ฉันรู้ทันเธอนะคุณมะ(เร็ง) ตอนที่ 7 (เมนูไข่)

เล่าต่อจากกระทู้ที่แล้วนะคะ

เมื่อวานอากาศร้อนมาก ลูกสาวลงรูปให้เสร็จฉันก็เข้าห้อง  ได้อากาศเย็นก็เลยหลับไปเลย
เลยไม่ได้ขอบคุณ ทุกท่านที่ติดตามและเห็นว่ามีประโยชน์
เช้าตื่นมาลูกสาว(นอนดึก)เล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนมีคนชอบอาหารแม่ด้วย
ดีใจค่ะ แอบปลื้มและรู้สึกอิ่มใจ ที่มีคนสนใจอยากลองเอาไปทำ  

วันนี้เอามาฝาก 2 เมนูนะคะ มากกว่านี้ไม่ไหวทานคนเดียว



เมนูแรก  ลาบไข่โบราณ


ไข่ต้มเอาแต่ไข่ขาว 3-4 ฟอง จัดวางใส่จาน แล้วมาทำลาบกัน

วิธีทำ เนื้อหมูหรือเนื้อไก่สับ (แล้วแต่ชอบ)ใส่น้ำเปล่าหรือน้ำชุบเล็กน้อยจะทำให้เนื้อนุ่ม คนให้เนื้อสัตว์ไม่กอดกัน
ตั้งไฟกลางๆ จนสุกดี ใส่น้ำมะขามเปียกพอให้ออกรสเปรี้ยวย รอให้เดือดยกลง ไม่มีมะขามเปียกใช้น้ำมะนาวก็ได้
(น้ำมะขามเปียกจะออกรสเปรี้ยวอมหวาน ส่วนน้ำมะนาวจะออกรสเปรี้ยวจี้ด) ใส่น้ำตาลปีบ น้ำปลา และพริกป่นเล็กน้อย
คนให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ใส่ข้าวคั่วและหอมเจียวเล็กน้อย สะระแหน่คนให้เข้ากันอีกครั้ง (ลาบโบราณจะออกรสหวานเล็กน้อย
ไม่เหมือนลาบทั่วไป) ราดไปบนไข่แล้วโรยด้วยหอมเจียว ใบมะกูดทอดและพริกทอด (ใส่พริกทอดเพื่อเพิ่มสีสันให้อาหาร)
ทานกับผักสดตามชอบ

ถ้าไม่สะดวกจะใช้ลาบที่นิยมทานกันโดยทั่วไปก็ได้ (อย่าให้รสจัด เป็นห่วงค่ะ แต่ก็อยากให้ผู้ป่วยได้เปลี่ยนรสชาติบ้าง)
ส่วนตัวเองลองมาแล้วทั้ง 2 แบบ คิดว่าลาบโบราณเข้ากันได้ดีกับไข่ต้มมากกว่าค่ะ



เมนูที่สอง  ไข่ทาโร่


วิธีทำ ไข่เป็ด 1 ฟอง+ไข่ขาวของไข่ไก่ 5-6 ฟอง (ไข่เป็ดจะทำให้ไข่แข็งนิดหน่อยและสีน่าทาน ไข่ไก่อย่างเดียวจะนิ่มไป)
ผสมซอสเล็กน้อย (ใส่มากเดี๋ยวจะเค็มไป เพราะเป็นของทานเล่น) ตีให้ไข่แตกดีก่อน ใส่พริกไทยป่น ตีให้พริกไทยกระจายไปให้ทั่วไข่
เมนูนี้ถ้าใช้กระทะเซฟรอนจะทำให้ได้ไข่ที่หนา ทานไม่อร่อย ควรใช้กระทะเหล็กธรรมดาทำ จะได้ไข่ที่บางนุ่มน่าทานและอร่อย
สูตรนี้ต้องทำ 2 ครั้ง(กะแบ่งเอาไม่ต้องตวง หรือจะลดส่วนให้เหลือกระทะเดียว ตามรูปก็ได้ วันนี้ฝนตกไม่ได้ออกไปซื้อไข่เป็ด
สีไข่ไม่ค่อยสวย) วิธีทำเหมือนไข่เหมือนทำไข่อกแตกค่ะ

ขอแนะนำว่า ถ้าทำไข่สำหรับห่อ"ไข่อกแตก" แล้วแผ่นไข่มันขาดหรือไม่สวย เอามาทำ "ไข่ทาโร่" ได้นะคะ แต่จะจืดไปนิด

