O นันทุปาทานรูป .. O




0 แสงสูรย์ค่อยพรายพร่างลงกลางที่
คล้ายรอรับราศีและทีท่า
เพื่อจะเหลื่อมเหลี่ยมประกายต่อสายตา
ก่อนสบสืบเสน่หาจากตาชาย
0 เห็นงามคุกคามฝ่า .. แววตาสบ
ย่อมบรรจบลุกลามเป็นความหมาย
ถวิลแต่คุณค่าอันพร่าพราย
ที่โชนฉายแววมณีเป็นสีเดียว
0 ทุกพื้นเหลี่ยมมุมรัตน์ .. จำรัสแสง
เหลื่อมสำแดงรูปรอยให้พลอยเหลียว
ผ่านแววตาแฝงเร้น .. ราวเส้นเกลียว
ถูกเหวี่ยงวงเข้าเหนี่ยว .. พันเกี่ยวใจ
0 แล้วม้วนเส้นม้วนปลายเก็บปลายเงื่อน
จนสุดเคลื่อนสุดคลาย .. ต้น-ปลาย .. ไหว
เพื่อเสพรับอุ่นอายจากภายใน
อุ่นอาลัยให้ระรุม .. เข้าสุมลน
0 แต่บรรจบก็ลุกลามเป็นความหมาย
แววตาคล้ายจำนรรจ์นับพันหน
กระนั้นแล้ว .. หวั่นไหว .. และใจคน
จักหลุดพ้นผ่านได้เยี่ยงไรกัน
0 เห็นมณีน้ำระยับงามจับจิต
ย่อมต้องคิดหมายปอง ตระกองขวัญ
เพื่อยึดโยงปักปลูกความผูกพัน
ไปชั่วกัปชั่วกัลป์พุทธันดร
0 คะเนนึกคะนึงอยู่แต่ตรู่สาง
ที่แววอางขนางเห็นเกินเร้นซ่อน
ที่แสงในแววตาผู้อาทร
สบ-เว้าวอน .. เพรียกถวิลเพรียกจินตนา
0 คะเนนึกคะนึงอยู่ไม่รู้สิ้น
เปลี่ยวเหงาย่อมพังภินท์จนสิ้นท่า
เมื่อแสงวามผ่องแผ้วในแววตา
เผยต่อหน้าพาโลกพ้นโศกซม
0 แววมณีงามเพ็ญ .. เมื่อเต้นตอบ
โลกโดยรอบเคยระยับก็ลับ .. ล่ม
เหลือเพชรงามเบื้องหน้าให้ปรารมภ์
รอขับข่มทุกมณี ในที่นั้น
0 เม็ดน้ำค้างทุกหยาด .. บำราศแล้ว
เหลือผ่องแผ้วเพชรพราย .. ยังส่ายสั่น
ครองภาวะโชนช่วง .. เมื่อดวงวัน
ราวจักบรรลัยล่วง ด้วยดวงตา !
.
.
.
ขออนุญาตคนในภาพนะขอรับ
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=sdayoo&month=28-10-2025&group=239&gblog=10
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่