ข่าวเจาะ // ทัพทักษิณระส่ำ บอบช้ำหนัก ภายในร้าวลึก


ขณะที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำม็อบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หรือม็อบประชาธิปัตย์ ขี่กระแสการต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ด้วยการประกาศยกระดับการชุมนุมเป็นการโค่นล้มและขับไล่ระบอบทักษิณ พร้อมประกาศ 4 มาตรการในการต่อสู้ โดยเชิญชวนประชาชนให้ออกมาร่วมชุมนุมให้ได้ 1 ล้านคน และกำหนดวันที่ 24 พฤศจิกายน 2556 เป็นวันดีเดย์รวมพล 1 ล้านคน แต่เมื่อมองไปที่ฝั่งของระบอบทักษิณกลับพบว่ามีความเคลื่อนไหวในการรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มากนัก ไม่ว่าจะเป็นความเคลื่อนไหวของ “นายใหญ่”-รัฐบาล-พรรคเพื่อไทย ขณะที่คนเสื้อแดงซึ่งเป็นกำลังหลักของระบอบทักษิณก็มีความเคลื่อนไหวแบบย่อยๆ ยังไม่มีการประกาศระดมพลในระดับทั่วประเทศหรือตั้งเป้าตัวเลขผู้ชุมนุมจำนวนมากเพื่อคานกับตัวเลขผู้ชุมนุมของอีกฝ่ายหนึ่ง

จนดูคล้ายกับว่าฝ่ายของระบอบทักษิณยังอยู่ในสถานการณ์ถอยและยังตั้งหลักไม่ได้หลังจากเจอกับกระแสการต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมมาอย่างหนัก จนต้องยอมถอย พ.ร.บ.นิรโทษกรรมในที่สุด ซึ่งหากดูจากการเพลี่ยงพล้ำในกรณี พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่ถูกต่อต้านในทุกด้านก็จะเห็นว่าก่อผลกระทบอย่างรุนแรงต่อทุกองคาพยพของระบอบทักษิณ ทั้งตัว “นายใหญ่”-รัฐบาล-พรรคเพื่อไทย รวมถึงเกิดรอยร้าวระหว่างรัฐบาล-พรรคเพื่อไทยกับแกนนำคนเสื้อแดง และระหว่างคนเสื้อแดงที่เป็นญาติมิตรของคนเสื้อแดงผู้เสียชีวิตกับรัฐบาล-พรรคเพื่อไทยในฐานะที่ผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอย รวมถึงกับตัว “นายใหญ่”

เรียกว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอยทำให้องคาพยพของระบอบทักษิณแตกแยกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน และเมื่อมาโดนกระแสต่อต้านจากสังคมอย่างหนัก อาการช็อตไปดื้อๆจึงเกิดขึ้นกับระบอบทักษิณ และไม่สามารถฟื้นตัวมารับมือกับเกมรุกของม็อบประชาธิปัตย์ได้ทันกาล

“นายใหญ่” พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เอง ก็อยู่ในอาการมึนและเซถลา เพราะไหนจะผิดหวังที่ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ต้องคว่ำหัวคะมำ จนที่หวังว่าจะได้กลับบ้านแบบเท่ๆด้วย พ.ร.บ.ฉบับนี้ ก็มีอันต้องเป็นหมัน และยังไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้กลับบ้านอีกหรือไม่ตลอดชีวิตนี้ และไหนจะไม่คาดคิดว่ากระแสสังคมจะต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมมากมายขนาดนี้ จากที่แต่เดิมคิดว่าสังคมยอมรับได้กับการนิรโทษกรรมว่าเป็นหนทางแห่งการปรองดอง

แต่ผลสุดท้ายก็คิดผิด เพราะสังคมแยกการปรองดองออกจากการนิรโทษกรรมอย่างสิ้นเชิง และดูประหนึ่งว่าสังคมไม่ต้องการปรองดองกับความไม่ถูกต้องด้วยซ้ำ

ซึ่งแรงต้านที่เกิดขึ้นนี้ คงเป็นสิ่งที่ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ตระหนักและสำนึกในระดับหนึ่งในเวลานี้แล้วว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่ตัวเขากระทำภายใต้สิ่งที่เขาเรียกว่า “การต่อสู้” มาตลอดภายหลัง 19 กันยายน 2549 ได้สร้างความโกรธเกลียดหรือความไม่พอใจให้กับคนไทยมากเหลือเกิน จนแม้แต่ไม่ให้โอกาสที่จะนิรโทษกรรม หรือไม่ยอมปรองดองภายใต้การนิรโทษกรรม ไม่ว่าจะมองว่าการต่อต้าน พ.ร.บ.ที่เกิดขึ้นจะมี “การเมือง” อยู่ข้างหลังมากน้อยแค่ไหนก็ตาม แต่การต่อต้านนั้นก็ถือได้ว่าเป็นกระแสที่สังคมเอาด้วยและยอมรับ

