ตามข่าวที่บอกว่า ต่อไปถ้าสร้างรถไฟฟ้าสายหัวลำโพง-มหาชัยเสร็จและเปิดให้บริการแล้ว ถ้าแม่ค้าจะเอาอาหารทะเลขึ้นรถไฟ ก็ต้องรูดซิปปากถุงอาหารทะเล เพื่อไม่ให้มีกลิ่นอาหารบนรถไฟฟ้า
และยังมีปัญหาอีกอย่างคือ ถ้ารถไฟสายเดิมนี้ถูกยุบไป เพราะเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้า เด็กนักเรียนที่จะไปเรียนก็ต้องจ่ายค่าโดยสารแพงขึ้น ลำบากคนไปเรียนหนังสือมากขึ้น
จริงๆแล้ว ถึงรถไฟฟ้าจะเปิดให้บริการแล้ว ก็ยังสามารถเอารถไฟขบวนเก่าขึ้นไปวิ่งร่วมด้วยได้ เหมือนสายสีแดงที่วิ่งไปรังสิตกับตลิ่งชันตอนนี้ ก็มีรถไฟธรรมดาวิ่งร่วมบนรางรถไฟฟ้าด้วย
การเอารถไฟขบวนเก่ามาวิ่งร่วมกับรถไฟฟ้า เป็นการช่วยทั้งเด็กนักเรียนที่ไปเรียนหนังสือและแม่ค้าที่ต้องทำมาหากิน เพียงแต่อาจจะให้รถไฟขบวนเก่าวิ่งแค่วันละ 2 รอบ หรือ 1 รอบเท่านั้นทั้งขาไปและกลับ นอกนั้นก็ให้รถไฟฟ้าวิ่งตามปกติทั้งวัน ซึ่งแม่ค้าและเด็กนักเรียนก็จะขึ้นรถไฟรอบเช้าเย็นอย่างที่เคยขึ้น
แนวทางทำทางรถไฟฟ้าสายหัวลำโพง-มหาชัยมี 5 แนวทาง พอมาดูแนวทางที่ 2 ที่เขาบอกว่า ไม่สามารถทำทางรถไฟต่อไปยังสถานีบ้านแหลมได้ เพราะข้างหน้าเป็นพื้นที่อ่อนไหว เราก็มาเช็คดูจากแผนที่ จึงเข้าใจได้ว่าที่เขาบอกว่าแนวทางที่ 2 ต่อขยายเส้นทางรถไฟไปอีกฝั่งยาก ก็เพราะว่าข้างหน้าเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อหลักเมือง คงไม่มีใครกล้าทำทางรถไฟยกระดับข้ามที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเพื่อข้ามแม่น้ำไปอีกฝั่งนึง ลักษณะนี้ต้องทำเป็นอุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำไปอย่างเดียว
การทำอุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำถึงจะต้องใช้เงินลงทุนมากกว่า แต่ก็มีข้อได้เปรียบกว่าในบางเรื่อง พื้นที่ของสถานีที่อยู่ชั้นใต้ดินสามารถทำเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ได้มากกว่าพื้นที่ของสถานีรถไฟแบบยกระดับ เพราะมีขนาดพื้นที่กว้างขวางกว่า นึกถึงสถานีรถไฟใต้ดินลาดพร้าว มีห้างสรรพสินค้าอยู่ในสถานีรถไฟใต้ดิน มีร้านค้าขายอาหารหลายอย่าง ต่อไปถ้าสถานีมหาชัยสร้างอยู่ชั้นใต้ดิน ก็ทำ supermarket ขายอาหารทะเลหลายอย่างอยู่ชั้นใต้ดินด้วยเลย ทั้งร้านที่มีแต่เมนูอาหารทะเล เช่น ก๋วยเตี๋ยวต้มยำทะเล ข้าวผัดกะเพราทะเล อาหารทะเลดิบอย่างกุ้ง หอย ปู ปลาก็ให้ร้านค้าช่วยรูดซิปปากถุงอาหาร เอาขึ้นรถไฟฟ้าได้สบาย
ดูตัวอย่างสถานีใต้ดินลาดพร้าว ต่อไปสถานีมหาชัยก็น่าทำลักษณะเดียวกัน ลงทุนมากกว่า แต่ก็สามารถพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ได้มากกว่า
พาหาของกิน mrt ลาดพร้าว จุดหาของกิน ซื้อของ
https://youtu.be/RSyxrgf21fM?si=QSzuYr5OazF9Ux1b
แล้วเมื่อเอาสถานีรถไฟจากข้างบนลงใต้ดินไปให้หมดแล้ว พื้นที่ตั้งสถานีรถไฟเดิมก็จะเป็นพื้นที่ว่างเปล่า สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่เดิมเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ได้อีก รฟท.สามารถเก็บค่าเช่าที่จากร้านค้าที่มาขอเช่าพื้นที่ตรงนั้นได้
