แฟนผมซื้อเครื่องแยกกากผลไม้ราคา 20,000 บาท เพื่อกินลดความอ้วน ผมควรจะทำอย่างไรดีครับ

กระทู้คำถาม
แฟนผมซื้อเครื่องแยกกากผลไม้ราคา 20,000 บาท เพื่อกินลดความอ้วน ผมควรจะทำอย่างไรดีครับ


ไม่รู้ว่าไปเจอการเสนอขายเข้าที่ไหน ทดลองชิมแล้วติดอกติดใจอยากซื้อเครื่องมาทำเอง โดยพยายามจะอ้างข้อดีต่างๆ ของการกินน้ำ
ผลไม้แยกกากว่าดีต่อสุขภาพอย่างไร

ที่ซื้อนี่ผ่อนด้วยนะครับ ผ่อนหนึ่งปีเดือนละพันกว่าบาท มีการถัวเฉลี่ยให้ดูด้วยว่ากินวันละแก้ว ตกแก้วละกี่บาท (คือกะจะกินทุกวันเป็น
เวลาหนึ่งปีว่างั้น) ผมฟังแล้วก็อ่อนอกอ่อนใจ และพยายามอธิบายว่า การกินแต่น้ำผลไม้แยกกากเพียงอย่างเดียวมันไม่ได้ทำให้สุขภาพดี
ขึ้นได้หรอก มันต้องออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย และเผลอๆ ออกกำลังกายและกินอาหารตามปกติสุขภาพก็ดีขึ้นได้อยู่แล้ว เขาก็อือๆ ออๆ
ไม่แย้งไม่เถียงแต่ก็ไม่บอกว่ายอมรับ

แล้ววันต่อมาก็บอกว่าสั่งซื้อไปแล้ว...

แฟนผมก็เหมือนผู้หญิงที่ลดความอ้วนไม่ลงทั่วๆ ไปครับ อยากผอมอยากหุ่นดีแต่ขี้เกียจออกกำลัง อ้างว่าไม่มีเวลา งานยุ่ง ทำงานเครียด
มาแล้วอยากพักผ่อนด้วยของอร่อยๆ แล้วลดความอ้วนด้วยการกินอาหารเสริม และสูตรอะไรต่างๆ ที่เชื่อว่ากินแล้วลดได้

แต่ของมันของหวานของทอดแม่ฟาดครบหมด และอย่างเดียวที่ไม่ยอมขวนขวายหาก็คือวิธีออกกำลังกาย

ผมพยายามชักชวนให้ออกกำลังกายมาตลอด พาไปเดินออกกำลังกายตอนแรกๆ ก็ขมีขมันดี แต่หลังๆ เริ่มขี้เกียจอีก ผมอยากให้ทำเป็น
เรื่องเป็นราวกว่านี้ ก็เลยพยายามมองหาฟิตเนสใกล้ที่ทำงานแฟนผมให้ (ฟิตเนสที่ผมไปมีแต่พวกกล้ามๆ เหงื่อๆ เหม็นๆ ไม่เหมาะกับ
ผู้หญิง) กะจะหาจังหวะชวนไปสมัครให้ได้สักที เพราะเธอไม่เคยคิดจะเข้าฟิตเนส และมองว่าการเดินบนสายพานในห้องแอร์เป็นเรื่องตลก
คือต้องเดินนอกบ้านมีบรรยากาศอะไรประมาณนี้ (แต่เอาเข้าจริงก็ไม่เอาสักอย่าง)

ผมก็หาฟิตเนสอยู่นาน จนมาลงตัวที่หนึ่ง อยู่ใกล้ที่ทำงาน เลิกงานแล้วก็น่าจะแวะสักชั่วโมงก็ยังไม่ดึกเกินไป ตัดเวลาจากดูละครเกาหลี
สักวันละชั่วโมงก็ได้เวลาพอสำหรับออกกำลังแล้ว สถานที่ก็ดูดี สะอาด มีผู้หญิงเล่นเยอะ ค่าใช้จ่ายก็ไม่แพง ตกเดือนละพันกว่าบาท
แต่ผมยังเก็บงำไว้ยังไม่บอก เพราะถ้าเกริ่นก่อนจะมีข้อขัดข้องโน่นนี่ทันที กะว่าวันไหนโอกาสเหมาะๆ บิ้วท์ให้เคลิ้ม แล้วรวบหัวรวบหาง
พาไปเลย

แต่เธอดันตัดหน้าซื้อเครื่องแยกกากอะไรนั่น ในราคาผ่อนเดือนละพันกว่าบาท ซึ่งเท่ากันกับค่าฟิตเนสพอดีเป๊ะ!