และสุดท้าย ไหนจะต้องถูกเพ่งมองจากไพร่พลและมวลชนคนเสื้อแดงในฐานะที่เป็นตัวการทำให้เกิดการเพลี่ยงพล้ำ และเกิดการแตกแยกอย่างรุนแรงในระบอบทักษิณ มองหน้ากันไม่สนิทเหมือนเดิม

ด้วยเหตุกระนี้จึงทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องเก็บตัวเงียบและปิดปากเงียบ ไม่สามารถออกมาส่งเสียงนำทัพต้านทัพม็อบได้  เพราะสถานะผู้นำของตนสั่นคลอนลงไปอย่างมาก หากออกตัวมานำทัพในตอนนี้ก็จะถูกมองว่ากลับมาให้ไพร่พลและมวลชนช่วยอีกแล้ว

ในส่วนของแกนนำ นปช.นั้น ก็เผชิญปัญหาไม่น้อยไปกว่า “นายใหญ่” เพราะผลจากการที่แกนนำ นปช.ที่เป็น ส.ส.ไปลงมติสนับสนุน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอย ทำให้แกนนำส่วนอื่นๆของคนเสื้อแดงไม่พอใจ ทั้งแกนนำสายวิชาการและอื่นๆ ขณะที่คนเสื้อแดงที่เป็นญาติมิตรของคนเสื้อแดงที่เสียชีวิตก็ไม่พอใจ แกนนำ นปช.จึงมีปัญหาในด้าน “การนำ” ต่อคนเสื้อแดงในขณะนี้อย่างสูง

ขณะที่แกนนำ นปช.คนสำคัญอย่างนายจตุพร พรหมพันธุ์ ซึ่งแต่เดิมมีท่าทีไม่เห็นด้วยกับ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอย และถูกคนเสื้อแดงตั้งความหวัง แต่ต่อมาก็หันกลับมาแสดงตัวสนับสนุนรัฐบาลและพยายามประนีประนอมในประเด็น พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ก็ทำให้นายจตุพรขาดความน่าเชื่อถือลงไปอีกคน หนำซ้ำยังถูกมองว่าได้รับข้อเสนอพิเศษเป็นการส่วนตัวกับการหันมาสนับสนุน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม รวมทั้งการประกาศจะนำทัพคนเสื้อแดงออกมาสนับสนุนรัฐบาล

ด้วยเหตุกระนี้จึงทำให้การรวมทัพคนเสื้อแดงทั่วประเทศเพื่อนำมาค้ำบัลลังก์ระบอบทักษิณเป็นไปอย่างกระท่อนกระแท่น และต้องเรียกระดมพลเป็นจุดๆ ก่อนจะมารวมพลที่กรุงเทพฯ ซึ่งเกิดจากปัญหาภายในขององคาพยพในระบอบทักษิณเอง

นอกจากนี้ ปัญหาการระดมพลครั้งนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนในอดีตที่แกนนำ นปช.สามารถกระทำได้เอง เพราะภายใต้สถานการณ์ที่ระบอบทักษิณกำลังเพลี่ยงพล้ำเช่นนี้ แกนนำระดับรองหรือระดับย่อยๆก็ต้องการเรียกร้องและ “รับตรง” จาก “นายใหญ่” เอง ไม่ต้องการรับผ่านจากแกนนำ นปช.เหมือนในอดีต ซึ่งนี่ก็เป็นปัญหาใหญ่อีกอย่างหนึ่งในองคาพยพของระบอบทักษิณในตอนนี้

สถานการณ์ภายในของระบอบทักษิณจึงระส่ำระสายอย่างยิ่งในตอนนี้ และยังไม่แน่ว่าจะรวมพลังกันติดได้อีกครั้งหรือไม่ ท่ามกลางคนเสื้อแดงส่วนหนึ่งที่กำลังคิดว่าจะให้บทเรียนราคาแพงกับใครหลายคนสักครั้งในคราวนี้

โดย – อาทิตย์ สิงหา

18 พฤศจิกายน 2556

http://peopleunitynews.com/web/2013/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%B0-%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B4%E0%B8%93%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B9%88-4/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่