ส่วนมากจะเจอปัญหาไข่ติดกระทะ เวลาใช้กระทะเหล็กธรรมดา จะทำให้ได้ไข่ไม่เป็นแผ่นอย่างที่ตั้งใจ

เคล็ดลับส่วนตัวนะคะ คือ เปิดไฟแรงตั้งกระทะเปล่าที่ยังไม่ใส่อะไรลงไป ให้กระทะร้อนจนควันเริ่มขึ้น เบาไฟ ใส่น้ำมันลงกระทะ
(กะประมาณ 2-3 ช้อนโต๊ะ) เปิดแรงไฟให้กระทะร้อนอีกครั้ง ระหว่างนี้ตะแคงกระทะไปมาเพื่อเกลี่ยให้น้ำมันไปทั่วกระทะ
เมื่อกระทะร้อน ให้เบาไฟแล้วรีบเทน้ำมันออกจนหมด ตั้งกระทะอีกครั้งใช้ไฟกลาง ให้ตะแคงกระทะไว้ แล้วเทไข่ลงไป
(อย่าลืมนะคะสูตรนี้ต้องแบ่งทำ 2 ครั้ง) กลอกไข่ให้กลิ้งไปทั่วกระทะ (อย่าให้แผ่นไข่เลยรอยน้ำมันที่กลิ้งไว้ก่อน
เพราะถ้าไข่ส่วนที่เลยรอยน้ำมันออกไป ไข่จะติดกระทะแน่นอน) แป็บเดียวไข่ก็จะสุก กลับอีกด้านเพื่อให้สีของไข่สวย

เมื่อเสร็จแล้วรอจนไข่เย็นแล้ว หั่นสี่ จับซ้อนกันแล้วหั่นเป็นเส้นเล็กๆ ตามความยาวของแผ่นไข่ (อย่าหั่นตอนไข่ยังมีความร้อนอยู่
ไข่จะยู้ยี่ไม่เรียบสวย)

เมนูนี้ดูเหมือนจะยุ่งยากสักหน่อย แต่ถ้าได้ลองทำแล้วจะไม่ยากเลย ลองทำดูนะคะ ให้ผู้ป่วยทานเล่นๆไปเรื่อยได้
เพราะเมนูนี้ถึงจะเย็นก็ไม่เสียรสชาติค่ะ เพียงแต่จะแห้งหน่อยเท่านั้นเอง



ขอเล่าที่มาของเมนูนี้หน่อยนะคะ เผื่อท่านที่มีลูกเล็กอยากจะลองไปทำบ้าง ไอเดียนี้มาจากเมื่อสิบปีที่แล้ว ด้วยลูกชายตัวเล็กมาก
ไม่ค่อยชอบทานอะไร (ตรงข้ามกับพี่สาว รายนั้นทั้งชอบทำและชอบทาน)วันหนึ่งลูกชายไปซื้อทาโร่ทานเอง (มีขายที่หน้า รร.)
แล้วติดใจ เขาจะซื้อเกือบทุกวัน ห้ามก็ไม่ค่อยฟัง แอบไปซื้ออยู่เรื่อย ฉันก็เลยใช้วิธีทำข้อตกลงกับเขาว่า ทาโร่ 1 ห่อ/นม 1 กล่อง
(เพิ่มจากปกติที่ต้องดื่มทุกวัน) เขาก็ตกลง

ตั้งแต่นั้นมา เขาเลยติดทาโร่มาก (ไม่ว่าหมาว่าแมวที่บ้าน ตั้งชื่อว่าทาโร่หมด) นานเข้าคิดว่าถ้าเป็นอย่างนี้ชักไม่ค่อยดี ต้องหาวิธี
ให้เขาลดเจ้าทาโร่ลง ถึงแม้ว่าจะดื่มนมเพิ่มด้วยก็เถอะ  

จำได้ว่าวันนั้นกำลังทำไข่เพื่อโรยหน้าผัดหมี่ แล้วความคิดก็แวบเข้ามา จึงลงมือทำทันที ครั้งแรกใช้ไข่ไก่ ทั้งฟอง 2 ฟอง
(เขายังเป็นเด็ก ทานไข่แดงมากไม่เป็นไร) ใส่น้ำปลา พริกไทย(ดำ) ป่นนิดหน่อย (เพื่อให้ไข่มีรสไม่จืด) ปรากฏว่าพริกไทย
ไม่ยอมแตกตัวออกจากกัน จับตัวเป็นก้อน ตีเท่าไรก็ไม่กระจาย เป็นอันว่าครั้งนั้นไม่สำเร็จ (เสร็จแม่ต้องทานเอง คือถ้าหน้าตาอาหาร
ไม่น่าทาน ลูกชายสุดที่รักจะไม่ยอมลองชิม ผิดกับลูกสาวแม่ทำอะไรบอกว่าอร่อยหมด น่ากลุ้มใจไหมค่ะ ลูกสองคนหาความพอดี
เรื่องนี้ไม่ได้เลย)

ฉันลองทำใหม่ คราวนี้ฉันตีไข่กับน้ำปลาให้ไข่แตกก่อน จึงใส่พริกไทยป่นโดยพยามยามโรยให้มันกระจายทั่ว ได้ผลค่ะ มันกระจายตัว
ได้ดี ทำเสร็จปล่อยให้เย็นก่อน แล้วหั่นแบ่งสี่ จับมาซ้อนกันแล้วหั่นเป็นเส้นเล็กๆ ตามความยาวของไข่

เห็นครั้งแรกลูกชายถามอะไร ฉันบอกไข่ทาโร่ เขามองแล้วเฉยค่ะไม่ยอมทาน หันกลับไปทำกิจกรรมที่ชอบทำต่อ (ไม่เล่นเน็ต ก็ดูทีวี
พอเบื่อก็อ่านหนังสือ) ฉันต่อรองว่า ถ้าทานไข่ทาโร่ในจานและนมอีกกล่องหมด เขาจะได้ทาโร่เป็นรางวัล 1 ห่อ(เล็ก) เขาหลงกลตกลง
พอชิมคำแรกเขาบอกว่ามันจืดไม่อร่อยเลย ฉันรีบเอาใจว่าครั้งต่อไปแม่จะปรุงรสที่ชอบให้ใหม่ วันนั้นไข่ทาโร่ในจานพร้อมนมก็หมดไป
(อิ่มไปเลยค่ะ) ทาโร่ในซองก็เลยยังไม่ถูกเปิด แต่เขาไม่ลืมนะคะตอนเย็นทวงค่ะ ฉันหยิบให้ตามสัญญาแถมด้วยนมอีกกล่อง
แล้วบอกเขาว่า กติกายังเหมือนเดิม ( 1 ห่อ/ 1 กล่อง)

ครั้งต่อๆ มา ฉันเพิ่มจำนวนเป็นไข่เป็ด 1/ไข่ไก่ 3-4 ฟอง (ต้องดูอารมณ์คนทานด้วย) โดยใส่ซอสซึ่งรสชาติดีกว่าน้ำปลา ใส่พริกไทย(ดำ)
(เขาชอบทานเผ็ด) รสชาติมันจะดีขึ้น ตอนนั้นเขายังเด็ก ยังใช้แผนนี้หลอกได้อยู่นานเหมือนกัน ยิ่งส่งให้ตอนเขากำลังทำกิจกรรมที่ชอบ
อยู่ละก็ หมดทุกครั้ง พอโตขึ้นเริ่มรู้ทางแม่ เขาก็พยามเลี่ยงอยู่นะ ฉันไม่ละความพยายามก็ยังทำอยู่ แต่นานๆ ครั้ง พอฉันยื่นจานให้
เขาบอกว่า ไม่เอาแล้ว ฉันก็บอกเขาว่า ทำมาแล้วทานหน่อยเถอะ เขาบอกว่า ก็ได้ ทีหลังแม่ไม่ต้องทำให้อีกแล้วนะ ฉันยอมรับปากง่ายๆ
(คนฉันหรือจะยอมแพ้ ฉันก็ยังทำอยู่เพราะฉันไม่เคยทำทีหลังสักที ฉันทำครั้งหน้าทุกที)

ที่บ้านมีนักกฎหมายแล้ว 2 ตอนนั้นก็เริ่มมีวี่แววว่าจะเป็น 3 ยกเว้นฉัน เห็นเด็กๆ อย่างนั้น หัวหมอเป็นแล้วนะคะ ไม่ชอบพูดมากและ
ไม่ชอบผิดคำพูด ถ้าจะให้เขาทำตามคำสั่งของเรา เราต้องมีเหตุผลมาหักล้างความคิด ที่เขาโต้แย้งคำสั่งทุกครั้ง หากเราหักล้างเขา
ไม่ได้ เราก็ต้องยอมแพ้เหมือนกัน ซึ่งฉันจะไม่ผิดคำพูดให้ลูกหมดความเชื่อถือ หรือหมดความไว้ใจ กับลูกเหมือนกัน)

ฉันทิ้งเวลาให้นานขึ้นอีกหน่อยแล้วก็ทำอีก พอเห็น เขาจะบอกว่า บอกแล้วว่าไม่เอาแล้วไง ฉันอ้างโน่นนี่นั่นเลี่ยงไปได้เรื่อยๆ
ด้วยความที่เขาเป็นลูกที่น่ารัก กลัวแม่เสียใจ ก็จำใจทานจนหมดทุกครั้ง (เป็นความเจ้าเล่ห์ของแม่ที่รักลูก ฉันมีความสุขที่ได้ดูแล
พวกเขาทั้งสองคน) ตอนนี้โตแล้วใช้ลูกไม้เดิมหลอกไม่ได้แล้ว ไม่สำเร็จค่ะ

ถ้าคิดว่าเป็นประโยชน์ลองเอาไปปรับใช้กับคนที่บ้านได้นะคะ ยินดีค่ะ เทคนิคนี้ไม่หวงนะคะ

มีเคล็ดไม่ลับมาฝาก  การล้างผักและผลไม้
(จากหนังสือแม่บ้านที่รัก ปีที่ 40 เล่มที่ 102 ม.ค.-เม.ย.56)
     -    แช่น้ำเกลือ 1ช้อนโต๊ะ/น้ำ 4 ลิตร แช่ 10 นาที ลดปริมาณสารพิษได้ประมาณ 29-38%
     -    แช่น้ำส้มสายชู  0.5% แช่ 5 นาที ลดประมาณสารพิษได้ปริมาณ 60-84% และทำลายไข่พยาธิได้
     -    แช่โซเดียมไบคาร์บอเนต(ผงฟู) 1 ช้อนโต๊ะ/น้ำอุ่น 20 ลิตร แช่ 15 นาที ลดปริมาณสารพิษได้
        ประมาณ 90-95%  

เรื่องแล้วแต่สะดวกนะคะ แม้ว่าวิธีการล้างจะให้ผลต่างกันอย่างไรก็ตาม แต่การได้ล้างเองก็สะอาดดีกว่า
ไปทานนอกบ้านเป็นร้อยเท่า

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม

ปล. ถ้ามีอาหาร 2 จานให้เลือก ระหว่าง จานที่หนึ่งหน้าตาน่าท่านมาก (แต่ไม่อร่อย) จานที่สองหน้าตาไม่น่าทาน(แต่อร่อย)
ในฐานะที่เคยเป็นผู้ป่วย ขอเลือกจานแรกก่อนค่ะ

ทุกท่านที่ลองไปทำ ฉันเชื่อว่าอาหารทุกๆ จานที่ท่านทำ ท่านใส่ทั้ง ความรัก หัวใจ กำลังใจ และความปรารถนาดี ต่อผู้ป่วย
เต็มเปี่ยมเกินร้อยแน่นอน โดยส่วนตัวอยากให้ใส่เพิ่มอีกนิดนะคะ คือ ใส่สีสรรและหน้าตาของอาหารด้วย มันสำคัญอันดับแรกเลย
เท่านี้ผู้ป่วยจะได้ทั้งอาหารตา อาหารใจ และได้อาหารกายไปพร้อมๆ กัน ชื่นใจคนทำด้วยนะคะ

ด้วยความปราถนาดีจากใจจริง


อ่านกระทู้เก่าได้ที่...
ฉันรู้ทันเธอนะคุณมะ(เร็ง) ตอนที่ 1  >>http://pantip.com/topic/30414596
ฉันรู้ทันเธอนะคุณมะ(เร็ง) ตอนที่ 2 >>http://pantip.com/topic/30418215
ฉันรู้ทันเธอนะคุณมะ(เร็ง) ตอนที่ 3 >>http://pantip.com/topic/30426153
ฉันรู้ทันเธอนะคุณมะ(เร็ง) ตอนที่ 4 >>http://pantip.com/topic/30430450
ฉันรู้ทันเธอนะคุณมะ(เร็ง) ตอนที่ 5  >>http://pantip.com/topic/30433744
ฉันรู้ทันเธอนะคุณมะ(เร็ง) ตอนที่ 6  >>http://pantip.com/topic/30445429
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่