บอกตรงๆ ว่าผมเสียความรู้สึก และรู้สึกว่าทำไมเธอช่างไม่มีเหตุผลในการใช้จ่ายเอาเสียเลย จนรู้สึกว่าถ้าทัศนคติไม่ตรงกันแบบนี้
คงสร้างครอบครัวกันไม่ได้แล้ว มันไม่ใช่ปัญหาแค่เรื่องเครื่องแยกกากแล้ว ต่อให้ตอนนี้เธอเปลี่ยนใจไม่ซื้อ แต่ก็ไม่รู้ว่าต่อไปจะมีอะไรอีก
เลิกกันตอนที่ยังเป็นเรื่องเล็กๆ จะดีกว่า

คาดว่าคงจะมีคำแนะนำว่า ก็ค่อยๆ คุยกันสิ ก็อย่างที่บอกครับ คุยแล้ว คุยกันแบบผู้ใหญ่ ไม่โวยวาย ใช้เหตุผล ไม่ดุด่า ไม่บังคับ แต่เจอ
ลูกอือๆ ออๆ แล้วไม่ใส่ใจ ก็เท่ากับว่าไม่สนใจเหตุผลของผมเลย มันแสดงให้เห็นถึงการขาดการเคารพซึ่งกันและกันซึ่งควรจะเป็น
คุณสมบัติของชีวิตคู่

ผมนั่งคิดนอนคิดหาทางออกมาทั้งคืน ที่ผ่านมาเวลาแฟนผมซื้อชุดใหม่ ซื้อรองเท้าใหม่เข้าบ้าน อ่ะไม่เป็นไรเราเข้าใจผู้หญิงเค้าชอบซื้อ
มันความสุขของเขา ซื้อไปเหอะไม่ถึงกับล่มจมก็ไม่เป็นไร

แต่เครื่องแยกกากเครื่องละ 20,000 (แถมยังผ่อน) นี่ผมทำใจยอมรับไม่ไหวจริงๆ ครับ มองเห็นอนาคตเลยว่าเห่อคั้นน้ำกินได้ไม่เกินหนึ่ง
เดือนก็วางทิ้งแน่ๆ ซึ่งถึงตอนนั้นแฟนผมก็จะได้เรียนรู้เองว่าเสียเงินเปล่า เหมือนที่เคยได้มาแล้วจากอาหารสูตรต่างๆ แต่ผมคิดว่าคราวนี้
มันเป็นราคาที่ต้องจ่ายแพงเกินไป

ตอนนี้ปัญหาที่กำลังเกิดมันคือปัญหาที่ตัวผมเอง ไม่ใช่ที่แฟนผม แฟนผมไม่มีปัญหาอะไรครับ แฟนผมเป็นผู้หญิง "ปกติ" เหมือนผู้หญิง
คนอื่นๆ อีกร้อยล้านพันล้านคนทั่วโลก แต่ผมต่างหากที่กำลังมีปัญหา ผมกำลังเกิดปัญหาคือนอยด์ เสียความรู้สึกและผิดหวังในตัว
แฟนผม และผมกำลังหาทางออกว่า ผมจะแก้ปัญหานี้อย่างไรดี

ปัญหาไม่ใช่จะทำอย่างไรให้เธอเลิกซื้อ (ซื้อไปแล้วก็แล้วไปทำอะไรไม่ได้แล้ว จบ) แต่จะทำอย่างไรให้ผมออกจากปัญหาของผมเองได้
ครับ ผมเคย "แก้ปัญหา" นี้มาได้ตลอด และกล้าคุยได้ว่า ผมแทบไม่เคยบ่นเมื่อแฟนผมซื้อรองเท้าเดือนละสามสี่คู่ บอกตัวเองว่า นี่ปกติๆๆ
นี่คือผู้หญิงปกติ แฟนเราเป็นผู้หญิงปกติธรรมดา ถ้าแฟนเราไม่ซื้อรองเท้า เดินห้างเดินตลาดนัดแล้วไม่แวะดูรองเท้าเลยต่างหากเป็น
ผู้หญิงประหลาด

แต่คราวนี้มันไม่ไหวแล้วจริงๆ ครับ และแถมมาชนกับเรื่องฟิตเนสอีก ความตั้งใจหายวูบ เจ็บใจจี๊ดๆ ถ้าแยกทางตอนนี้แฟนผมก็จะได้ลด
น้ำหนักด้วยวิธีของเธอต่อไปอย่างสบายใจ ผมก็ดูแลแต่ตัวเอง ไม่ต้องกลัดกลุ้มเรื่องคนอื่นอีกต่อไป หมดเรื่องหมดราวกันไปเสียทีใช่มั้ยครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
แต่ละความเห็นเน้นแต่เรื่องความรักนะครับ แต่ขอโทษเถอะ ลองอ่านดูดีๆ ผู้ชายคนนี้เขารักแฟนของเขาอย่างมาก ในมุมเรื่องของความรัก สำหรับผม มองว่าไม่มีปัญหาอะไร