เรียกว่า การทำสถานีใต้ดินมหาชัย จะได้พื้นที่เชิงพาณิชย์ถึง 2 ที่ แล้วทางขึ้นลงสถานีใต้ดินมหาชัยก็เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของมหาชัยด้วย เพราะอยู่หน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมือง อยู่บนถนนเศรษฐกิจ ใครขึ้นจากสถานีก็ได้เข้าไปไหว้เจ้าพ่อหลักเมืองได้สะดวก พื้นที่บริเวณนี้จึงเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟมหาชัยที่ดีที่
สุดแล้ว
ตำแหน่งที่ตั้งใหม่สถานีรถไฟมหาชัยก็ตามภาพนี้
การแก้ปัญหาค่าโดยสารของเด็กนักเรียนที่ไปโรงเรียน สายสีแดงก็สามารถคิดโปรค่าโดยสาร 50% ให้เขาไป ปกติรถไฟฟ้าสายสีแดงคิดค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย คิดแค่ครึ่งเดียว ก็แค่ 10 บาท จากที่ต้องจ่ายตั๋วรถไฟแบบเดิม 7-8 บาท ก็จ่ายเพิ่มอีก 2-3 บาท เป็น 10 บาท เชื่อว่าเด็กเขารับกับราคานี้ได้
ต่อไปอนาคต ถ้ารถไฟฟ้าสายหัวลำโพง-มหาชัยสร้างเสร็จ ก็ให้พิจารณาเอาว่า จะเดินรถไฟแบบไหนบ้าง จะเดินแต่รถไฟฟ้าอย่างเดียว หรือเดินรถทั้ง 2 แบบ ทั้งรถไฟฟ้าและรถดีเซลรางขบวนเก่าเพิ่อช่วยเหลือแม่ค้าที่ขายอาหารและเด็กที่ต้องไปเรียนหนังสือด้วย
น่าจะเอารถไฟแบบไฮบริดมาใช้ด้วย เวลารถวิ่งผ่านอุโมงค์ก็ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ขับเคลื่อนรถ เวลาออกจากอุโมงค์มาวิ่งระดับดินหรือทางยกระดับ ก็ใช้พลังงานจากน้ำมันขับเคลื่อน แบตเตอรี่รถไฟที่เคยทำไว้จะได้นำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ ไม่ใช่ทิ้งเอาไว้เฉยๆ
ยังมีเวลาวางแผน เก็บข้อมูลได้อีกพักใหญ่ ขอให้ได้แผนการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด
วิธีช่วยเหลือเด็กไปเรียนหนังสือและแม่ค้าขนอาหารทะเลมีกลิ่นขึ้นรถไฟฟ้า การพัฒนาพื้นที่รอบสถานีรถไฟฟ้ามหาชัย
และยังมีปัญหาอีกอย่างคือ ถ้ารถไฟสายเดิมนี้ถูกยุบไป เพราะเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้า เด็กนักเรียนที่จะไปเรียนก็ต้องจ่ายค่าโดยสารแพงขึ้น ลำบากคนไปเรียนหนังสือมากขึ้น
จริงๆแล้ว ถึงรถไฟฟ้าจะเปิดให้บริการแล้ว ก็ยังสามารถเอารถไฟขบวนเก่าขึ้นไปวิ่งร่วมด้วยได้ เหมือนสายสีแดงที่วิ่งไปรังสิตกับตลิ่งชันตอนนี้ ก็มีรถไฟธรรมดาวิ่งร่วมบนรางรถไฟฟ้าด้วย
การเอารถไฟขบวนเก่ามาวิ่งร่วมกับรถไฟฟ้า เป็นการช่วยทั้งเด็กนักเรียนที่ไปเรียนหนังสือและแม่ค้าที่ต้องทำมาหากิน เพียงแต่อาจจะให้รถไฟขบวนเก่าวิ่งแค่วันละ 2 รอบ หรือ 1 รอบเท่านั้นทั้งขาไปและกลับ นอกนั้นก็ให้รถไฟฟ้าวิ่งตามปกติทั้งวัน ซึ่งแม่ค้าและเด็กนักเรียนก็จะขึ้นรถไฟรอบเช้าเย็นอย่างที่เคยขึ้น
แนวทางทำทางรถไฟฟ้าสายหัวลำโพง-มหาชัยมี 5 แนวทาง พอมาดูแนวทางที่ 2 ที่เขาบอกว่า ไม่สามารถทำทางรถไฟต่อไปยังสถานีบ้านแหลมได้ เพราะข้างหน้าเป็นพื้นที่อ่อนไหว เราก็มาเช็คดูจากแผนที่ จึงเข้าใจได้ว่าที่เขาบอกว่าแนวทางที่ 2 ต่อขยายเส้นทางรถไฟไปอีกฝั่งยาก ก็เพราะว่าข้างหน้าเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อหลักเมือง คงไม่มีใครกล้าทำทางรถไฟยกระดับข้ามที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเพื่อข้ามแม่น้ำไปอีกฝั่งนึง ลักษณะนี้ต้องทำเป็นอุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำไปอย่างเดียว
การทำอุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำถึงจะต้องใช้เงินลงทุนมากกว่า แต่ก็มีข้อได้เปรียบกว่าในบางเรื่อง พื้นที่ของสถานีที่อยู่ชั้นใต้ดินสามารถทำเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ได้มากกว่าพื้นที่ของสถานีรถไฟแบบยกระดับ เพราะมีขนาดพื้นที่กว้างขวางกว่า นึกถึงสถานีรถไฟใต้ดินลาดพร้าว มีห้างสรรพสินค้าอยู่ในสถานีรถไฟใต้ดิน มีร้านค้าขายอาหารหลายอย่าง ต่อไปถ้าสถานีมหาชัยสร้างอยู่ชั้นใต้ดิน ก็ทำ supermarket ขายอาหารทะเลหลายอย่างอยู่ชั้นใต้ดินด้วยเลย ทั้งร้านที่มีแต่เมนูอาหารทะเล เช่น ก๋วยเตี๋ยวต้มยำทะเล ข้าวผัดกะเพราทะเล อาหารทะเลดิบอย่างกุ้ง หอย ปู ปลาก็ให้ร้านค้าช่วยรูดซิปปากถุงอาหาร เอาขึ้นรถไฟฟ้าได้สบาย
ดูตัวอย่างสถานีใต้ดินลาดพร้าว ต่อไปสถานีมหาชัยก็น่าทำลักษณะเดียวกัน ลงทุนมากกว่า แต่ก็สามารถพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ได้มากกว่า
พาหาของกิน mrt ลาดพร้าว จุดหาของกิน ซื้อของ
https://youtu.be/RSyxrgf21fM?si=QSzuYr5OazF9Ux1b
แล้วเมื่อเอาสถานีรถไฟจากข้างบนลงใต้ดินไปให้หมดแล้ว พื้นที่ตั้งสถานีรถไฟเดิมก็จะเป็นพื้นที่ว่างเปล่า สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่เดิมเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ได้อีก รฟท.สามารถเก็บค่าเช่าที่จากร้านค้าที่มาขอเช่าพื้นที่ตรงนั้นได้
เรียกว่า การทำสถานีใต้ดินมหาชัย จะได้พื้นที่เชิงพาณิชย์ถึง 2 ที่ แล้วทางขึ้นลงสถานีใต้ดินมหาชัยก็เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของมหาชัยด้วย เพราะอยู่หน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมือง อยู่บนถนนเศรษฐกิจ ใครขึ้นจากสถานีก็ได้เข้าไปไหว้เจ้าพ่อหลักเมืองได้สะดวก พื้นที่บริเวณนี้จึงเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟมหาชัยที่ดีที่สุดแล้ว
ตำแหน่งที่ตั้งใหม่สถานีรถไฟมหาชัยก็ตามภาพนี้
การแก้ปัญหาค่าโดยสารของเด็กนักเรียนที่ไปโรงเรียน สายสีแดงก็สามารถคิดโปรค่าโดยสาร 50% ให้เขาไป ปกติรถไฟฟ้าสายสีแดงคิดค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย คิดแค่ครึ่งเดียว ก็แค่ 10 บาท จากที่ต้องจ่ายตั๋วรถไฟแบบเดิม 7-8 บาท ก็จ่ายเพิ่มอีก 2-3 บาท เป็น 10 บาท เชื่อว่าเด็กเขารับกับราคานี้ได้
ต่อไปอนาคต ถ้ารถไฟฟ้าสายหัวลำโพง-มหาชัยสร้างเสร็จ ก็ให้พิจารณาเอาว่า จะเดินรถไฟแบบไหนบ้าง จะเดินแต่รถไฟฟ้าอย่างเดียว หรือเดินรถทั้ง 2 แบบ ทั้งรถไฟฟ้าและรถดีเซลรางขบวนเก่าเพิ่อช่วยเหลือแม่ค้าที่ขายอาหารและเด็กที่ต้องไปเรียนหนังสือด้วย
น่าจะเอารถไฟแบบไฮบริดมาใช้ด้วย เวลารถวิ่งผ่านอุโมงค์ก็ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ขับเคลื่อนรถ เวลาออกจากอุโมงค์มาวิ่งระดับดินหรือทางยกระดับ ก็ใช้พลังงานจากน้ำมันขับเคลื่อน แบตเตอรี่รถไฟที่เคยทำไว้จะได้นำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ ไม่ใช่ทิ้งเอาไว้เฉยๆ
ยังมีเวลาวางแผน เก็บข้อมูลได้อีกพักใหญ่ ขอให้ได้แผนการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด