือเป็นการยั่วยุท้าทายพลังมหาประชาชนให้เดือดพล่านออกมาร่วมการชุมนุมมากยิ่งขึ้น

สถานการณ์ขณะนี้ได้บานปลายเกินกว่าจะหยุด ซึ่ง นายวิทยา แก้วภราดัย เตือนว่ายิ่งรัฐบาลดื้อดึงดันทุรัง
จนสถานการณ์ยืดเยื้อก็จะยิ่งมีพลังมหาประชาชนเพิ่มมากขึ้นจนครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ

ผู้บริหารองค์กรภาคเอกชนระดับชาติต่างออกมาให้ความเห็นว่า ยิ่งสถานการณ์การชุมนุมของพลัง
มหาประชาชนยืดเยื้อนานเท่าใดก็ยิ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว
ของประเทศอย่างรุนแรง จึงเรียกร้องทางออกว่ารัฐบาลต้องเห็นแก่ประโยชน์ของชาติบ้านเมือง
ด้วยการยุบสภาคืนอำนาจแก่ประชาชนมากกว่าจะคำนึงถึงตัวเอง

ภายใต้สถานการณ์ของมวลมหาประชาชนทั่วประเทศที่ออกมาแสดงพลังกดดันรัฐบาลหุ่นเชิดยิ่งลักษณ์
มากมายเป็นประวัติการณ์ครั้งนี้บานปลายมาถึงจุดที่ใกล้รุกฆาตขั้นแตกหักและอาจเป็นสัญญาณนับถอยหลัง
สำหรับรัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณชุดนี้

ทีมข่าวการเมือง

http://www.naewna.com/creative/77701

มวลมหาชน วันนี้  เหลือกี่คน  ใครบ้างทำตามมาตรการที่อ้างมานี่  หัวเราะ

สาวแว่น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่