แต่มีสิ่งหนึ่ง ที่แต่ละความเห็นไม่ได้กล่าวไว้ อาจจะลืมหรือนึกไม่ถึง ก็แล้วแต่ งั้น ผมเอามาคุยต่อล่ะกัน

ปัจจุบัน ชีวิตคู่ นอกจากความรักแล้ว ความอยู่รอดทางเศรษฐกิจ ความมีเหตุมีผลระหว่างกัน และความเคารพซึ่งกันและกัน ก็มีส่วนสำคัญ ตรงจุดนี้ ผู้เข้ามาให้ความเห็น ไม่ได้กล่าวไว้ แต่เน้นเรื่องความรักกันเป็นหลัก

เข้าประเด็น เร่องของกระทู้นี้ ปัญหาไม่ใช่เรื่องตวามรักระหว่างกัน แต่เป็นเรื่องของการประเมินความอยู่รอดของชีวิตคู่ในวันข้างหน้า จากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของแต่ละฝ่าย นับว่าเจ้าของกระทู้เป็นคนรอบคอบ มองการณืไกล อย่างนี้ดีครับ

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีรายละเอียดเยอะ ที่นอกเหนนือไปจากเรื่องของความรักเพียงอย่างเดียว (ที่หลายๆ ความเห็นว่าไว้) ทางที่ดี เจ้าของกระทู้ต้องพยายามคุยกับแฟนครับ ให้เขาเข้าใจ ในเรื่องของการปรับพฤติกรรมบางอย่าง เพื่ออนาคตที่ดีของทั้งสองคน

พูดจาด้วยเหตุ ด้วยผล อย่าใช้อารมณ์ วันละนิด ละหน่อย แรกๆ อาจเข้าหูซ้าย ทะลุหูขวา แต่บ่อยๆเข้า ก็ต้องซึมซับได้บ้างแน่ๆ (น้ำหยดลงหินทุกวัน หินยังกร่อนได้เลย)

แต่ถ้าลองทำทุกอย่างแล้วยังไม่ได้ผล ถ้าคุณยังรักแฟน และจะยอมอดทนต่อไป ก็ไม่เป็นไร ขอยกย่องในความอดทนเพื่อความรักของคุณ แต่ถ้าคุณเลือกจะไม่ทน ก็ต้องถึงคราวแยกทางกันเดิน ก็ขอให้ถือเสียว่าเป็นเรื่องธรรมดา ชีวิตคู่ของคนทั่วไป ต้องผ่านจุดแบบนี้ไปด้วยกันทั้งสิ้น หนักบ้าง เบาบ้างแล้วแต่กรณี แต่ถ้าผ่านพ้นไปได้ ก็จะสบาย

จริงๆ แล้ว เข้าใจว่าเจ้าของกระทู้คงมีแนวทางบางอย่างอยู่ในใจแล้ว เพราะตามที่เล่ามาก็จัดว่าเป็นคนที่คิดอะไรไว้ละเอียดพอสมควร การเข้ามาเล่าในกระทู้ คงจะต้องการระบายความอัดอั้นตันใจบางส่วนมากกว่า ก็ขอเป็นกำลังใจให้ต่อไปครับ
ความคิดเห็นที่ 17
ทัศนคติต่างกันอยู่ด้วยกันต้องใช้ความพยายามสูงมากครับ
ถ้าทำได้ก็เลิกไปหาคนที่อยู่ด้วยแล้วไม่ต้องฝืน เพราะเมื่อมีลูกแล้วจะมีเรื่องให้คุณทนมากขึ้น ที่สุดแล้วคุณอาจจะทนเธอไม่ได้อีกต่อไป
แต่ถึงตอนนั้นมีคนที่ต้องรับผลเพิ่มมาอีกคือลูกของคุณครับ แนะนำได้เท่านี้ครับ
ความรักเกิดได้ทุกวันครับ แต่ถ้ารักวันนี้แล้วต้องทนไปตลอดชีวิต รอเวลาแตกหัก แนะนำให้ไปลุ้นรักวันพรุ่งนี้
ความคิดเห็นที่ 15
คิดว่าเท่าที่ผมเล่ามา อาจจะยังมองไม่เห็นภาพของคนที่อยู่ด้วยกัน แต่มีทัศนคติในเรื่องการดูแลสุขภาพไม่เหมือนกัน คนหนึ่งเห็น
ของมันของทอดแล้วแขยง แต่อีกคนกินหน้าตาเฉยไม่รู้สึกว่ามันจะมีปัญหาอะไร (แล้วค่อยไป "กินอาหารเสริม" เพื่อลดทีหลัง)
และมีทฤษฎีประหลาดๆ เกี่ยวกับระบบการทำงานของร่างกายที่ฟังมาจากพวกขายอาหารเสริม

ซึ่งที่บอกมานี้ ผมรับได้มาตลอดนะครับ ปล่อยให้เค้าทำๆ ไปมาตลอดเลยนะครับ (จนลดไม่ลงสักทีอยู่นี่ไง)

แล้วมันมาขาดผึงกับน้ำผลไม้แยกกากคุณสมบัติสุดล้ำเลิศที่ต้องเสียเงินสองหมื่นมาแยก ผลไม้สดๆ ไม่มีอะไร แต่พอผ่านเครื่องนี้
แล้วดันกลายเป็นอาหารลดน้ำหนักอันทรงคุณค่าซะงั้น ถ้ามันแยกกากแล้วลดได้ กินสดมันก็ต้องลดได้เหมือนกัน แล้วจะซื้อเครื่อง
แยกทำไมเล่า อันนี้ที่ผมพยายามบอก เค้าก็อือๆๆ แล้ววันรุ่งขึ้น... ซื้อแล้วนะ

มันเจ็บใจมั้ย...

ความจริงเรื่องตัวเลขหรือจำนวนเงินไม่ใช่ปัญหาอะไรมาก แต่ผมก็คิดๆ อยู่ว่า ถ้ามันเครื่องละสองพันผมอาจจะไม่คลั่งเท่านี้ แต่
ปัญหาหลักๆ คือการเมินไม่สนใจที่เราบอกมากกว่า (ตอบรับ อือๆๆ แล้วยังทำนี่มันเจ็บใจเสียยิ่งกว่าเถียงกันทะเลาะกันเสียอีกครับ)

แต่ยังไงก็ขอขอบคุณทุกคนที่ตอบนะครับ
ความคิดเห็นที่ 38
อมยิ้ม09 ทำไมเราเห็นต่างจากเสียงส่วนใหญ่

เราว่าเป็นคนสองคนที่ทัศนคติไม่ตรงกัน...อยู่กันยากนะคะ

พอทัศนคติไม่ตรงกัน ไลฟ์สไตล์คุณก็จะไปคนละทิศละทางกันด้วย
ในระยะยาวคุณ หรือไม่ก็แฟนคุณ ใครจะทนไม่ได้ก่อนกันเท่านั้นเอง

ปล. 1 เท่าที่อ่าน คุณรักแฟนคุณมากเชียวล่ะ
         เราคิดว่าเราเข้าใจว่าคุณคิดอะไรนะ มันไม่ใช่เรื่องเครื่องแยกกาก แต่คุณมองถึงวิธีคิดและตัดสินใจของแฟน
ปล. 2 ผู้หญิงอวบ อ้วน ก็ไม่ผิดหรอกค่ะ หลายๆ คน ผ่านการลดน้ำหนัก การรักสุขภาพแบบผิดๆ เพราะสื่อที่เลือกเสพ
         ลดได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง
ปล. 3 เครื่องนี้ใช้ไปสักพักจะเหนื่อยกับการเก็บ/ล้างค่ะ
ความคิดเห็นที่ 18
เครื่องแยกกากทำดีๆก็ได้น้ำอร่อยๆนะ ตอนคนที่บ้านเป็นมะเร็งเอามาคั้นแครอทกันหนุกหนานกินกันจนตัวส้มตัวเหลืองทั้งบ้านคุ้มอยู่(ถ้ามีคนทำคนล้างให้) 2หมื่นไม่แพงถ้าจริงจัง

แต่นี่....จะบอกว่าเข้าใจคุณนะ

อ่อแล้วผุ้หญิงไม่ได้เป็นแบบนี้ทุกคน อ่านรวมๆแล้วเหมือนเธอไม่ค่อยจะแคร์อะไรกับความเห็นคุณเท่าไร 2หมื่นซื้อPTที่ฟิตเนสได้เลย(ไม่รวมรายเดือน) อยากผอมแต่ขี้เกียจมันก็เท่านี้แหละ

สรุปง่ายๆ ถ้าสันดานไปกันไม่ได้ก็จบไปค่ะ ฝืนทำไม
ไม่แน่พอคุณเลิกกับเธอ อีกไม่กี่เดือนห้องนี้อาจมีกระทู้ประมาณพลีชีพชั้นผอมได้เพราะอกหักก็ได้นะอมยิ้ม16อมยิ้ม06
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่